ผู้ใช้:PELAMID

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โลก อยู่นอกระบบสุริยะอวกาศแต่ก็มิได้อยู่เหนือจักรวาล โลก มี ๔ รูปร่าง แบ่งเป็น ๓ ด้าน ๔ รูปร่างนั้นคือ ธาตุ ดิน น้ำ ลม และ ไฟ ๓ ด้าน เป็น ยาน (วิญญาณ)

ทะเลทราย ตกลงมาจากฟ้า หรือ จักรวาลอีกฟากหนึ่ง มันคือเศษเถ้าถ่านที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ นอกโลก

ทะเลทราย อาจจะมีอยู่ตามสถานที่ต่างดาว อื่นๆ

ญี่ปุ่น อเมริกา จีน อินเดีย เกาหลี มันเป็นเรื่องจริงที่อธิบายได้ แต่ใครจะอธิบายได้ หรือ อธิบายยากมาก สำหรับโลกใบเดียวกัน นี้ พูดถึงทะเลทราย ทะเลทรายอยู่ติดกับโลกแม้เริ่มต้นโลกจะไม่เคยมีทะเลทรายมาก่อน

สฟิง รูปปั้นสัตว์โลก รูปปั้นขนาดใหญ่ เรียกว่า มโหฬาร ได้เลยทีเดียว เรื่องราวของสฟิงเป็นความจริงตามตำนานที่เคยจารึกเอาไว้ เช่น สมมุติเทพ แต่ส่วนมากจะมีอยู่ในโลกหลังความตาย Book Of The Dath

Shaolin Temple ประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่โลกใบนี้เริ่มมีทะเลทราย และความเจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดของโลก

สถาบันการเงิน Palace of Madrid) :  พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริดเป็นที่ประทับของราชวงศ์สเปน ภายในมีห้องถึง 3,418 ห้อง นับเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สถาปัตยกรรมของพระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริดเป็นศิลปะสไตล์บาโรคผสมกับคลาสสิก หรูหราทั้งภายนอกและภายใน ควรค่าแก่การไปชมให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต

◆ จตุรัสพลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) : พลาซ่ามายอร์เป็นจัตุรัสกลางเมืองมาดริด ลักษณะเป็นลานกว้างล้อมรอบด้วยอาคารสไตล์โรมันสูงสามชั้น ภายในอาคารมีทั้งโรงแรมหรู ร้านค้า และร้านอาหาร บริเวณลานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสเปน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาชมอาคารแห่งนี้ ในอดีตลานแห่งนี้เคยใช้ประกอบพิธีสำคัญมากมายของสเปน นอกจากนี้ยังเป็นลานใช้จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น กีฬาสู้วัวกระทิงอันโด่งดังของสเปนอีกด้วย

◆ ถนนแกรนเบีย (Gran Via) : ถนนแกรนเบียหรือเกรทเวย์ (Great Way) ถนนช้อปปิ้งใจกลางมาดริด เต็มไปด้วยร้านค้าสุดหรูมากมายให้เพื่อนๆ ได้เลือกซื้อสินค้ากลับบ้าน นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นถนนแห่งการช้อปปิ้งแล้วยังมีอีกชื่อเรียกเล่นๆ ว่าเป็นถนนบรอดเวย์แห่งสเปน (Spanish Broadway) เพราะมีโรงละครให้เพื่อนๆ ไปเลือกชมกันได้ แถมยังเป็นถนนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหล ดึกๆ ใครเหงาต้องไปแกรนเบียเลย

◆ วัดเดโบด (Temple of Debod) : วัดโบราณอันสวยงามของอียิปต์ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษในตอนกลางคืนที่มีการเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม วัดเดโบดเป็นวัดที่อียิปต์มอบให้แก่สเปนเพื่อให้ช่วยรักษาโบราณสถานไว้จากการสร้างเขื่อนในภูมิภาคนูเบีย (Nubia) ซึ่งวัดเดโบดเป็น 1 ใน 4 วัดที่อียิปต์มอบให้แก่ประเทศต่างๆ อีก 3 วัดอยู่ในประเทศเนเธอแลนด์ อิตาลี และสหรัฐอเมริกา

◆ ปูเอร์ตาเดลโซล (Puerta del Sol) : อีกหนึ่งจัตุรัสที่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่คนเดินทางมาเยอะที่สุดในมาดริด มีแลนด์มาร์คเป็นหอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ของสเปนด้วย

ลัทธิ หมายถึง คัมภีร์ชุดแรกๆซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นผู้ประกาศ เช่น ลัทธิ (บาลี: ลทฺธิ; อังกฤษ: doctrine) หมายถึง ความเชื่อ ความคิดเห็นและหลักการ เกี่ยวกับศาสนา ปรัชญา การเมืองเศรษฐกิจ หรือสังคม ที่นับถือและปฏิบัติตามสืบเนื่องกันมาสังคมนิยม ชาตินิยมทุนนิยม เป็นต้น

ศากยมุนี พระปัจเจกพุทธเจ้าบาลี: ปจฺเจกพุทฺธ; สันสกฤต: ปฺรตฺเยกพุทฺธ) เป็นพระพุทธเจ้าประเภทหนึ่ง ที่ตรัสรู้เฉพาะตัว มิได้ประกาศพระพุทธศาสนา ที่เรียกดังนี้เพราะเมื่อได้ญาณสัมปยุตเป็นที่เฉพาะถึงตรัสรู้ธรรมแล้วให้เกิด อโปหะเป็นที่คล้องเกี่ยว ได้การสิ้นสงสัยและการสละทิ้งอย่างยิ่ง ในที่ๆเป็นเครื่องอุดหนุนให้บังเกิดอัปโปสุกกธรรมวิเวกเอกกะ ด้วยเป็นสำคัญเฉพาะเพียงแต่ลำพัง จึงมิกล่าวขวนขวาย จึงประจำอยู่แต่ในป่านานๆ เมื่อต้องจำเป็นด้วยสัมภาระ หรือเมื่อจวนเวลาแห่งธรรมุทเทศจำเป็นถึงจะเข้ามาในเมืองเพื่อโปรด และบิณฑบาตสักครั้งหนึ่ง โคตมพุทธเจ้า (ออกเสียง: โค-ตะ-มะ) มีพระนามเดิมในภาษาบาลีว่า สิทธัตถะ โคตมะหรือในภาษาสันสกฤตว่า สิทฺธารฺถ เคาตมะ (อ่านว่า /สิดทาด —/) (เทวนาครี: सिद्धार्थ गौतम) เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ผู้เป็นศาสดาของศาสนาพุทธสาวกของพระองค์ไม่นิยมออกพระนามโดยตรง แต่เรียกตามพระสมัญญาว่า "ภควา" (พระผู้มีพระภาคเจ้า) พระสุตตันตปิฎกเป็นชื่อของปิฎกฉบับหนึ่งในพระไตรปิฎกภาษาบาลีซึ่งประกอบด้วย พระวินัยปิฎก พระสุตตตันปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก เรียกย่อว่า พระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม

คัมภีร์หลักในพระพุทธศาสนา

พระไตรปิฎกเถรวาท

๔๕ เล่ม

พระวินัยปิฎก
                               
คัมภีร์สุตตวิภังค์ คัมภีร์ขันธกะ คัมภีร์ปริวาร
พระสุตตันตปิฎก
                                           
คัมภีร์ทีฆนิกาย คัมภีร์มัชฌิมนิกาย คัมภีร์สังยุตตนิกาย
                                                       
คัมภีร์อังคุตตรนิกาย คัมภีร์ขุททกนิกาย
พระอภิธรรมปิฎก
                                               
สงฺ วิภงฺ ธาปุ. กถา ยมก ปัฏฐานปกรณ์

พระสุตตันตปิฎก เป็นที่รวมของพระพุทธพจน์ที่เกี่ยวกับเทศนาธรรม ซึ่งประกอบด้วย เนื้อหาสาระ บุคคล เหตุการณ์ สถานที่ ตลอดจนบทประพันธ์ ชาดก หรือ เรื่องราวอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า เมื่อกล่าวโดยรวมก็คือ คำสอนที่ประกอบด้วยองค์ 9 ที่เรียกว่า นวังคสัตถุศาสน์ นั่นเอง นับเป็นธรรมขันธ์ได้ 21,000 พระธรรมขันธ์

พระสุตตันตปิฎก แบ่งออกเป็นหมวดย่อยที่เรียกว่าคัมภีร์ 5 คัมภีร์ คือ ทีฆนิกาย มัชฌิมนิกาย สังยุตตนิกาย อังคุตรนิกายและขุททกนิกาย ใช้อักษรย่อว่า ที ม สัง อัง ขุ อักษรย่อทั้ง 5 คำนี้เรียกกันว่า หัวใจพระสูตร

Dragon เทพมังกร มีชื่อจริงว่า เอนมา เป็นผู้ที่สร้างพระเจ้าขึ้นมาเพื่อให้มีหน้าที่ในการสร้างโลกอีกที

นอกจากนี้ยังมีเทวฑูตที่คอยรับคำสั่งของเทพมังกรต่างๆดั่งต่อไปนี้

  • เทวทูตตามังกร
  • เทวทูตหูมังกร
  • เทวทูตปากมังกร
  • เทวทูตเขี้ยวมังกร
  • เทวทูตลิ้นมังกร
  • เทวทูตหนวดมังกร
  • เทวทูตขนมังกร
  • เทวทูตเกล็ดมังกร
  • เทวทูตขามังกร
  • เทวทูตเล็บมังกร
  • เทวทูตหางมังกร
  • เทวฑูตตูดมังกร
  • เทวฑูตหำมังกร

นับระหว่างกลางสองปืรามิดแปดสิบด้วยตัวเลขอารบิก หนังสือ ทิเมอุส (Timaeus) ของเพลโตได้เล่าถึงตำนานน้ำท่วมโลกว่า ซีอุส หรือซุส (Zeus) เทพราชาทรงพิโรธที่มนุษย์ทำสงครามฆ่าฟันกันไม่เลิก จึงอยากลงโทษให้สิ้นซากด้วยน้ำ หนึ่งในเทพไททันนามว่า โพรมีธีอุส (Prometheus) ทราบความก่อน จึงได้นำข่าวไปบอกดิวคาเลียน (Deucalion)ลูกชายกึ่งเทพของตน ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากน้ำท่วมในครั้งนั้นได้

ส่วนฟากตะวันออกก็มีเรื่องที่เกี่ยวกับน้ำท่วมโลกด้วยเช่นกัน  อาทิ  เรื่องการอวตารของพระวิษณุมาเป็นปลาชื่อ “ศผริ” เพื่อช่วยเหลือมนุษย์คนแรกคือ “พระมนู” ให้รอดพ้นจากน้ำท่วมโลกในช่วงพรหมราตรี จนกระทั่งได้ก่อตั้งวงศ์มนุษย์ขึ้นมา และตอนหลังยังไปสังหารอสูรชื่อหัยครีวะ ซึ่งลักเอาพระเวทไปจากพระพรหม ดังปรากฏในคัมภีร์มัตสยะปุราณะ แต่ปริศนาน้ำท่วมโลกที่โด่งดังและถูกกล่าวถึงมากที่สุดหนีไม่พ้น “ตำนานน้ำท่วมโลกในพระคัมภีร์ไบเบิล” ซึ่งกล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้าส่งน้ำมาล้างโลก เพราะเห็น​ว่า​โลก​มี​แต่​ความ​เสื่อม​ทราม และมนุษย์ในยุคนั้นทำเรื่องไม่ดีไม่งามกันมาก

ในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนั้นพระผู้เป็นเจ้าเลือก “ผู้รอด” นามว่า “โนอาห์” กับครอบครัว รวมถึงสัตว์ต่างๆ โดยอาศัย “อาร์ค (Ark)” เรือหรือยานแบบหนึ่งที่ออกแบบเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยพระองค์ต้องการให้โนอาห์นำสิ่งมีชีวิตบนโลกขึ้นเรือด้วยอย่างละคู่ เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกน้ำท่วมโลกในครั้งนั้น

“อาร์ค” สร้างจากไม้โกเฟอร์ ทากันรั่วภายในและภายนอกด้วยยางไม้หรือยางมะตอย ประตูเข้าออกอยู่ด้านข้าง ตัวเรือมี 3 ชั้น พื้นที่ถูกแบ่งเป็นห้อง ซึ่งขนาดของเรืออาร์คที่แปลงมาจากหน่วยคิวบิตแล้วจะกว้าง 22.86 เมตร ยาว 137.16 เมตร สูง 13.716 เมตรแต่ถ้าเป็นหน่วยคิวบิตหลวงของอียิปต์ เรือก็อาจใหญ่ขึ้นมาอีก คือ กว้าง 26.45 เมตร ยาว 158.7 เมตร สูง 15.87 เมตร

หากนำมาเปรียบเทียบกับเรือไททานิกแล้ว ความยาวกับความสูงของเรือไททานิกนั้นสูงกว่าเรืออาร์คมาก โดยเรือไททานิกกว้าง 28.0  เมตร ยาว 269.0 เมตร สูง 53.3 เมตร และมีถึง 9 ชั้น มากกว่าเรืออาร์คถึง 6 ชั้น ไททานิกรองรับผู้โดยสารกับลูกเรือได้รวม 3,327 คน

จากขนาดของ “อาร์ค” ในมุมมองวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์นำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่า อาร์คจะรับน้ำหนักได้มากพอบรรจุสัตว์และอาหารของพวกมันทั้งหมดในระหว่างที่รอนแรมนานนับครึ่งปีได้หรือไม่ อย่างไร? Max Younce ที่ได้คำนวณพื้นที่ในอาร์คว่า มีความจุเท่ากับรถขนส่งขนาดมาตรฐานราว 552 คัน  หรือตู้ขนส่งของรถไฟที่มี 65 ตู้ราว 8 คัน ซึ่งต่อมาเว็บไซต์ skeptic.com อ้างการคำนวณของจอน เรนิช (Jon Renish) ที่อิงจากตัวเลขของ ดร. แม็กซ์ เยาซ์ (Max Younce) อีกทีว่า อาร์คลอยอยู่ราวครึ่งหนึ่งของความสูง ก็น่าจะแทนที่ปริมาตรน้ำทะเลราว 76,000 ลูกบาศก์ฟุต เท่ากับ 2,152 ลูกบาศก์เมตร

หากความหนาแน่นของน้ำหลังจากฝนตกต่อเนื่อง 6-7 เดือนยังคงหนาแน่นใกล้เคียงกับน้ำทะเล อาร์คน่าจะรับน้ำหนักบรรทุกรวมไม่เกิน 2,430 ตัน  ซึ่งหักน้ำหนักไม้จากตัวเรือและอาหารทั้งหมดแล้ว อาร์คมีแนวโน้มเหลือน้ำหนักบรรทุกประมาณ 1,600-2,000 ตัน ตัวเลขนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับไททานิกที่มีระวางประมาณ 52,310 ตัน

ถ้าอิงจากงานวิจัยปริมาณชนิดสัตว์โลกในปี 2011 ที่ระบุว่า โลกมีสัตว์บกราว 6.5 ล้านสปีชีส์ สัตว์น้ำ 2.2 ล้านสปีซีส์ ตามการวิเคราะห์น้ำหนักสัตว์ ที่สมมติขั้นต่ำให้มีสัตว์เล็กมากกว่าและนับเฉพาะสัตว์บกให้มีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 10 กิโลกรัม หากนำขึ้นเรืออาร์คสปีชีส์ละคู่ น้ำหนักรวมจะอยู่ที่ 130,000 ตัน ต่อให้ลดน้ำหนักเฉลี่ยมาอยู่ที่ตัวละ 1 กิโลกรัม หากนำมาอย่างละ 1 คู่ก็ยังหนักมากถึง 65,000 ตัน เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำหนักที่คาดว่าเรืออาร์คจะบรรทุกได้ 2,000 ตัน จะเห็นได้ว่า เรืออาร์คไม่สามารถที่จะบรรทุกสัตว์ทั้งหมดขึ้นเรือได้ตามหลักการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ (ไททานิกก็รับไม่ไหว) เมื่อเทียบข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และมองความเป็นไปได้ในการอาศัยอยู่บนเรือนาน 7 เดือน 17 วัน คาดว่าสัตว์บนเรือโดยรวมแล้วต้องใช้อาหารที่ให้พลังงานราว 20-30 ล้านกิโลแคลลอรีต่อวัน รวมระยะเวลากว่า 6 เดือนแล้ว ต้องใช้เนื้อคิดเป็นน้ำหนักนับร้อยตัน ยังไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการเก็บเนื้อหรืออาหารสดอื่นๆ อีกในสมัยที่ยังไม่มีตู้ทำความเย็น

ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เห็นว่า โอกาสที่จะมีอาร์คซึ่งสามารถพาคนและสัตว์ในโลกรอดน้ำท่วมได้ตามพระคัมภีร์ ถือว่ามีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมามีข้อมูลเรื่องการค้นหา และข้อกล่าวอ้างเรื่องการค้นพบวัตถุที่เชื่อว่าใกล้เคียงกับอาร์คเกิดขึ้นหลายประเทศ (น่าสังเกตว่าทำไมข่าวกระจายตัวไปหลายแห่ง) แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจน และเชื่อว่าในอนาคตจะยังมีผู้สนใจค้นหาอีกเรื่อยๆ

365 HIVES พระศิวะ หรือ พระอิศวร (สันสกฤต: शिव; อังกฤษ: Shiva) หนึ่งในตรีมูรติ หรือเทพเจ้าสูงสุดสามองค์ตามความเชื่อในศาสนาฮินดู (อีกสององค์ได้แก่ พระพรหมและพระวิษณุ) พระศิวะ ทรงมีพระลักษณะมีรูปกายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ วรรณะขาว (สีผิวขาว) นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี มีสังวาลย์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ มีงูเห่าคล้องพระศอ ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) มีพระจันทร์เป็นปิ่นและแม่คงคาอยู่บนยอดจุฑา ซึ่งพ่นน้ำมาตลอด และมีตาที่สามกลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งโดยปกติจะปิดอยู่เสมอ เชื่อว่าหากเปิดขึ้นเมื่อไหร่จะบันดาลให้ไฟบรรลัยกัลป์จะเผาผลาญล้างโลก (บ้างว่าเป็นพระพรหม) ถือว่าเป็นการสิ้นสุดกัปหนึ่ง ก่อนที่พระพรหมจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่

Yiw หลังจากที่ประเพณีนี้ถูกปฏิบัติต่อกันมานับร้อยๆ ปี โดยให้เหตุผลว่า ทางการไม่อยากให้บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ต้องมาสังเวยชีวิตแบบไร้จุดหมายเช่นนี้ พวกเขามีความเชื่ออย่างไร ทำไมจึงเกิดการบูชายัญขึ้นมานานขนาดนี้ เทศกาลคฒิมาอี (Gadhimai festival) เป็นพิธีบูชายัญที่จัดขึ้นทุก 5 ปีที่วัดคฒิมาอี เมืองพริยารปุระ อำเภอพารา ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร ของเมืองหลวงกาฐมาณฑุ ทางภาคใต้ของประเทศเนปาล ใกล้ชายแดนอินโด-เนปาล และแดนติดกับรัฐพิหาร (ประเทศอินเดีย) มีการเฉลิมฉลองเป็นหลักโดยชาวมะเทสี และชาวรัฐพิหาร เทศกาลนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์บูชายัญครั้งใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย ควาย, หมู, แพะ, ไก่, หนู และนกพิราบ โดยมีเป้าหมายเพื่อการเซ่นสังเวยให้แก่ เจ้าแม่คฒิมาอี ซึ่งเป็นเทพีแห่งอำนาจ การจัดงานแต่ละครั้ง มีคนเข้าร่วมงานประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งเป็นชาวมะเทสี และผู้ที่ชื่นชอบงานเทศกาลดังกล่าวจากรัฐของประเทศอินเดีย ทั้งรัฐอุตตรประเทศ และรัฐพิหาร ที่เขาร่วมเทศกาลในประเทศเนปาลเพื่อเลี่ยงการประกาศห้ามการฆ่าสัตว์บูชายัญในรัฐของตัวเอง โดยผู้เข้าร่วมเชื่อว่าการฆ่าสัตว์บูชายัญเพื่อเซ่นสังเวยให้แก่เจ้าแม่คฒิมาอี จะช่วยให้ยุติสิ่งเลวร้าย และนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง เทศกาลคฒิมาอี ที่ถูกจัดตลอดช่วง 250 ปีที่ผ่านมา มีผู้แสวงบุญชาวฮินดูจะหลั่งไหลมาที่วัดแห่งนี้พร้อมกับสัตว์ที่เป็นทรัพย์สินของพวกเขาเอง เพื่อบูชายัญแด่เจ้าแม่คฒิมาอี เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่และฐานะของครอบครัวดีขึ้น โดยเทศกาลในปี 2009 มีสัตว์ชนิดต่างๆถูกฆ่ารวมกันกว่า 500,000 ตัวทีเดียว

แฝดคนสุดท้อง

อุลตร้าแมนคอสมอส[แก้]


อุลตร้าแมนคอสมอส (ญี่ปุ่น: ウルトラマンコスモス โรมาจิ: Urutoraman Kosumosu) เป็นทีวีซีรีส์ชุดที่ 17 ของทีวีซีรีส์อุลตร้าซีรีส์ เป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างสร้างชื่อให้กับอุลตร้าแมน ทั้งด้านดีและไม่ดี อุลตร้าแมนซีรีส์นี้นับว่าเป็นซีรีส์ที่ยาวมาก เนื่องจากมีจำนวนตอนถึง 65 ตอนด้วยกัน

ข้อมูลเบื้องต้น: สร้างโดย, แสดงนำ ...

สร้างโดย สึบุราย่าโปรดักชั่น
แสดงนำ ไทโย สุกิอุระ
ประเทศแหล่งกำเนิด ญี่ปุ่น
จำนวนตอน 65 ตอน
ความยาวตอน ตอนละ 30 นาที
เครือข่าย/ช่อง TBS
การออกอากาศแรก 7 กรกฎาคมพ.ศ. 2544 – 28 กันยายนพ.ศ. 2545

ปิด

ในประเทศไทยได้ฉายทางโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยระยะแรกจะออกอากาศทุกวันจันทร์เวลา 17.00-17.30น. ต่อมาย้ายมาฉายทุกวันศุกร์เวลา16.30-17.00น. แต่ฉายไม่จบเนี่องจากหมดสัญญาการออกอากาศบวกกับคดีความของซึบูราย่าไชโยและซึบูราย่าที่ญี่ปุ่น และลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีเป็นของบริษัท เจบิ๊คส์ จำกัด ปัจจุบันทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวีได้นำมาออกอากาศใหม่อีกครั้ง ส่วนลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายดีวีดีและวีซีดีภาพยนตร์ฉายโรงเป็นของบริษัท ดรีมเอ็กซ์เพรส(เด็กซ์) จำกัด

ฮารุโนะ มูซาชิ(春野ムサシ)
ร่างสถิตย์ของอุลตร้าแมนคอสมอส
จูเลีย
ร่างสถิตย์ของอุลตร้าแมนจัสติกส์

ทีม EYES[แก้]

ฮิอุระ ฮารุมิซึ (日浦晴光)
มิซึคิ ชิโนบุ (水木忍)
ฟุบุคิ เคสึเกะ (風吹圭介)
โดอิงาคิ โคจิ (土井垣浩次)
โมริโมโตะ อายาโนะ (森本綾乃)

พระคัมภีร์[แก้]

  • คัมภีร์เอนมาโย่
  • บัญญัติประการสองประการ

การตีความ[แก้]

  • รวมเล่มยังไม่ออก จึงไม่มีตีความ

ข้อบัญญัติ[แก้]

  • ไม่มี มันหน้าที่พระเจ้า
  • เอ้อ แต่มีอยู่ข้อหนึ่ง คือ "ต้องเชื่อว่าท่านเทพมังกรมีจริง และเป็นผู้สร้างพระเจ้า" และ "ท่านเทพมังกรรักท่าน จงรักท่านเทพมังกรอย่างหูดับตับไหม้"

ชีวิตหลังความตาย[แก้]

  • ใครเชื่อเทพมังกร ก็ไปอยู่กับเทพมังกร ใครไม่เชื่อ ถูกท่านเทพมังกรหักคอจิ้มน้ำพริกกิน
  • หูดับตับไหม้"

ชีวิตหลังความตาย[แก้]

  • ใครเชื่อเทพมังกร ก็ไปอยู่กับเทพมังกร ใครไม่เชื่อ ถูกท่านเทพมังกรหักคอจิ้มน้ำพริกกิน

ที่มาของศาสนาท่านเทพที่แท้จริง[แก้]

ที่มาของศาสนาท่านเทพมังกร ซึ่งได้จารึกไว้เป็นตัวอักษรได้เลือนหายไปตามกาลเวลา เหลือแต่ที่เล่ากันปากต่อปาก แล้วนำมาจดบันทึกเป็นตัวอักษรใหม่ ซึ่งคาดว่าไม่เหมือนกับต้นฉบับเดิม จึงทำให้ยากที่จะค้นหาที่มาที่แท้จริงของศาสนาท่านเทพมังกรได้ แต่ว่ากันว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก็ว่าได้

ที่มาของศาสนาท่านเทพในปัจจุบัน[แก้]

ศาสนาเทพมังกรเป็นศาสนาโบราณของห้องศาสนา มีมาตั้งแต่ยุคเรอเนสซองต์ก่อนการล่มสลายของอาณาจักรห้องสมุด(เดิม)เมื่อเกือบสิบปีก่อน ก่อนจะแยกออกมาเป็นอาณาจักรศาสนา อาณาจักรย่อยปรัชญา อาณาจักรหว้ากอ และอาณาจักรสมุด(ใหม่)ในตอนนี้

ในสมัยบุราณนั้น เรียกว่ายุคทองของจักรวรรดิ์พันทิปในช่วงเว็บหน้าดำ(แต่ก่อนเมื่อราวหนึ่งทศวรรษมาแล้ว จักรวรรดิ์พันทิปมีแบ็คกราวด์เป็นสีดำ)

เป็นยุคที่ผู้คนที่เรียกตนเองว่าชาวพันทิปนั้นมีความศิวิไลซ์ไม่ทะเลาะเบาะแว้งทำสงครามศาสนาทางตัวอักษรซึ่งกันและกัน มีความสันติสุขและกลิ่นไอของอารยธรรมอันเรืองรองอยู่ทั่วไปในทุกๆกลุ่มทุกห้อง

ด้วยมนุษย์ในยุคนั้นมีศีลธรรมแก่กล้าสมเป็นปัญญาชนยิ่ง

เทพมังกรจึงเสด็จลงมาจากสวรรค์ แสดงธรรมแก่ศาสดาหวงหมิงเพื่อเผยแผ่ศาสนาเทพมังกรให้ดำรงอยู่ในอาณาจักรห้องสมุด อาณาจักรย่อยศาสนาสืบไป

ซึ่งศาสนาเทพมังกรก็มีผู้ยอมรับนับถือเป็นจำนวนมากมายหลายล็อกอินโบราณ(ล็อกอินยิ้มหุบปาก กับล็อกอินยิ้มยิงฟันหน้าไม่ปิ๊ง) ด้วยกัน

ต่อมาอารยธรรมเริ่มเสื่อมลง ศาสดาหวงหมิงคาดการณ์ตามหลักอนาคตศาสตร์ของท่าน ร่วมกับอำนาจเทพมังกรประทานแล้วเห็นว่าอารยธรรมดั้งเดิมเริ่มเสื่อมลง เนื่องจากมีผู้บุกรุกมาจากแดนมาร

ส่งอิทธิพลมืดเข้าไปยังสมองส่วนล่างทำให้สมาชิกเข้าใหม่บางส่วนมีสมองส่วนนี้เจริญผิดปกติ ก่อให้เกิดอาการก้าวร้าวและสงครามในหมู่สมาชิกขึ้น และทำให้สมาชิกมีคุณภาพหลายท่านเกิดอาการเบื่อหน่ายทางโลก

จึงละกายเนื้อในไซเบอร์สเปซ ก้าวผ่านความวุ่นวายยุ่งเหยิง ปลีกวิเวกอยู่ในมิติของท่านเหล่านั้น แลไม่กลับมาอีกเลย

ผลกระทบอันนี้ส่งผลกับศาสนาเทพมังกรด้วย เนื่องจากมียอดฝีมือดั้งเดิมลดลง ทำให้ศาสนาเทพมังกรและบันทึกเริ่มสูญหายไป ท่านศาสดาจึงส่งอารยธรรมยุคสุดท้าย ฝากไว้กับสาวกแต่ละท่านไปเก็บรักษาไว้ เพื่อการฟื้นฟูในยุคถัดไป

การลงโทษ[แก้]

  • โทษ สถานแรกคืองอน หากไม่กลับตัว ก็จะโดนท่านเทพหักคอจิ้มน้ำพริกกิน

ศาสดา และ สาวก[แก้]

ศาสดา ท่านศาสดา หวงหมิง

อัครทูต

  • ท่านดอส

อัครสาวก

  • ท่านDigiTaL-KRASH!!!

สาวกยุคใหม่

  • ท่าน เชษฐา
  • คุณ ม่อน (bodin)
  • คุณ Angleevil
  • คุณ house (panote_saechiew)
  • คุณ ทิคัมพร (sueki)
  • คุณ ม่านทอง
  • คุณ xnone
  • คุณ Chuck
  • คุณ Devil in baggy pants (ไม่น่าเชื่อว่าจะเอากะเขาด้วย)
  • คุณ @# k[A]tty #@
  • คุณ แมวเก้าแต้ม
  • คุณ อยากให้ทุกคนพร้อมที่จะจัด
  • คุณ เบนกิจัง
  • คุณ koIom
  • คุณ Yoiji
  • คุณ SunAzeros
  • คุณ Sir.ขงเบ้ง
  • คุณ zerza
  • คุณ นีละปอย~*
  • ไอ้ดวยยาว
  • sir.dragonking
  • ~cenobite+
  • ท่านฅนรกโลก
  • i love my boss
  • คุณ Angos
  • xxxHOLiC ไคโอชิน โลกของสิ่งมีชีวิต (mortal universe) อยู่ในซีกล่าง ซึ่งก็คือดาวเคราะห์ทั้งหมดในเรื่อง ภูมิของอวกาศในเรื่องจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ควอเตอร์ 4 ทิศทาง สำหรับโลกเรานั้นอยู่ในควอเตอร์ทางทิศเหนือ ส่วนครึ่งทรงกลมซีกบนคือ อาณาเขตของพระเจ้า(the other world) ชั้นล่างสุดของ other world (และเป็นพรมแดนกับโลกของสิ่งมีชีวิต) ก็คือ "นรก" (hell) สำหรับ "นรก" เป็นที่อยู่สำหรับตัวร้ายของเรื่อง (เช่น ฟรีเซอร์ หรือ เซลล์) ตอนที่ตายไปแล้ว โดยมี "ยมบาล" (King Yemma) เป็นผู้ดูแล ตอนที่โกคูตายแล้วโผล่ขึ้นมาบนนี้ก็ต้องเจอกับยมบาลก่อน
  • ความแตกต่างระหว่างนรกกับ "โลกปีศาจ" (Makai) ที่อยู่อีกสุดปลายของทรงกลมด้วย โลกปีศาจก็จะอาศัยอยู่โดยปีศาจอย่างดาบูราหรือพ่อมดบาบิดี้ในภาคจอมมารบูนั่นเองครับ เหนือนรกขึ้นมาเป็นที่อยู่ของ "ไคโอ" (Kaio) หรือฉบับภาษาไทยเรียก "จ้าวพิภพ" คอยดูแลอยู่ ซึ่งไคโอเลี้ยงลิงและฝึกสอนวิชาหมัดเจ้าพิภพให้โกคูก่อนไปบุกดาวนาเม็ก ก็คือ "ไคโอแห่งทิศเหนือ" ไคโอมีทั้งหมด 4 ตนแยกตาม 4 ทิศ แต่ละตนจะอยู่บนดาวของตัวเองที่อยู่ 4 ทิศใน other world (ที่เชื่อมกันด้วยเส้นทางมังกร)
  • โลกแห่งไคโอยังมี "ราชาแห่งไคโอ" (Grand Kaio หรือ Dai Kaio ในภาษาญี่ปุ่น) คอยปกครองอยู่ (โผล่มาเฉพาะในอนิเมของภาค Z เท่านั้น ช่วงหลังเซลล์ก่อนบู) ราชาของไคโอจะอาศัยอยู่บนดาวของตัวเองที่อยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาล ซึ่งดาวแห่งไคโอจะอยู่เหนือ "สวรรค์" (Heaven) ซึ่งมีสถานะเป็นดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งอยู่ในระบบจักรวาลนี้ (สวรรค์อยู่ในอนิเมะภาคบู)
  • ลำดับของไคโอทั้ง 5 ก็ตามนี้
    • Grand Kaio
      • North Kaio
      • East Kaio
      • West Kaio
      • South Kaio ไคโอชิน แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ นอกจากเจ้าพิภพหรือไคโอแล้ว ยังมีเทพเจ้าที่ศักดิ์สูงไปกว่านั้นอีกขั้นหนึ่งคือ "ไคโอชิน" (Kaioshin) ซึ่งเราคุ้นหน้ากันดีจากภาคจอมมารบูนั่นเอง ไคโอชินจะอาศัยอยู่นอกจักรวาลทรงกลม แต่อยู่ใน "โลกแห่งไคโอชิน" (Kaioshin Kai) ซึ่งเป็นทรงกลมขนาดเล็กที่โคจรอยู่รอบจักรวาลทรงกลมอีกทีหนึ่ง โลกแห่งไคโอชินนี้เคยปรากฎมาในดราก้อนบอลตอนที่โกฮังไปค้นหา "ดาบ Z" และได้วิชาฟิวชั่น