โทรลล์เฟซ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
โทรลล์เฟซ (อังกฤษ: Trollface หรือ Troll Face) เป็นภาพมีมการ์ตูนเดือดดาล (อังกฤษ: rage comic) ของตัวละครที่สวมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ซึ่งใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเกรียน มันเป็นหนึ่งในใบหน้าการ์ตูนเดือดดาลที่เก่าแก่และเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่ง[1][2]
ประวัติ[แก้]
คาร์ลอส รามิเรซ (สเปน: Carlos Ramirez) นักศึกษาวิทยาลัยวัย 18 ปีจากโอ๊คแลนด์ วาดโทรลล์เฟซด้วยไมโครซอฟท์ เพนต์เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2008[3] [4] ภาพนี้เผยแพร่บนหน้าดีเวียนต์อาร์ตของรามิเรซชื่อ "Whynne"[4] โดยเป็นส่วนหนึ่งของการ์ตูนเดือดดาลเรื่อง Trolls เกี่ยวกับธรรมชาติของการเกรียนอย่างไร้จุดหมาย[5][6] รามิเรซโพสต์ภาพดังกล่าวบนเว็บไซต์บอร์ดรูปภาพ โฟร์แชนและผู้ใช้รายอื่นก็เริ่มแชร์ภาพดังกล่าว[3][7] ในหลายเดือนต่อมา ภาพวาดของรามิเรซได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วบนโฟร์แชน ในฐานะอีโมติคอนสากลของโทรลล์ทางอินเทอร์เน็ตและเป็นตัวละครการ์ตูนที่สื่ออารมณ์ได้หลากหลาย จากโฟร์แชน โทรลล์เฟซแพร่กระจายไปยังเรดดิตและเออร์เบินดิกชันแนรี ในปี 2009 [4] [5] ในที่สุดก็เข้าถึงเว็บไซต์แบ่งปันรูปภาพทางอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ เช่น Imgur และเฟซบุ๊ก[5]
ในเดือนมีนาคม 2021 รามิเรซได้ประกาศความตั้งใจที่จะขายโทรลล์เฟซเป็นโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนกันได้[8]
การใช้งาน[แก้]
โทรลล์เฟซ แสดงเกรียน นั่นคือผู้ที่สร้างความรำคาญให้ผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงของตนเอง[2] การ์ตูนต้นฉบับโดยรามิเรซเยาะเย้ยเกรียน;[3] อย่างไรก็ตาม ภาพนี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเหล่าเกรียน[9] โทรลล์เฟซได้รับการอธิบายว่าเป็นสิ่งเทียบเท่ากับการล้อเลียนเด็กๆ "nyah nyah nyah nyah nyah nyah" หรือการแลบลิ้นออกมาบนอินเทอร์เน็ต[9] รูปภาพมักมีวลี เช่น "มีปัญหาเหรอ?" (อังกฤษ: Problem?) หรือ "โกรธเหรอหนุ่ม?" อยู่ด้วย (อังกฤษ: You mad, bro?)[10]
ลิขสิทธิ์[แก้]
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2015 Kotaku ได้จัดทำบทความสัมภาษณ์เชิงลึกกับรามิเรซเกี่ยวกับโทรลล์เฟซ อันโด่งดังของเขา[3] ในบทความรามิเรซคาดการณ์ว่านับตั้งแต่จดทะเบียนโทรลล์กับสำนักงานลิขสิทธิ์แห่งสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2010 เขาได้รับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและการจ่ายเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโทรลล์เฟซมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ รวมถึงการได้รับใบอนุญาตสำหรับเสื้อที่ประดับด้วยใบหน้าที่จำหน่ายโดย Hot Topic ของเครือข่ายการค้าปลีก โดยมีรายได้สูงสุดต่อเดือนสูงถึง 15,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้รามิเรซยังเสนอเรื่องราวเบื้องหลังการนำวิดีโอเกม Meme Run สำหรับวียูออก เนื่องจากละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีโทรลล์เฟซเป็นตัวละครหลัก[3][11] โทรลล์เฟซได้รับการคุ้มครองโดยลิขสิทธิ์ แต่ไม่มี เครื่องหมายการค้า [12]
ผลกระทบ[แก้]
La Tercera เรียกโทรลล์เฟซว่าเป็น "บิดาแห่งมีม" [4] รูปปั้นครึ่งตัวของโทรลล์เฟซได้รับการจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Museo del Meme ในเม็กซิโกซิตี[13]
ในเดือนมีนาคม 2012 คลิปของแฟนทีมฟุตบอลตุรกีเซคันด์ลีก Eskişehirspor ได้กลายเป็นไวรอลวิดีโอ พวกเขาใช้แบนเนอร์ที่ประดับด้วยโทรลล์เฟซและคำว่า "มีปัญหาเหรอ?" (อังกฤษ: Problem?) เพื่อประท้วงการเปลี่ยนแปลงกฎ[14]
ในรายการ แบล็ก มิร์เรอร์ ตอน "หุบปากและเต้นรำ" ผู้แบล็กเมล์ส่งรูปโทรลล์เฟซให้กับเหยื่อ หลังจากที่พวกเขาเปิดเผยความลับของเหยื่อทั้งๆ ที่เหล่าเหยื่อได้ปฏิบัติตามความต้องการของอาชญากร[15]
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 Rebecca Black ได้เปิดตัวเพลงที่รีมิกซ์จากเพลง "Friday" ของเธอในปี 2011 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี โดยมิวสิกวิดีโอ ของเพลงมีตัวละครการ์ตูนเดือดดาลหลายตัว รวมถึง โทรลล์เฟซ[16]
- ↑ Hagedorn, Patrick (July 5, 2012). "Junge Zeiten: Bitte recht freundlich". Kölner Stadt-Anzeiger (ภาษาเยอรมัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2020. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ 2.0 2.1 Connor, Tom (March 12, 2012). "Fffuuuuuuuu: The internet anthropologist's field guide to "rage faces"". Ars Technica. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 22, 2021. สืบค้นเมื่อ June 13, 2020. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Connor" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 Klepek, Patrick (April 8, 2015). "The Maker Of The Trollface Meme Is Counting His Money". Kotaku. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 21, 2020. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Klepek" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 Christiansen, Axel (September 20, 2018). "Trollface: El padre de los memes cumple 10 años". La Tercera (ภาษาสเปน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2020. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Christiansen" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ 5.0 5.1 5.2 Lazzaro, Sage (March 30, 2016). "The Origin Stories Behind 5 of the Internet's Most Popular Memes". Observer. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ Whynne (September 19, 2008). "Comic - Trolls". DeviantArt. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 20, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-05-28.
- ↑ Price, Rob (April 8, 2015). "How the creator of the 'trollface' meme turned an MS Paint cartoon into a six-figure payday". Business Insider. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ Viniacourt, Elise. "Comme le Nyan Cat, les vieux mèmes d'internet s'envolent aux enchères". Libération (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ July 7, 2021.
- ↑ 9.0 9.1 Macale, Sherilynn (September 30, 2011). "7 memes to know: Internet culture at its finest". The Next Web. สืบค้นเมื่อ June 13, 2020.
- ↑ "Trollface (Racist Versions)". Anti-Defamation League. สืบค้นเมื่อ June 13, 2020.
- ↑ Whitehead, Thomas (March 4, 2015). "Copyright Owner of 'Trollface' Image Explains Role in Getting Meme Run Taken Down". Nintendo Life. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 16, 2021. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ Edwards, Phil (July 24, 2015). "5 faces you never realized were trademarked". Vox. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 15, 2021. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "Museo del Meme estará abierto solo este fin de semana en la Ciudad de México". infobae (ภาษาสเปนแบบยุโรป). December 8, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 9, 2018. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ Eördögh, Fruzsina (March 3, 2020). "Problem? Turkish soccer fans protest rule change with troll face". The Daily Dot. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2020. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "Black Mirror's "Shut up and Dance" is a Nauseating Tale of Online Crime and Punishment". October 24, 2016.
- ↑ "Rebecca Black Reclaims 'Friday'". PAPER (ภาษาอังกฤษ). February 11, 2021. สืบค้นเมื่อ March 24, 2021.