ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฌอร์ฌ บรัก"
ล r2.7.2+) (โรบอต เพิ่ม: als, ar, be, bg, bs, ca, cy, el, et, eu, fa, fi, gl, he, hr, hu, io, ja, ko, la, lb, mk, nn, no, oc, pnb, ro, ru, sh, sl, sr, ta, tg, tr, uk, vi, zh, zh-min-nan แก้ไข: cs, da, de, en, eo, es, fr, it,... |
ล r2.7.3) (โรบอต ลบ: br:George Braque, diq:George Braque, lt:George Braque |
||
บรรทัด 55: | บรรทัด 55: | ||
[[be:Жорж Брак]] |
[[be:Жорж Брак]] |
||
[[bg:Жорж Брак]] |
[[bg:Жорж Брак]] |
||
[[br:George Braque]] |
|||
[[bs:Georges Braque]] |
[[bs:Georges Braque]] |
||
[[ca:Georges Braque]] |
[[ca:Georges Braque]] |
||
บรรทัด 62: | บรรทัด 61: | ||
[[da:Georges Braque]] |
[[da:Georges Braque]] |
||
[[de:Georges Braque]] |
[[de:Georges Braque]] |
||
[[diq:George Braque]] |
|||
[[el:Ζωρζ Μπρακ]] |
[[el:Ζωρζ Μπρακ]] |
||
[[en:Georges Braque]] |
[[en:Georges Braque]] |
||
บรรทัด 82: | บรรทัด 80: | ||
[[la:Georgius Braque]] |
[[la:Georgius Braque]] |
||
[[lb:Georges Braque]] |
[[lb:Georges Braque]] |
||
[[lt:George Braque]] |
|||
[[mk:Жорж Брак]] |
[[mk:Жорж Брак]] |
||
[[nl:Georges Braque]] |
[[nl:Georges Braque]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:35, 28 ตุลาคม 2555
ฌอร์ฌ บรัก George Braque | |
---|---|
ไฟล์:Braque.jpg | |
เกิด | 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1882 Le Havre |
เสียชีวิต | ค.ศ. 1963 (81 ปี) |
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
อาชีพ | ศิลปิน |
ฌอร์ฌ บรัก (อังกฤษ: George Braque) เป็นศิลปินในคติโฟวิสต์และต่อมาในลัทธิคิวบิสม์ บรักเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1882 เติบโตในเมืองเลออาฟร์ (ฝรั่งเศส: Le Havre) และเริ่มศึกษาศิลปะที่โรงเรียนศิลปะในเมืองนี้เมื่ออายุ 17 ปี เขาได้รับการฝึกฝนเป็นช่างทาสีและตกแต่งบ้านเหมือนพ่อและปู่ของเขา บรักมุ่งมั่นจะเป็นมัณฑนากรมากกว่าจิตรกร เขาใช้เวลากลางวันทำงาน และในช่วงเย็นก็ได้เรียนทักษะงานจิตรกรรมด้วยตั้งแต่ปี 1897-1899 ในปีถัดมาเขาก็ได้ย้ายเข้าสู่กรุงปารีสเพื่อศึกษาต่อ และเมื่อชีวิตของเขาก็ได้มาพบกับดูฟีและฟิทซ์ ศิลปินในคติโฟวิสต์ ทำให้เขาหันเหสู่การสร้างสรรค์จิตรกรรมและรวมกลุ่มกับศิลปินคติโฟวิสต์
รูปแบบการทำงาน
คติโฟวิสต์
งานเริ่มแรกของบรักนั้นเป็นงานสไตล์ อิมเพรสชันนิซึม แต่หลังจากที่เขาได้เห็นผลงานของกลุ่มคติโฟวิสต์ ซึ่งในตอนนั้นบรักเป็นศิษย์ของ ลิออง บองนาท์ ที่เอโก เดส์ โบซาร์ ซึ่งที่นี่เขาได้พบกับดูฟี และ ฟิทซ์ ผู้ที่เป็นชาวเมืองเลออาฟร์เช่นเดียวกัน และทั้งคู่ต่างสนใจและปฏิบัติตามหลักของคติโฟวิสต์ จึงโน้มน้าวบรักให้เข้าร่วมกลุ่มด้วย ซึ่งตัวของบรักเองก็มีความประทับใจในผลงานของศิลปินกลุ่มนี้อยู่แล้ว เมื่อคราวเปิดงานแสดงเป็นครั้งแรกที่ ซาลง โดตอน (Salon d’Automme) เขาจึงเข้าร่วมกลุ่มทำการวาดภาพตามหลักของคติโฟวิสต์ และในระยะเวลาไม่กี่ปีที่เข้ามาสู่วงการศิลปะ บรักประสบความสำเร็จด้านการเงินจากการจำหน่ายภาพได้มากคนหนึ่ง เพราะเป็นคนมีฝีมือและเทคนิคดี เห็นได้จาก ในค.ศ. 1907 บรักประสบความสำเร็จในการแสดงผลงานแบบโฟวิสม์ ซึ่งคาห์น ไวเลอร์ นักธุรกิจศิลป์ผู้สนับสนุนศิลปะร่วมสมัย ได้ทำสัญญาผูกขาดซื้องานของบรักทั้งหมด อีกทั้งยังช่วยจัดงานแสดงส่วนตัวเป็นครั้งแรกที่แกลอรี่ของเขาเองอีกด้วย
รูปแบบของบรักค่อยๆ มีวิวัฒนาการไปอย่างช้าๆ โดยได้รับอิทธิพลจากผลงานเก่าๆ ของ พอล เซซาน ที่ซาลง โดตอน และเกิดผลกระทบอย่างมากต่อศิลปินอวองการ์ดในปารีส และในปีเดียวกันนี้อพอลลิแนร์ ผู้เป็นนักวิจารณ์และกวีคนสำคัญคนหนึ่ง ได้แนะนำบรักให้รู้จักกับ ปาโบล ปีกัสโซ และทั้งสองต่างสนิทสนมจนกลายเป็นเพื่อนรักในระยะเวลาอย่างรวดเร็ว และต่างช่วยกันค้นคิดหาแนวทางศิลปกรรมแนวใหม่ อีกทั้งยังร่วมมือศึกษาและทำงานร่วมกันบ่อยครั้ง จนทำให้เกิดลัทธิใหม่อย่างลัทธิคิวบิสม์ขึ้นมาในที่สุด
ลัทธิคิวบิสม์
งานจิตรกรรมของบรักในปี 1908-1913 ได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจใหม่ของ บรัก ในเรื่องของรูปทรงเรขาคณิตและทัศนียภาพที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน ซึ่งเขาทำการศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้แสงและทัศนียวิทยา ในภาพวาดคนเปลือยของเขาระยะนี้เน้นให้เห็นถึงการเอาใจใส่ในโครงสร้างของรูปทรงอย่างชัดเจน รูปร่างมีความง่ายและตัดเส้นรอบนอกด้วยรูปสีดำ หนักและหนา พื้นหลังภาพมีรายละเอียดปรากฏเป็นรูปเหลี่ยมใหญ่ มีแง่มุม ซึ่งในระหว่างปี ค.ศ. 1908-1909 นั้นเขาได้วาดภาพทิวทัศน์ไว้หลายภาพ โดยเริ่มต้นจากหลักความคิดของพอล เซซาน แล้วค่อยพัฒนาเข้าสู่หลักทฤษฎีของลัทธิคิวบิสม์ เช่น หลีกเลี่ยงการใช้หลักเกณฑ์เก่าๆ ที่ทำให้ภาพเกิดมิติและรูปวัตุในช่องว่าง เขาได้สร้างภาพให้เต็มไปด้วยพื้นระนาบ มีการใช้เส้นแบบเรขาคณิต ไม่เพียงเท่านั้น เขากับปิกัสโซ ร่วมมือกันคิดค้นให้ลึกซึ้งลงไปอีก มีการวิเคราะห์ความเป็นนามธรรมของรูปทรง ทั้งคู่ได้ถึงจุด เฮอเมทิคสไตล์ (Hermetic Style) คือรูปทรงที่ทึบตัน ประมาณปี ค.ศ. 1911
บรักถือได้ว่าเป็นจิตรกรคนแรกที่นำตัวหนังสือมาใช้กับภาพจิตรกรรม ซึ่งอาจมีผู้ทำมาก่อนแต่ไม่เด่นชัดมากเท่านี้ เห็นได้จากภาพชื่อ “ชาวโปรตุเกส” ที่วาดขึ้นในปี ค.ศ. 1911 ส่วนการใช้เศษวัสดุต่างๆเช่น กระดาษ ผ้า หรือที่เรียกกันว่า งานคอลลาจ นั้น ได้ใช้ในปีถัดมา ซึ่งบรักสามารถผสมสิ่งที่อ่านได้ เช่น ตัวหนังสือ เข้ากับความจริงอันเป็นรูปธรรมปรากฏในผลงาน ทั้งยังเพิ่มคุณค่าในด้านความงามแบบมัณฑนศิลป์ หรือแบบศิลปะตกแต่ง ดังเช่นการใช้กระดาษที่หยาบหรือมีลวดลายต่างๆกัน เพิ่มรอยพื้นผิว (อังกฤษ: texture) ทำให้ผลงานของเขานั้นดูสนุกตามากยิ่งขึ้น และเมื่อต้นปี ค.ศ. 1930 ความเคลื่อนไหวของลัทธิคิวบิสม์เบาลง เมื่อศิลปะนิยมแบบเซอเรียลลิสม์ได้รับความนิยมแทนที่ ในขณะที่ผลงานของปิกัสโซหันเหไปทำงานตามแนวลัทธิใหม่ แต่บรักยังคงยืนหยัดทำงานแนวคิวบิสม์ต่อไป นอกจากนี้ยังหันไปทำงานประติมากรรมด้วย ส่วนมากจะเป็นภาพของสัตว์ต่างๆ เช่น ม้า ปลา เป็นงานชิ้นเล็กๆ และมีลักษณะแบนซึ่งให้ความงามแบบเรียบๆ และมีเสน่ห์ ได้รับความนิยมจากนักออกแบบที่ระลึกนำไปดัดแปลงเป็นศิลปะตกแต่งบ้าน
อ้างอิง
- Dora Vallier .Braque : the complete graphics ( New York : Gallery Books, 1982)
- Braque : still lifes and interiors (London : South Bank Centre, 1990)
- Jean Leymarie. Georges Braque (New York : Solomon R. Guggenheim Museum, 1988)
- กำจร สุนพงษ์ศรี. ศิลปะสมัยใหม่ (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554)
- จิระพัฒน์ พิตรปรีชา. โลกศิลปะศตวรรษที่ 20 (กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2545).
แหล่งข้อมูลอื่นๆ
- Edwin B. Mullins.Braque (London : Thames and Hudson, 1968)
- http://www.theartstory.org/artist-braque-georges.htm
- http://www.georgesbraque.org/
- http://www.artchive.com/artchive/B/braque.html
- http://www.georges-braque.com/
- http://abstractart.20m.com/George_Braque.html