กองทุนถาวรอะแลสกา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

กองทุนถาวรอะแลสกา (อังกฤษ: Alaska Permanent Fund) เป็นกองทุนถาวรที่ตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ โดยมีรัฐวิสาหกิจบรรษัทกองทุนถาวรอะแลสกา (APFC) เป็นเจ้าของ[1] จัดตั้งขึ้นในปี 2519[2] ตามความข้อ 9 มาตรา 15 ของธรรมนูญรัฐอะแลสกา[3] ภายใต้ผู้ว่าการรัฐเจย์ แฮมมอนด์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2519 ถึงเมษายน 2523 กรมคลัง กระทรวงรายได้เป็นผู้จัดสารสินทรัพย์ของกองทุนถาวรฯ จนในปี 2523 สภานิติบัญญัติรัฐอะแลสกาตั้ง APFC[4] จนถึงปลายปี 2559 กองทุนฯ มีมูลค่าเกือบ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งมาจากรายได้น้ำมัน[5]

เงินปันผลกองทุนถาวร[แก้]

เงินปันผลกองทุนถาวร (PFD) เป็นเงินปันผลที่จ่ายให้แก่ผู้อยู่อาศัยในรัฐอะแลสกาที่อาศัยอยู่ในรัฐเต็มปีปฏิทิน (1 มกราคม – 31 ธันวาคม) และตั้งใจพำนักในรัฐอะแลสกาต่อไปอย่างไม่มีกำหนด[6] หมายความว่า หากบุคคลพำนักในวันที่ 2 มกราคม "ปีปฏิทิน" จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคมปีถัดไป

อย่างไรก็ดี บุคคลจะไม่มีสิทธิรับ PFD สำหรับปีเงินปันผลหนึ่ง ๆ เมื่อ

(1) ระหว่างปีที่สอบคุณสมบัติ บุคคลนั้นถูกศาลมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษฐานความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ในรัฐนี้
(2) ระหว่างปีที่สอบคุณสมบัติทั้งหมดหรือบางส่วน บุคคลนั้นถูกกักขังเพราะต้องคำพิพากษาลงโทษในรัฐนี้ฐาน
(ก) ความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ หรือ
(ข) ความผิดอาญาที่ไม่ร้ายแรงหากบุคคลถูกพิพากษาลงโทษว่า
(i) เคยกระทำความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ตามที่นิยามไว้ใน AS 11.81.900 หรือ
(ii) เคยกระทำความความผิดอาญาที่ไม่ร้ายแรงตั้งแต่สองครั้งขึ้นไปตามที่นิยามไว้ใน AS 11.81.900

ปริมาณการชำระขึ้นอยู่กับค่าเฉลี่ยห้าปีของผลการดำเนินงานของกองทุนถาวรฯ และแปรผันได้มากขึ้นอยู่กับตลาดหลักทรัพย์และปัจจัยอื่นอีกหลายปัจจัย PFD คำนวณโดยใช้ขั้นตอนดังต่อไปนี้[7]

  1. เพิ่มรายได้สุทธิตามกฎหมายของกองทุนฯ จากปีงบประมาณปัจจุบันบวกกับสี่ปีงบประมาณก่อนหน้า
  2. คูณ 21%
  3. หาร 2
  4. ลบหนี้ ค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการโครงการ PFD ของปีก่อน
  5. หารด้วยจำนวนผู้สมัครที่มีสิทธิ

การจ่ายเงินปันผลต่อคนต่ำสุด ได้แก่ 331.29 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2527 และสูงสุด ได้แก่ 2,072 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2558[8] However, in 2008 Governor Sarah Palin signed Senate Bill 4002[9] อย่างไรก็ดี ในปี 2551 ผู้ว่าการรัฐซาราห์ เพลินลงนามร่างกฎหมายวุฒิสภา 4002 ซึ่งใช้รายได้ที่ได้จากทรัพยากรธรรมชาติของรัฐและให้เงินพิเศษครั้งเดียว 1,200 ดอลลาร์สหรัฐแก่ชาวอะแลสกาทุกคนที่มีสิทธิได้รับ PFD[10]

แผนเงินปันผลแผนแรกจะจ่ายให้ชาวอะแลสกา 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีที่พำนักจนสูงสุดที่ 20 ปี แต่ศาลสูงสุดสหรัฐพิพากษาในคดีระหว่างโซเบลกับวิลเลียมส์, 457 U.S. 55 (1982) ไม่อนุมัติสูตร 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีว่าเป็นการแบ่งแยกโดยมีอคติที่เป็นภาระต่อการเดินทางระหว่างรัฐ ผลทำให้ผู้อยู่อาศัยที่มีสิทธิได้รับทุกคนได้รับเงินต่อปีจำนวนเท่ากัน ไม่ว่าอายุเท่าใดหรือพำนักในรัฐอยู่นานเท่าใดง

การจ่ายเงินจากกองทุนฯ จะต้องเสียภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง ส่วนรัฐอะแลสกาไม่มีภาษีเงินได้ของรัฐ แต่ผู้อยู่อาศัยไม่ครบปีที่ออกนอกรัฐอาจถูกรัฐที่พำนักใหม่เก็บภาษีได้

การจ่ายเงินรายปี[แก้]

ประวัติศาสตร์การจ่ายเงินรายบุคคลต่อปีของกองทุนมีดังนี้[11]

ปี จำนวน
2525 $1,000.00
2526 $386.15
2527 $331.29
2528 $404.00
2529 $556.26
2530 $708.19
2531 $826.93
2532 $873.16
2533 $952.63
2534 $931.34
2535 $915.84
2536 $949.46
2537 $983.90
2538 $990.30
2539 $1,130.68
2540 $1,296.54
2541 $1,540.88
2542 $1,769.84
2543 $1,963.86
2544 $1,850.28
2545 $1,540.76
2546 $1,107.56
2547 $919.84
2548 $845.76
2549 $1,106.96
2550 $1,654.00
2551 $2,069.00 + $1,200 Alaska Resource Rebate
2552 $1,305.00
2553 $1,281.00
2554 $1,174.00
2555 $878.00
2556 $900.00
2557 $1,884.00
2558 $2,072.00
2559 $1,022.00[12]
2560 $1,100.00[13]
2561 $1,600.00[14]

ผลกระทบ[แก้]

งานวิจัยปี 2561 พบว่าเงินปันผลกองทุนถาวรอะแลสกา "ไม่มีผลต่อการจ้างงาน และเพิ่มงานไม่เต็มเวลา 1.8 จุดเปอร์เซ็นต์ (17%)... ผลลัพธ์ของเราเสนอว่าการโอนเงินแบบถ้วนหน้าและถาวรไม่มีผลลดการจ้างงานรวมอย่างมีนัยสำคัญ"[15]

งานวิจัยปี 2562 พบ "เหตุการณ์ใช้สารเสพติดเพิ่มขึ้น 14% หนึ่งวันหลังการจ่ายเงิน [กองทุนถาวรอะแลสกา] และเพิ่มขึ้น 10% ในช่วงสี่สัปดาห์ถัดมา ซึ่งบางส่วนกลบด้วยการลดอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์สิน 8% โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอาชญากรรมรุนแรง ทว่า ในรายปี การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอาชญากรรมจากการจ่ายเงินดังกล่าวมีน้อย มูลค่าที่ประเมินนั้นคิดเป็นส่วนน้อยมากของการจ่ายเงินรวม ซึ่งเสนอว่าข้อกังวลต่อโครงการโอนเงินถ้วนหน้าที่เกี่ยวกับอาชญากรรมอาจไม่มีมูล"[16]

อ้างอิง[แก้]

  1. "About the Alaska Permanent Fund Corporation (APFC)". Alaska Permanent Fund Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 17, 2012. สืบค้นเมื่อ กันยายน 27, 2012.
  2. "What is the Alaska Permanent Fund?". Alaska Permanent Fund Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 28, 2012. สืบค้นเมื่อ กันยายน 27, 2012.
  3. "Alaska State Constitution, 9.15". State of Alaska. สืบค้นเมื่อ September 27, 2012.
  4. "About the Alaska Permanent Fund Corporation (APFC)". Alaska Permanent Fund Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 17, 2012. สืบค้นเมื่อ กันยายน 27, 2012.
  5. Helman, Christopher. "Biting the Hand that Feeds You". Forbes. No. November 29, 2016.
  6. "Eligibility Requirements". pfd.alaska.gov. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-31. สืบค้นเมื่อ March 29, 2018.
  7. "How the PFD amount is calculated". Alaska Permanent Fund Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มกราคม 17, 2013. สืบค้นเมื่อ กันยายน 27, 2012.
  8. "$2,072: 2015 Alaska Permanent Fund dividend amount announced". Alaska Dispatch News. สืบค้นเมื่อ September 21, 2015.
  9. "Senate Bill No. 4002". State of Alaska. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-08-28. สืบค้นเมื่อ September 27, 2012.
  10. "Palin signs energy relief package". Capital Weekly. August 26, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 28, 2013. สืบค้นเมื่อ September 27, 2012.
  11. "Annual Dividend Payouts". Alaska Permanent Fund Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ ตุลาคม 6, 2014. สืบค้นเมื่อ ตุลาคม 12, 2014.
  12. Herz, Nathaniel. "Gov. Walker's veto cuts Alaska Permanent Fund dividends to $1,022". Anchorage Daily News. สืบค้นเมื่อ 14 March 2019.
  13. Hughes, Zachariah. "PFD amount announced: $1,100". KTOO News. สืบค้นเมื่อ 14 March 2019.
  14. Herz, Nathaniel. "Alaska House votes to more than double PFDs, splintering majority and threatening budget progress". Anchorage Daily News. สืบค้นเมื่อ 19 April 2018.
  15. Jones, Damon; Marinescu, Ioana (February 2018). "The Labor Market Impacts of Universal and Permanent Cash Transfers: Evidence from the Alaska Permanent Fund" (PDF). NBER Working Paper No. 24312. doi:10.3386/w24312.
  16. Watson, Brett; Guettabi, Mouhcine; Reimer, Matthew (2019-04-05). "Universal Cash and Crime". The Review of Economics and Statistics: 1–45. doi:10.1162/rest_a_00834. ISSN 0034-6535.