นริศา อดิเทพวรพันธุ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นริศา อดิเทพวรพันธุ์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด9 ตุลาคม พ.ศ. 2508 (58 ปี)
อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช
พรรคการเมืองพรรคประชาธิปัตย์

นริศา อดิเทพวรพันธุ์ เป็นนักการเมืองชาวนครศรีธรรมราช เป็นข้าราชการการเมืองตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี[1] อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 24

ประวัติ[แก้]

นริศา อดิเทพวรพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2508 เป็นบุตรของนายก่อศักดิ์ อดิเทพวรพันธุ์ เธอจบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาสังคมวิทยาและมนุษวิทยา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Master of Science in Adminstration จากมหาวิทยาลัยบอสตัน

การทำงาน[แก้]

นริศา อดิเทพวรพันธุ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราชครั้งแรกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ต่อเนื่องในปี 2544, 2548, 2550, 2554 และเธอได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเศรษฐกิจในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 24

เธอลงสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราชในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยแพ้ให้กับ รงค์ บุญสวยขวัญ จากพรรคพลังประชารัฐ[2] ต่อมาเธอได้รับแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี[3] ช่วยงานประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. ปลัดกระทรวง พม. ควง 'นริศา' ลุยซับน้ำตาช่วยน้ำท่วมเมืองคอน
  2. หัวเชือกวัวชน ปชป.-พปชร เลือกตั้งเมืองนคร
  3. ครม.ตั้ง ขรก.การเมืองหลายตำแหน่ง ส.ส.สอบตก ได้งานเพียบ
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔ เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๑๑, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-12-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๒๕, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑