ข้ามไปเนื้อหา

การชนกันของดาราจักรแอนดรอมิดากับทางช้างเผือก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แนวคิดของนาซา ในการชนกันของดาราจักรโดยใช้ภาพคอมพิวเตอร์สร้างขึ้น

การชนกันของดาราจักรแอนดรอมิดากับดาราจักรทางช้างเผือก เป็นการชนกันของดาราจักร ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในประมาณ 4 พันล้านปี ระหว่าง 2 ดาราจักรที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มท้องถิ่น คือ ดาราจักรทางช้างเผือก ซึ่งประกอบด้วยระบบสุริยะและโลก กับดาราจักรแอนดรอมิดา[1][2][3]

การชนกันของดาวฤกษ์

[แก้]

ในขณะที่ดาราจักรแอนดรอมิดามีดาวฤกษ์ประมาณ 1 ล้านล้านดวง (1012) และดาราจักรทางช้างเผือกมีดาวฤกษ์ประมาณ 3 แสนล้านดวง (3×1011) โอกาสแม้กระทั่งสองดาวชนกันเล็กน้อย เนื่องจากระยะทางขนาดใหญ่ระหว่างดาวฤกษ์ เช่น ดาวที่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด คือ พร็อกซิมาคนครึ่งม้า อยู่ประมาณ 4.2 ปีแสง หรือ 30 ล้านขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางแสงอาทิตย์ออกไป หากดวงอาทิตย์เป็นลูกปิงปอง ก็จะต้องประมาณ 1,100 กิโลเมตร (680 ไมล์) และทางช้างเผือก จะต้องประมาณ 30 ล้านกิโลเมตรรอบ ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยมากที่จะมีดาวโคจรมาชนกัน ระหว่างที่ดาราจักรทั้งสองชนกัน[4]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. doi:10.1038/nature.2012.10765
    This citation will be automatically completed in the next few minutes. You can jump the queue or expand by hand
  2. Muir, Hazel. (4 May 2007) "Galactic merger to 'evict' Sun and Earth เก็บถาวร 2008-10-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน". New Scientist.
  3. Loeb, Abraham; Cox, TJ. (June 2008). Astronomy. p. 28.
  4. NASA (2012-05-31). "NASA's Hubble Shows Milky Way is Destined for Head-On Collision". NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 July 2014. สืบค้นเมื่อ 2012-10-13.

ชะตากรรมของระบบสุริยะ

[แก้]

จากข้อมูลที่มีอยู่ในปีค.ศ. 2007 นักวิทยาศาสตร์ 2 คนจาก ศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 50% ที่ในดาราจักรที่รวมกันแล้ว ระบบสุริยะจะถูกพัดออกห่างจากแก่นดาราจักรอีก 3 เท่าจากระยะห่างปัจจุบัน[1] พวกเขายังคาดการณ์ว่ามีโอกาส 12% ที่ระบบสุริยะจะถูกดีดออกจากดาราจักรใหม่ในช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่างการปะทะกัน[2][3] เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบเชิงลบต่อตัวระบบ และโอกาสที่ดวงอาทิตย์หรือดาวเคราะห์ต่างๆ จะได้รับผลกระทบใดๆ ก็อาจมีน้อยมาก[2][3]

หากไม่นับการทำวิศวกรรมดาวเคราะห์ เมื่อถึงเวลาที่ดาราจักรทั้งสองปะทะกัน พื้นผิวโลกก็จะร้อนเกินกว่าที่น้ำจะมีอยู่ได้ ซึ่งจะทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกสูญพันธุ์ โดยปัจจุบันคาดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นภายใน 0.5 ถึง 1.5 พันล้านปี เนื่องจากกำลังส่องสว่างของดวงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาของการปะทะกัน ความสว่างของดวงอาทิตย์จะเพิ่มขึ้นไปแล้ว 35–40% ทำให้เป็นไปได้สูงว่าจะเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกหลบหนีบนโลกได้เมื่อถึงเวลานั้น [4][5]

  1. Muir, Hazel (2007-05-14). "Galactic merger to 'evict' Sun and Earth". New Scientist. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 April 2014. สืบค้นเมื่อ 2014-10-07.
  2. 2.0 2.1 Cain, Fraser (2007). "When Our Galaxy Smashes Into Andromeda, What Happens to the Sun?". Universe Today. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 May 2007. สืบค้นเมื่อ 2007-05-16.
  3. 3.0 3.1 Cox, T. J.; Loeb, Abraham (2008). "The Collision Between The Milky Way And Andromeda". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society. 386 (1): 461–474. arXiv:0705.1170. Bibcode:2008MNRAS.386..461C. doi:10.1111/j.1365-2966.2008.13048.x. S2CID 14964036.
  4. Schröder, Klaus-Peter; Smith, Robert Connon (2008). "Distant future of the Sun and Earth revisited". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society. 386 (1): 155. arXiv:0801.4031. Bibcode:2008MNRAS.386..155S. doi:10.1111/j.1365-2966.2008.13022.x. S2CID 10073988.
  5. Carrington, Damian (2000-02-21). "Date set for desert Earth". BBC News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 July 2014. สืบค้นเมื่อ 2007-03-31.