ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเศวตอดุลยเดชพาหน"
ล เพิ่มหมวดหมู่:พ.ศ. 2503 ด้วยสคริปต์จัดให้ |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
'''พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ''' เป็น[[ช้างเผือก]]ประจำรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] เป็นช้างสำคัญในตระกูลพรหมพงศ์ จำพวกอัฏฐทิศ ชื่อ กมุท สีกายดังดอกกมุท หรือ[[บัวสายแดง]] <ref name="80พรรษา"/> ได้รับพระราชทานนามเต็มว่า |
'''พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ''' เป็น[[ช้างเผือก]]ประจำรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] เป็นช้างสำคัญในตระกูลพรหมพงศ์ จำพวกอัฏฐทิศ ชื่อ กมุท สีกายดังดอกกมุท หรือ[[บัวสายแดง]] <ref name="80พรรษา"/> ได้รับพระราชทานนามเต็มว่า <ref name="ช้างฯ">{{user:2T/ref/ช้างในชีวิตของผม}}</ref> |
||
{{คำพูด|พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนามนาคบารมี<br>ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกทลาสนวิศุทธวงศ์<br>สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาต สยามราษฎรสวัสดิประสิทธิ์<br>รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้า ฯะ}} |
{{คำพูด|พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนามนาคบารมี<br>ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกทลาสนวิศุทธวงศ์<br>สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาต สยามราษฎรสวัสดิประสิทธิ์<br>รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้า ฯะ}} |
||
พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เป็นช้างพลายเผือกโท เกิดในป่าเขต[[จังหวัดกระบี่]] <ref>หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนไว้ในคอลัมน์ข้าวไกลนา หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ว่าเกิดที่[[จังหวัดกาญจนบุรี]]</ref>เมื่อประมาณ [[พ.ศ. 2494]] <ref name="80พรรษา">{{user:2T/ref/80พรรษามหามงคล}}</ref> ถูกคล้องได้ที่จังหวัดกระบี่เมื่อ [[พ.ศ. 2499]] โดยนายแปลก ฟุ้งเฟือง พร้อมกับช้างอื่นๆ อีก 5 เชือกคือ พังสาคร พลายทอง พลายเพียว พังวิไล และพังน้อย โดยในตอนนั้นพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ได้ชื่อว่า "พลายแก้ว" <ref name="80พรรษา"/> มีความสูง 1.60 เมตร เมื่อพระราชวังเมือง (ปุ้ย คชาชีวะ)ได้ตรวจสอบ[[คชลักษณ์]]แล้วพบว่าเป็นช้างสำคัญ จึงนำมาเลี้ยงไว้ที่[[สวนสัตว์ดุสิต]] เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 |
พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เป็นช้างพลายเผือกโท เกิดในป่าเขต[[จังหวัดกระบี่]] <ref>หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนไว้ในคอลัมน์ข้าวไกลนา หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ว่าเกิดที่[[จังหวัดกาญจนบุรี]]</ref>เมื่อประมาณ [[พ.ศ. 2494]] <ref name="80พรรษา">{{user:2T/ref/80พรรษามหามงคล}}</ref> ถูกคล้องได้ที่จังหวัดกระบี่เมื่อ [[พ.ศ. 2499]] โดยนายแปลก ฟุ้งเฟือง พร้อมกับช้างอื่นๆ อีก 5 เชือกคือ พังสาคร พลายทอง พลายเพียว พังวิไล และพังน้อย โดยในตอนนั้นพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ได้ชื่อว่า "พลายแก้ว" <ref name="80พรรษา"/> มีความสูง 1.60 เมตร เมื่อพระราชวังเมือง (ปุ้ย คชาชีวะ)ได้ตรวจสอบ[[คชลักษณ์]]แล้วพบว่าเป็นช้างสำคัญ จึงนำมาเลี้ยงไว้ที่[[สวนสัตว์ดุสิต]] เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 |
||
บรรทัด 23: | บรรทัด 23: | ||
[[หมวดหมู่:รัชกาลที่ 9]] |
[[หมวดหมู่:รัชกาลที่ 9]] |
||
[[หมวดหมู่:พ.ศ. 2503]] |
[[หมวดหมู่:พ.ศ. 2503]] |
||
[[หมวดหมู่:จังหวัดกระบี่]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:27, 13 มกราคม 2551
พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เป็นช้างเผือกประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นช้างสำคัญในตระกูลพรหมพงศ์ จำพวกอัฏฐทิศ ชื่อ กมุท สีกายดังดอกกมุท หรือบัวสายแดง [1] ได้รับพระราชทานนามเต็มว่า [2]
พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนามนาคบารมี
ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกทลาสนวิศุทธวงศ์
สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาต สยามราษฎรสวัสดิประสิทธิ์
รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้า ฯะ
พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เป็นช้างพลายเผือกโท เกิดในป่าเขตจังหวัดกระบี่ [3]เมื่อประมาณ พ.ศ. 2494 [1] ถูกคล้องได้ที่จังหวัดกระบี่เมื่อ พ.ศ. 2499 โดยนายแปลก ฟุ้งเฟือง พร้อมกับช้างอื่นๆ อีก 5 เชือกคือ พังสาคร พลายทอง พลายเพียว พังวิไล และพังน้อย โดยในตอนนั้นพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ได้ชื่อว่า "พลายแก้ว" [1] มีความสูง 1.60 เมตร เมื่อพระราชวังเมือง (ปุ้ย คชาชีวะ)ได้ตรวจสอบคชลักษณ์แล้วพบว่าเป็นช้างสำคัญ จึงนำมาเลี้ยงไว้ที่สวนสัตว์ดุสิต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500
พลโทบัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยได้นำช้างพลายแก้วขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายพระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 เพื่อประกอบพิธีขึ้นระวางเป็นช้างต้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กำหนดพระราชพิธีสมโภชขึ้นระวางช้างเผือกประจำรัชกาล ณ โรงช้างต้น พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 เป็นปีที่ 13 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เติบโตขึ้นโดยการดูแลขององค์การสวนสัตว์ ที่สวนสัตว์ดุสิต และมีอาการดุร้ายมากขึ้นจนควาญช้างควบคุมไม่ได้ จึงต้องจับยืนมัดขาทั้งสี่ไว้กับเสา เป็นที่เกรงกลัวของบุคคลทั่วไป จนกระทั่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถมีพระราชเสาวณีย์ โปรดเกล้าฯ ให้นำพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เข้าไปยืนโรงในโรงช้างต้น ภายในพระตำหนักจิตรลดารโหฐานซึ่งอยู่ตรงกันข้ามถนน หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชบันทึกไว้ว่า
กว่าจะนำคุณพระจากเขาดินไปถึงประตูสวนจิตรลดา ซึ่งมองเห็นกันแค่นั้น ก็กินเวลาหลายชั่วโมง ต้องใช้คนเป็นจำนวนมากถือปลายเชือกที่ผูกไว้กับขาคุณพระทั้งสี่ขา คอยลากคอยดึง และดูเหมือนจะต้องใช้รถแทรกเตอร์เข้าช่วยขนาบข้าง เสี่ยงอันตรายกันมากอยู่ แต่ในที่สุดก็นำคุณพระไปยังประตูพระราชวังได้
พอได้ก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณพระราชวัง คุณพระก็เปลี่ยนไปทันที จากความดุร้ายก็กลายเป็นความสงบเสงี่ยม เดินอย่างเรียบร้อยไปสู่โรงช้างต้น และเข้าอยู่อย่างสงบเรื่อยมา [4]
ปัจจุบัน พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ย้ายไปยืนโรง ณ โรงช้างต้น วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเคลื่อนย้ายคุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เมื่อวันที่ 17-18 มีนาคม พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีสมโภชโรงช้างต้น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2547
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 1.2 พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. ๘๐ พรรษา มหามงคล. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บันทึกสยาม, พ.ศ. 2550. 224 หน้า. ISBN 978-974-09-4848-3
- ↑ คึกฤทธิ์ ปราโมช, หม่อมราชวงศ์. ช้างในชีวิตของผม. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ดอกหญ้า 2000, พ.ศ. 2549. 112 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-690-514-7
- ↑ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนไว้ในคอลัมน์ข้าวไกลนา หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ว่าเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรี
- ↑ คึกฤทธิ์ ปราโมช, หม่อมราชวงศ์, คอลัมน์ ข้าวไกลนา, 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519