การประท้วงของกลุ่มนักเรียนในชิลี พ.ศ. 2554-2556

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

การประท้วงของกลุ่มนักเรียนในชิลี พ.ศ. 2554-2556 เป็นเหตุการณ์ประท้วงเพื่อต้องการปฏิรูปการศึกษาในชิลี

การชุมนุมประท้วงของนักเรียนชาวชิลีในปี2011-2013 หรือ รู้จักในนาม ฤดูหนาวของชาวชิลี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งของความเกี่ยวข้องในการชุมนุมครั้งใหญ่ในเดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2554) หรือ เหตุการ์ณความขัดแย้งทางการศึกษาของชาวชิลี (อย่างที่กล่าวโดยสื่อของชิลี) เป็นการชุมนุมประท้วงที่ขับเคลื่อนโดยนักเรียนทั่วทั้งประเทศชิลี ที่ต้องการรูปแบบโครงสร้างทางการศึกษาใหม่ภายในประเทศ รวมถึงการเพิ่มความพร้อมของการศึกษาขั้นทุติยภูมิทางตรงในรัฐ และจุดจบของผลประโยชน์ในการศึกษาขั้นที่สูงกว่า เมื่อเร็วๆนี้ 45%ของนักเรียนชิลีเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายเก่าแก่ของประเทศ และ มหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ไม่มีมหาวิทยาลัยเอกชนถูกสร้างขึ้นอีกหลังจากการสิ้นสุดของการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเป็นประชาธิปไตยของประเทศชิลี ในปี ค.ศ. 1990 ถึงแม้ว่าจำนวนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยจะมากขึ้นก็ตาม นอกเหนือจากการให้ความสนใจกับความต้องการทางการศึกษานั้น ยังมีความรู้สึกที่การชุมนุมประท้วงสะท้อนออกมาก็คือ “ความไม่พอใจลึกๆ” ท่ามกลางบางส่วนของสังคมกับความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่ากันของประเทศชิลี การประท้วงได้รวมถึงการเดินขบวนไร้ความรุนแรงครั้งยิ่งใหญ่แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงใช้ความรุนแรงที่ฝั่งของผู้ชุมนุมพอๆกับการจลาจลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สิ่งแรกที่รัฐบาลออกมาประกาศอย่างชัดเจนสู่ผู้ชุมนุมคือการขอร้องของกองทุนเพื่อการศึกษาการสับเปลี่ยนรัฐมนตรีโดยแทนที่รัฐมนตรีการศึกษา Joaquín Lavín และถูกมองว่าไม่เป็นความสำคัญเท่าที่ควร การขอร้องอย่างอื่นก็ถูกปฏิเสธด้วย การชุมนุมทางการศึกษาของนักเรียนเหล่านี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จไปเสียทุกอย่างแต่เป็นการนำมาซึ่งการตกของยอดความสนใจในการอนุมัติ Piñera ที่คำนวณได้26%-30% ในโพลเดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2011 โดยนักสภิติชาวชิลีและไม่เพิ่มขึ้นอีกเลยจนถึงมกราคมปีพ.ศ. 2012