เอ๋อเหรอ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอ๋อเหรอ
กำกับพจน์ อานนท์
เขียนบทพจน์ อานนท์
ปิยะมาศ มะชะรา
นักแสดงนำโหน่ง ชะชะช่า
นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ
วีรภักดิ์ แก่นสุวรรณ
ศึกษา ทิพย์นุช
ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง
ปริศนา พรายแสง
อลิสา อินทุสมิต
สาธิดา เขียวชะอุ่ม
ผู้จัดจำหน่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
วันฉาย6 มกราคม พ.ศ. 2548
ประเทศประเทศไทย
ภาษาไทย
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย
ข้อมูลจากสยามโซน

เอ๋อเหรอ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายเมื่อ 48 เป็นภาพยนตร์แนวตลก ดราม่า ผจญภัย ซึ่งเป็นการผจญภัยของ ต๋อง กับ ลูกแก้ว ซึ่งห่างจากพ่อแม่ของเขา โดยถูกคนร้ายถูกจับมาเพื่อที่จะมาขายผลไม้ในเมืองพัทยา

ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ประจำปี 2548 ขณะที่มีอายุเพียง 8 ขวบ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ บิดาของเธอในฐานะนายกสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ เป็นประธานการจัดงานนั้น[1]

เนื้อเรื่อง[แก้]

ในตอนเช้า ต๋อง (วีรภักดิ์ แก่นสุวรรณ) และพวกลูก ๆ ได้ไปโรงเรียน ต๋องเป็นเด็กโรคดาวน์ซินโดรมจะเป็นเด็กพิเศษและความมีสุขได้ตลอด และส่วน ลูกแก้ว (นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ) เด็กผู้หญิงที่ชอบเล่นกับต๋องตลอดเวลา ต๋องอยู่ที่บ้านกลางชนบทหลังเขาสก และ ลูกแก้วอยู่ที่ร้านขายรองเท้าในเมือง ทั้งคู่ได้เป็นเพื่อนสนิทเรียนห้องเดียวกัน พ่อของต๋องชื่อสำรวย (โหน่ง ชะชะช่า) ทำงานอยู่ที่สถานีขนส่ง แอ๋ว (อลิสา อินทุสมิต) เป็นภรรยาของสำรวยและเป็นแม่ของต๋อง คุณปรีชา (ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) เป็นพ่อของลูกแก้วที่นิสัยดุสั่งสอนอบรมให้แก่ ลูกแก้วเสมอ เขาไม่ชอบครอบครัวที่มีนิสัยปัญญาอ่อน เขาทำงานที่สถานีขนเช่นเดียวกัน ที่โรงเรียน เบิ้มเป็นคนที่ใจดำชอบมาแกล้งต๋องอยู่เรื่อย ๆ ลูกแก้วได้ช่วยเหลือต๋องเป็นอย่างดี โดยลูกแก้วต่อสู้กับเบิ้ม ปรีชามาถึงโรงเรียนได้เห็นเข้า สั่งให้ลูกแก้วกลับบ้านและตีด้วยไม้เรียว เขาสั่งสอนไม่ให้ใช้ความรุนแรงการต่อสู้กับคนอื่น และมีแม่ของลูกแก้วชื่อ วรรณ (ปริศนา พรายแสง) ได้มาปกป้องจากการอบรบของปรีชา ส่วนต๋องกับสำรวยขี่จักรยานกลับบ้าน ได้เห็นรองเท้าของต๋องขาดเป็นรู สำรวยคิดว่าจะไปซื้อร้องเท้าคู่ใหม่ที่ร้านคุณปรีชา

ตอนเช้า สำรวยกับต๋องขี่จักรยานมาที่ร้านขายรองเท้าคุณปรีชา คุณปรีชาบอกอย่างไม่เต็มใจและโกรธมากขึ้นให้ไปซื้อร้านอื่น ต๋องยังคิดไม่เลิกอยากแก้แค้นให้กับคุณปรีชาโดยขว้างปาก้อนหินใส่กระจกขายแผงรองเท้าจนแตกหมด คุณปรีชาและน้องลูกแก้วดุทั้งคู่และได้ไล่ทั้งคู่ไป สำรวยสั่งสอนตีก้นให้รู้สำนึกของการทำโทษ ต๋องรู้สึกเสียใจอย่างผิดหวังมาก แต่มีลูกแก้วที่ยังรักต๋องอยู่ ลูกแก้วชักชวนต๋องไปเล่นทั่วที่สถานีขนส่ง ขณะเล่นอยู่นั้นได้พบกับเบิ้มที่หน้าตาช้ำบวม ที่ลูกแก้วเตะที่หน้าเขา และต๋องก็โจมตีด้วย พร้อมลูกสมุนมาจัดการในการแก้แค้นคืน ทั้งคู่ได้หนีหลบที่ซ่อน ได้เห็นตู้เก็บประเป๋ารถเมล์เปิดอยู่ จึงได้หลบซ่อนตัวอยู่แล้วประตูตู้รถทัวร์กำลังจะปิด สำรวยได้เห็นทั้งคู่ติดอยู่ข้างในที่เก็บกระเป๋ารถเมล์ที่มืดมิด เขาได้ช่วยเหลือพวกเขา จนสำรวยวิ่งตามรถทัวร์ไม่ทัน กลางคืนสำรวยได้แจ้งภรรยาเขาก็บอกว่า ต๋องหายไป และส่วนปรีชาโทรศัพท์หาลูกแก้วของเขา แต่ไม่สามารถรับสัญญาณจะติดต่อได้ มาถึงที่กรุงเทพที่สถานีขนส่งหมอชิต ต๋องและลูกแก้วเริ่มมีอาการหิวที่ไม่ได้กินมาตอนที่อยู่ที่บ้าน แต่หาอะไรกินไม่ได้เพราะทั้งคู่ไม่มีตังค์ และเริ่มเป็นห่วงพ่อของเขา และต๋องได้คิดออกว่าจะทำสัญลักษณ์แมลงปอให้พ่อได้รู้ว่าต๋องมาทางนี้ ที่จะวาดสัญลักษ์นี้วาดที่เสาของสถานี ข้างดังกิ้น โดนัท ต๋องได้เริ่มเห็นหลวงพ่อของวัดสุทัศน์ ซึ่งมากับโก๊ะ (ศึกษา ทิพย์นุช) เป็นเด็กแปลกหน้าที่แกล้งต๋องที่ซึ่งคล้ายกับเบิ้ม และพวกเขามาอาศัยอยู่ที่วัดและพักแรมค้างคืน เพื่อจะรอให้ ทั้งคู่รอผู้ปกครองของพวกเขามารับ

สำรวยได้ติดตามลูกไปโดยอาศัยกระเป๋าเก็บของรถเมล์ และ ปรีชาและวรรณได้ไปหาลูกเช่นเดียวกัน วันนั้นก็มีคนร้ายที่แฝงตัวเป็นคนดีโดยหลวงพ่อไม่รู้ตัว และ ปรีชา กับ วรรณได้ไปติดต่อที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ที่วัดสุทัศน์โก๊ะกำลังกวาดใบไม้อยู่ในขณะนั้นมีแกละได้ชวนโก๊ะไปเที่ยวสวนสนุกเพราะเป็นวันเกิดของโอ๊คซึ่งหลวงพ่อไม่ให้สั่งให้ไปสถานที่เที่ยวข้างนอกโดยต้องตีด้วยไม้เรียวโดยพวกเด็กชี้ไปที่โก๊ะ เขาก็ไม่ยอมแพ้ให้กับ ต๋องและลูกแก้ว คราวหน้าเขาต้องจัดการกับทั้งคู่ ในตอนเช้าสำรวยได้เข้าไปที่สถานีขนส่งเจอภาพวาดสัญลักษณ์แมลงปอของเสาสถานีขนส่ง และเขาต้องติดตามลูกของเขาไป จนเขาได้มาเห็นการรายงานข่าวว่า ชายคนนั้นได้หายตัวไปอีกเช่นกัน เขาต้องไปรายงานที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ตอนนี้รายงานก็ไม่ทันแล้ว สำรวยไม่ได้พักที่โรงแรม แต่เขาจะนอนบนถนน พวกลูกน้องของโก๊ะนอนหมดแล้ว แต่เหลือต๋องที่ยังนอนไม่หลับนั่งร้องไห้โอดครวญอยู่ที่ระเบียงวัด เขาก็ยังนึกถึงพ่อและครอบครัวของเขาอยู่ลูกแก้วก็มาปลอบใจต๋องให้หายจากการโศกเศร้า

รุ่งเช้าสำรวยตื่นเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่เขาเข้าห้องน้ำผิดเป็นห้องน้ำหญิง และได้ออกไปรายงานที่ไอทีวีต่อ คนร้ายได้ส่งต๋อง ลูกแก้ว และ โก๊ะ นั่งรถตู้ไปสถานีเลี้ยงเด็กที่พัทยา ก่อนจะส่งไปต๋องได้เห็นพ่อของเขา ออกอากาศไอทีวีว่าพ่อของเขารักลูกมาก สำรวยได้เหมามอเตอร์ไซด์มา และนักข่าวไอทีวีจะถามว่าจะส่งพวกเขาไหม แต่แต๋วได้เริ่มแผนหลอกว่าจะส่งตัวพวกเขาไปที่สถานีไอทีวี และคนร้ายได้ส่งไว้ที่รถตู้เรียบร้อยบังเอิญลูกแก้วได้เห็นสำรวยกำลังวิ่งไปหาต๋องตามถนนที่เป็นรูปแมลงปอ แต่คนร้ายไม่ให้พวกเขาออกจากรถตู้โดยเด็ดขาด ส่วนที่สำรวยได้ส่งภาพถ่ายครอบครัวของเขาส่งไปให้หลวงพ่อดู แต่ต๋องไม่ได้อยู่ที่นี่ และให้นั่งรถตุ๊ก ตุ๊กไปที่ถนนข้าวสาร และที่สถานเลี้ยงเด็ก คนร้ายขับรถไปถึงที่หมาย และพวกมันได้บังคับใช้เด็กสั่งให้ไปขายผลไม้ในชายหาดพัทยา คนร้ายทั้งหมดเป็นคนอาร์มณ์ฉุนเฉียวอันธพาล ชอบทารุณกรรมทุบตีต่อพวกเด็ก มีสวย เป็นสาวคนโตก็ถูกจับขังด้วยและบังคับให้ขายผลไม้เหมือนกันและใจดีต่อ ต๋อง และ ลูกแก้ว และตัดมาที่สำรวยเขาได้เข้าสังเวียนมวยในบาร์ที่ถนนข้าวสาร เพื่อจะหาต๋องต่อไปอีกเรื่อย ๆ เขาพบเด็กทั้งคู่ตีมวยบนสนามประลอง สักพักโดยที่จะถาม แต๋ว ที่จะตามหาเรื่องต๋อง สาวเจ้าของบ้านพูดโกหกโดยไม่รู้จักเขา รวมถึงได้สั่งให้พวกแก๊งค์เลวใส่เสื้อขาวมาจับเขาไว้และพาเขาออกไปข้างนอก วันถัดมาในสถานเลี้ยงเด็ก คนร้ายได้สอนการขายผลไม้ทั้งหมด และพาพวกเด็กทั้งหมดออกไปขายผลไม้ที่พัทยาต่อ ผลไม้นี้ต้องขายให้ครบ 20 บาท แต่คนร้ายก็ไม่พอใจ แล้ว ต๋อง กับ ลูกแก้ว ได้พบตำรวจที่สตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์ ทั้งคู่จะวิ่งไปหาตำรวจ จนวิ่งไม่ทันคนร้ายดักหน้าไว้ก่อน

ในบาร์นั้นสำรวยถามแต๋วเพื่อขอร้องให้ไปสอบถามที่สถานีตำรวจ สาวเจ้าของบ้านสถานเลี้ยงเด็กหลอกลวง สั่งให้ลูกสมุนพาเขาไปส่งที่กองขยะว่าเป็นโรงพักของสถานีตำรวจ ที่สถานเลี้ยงเด็กพวกเด็ก ๆ กำลังจะหนีออกจากสถานเลี้ยงเด็กนี้คนร้ายคนหนึ่งเห็นเด็กทุกคนหลบหนี และไม่ได้ผลจึงกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กเหมือนเดิม ตอนเช้าคนร้ายได้อบรมตัวอย่างที่ใครจะหนีก็จะตาย ด้วยเอาตุ๊กตา และใส่น้ำมันแล้วจุดไฟเผาตุ๊กตาตัวนั้น แล้วก็ขายผลไม้อีก ลูกน้องของโก๊ะที่ต๋องขายผลไม้ปรากฏออกมาและเริ่มจัดการกำต๋องพร้อมด้วยลูกแก้วมาจัดการต่อสู้กับโก๊ะ คนร้ายวิ่งบังคับให้ขายผลไม้ต่อ ที่บ้านของสำรวย แม่ของสำรวยตั้งครรภ์ ที่ยังทำขนม และห่วงใยสำรวยและต๋องอยู่ ตอนกลางคืนต๋องกับลูกแก้วได้ไปขายผลไม้ต่อ พอหยุดขายผลไม้ต๋องนั่งเล่นบนชายหาด ทันใดนั้นโก๊ะพร้อมด้วยลูกสมุนได้มาชำระแค้นของลูกแก้ว แต่ไม่อยู่เขาได้ตัดสินใจทำร้ายต๋องแทน ลูกแก้วมาจัดการกับลูกสมุนและโก๊ะ แล้วพวกมันได้หนีไปในหลังฝนตก ในสถานเลี้ยงเด็กต๋องคิดถึงครอบครัวของตนเอง

เช้าต่อมาแต๋วได้ปลุกทั้งคู่ เธอได้ปลุกโก๊ะและต๋องแต่ทั้งคู่ไม่สบาย พร้อมลุมจัดการกับสาวเจ้าของเลี้ยงเด็ก และเธอให้บังคับสั่งให้ไปที่บาร์เพื่อจะให้ต่อสู้กันตัวต่อตัวกับเด็กนักมวยที่เก่งกาจ ที่บ้านของสำรวยแอ๋วเจ็บท้อง ทำให้ส่งไปโรงพยาบาล ในช่วงฝนตกที่กรุงเทพสำรวยได้เห็นต๋องกับลูกแก้วกำลังจะเข้าสังเวียนในบาร์ เขาได้มารับลูกของเขาแต่ไม่ทันการลูกสมุนและแก๊งค์คนร้ายไม่สนใจได้จับสำรวยไว้โดยไม่ได้คืนให้กับพ่อของเขาอีกเลย ทำให้ ต๋อง ลูกแก้ว และสำรวย ได้รับบาดเจ็บตามกันจนสลบไป แล้วไปส่งที่สถานเลี้ยงเด็กพา ต๋องกับลูกแก้ว ไปขังที่ชั้น 2 ทั้งคู่ได้หาทางที่จะหลบหนีโดยต้องอะไรมาเผาสถานเลี้ยงเด็ก แล้วต๋องโชคดีหาไม้ขีดไฟเจอ และเผาสถานที่เลี้ยงเด็ก ทำให้พวกเด็ก ๆ หนีไปหมด รวมถึงคนร้ายเอาไม่อยู่ได้หนีไปเหมือนกันจนช่วยทั้งคู่ไม่ไหว พอดีที่สำรวยได้มาช่วยทั้งคู่หลบหนีทำให้ไฟในถังแก๊สนั้นระเบิดจนทั้ง 3 ล้มไป

สักพักมี รถตำรวจ รถข่าว และรถดับเพลิงมากู้ภัยช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และปรีช กับ วรรณ มาดูลูกแก้วที่ประสบภัยอยู่แต่ตำรวจไม่ให้เข้าไปได้ และรวมถึงจับคนร้ายและแต๋วเอาไว้ ณ โรงพยาบาลสำรวยได้รับบาดเจ็บและมีผ้าพันแผลมัดทั่วร่างกาย และแม่แอ๋วของสำรวยได้คลอดลูกเรียบร้อย ในตอนนั้นเองปรีชา วรรณ ลูกแก้ว และ ต๋อง กลับมาเยี่ยมสำรวยที่บาดเจ็บทั้งตัวและของฝากเป็นขนม และปรีชาได้ขอบคุณสำรวยที่ได้ช่วยเหลือลูกแก้วไว้ได้อย่างปลอดภัย วันต่อมาที่เขาสก สำรวยนั่งจักรยานส่งต๋องไปโรงเรียนอย่างปกติและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

นักแสดง[แก้]

อ้างอิง[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]