ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แคลริเน็ต"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Sard112 (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 8704339 สร้างโดย 2405:9800:B960:C55B:4D6A:BA59:FD4E:273B (พูดคุย)
ป้ายระบุ: ทำกลับ
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Aflat eflat bflat.jpg|thumb|จากซ้ายไปขวา คลาริเน็ต Ab Eb และ Bb]]
[[ไฟล์:Aflat eflat bflat.jpg|thumb|จากซ้ายไปขวา คลาริเน็ต Ab Eb และ Bb]]


'''คลาริเน็ต''' เป็น[[เครื่องดนตรี]]จำพวก[[เครื่องเป่าลมไม้]](woodwind instruments) ที่พัฒนามาจากเครื่องดนตรีในสมัยกลางเรียกว่า chalumeau แคลริเน็ตเป็นเครื่องดนตรีที่มักทำจาก[[ไม้]]หรือ[[พลาสติก]] ทำให้เกิดเสียงโดยใช้ลิ้นเดี่ยว (single reed) ซึ่งรัดติดกับปากเป่าเช่นเดียวกับ[[แซกโซโฟน]] ช่วงเสียงแคลริเน็ต (Bb) เริ่มตั้งแต่ D (เขียนว่า E แต่เล่นแล้วออกเสียง D เนื่องจากเป็นแคลริเน็ตบีแฟลต มีเสียงต่ำกว่าที่เขียนไว้ 1 tone) เรื่อยขึ้นไปประมาณ 3 ½ คู่แปด
'''แคลริเน็ต''' เป็น[[เครื่องดนตรี]]จำพวก[[เครื่องเป่าลมไม้]](woodwind instruments) ที่พัฒนามาจากเครื่องดนตรีในสมัยกลางเรียกว่า chalumeau แคลริเน็ตเป็นเครื่องดนตรีที่มักทำจาก[[ไม้]]หรือ[[พลาสติก]] ทำให้เกิดเสียงโดยใช้ลิ้นเดี่ยว (single reed) ซึ่งรัดติดกับปากเป่าเช่นเดียวกับ[[แซกโซโฟน]] ช่วงเสียงแคลริเน็ต (Bb) เริ่มตั้งแต่ D (เขียนว่า E แต่เล่นแล้วออกเสียง D เนื่องจากเป็นแคลริเน็ตบีแฟลต มีเสียงต่ำกว่าที่เขียนไว้ 1 tone) เรื่อยขึ้นไปประมาณ 3 ½ คู่แปด


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:58, 6 กุมภาพันธ์ 2563

จากซ้ายไปขวา คลาริเน็ต Ab Eb และ Bb

แคลริเน็ต เป็นเครื่องดนตรีจำพวกเครื่องเป่าลมไม้(woodwind instruments) ที่พัฒนามาจากเครื่องดนตรีในสมัยกลางเรียกว่า chalumeau แคลริเน็ตเป็นเครื่องดนตรีที่มักทำจากไม้หรือพลาสติก ทำให้เกิดเสียงโดยใช้ลิ้นเดี่ยว (single reed) ซึ่งรัดติดกับปากเป่าเช่นเดียวกับแซกโซโฟน ช่วงเสียงแคลริเน็ต (Bb) เริ่มตั้งแต่ D (เขียนว่า E แต่เล่นแล้วออกเสียง D เนื่องจากเป็นแคลริเน็ตบีแฟลต มีเสียงต่ำกว่าที่เขียนไว้ 1 tone) เรื่อยขึ้นไปประมาณ 3 ½ คู่แปด

ประวัติ

ชาวเยอรมันชื่อ Johann Christoph Denner ประดิษฐ์แคลริเน็ตเมื่อราวปี ค.ศ. 1700 และเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในวงออร์เคสตราเมื่อปี ค.ศ. 1780 (แคริเน็ตเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีโปรดของโมทซาร์ท) และแทนที่โอโบในวงโยธวาทิตได้ในที่สุด

ชนิดของคลาริเน็ต

นอกจากบีแฟลตแคลริเน็ต (โซปราโน) ที่ใช้กันทั่วไปแล้ว ยังมีแคลริเน็ตชนิดอื่นอีก เช่น

  • เบสแคลริเน็ต ใช้ระบบการวางนิ้วชุดเดียวกับแคลริเน็ตบีแฟลตทุกอย่าง แต่เวลาเล่นจะมีเสียงต่ำกว่าบีแฟลตแคลริเน็ตอยู่ 1 คู่แปด เหมาะที่จะนำไปใช้บรรเลงแนวทำนองในระดับเสียงต่ำ ลักษณะเด่นของเบสแคลริเน็ตอยู่ที่ข้อต่อ กำพวดจะเป็นรูปโค้งงอ ปากลำโพงทำด้วยโลหะ งอย้อนขึ้นมาคล้ายกับแซกโซโฟน
  • บาสเซต แคลริเน็ต จะคล้ายกับโซปราโนแคลริเน็ต แต่ขนาดยาวกว่า
  • อัลโตแคลริเน็ต ขนาดใหญ่และยาวกว่าแคลริเน็ตอื่น ๆ ระดับเสียงต่ำกว่าบีแฟล็ตแคลริเน็ตอยู่คู่ 5 เพอร์เฟกต์ ปากลำโพงทำด้วยโลหะ โค้งงอย้อนขึ้นเหมือนแซกโซโฟน
  • อีแฟลตแคลริเน็ต (โซปรานิโน) มีขนาดเล็กกว่าบีแฟลตแคลริเน็ต และมีระดับเสียงสูงกว่าบีแฟลตแคลริเน็ตคู่ 5 เพอร์เฟค
  • เอแฟลตแคลริเน็ต มีขนาดเล็กที่สุด

อ้างอิง