เลียร์เจ็ต
ก่อตั้ง | 1962[1] |
---|---|
ผู้ก่อตั้ง | Bill Lear |
เลิกกิจการ | 29 มิถุนายน พ.ศ. 2533 |
สาเหตุ | เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ |
ถัดไป | บอมบาร์ดิเอร์ แอโรสเปซ |
สำนักงานใหญ่ | วิชิทอ รัฐแคนซัส |
พนักงาน | 4,975 |
เว็บไซต์ | businessaircraft |
เลียร์เจ็ต (Learjet) เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติอเมริกัน เพื่อใช้ในการทหาร และการบินพาณิชย์ ก่อตั้งในช่วงปีค.ศ. 1950 โดยนายวิลเลียม พาวเวล เลียร์ (William Powel Lear) ในนามบริษัท Swiss American Aviation Corporation โดยต่อมาได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ตั้งแต่ค.ศ. 1990 โดยได้ทำการตลาดภายใต้ชื่อว่า "เลียร์เจ็ต บอมบาร์ดิเอร์"
ประวัติ
[แก้]เลียร์เจ็ต เป็นหนึ่งในบริษัทรายแรกที่ผลิตอากาศยานส่วนบุคคลระดับหรูหรา ในช่วงสมัยทศวรรษ 1940 ซึ่งเป็นช่วงผ่านพ้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 การออกแบบของเลียร์นั้นมีรากฐานมาจากโครงการอากาศยานทดลองของกองทัพอากาศอเมริกันที่เรียกกันว่า มาร์เวล (Marvel) โดยการแทนที่ไอพ่นซึ่งติดกับลำตัวอากาศยานเป็นเครื่องยนตร์ใบพัดเทอร์โบแบบดูดอากาศ[2] แต่โครงการนี้ก็ได้ถูกยกเลิก โดยได้นำแบบที่ปรับมาจากเครื่องบินขับไล่สัญชาติสวิสฯ รุ่น FFA P-16 แทน[3]
บิล และทีมของเขาได้นำโครงสร้างพื้นฐานของเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้ มาปรับใช้เพื่อพัฒนาต่อเป็นอากาศยานส่วนบุคคล และได้ก่อตั้ง บริษัท Swiss American Aircraft Corporation ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และใช้วิศวกรออกแบบชาวสวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน และอังกฤษ เป็นหลัก อากาศยานที่ออกแบบใหม่นี้ ในตอนแรกได้เรียกว่ารุ่น SAAC-23 โดยเรียกเล่นๆ กันว่า 'ทีน่า เจ็ต' ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้แก่ถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยื่นออกมาจากลำตัวเครื่อง รวมทั้งระบบลงจอด ซึ่งแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเครื่องบินขับไล่ซึ่งใช้เป็นต้นฉบับเลย ต่อมาในปีค.ศ. 1962 บริษัทได้ย้ายฐานการผลิตจากสวิสเซอร์แลนด์ไปยังวิชิทอ โดยมีสาเหตุมาจากความเอื้ออำนวยในการผลิตเครื่องบิน ต่อมาในปีค.ศ. 1963 โครงการประกอบเลียร์เจ็ตรุ่นแรกก็ได้เกิดขึ้นที่ฐานการผลิตใหม่แห่งนี้ และในปีต่อมา บริษัทก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Lear Jet Corporation
อากาศยานเลียร์เจ็ต 23 ซึ่งใช้โดยสารได้ตั้งแต่ 6-8 ที่นั่ง ได้เริ่มบินเที่ยวแรกในวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1963 และส่งมอบอากาศยานรุ่นแรกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1964 อีกหนึ่งเดือนให้หลังบริษัทก็ได้กลายเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งต่อมาได้ผลิตอากาศยานอีกหลายรุ่น ได้แก่ เลียร์เจ็ต 24 ซึ่งเริ่มบินเที่ยวแรกในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1966 และเลียร์เจ็ต 25 ซึ่งเริ่มบินเที่ยวแรกในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1966 ต่อมาในวันที่ 19 กันยายน ในปีเดียวกันนั้น บริษัทได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Lear Jet Industries Inc.
การร่วมทุนกับ Gates Aviation
[แก้]ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1967 หุ้นประมาณ 60% ของบิล เลียร์ ได้ถูกซื้อโดยบริษัท Gates Rubber ในมูลค่า 27,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยเลียร์ นั้นยังคงเป็นประธานบริหารของบริษัทจนถึงวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1969 เมื่อบริษัทได้ถูกรวมเข้ากับ Gate Aviation Corporation และถูกตั้งชื่อใหม่เป็น Gates LearJet Corporation ในปีค.ศ. 1971 เลียร์เจ็ต 25 รุ่นที่ปรับแต่งเป็นเครื่องยนต์ไอพ่น Garrett TFE731-2 ได้เริ่มบินเป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น เลียร์เจ็ต 35 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในปีเดียวกันนั้นบริษัท ได้รับรางวัล President "E" Award ซึ่งเป็นรางวัลจากรัฐบาลสำหรับผู้ที่ส่งออกยอดเยี่ยม
ในปีค.ศ. 1974 ฝูงบินของเลียร์เจ็ตได้มีชั่วโมงบินรวมกันเกินหนึ่งล้านชั่วโมง และต่อมาในปีค.ศ. 1975 บริษัทได้ผลิตอากาศยานลำที่ 500 ซึ่งเป็นครั้งแรกของบริษัทผู้ผลิตอากาศยาน ต่อมาในช่วงปลายปีค.ศ. 1976 บริษัทได้เพิ่มสายการผลิตอากาศยานได้เป็นจำนวนถึงสิบลำต่อเดือน
ต่อมาในปีค.ศ. 1977 เลียร์เจ็ต 28 ได้เริ่มบินเป็นครั้งแรก โดยพัฒนามาจากรุ่น 25 โดยเปลี่ยนแปลงส่วนปีก โดยมีปลายปีกงอขึ้นด้านบน ซึ่งมีส่วนทำให้เพิ่มสมรรถนะ และประหยัดเชื้อเพลิงได้มาก ซึ่งปีกแบบนี้ก็ได้ถูกนำมาพัฒนาต่อในรุ่น 28/29 และอีกหลายๆ รุ่นต่อมา
ในปีค.ศ. 1979 อากาศยานต้นแบบของรุ่น 54/55/56 ได้ขึ้นบินเป็นครั้งแรก และในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1983 รุ่น 55 แบบมาตรฐาน ได้ทำสถิติถึงหกครั้งในการใช้ความเร็วในการไต่ระดับความสูงสำหรับอากาศยานที่มีน้ำหนักในระดับเดียวกัน
ในปีค.ศ. 1984 บริษัทได้เริ่มก่อตั้งแผนกยานอวกาศ ซึ่งใช้เทคโนโลยีระดับสูง และในปลายปีเดียวกันนั้น บริษัทได้หยุดสายการผลิตอากาศยานเพื่อการพาณิชย์ลงเพื่อเป็นการลดปริมาณสินค้าในคลัง จนกระทั่งในปีค.ศ. 1986 เมื่อบริษัทได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ทูซอน และก็ได้กลับมาผลิตอีกครั้งหนึ่งจากทั้งสองฐานที่ทูซอน และวิชิทอ
ต่อมาในปีค.ศ. 1985 บริษัทได้รับสัญญาการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์หลักสำหรับกระสวยอวกาศ และในปีค.ศ. 1987 ต่อมาก็ได้มีการร่วมทุนใหม่ และมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น LearJet Corporation โดยต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1989 ฐานการผลิตทั้งหมดก็ได้ถูกย้ายกลับมายังวิชิทอ โดยมีพนักงานจำนวน 1250 คน[4]
การถูกซื้อโดยบอมบาร์ดิเอร์
[แก้]ในปีค.ศ. 1990 บอมบาร์ดิเอร์ ได้ทำการซื้อ LearJet Corporation ทั้งหมด โดยต่อมาอากาศยานต่างๆ จะถูกทำการตลาดในตระกูลของ "Bombardier Learjet" ในวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1990 เลียร์เจ็ต 60 ซึ่งเป็นอากาศยานขนาดกลาง ได้ทำการเริ่มบินเป็นครั้งแรก และตามมาด้วยเลียร์เจ็ต 45 ในวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1995 ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 บอมบาร์ดิเอร์ เลียร์เจ็ต ได้เริ่มสายการผลิตอากาศยานใหม่ โดยมีเลียร์เจ็ต 85 เป็นรุ่นบุกเบิกโดยเป็นอากาศยานที่ใช้วัสดุผสม ทั้งลำ
ในปีค.ศ. 2008 บอมบาร์ดิเอร์ ได้ทำการเฉลิมฉลองครบ 45 ปีของเลียร์เจ็ต โดยเรียกแคมเปญว่า '2008-ปีแห่งเลียร์เจ็ต' (2008's Year of LearJet)[5]
อากาศยาน
[แก้]- เลียร์เจ็ต 23 (Lear Jet)
- เลียร์เจ็ต 24 (Lear Jet & Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 25 (Lear Jet & Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 28 (Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 29 (Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 31 (Lear Jet & Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 35 (Learjet, Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 36 (Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 40 (Learjet)
- เลียร์เจ็ต 45 (Learjet)
- เลียร์เจ็ต 55 (Gates Learjet)
- เลียร์เจ็ต 60 (Learjet)
- เลียร์เจ็ต 70/75 (Learjet)
- เลียร์เจ็ต 85 (Learjet)
ดูเพิ่ม
[แก้]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Bombardier Inc., Encyclopædia Britannica
- ↑ Condon, Peter. Flying the Classic Learjet. Dorval: Condon. 2007.
- ↑ Georges Bridel, Verkehrshaus der Schweiz, Luzern 1975, ISBN 3 85954 902 2.
- ↑ Air Progress: 23. February 1989.
{{cite journal}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ BBC NEWS | UK | Lewis Hamilton races Lear jet