ผู้ใช้:Song2281/กระบะทราย
แม่แบบ:กล่องข้อมูล อัลบั้มบันทึกที่ห้องอัดเสียง
ฟู ไฟเตอร์ส (อังกฤษ : Foo Fighters) สตูดิโออัลบั้มแรกของวงฟู ไฟเตอร์ส, ออกจัดจำหน่ายเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1995 โดยค่ายเพลง Capitol Records Dave Grohl เขียนและบันทึกลงในอัลบั้มของเขาเอง โดยมีมือกีตาร์รับเชิญ Greg Dulli ด้วยความช่วยเหลือของผู้ผลิต Barrett Jones ที่สตูดิโอ Robert Lang Studios ใน ซีแอตเทิล , วอชิงตัน เมื่อปีค.ศ. 1994 Dave Grohl อธิบายว่าแรกเริ่มที่อัดอัลบั้มเขาต้องการทำมันเล่นๆ โดยเขาอธิบายว่ามันเป็นการระบายความรู้สึกที่เขาไม่สามารถเอากลับมาได้ ของเคิร์ต โคเบน
หลังจากเสร็จสิ้นการอัด Dave Grohl เลือกชื่อ ฟู ไฟเดอร์ส เพื่อใช้ในโครงการในการซ่อนตัวของเขา โดยเทปที่เขาประชุมได้ผ่านการประชุม หลังจากนั้้นก็เริ่มดึงดูดความน่าสนใจแก่ค่ายเพลงต่างๆ Dave Grohl เซ็นสัญญากับค่ายเพลง Capitol และได้รับคัดเลือกให้เป็นวงดนตรีเต็มรูป อัลบั้มได้รับการโปรโมทผ่านทางทัวร์และหกซิงเกิ้ล โดยอัลบั้มนี้ได้รับผลตอบรับในแง่บวกในด้านการทัวร์คอนเสิร์ตและแต่งเพลง , และประสบความสำเร็จในเชิงพานิชย์และกลายเป็นอัลบั้มที่สองที่ขายดีในสหราชอาณาจักรและติดชาร์จอันดับที่เพลงในอังกฤษ , แคนาดา , ออสเตรเลีย , และ นิวซีแลนด์
เบื้องหลัง[แก้]
หลังการเสียชีวิตของ เคิร์ต โคเบน นักร้องนำวงเนอร์วานา ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1994, Dave Grohl มือกลองวงเนอร์วานาระบุอาจเป็นเพราะภาวะความซึมเศร้า[1], ซึ่งมันยากที่จะฟังเพลงและเล่นดนตรีพร้อมกัน.[2] ซึ่งเขายังลังเลว่าจะทำอะไรต่อไป ซึ่งเขาค่อนข้างครุ่นคิดเกี่ยวกับการลาออกจากศิลปินถึงอย่างไร,ก็ตามมีคำเชิญชวนจากวงต่างๆเข้ามากมายเช่น Danzig และ Tom Petty and The Heartbreakers ในการเข้ามาเป็นมือกลอง, เพราะ มันเป็นการเตือนผมว่าผมยังอยู่คงอยู่ในเนอร์วานา; ทุกครั้งที่ผมนั่งลงบนกลองชุด,ผมก็จะคิดเช่นนี้[3][4]
การทัวร์คอนเสริ์ตของ Dave Grohl เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตของเคิร์ต โคเบน แสดงร่วมกับวง The Backbeat Band ในงาน 1994 MTV Movie Awards เมื่อเดินมิถุนายน , เขาถูกรับเชิญโดย Mike Watt เพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งกับอัลบั้มของเขา Ball-Hog or Tugboat? หลังจากแสดงคอนเสริ์ตเสร็จแล้ว ,Dave Grohl มีความคิดที่จะตั้งโครงการดนตรีของเขาขึ้นมาเอง[5] ซึ่งการทำงานครั้งนี้จะคล้ายกับ ยาบำบัด ซึ่งเขาก็ออกไไปและอัดเพลงโดยตัวของเขาเอง[4] หลังจากนั้น Dave Grohl ได้ทำการสำรองไว้ประมาณหกวันที่สตูดิโอ Robert Lang Studio ซึ่งบริเวณใกล้กับบ้านของเขา , เมื่อเขาได้อัดเพลง เพลงโปรดของผม ผมเขียนมามันขึ้นเมื่อ 4-5 ปีซึ่งไม่มีใครฟัง [1] ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากผู้ผลิต Barret Jone , เมื่อครั้นที่เขายังส่งเทปดีโมไปให้ , Pocketwatch ปี 1992 [6] ไอเดียนี้ทำให้ Dave Grohl มีกระจิตกระใจและตั้งชื่อที่จะทำให้ผู้คนเชื่อเฉกเช่นอัลบั้ม Klark Kent ของ Stewart Copeland[2]
การอัดเพลง[แก้]
—Dave Grohl กล่าวในปีค.ศ. 2011[7]
Dave Grohl และ Barret Jones อัดเพลงในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มในเดือนตุลาคม ปีค.ศ. 1994 , โดย Dave Grohlเล่นเครื่องดนตรีเองทั้งหมด (ไม่ว่าจะเป็นการร้อง กีตาร์ เบส และกลอง) โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Greg Dull จากวง The Afghan Whigs ในการเล่นกีตาร์ให้กับเพลง X-Static ซึ่งเป็นคนที่ติดตามการอัดเพลงของ Dave Grohl ,
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 Moll, James (director) (2011). Back and Forth (documentary). RCA.
- ↑ 2.0 2.1 "Everyone Has Their Dark Side", Mojo (April 2005)
- ↑ Murphy, Kevin (July 2005). "Honor Roll". Classic Rock.
{{cite journal}}
: แหล่งข้อมูลอื่นใน
(help)|title=
- ↑ 4.0 4.1 My Brilliant Career, Q (November 2007)
- ↑ From Penniless Drummer To The Bigest (sic) Rock Icon In the World, Kerrang! (November 2009)
- ↑ Apter, Jeff (2006). The Dave Grohl Story. Music Sales Group. pp. 256–260. ISBN 978-0-85712-021-2.
- ↑ "I have all these huge fucking riffs, I can scream for three hours... LET'S GO!", Classic Rock, May 2011