ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ระบบถือครองที่ดินสมัยฟิวดัล"
ล r2.7.3) (โรบอต เพิ่ม: io:Serfeso; ปรับแต่งให้อ่านง่าย |
ล r2.7.3) (โรบอต แก้ไข: an:Sinyoría, es:Servidumbre |
||
บรรทัด 21: | บรรทัด 21: | ||
[[als:Leibeigenschaft]] |
[[als:Leibeigenschaft]] |
||
[[an: |
[[an:Sinyoría]] |
||
[[ar:قنانة]] |
[[ar:قنانة]] |
||
[[ast:Siervu]] |
[[ast:Siervu]] |
||
บรรทัด 32: | บรรทัด 32: | ||
[[en:Serfdom]] |
[[en:Serfdom]] |
||
[[eo:Servuteco]] |
[[eo:Servuteco]] |
||
[[es: |
[[es:Servidumbre]] |
||
[[et:Pärisorjus]] |
[[et:Pärisorjus]] |
||
[[fa:رعیتداری]] |
[[fa:رعیتداری]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:27, 29 พฤศจิกายน 2555
ระบบมาเนอร์ หรือ สังคมศักดินา (อังกฤษ: Manorialism หรือ Seigneurialism หรือ Feudal Society[1]) คือระบบเศรษฐกิจและสังคมที่นิยมปฏิบัติกันโดยทั่วไปในยุคกลางในยุโรปตะวันตกและยุโรปกลาง ระบบมาเนอร์เป็นระบบที่ผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือลอร์ดมีอำนาจทางเศรษฐกิจและทางกฎหมายที่สนับสนุนโดยรายได้ที่ได้มาจากผลผลิตของที่ดินที่เป็นเจ้าของ และจากค่าธรรมเนียมของเกษตรกรผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองตามกฎหมาย ค่าธรรมเนียมอาจจะเป็นในรูปของ:
- แรงงาน (ภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า “corvée”),
- ผลผลิต หรือ
- เงิน (ไม่บ่อยนัก)
ระบบมาเนอร์เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับยุคกลางของยุโรปตะวันตก ที่วิวัฒนาการมาจากระบบเศรษฐกิจชนบทของปลายสมัยจักรวรรดิโรมันโรมัน เมื่อจำนวนประชากรลดลงชนชั้นแรงงานกลายเป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจ ในที่สุดก็จัดเป็นระบบมาเนอร์ หรือระบบนายไพร่ที่นายไม่จำเป็นต้องเป็นคฤหัสน์เสมอไปแต่อาจจะเป็นสังฆราช หรือ เจ้าอาวาส แต่ก็มีหน้าที่รับผิดชอบเช่นเดียวกับเจ้าของที่ดิน
อ้างอิง
- ↑ "Feudal Society", in its modern sense, was coined in Marc Bloch's 1939-40 books of the same name.
ดูเพิ่ม