การทูตกับดักหนี้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

การทูตกับดักหนี้ (อังกฤษ: debt-trap diplomacy) เป็นคำที่ใช้อธิบายความสัมพันธ์ทางการเงินระหว่างประเทศโดยที่ประเทศหรือสถาบันเจ้าหนี้ขยายหนี้ให้กับประเทศที่กู้ยืมบางส่วนหรือเพื่อเพิ่มอำนาจทางการเมืองของผู้ให้กู้ กล่าวกันว่าประเทศเจ้าหนี้จะให้สินเชื่อมากเกินไปแก่ประเทศลูกหนี้โดยมีจุดประสงค์ที่จะดึงสัมปทานทางเศรษฐกิจหรือการเมือง เมื่อประเทศลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันในการชำระหนี้ได้[1] เงื่อนไขการกู้ยืมมักไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ[2]

คำนี้เป็นคำที่บัญญัติขึ้นครั้งแรกโดยนักวิชาการชาวอินเดีย พรหม เชลลานีย์ ในปี ค.ศ. 2560 เพื่ออธิบายถึงรัฐบาลจีนที่ให้กู้ยืมแล้วใช้ประโยชน์จากภาระหนี้ของประเทศเล็ก ๆ เพื่อยุติทางด้านภูมิรัฐศาสตร์[3][4] คำว่า "การทูตกับดักหนี้" ได้รวมอยู่ในศัพท์อย่างเป็นทางการของสหรัฐ โดยมีรัฐบาลสองชุดที่ต่อเนื่องกันใช้คำนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนได้อธิบายแนวคิดเรื่องกับดักหนี้ของจีนว่าเป็น "มายาคติ" หรือ "สิ่งที่ทำให้ไขว้เขว" [5][6][7][8]

อ้างอิง[แก้]

  1. ISSAfrica.org (30 April 2020). "Is COVID-19 enabling debt-trap diplomacy?". ISS Africa (ภาษาอังกฤษ).
  2. Sebastian Horn; Carmen M. Reinhart; Christoph Trebesch (26 February 2020). "How much money does the world owe China?". Harvard Business Review.
  3. Heather Zeiger (13 November 2020), "China and Africa: Debt-Trap Diplomacy?", Mind Matters
  4. Brahma Chellaney (23 January 2017). "China's Debt-Trap Diplomacy". Project Syndicate.
  5. Hameiri, Shahar (9 September 2020). "Debunking the myth of China's "debt-trap diplomacy"". The Interpreter. Lowy Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-09. สืบค้นเมื่อ 2023-09-28.
  6. "The Myth of the Chinese 'Debt Trap' in Africa". Bloomberg News (ภาษาอังกฤษ). 17 March 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-07-27.
  7. "Debunking the Myths of Chinese Investment in Africa". The Diplomat (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 18 August 2021.
  8. "China 'not to blame' for African debt crisis, it's the West: study". South China Morning Post. 2022-07-27. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 July 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-07-27.