วัดสันติธรรมาราม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดสันติธรรมาราม
แผนที่
ชื่อสามัญวัดสันติธรรมาราม, วัดโคก
ที่ตั้งเลขที่ 231 ซอยเจริญนคร 60 ถนนเจริญนคร แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายมหานิกาย
พระพุทธรูปสำคัญหลวงพ่อขาว
เจ้าอาวาสพระครูสันติธรรมาภรณ์
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดสันติธรรมาราม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในแขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูสันติธรรมาภรณ์

ประวัติ[แก้]

วัดสันติธรรมารามตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 เดิมชื่อ วัดโคก ต่อมากลายเป็นวัดร้าง จนกระทั่ง พ.ศ. 2495 ทางคณะสงฆ์ได้ดำเนินการบูรณะพัฒนาวัดขึ้นมาใหม่ โดยมีพระมหาโพธิวงศาจารย์เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต และมีนาวาโท พระศรฤทธิ์รณชัย เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศยกสภาพวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์ วัดได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดสันติธรรมาราม" เมื่อปี พ.ศ. 2496 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2509 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร[1]

ด้านการศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. 2512 ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. 2519 โรงเรียนผู้ใหญ่วัด เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. 2548 นอกจากนี้ยังมีการเปิดอบรมวิปัสสนากรรมฐาน

อาคารเสนาสนะ[แก้]

อุโบสถกว้าง 8.50 เมตร ยาว 22 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2510 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งพุทธลักษณะเป็นแบบพระพุทธชินราช วิหารกว้าง 7 เมตร ยาว 10 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2545 พระประธานนามว่า หลวงพ่อขาว มีชิ้นส่วนพระพุทธรูปองค์ทำจากศิลาแลงอย่างพระพาหา พระเพลา พระองคุลี และอื่น ๆ กองรวมกันอยู่บนฐานชุกชี สันนิษฐานว่าเป็นองค์พระเดิมคงถูกทำลาย ต่อมานำมาประกอบเป็นองค์พระ[2] อาคารเสนาสนะอื่นได้แก่ วิหารประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ศาลาปฏิบัติธรรม ศาลาการเปรียญ กว้าง 10.20 เมตร ยาว 24.30 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2511 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทยสองชั้น กุฏิสงฆ์ จำนวน 4 หลัง ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน 1 หลัง นอกจากนี้มีหอระฆัง 1 หลัง โรงครัว 1 หลัง เรือนเก็บพัสดุ 1 หลัง กุฏิเจ้าอาวาส 1 หลัง เรือนรับรอง 1 หลัง

อ้างอิง[แก้]

  1. "คู่มือข้อมูลท้องถิ่นธนบุรี". p. 39–40.
  2. "ผลการสำรวจและศึกษาข้อมูลทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเขตธนบุรี" (PDF). p. 39.