ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไหม (วัสดุ)"
ล โรบอต เพิ่ม: la:Sericum |
ล โรบอต เพิ่ม: qu:Llipipipiq q'aytu |
||
บรรทัด 65: | บรรทัด 65: | ||
[[pl:Jedwab]] |
[[pl:Jedwab]] |
||
[[pt:Seda]] |
[[pt:Seda]] |
||
[[qu:Llipipipiq q'aytu]] |
|||
[[ro:Mătase]] |
[[ro:Mătase]] |
||
[[ru:Шёлк]] |
[[ru:Шёлк]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:49, 29 สิงหาคม 2553
ไหม เป็นเส้นใยโปรตีนธรรมชาติ มีความเหนียว ทนทาน และมันวาว สามารถนำไปใช้ทอเป็นผืนผ้าได้อย่างงดงาม ไหมที่ดีที่สุดได้มาจากตัวอ่อนของตัวไหมหรือผีเสื้อไหมมัลเบอรรีชนิดที่เรียกว่า Bombyx mori ซึ่งชักใยออกมาพันรอบตัวขณะเป็นดักแด้ก่อนจะเจาะออกมาเป็นผีเสื้อตัวเต็มวัย การดึงเส้นไหมออกจากดักแด้ หรือปลอกไหม เรียกว่า การสาวไหม ความเงามันวาวของเส้นไหมนั้น มาจากคุณสมบัติของโครงสร้างที่คล้ายปริซึมสามเหลี่ยมของเส้นใยนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ผ้าไหม (ผ้าที่ทอจากเส้นไหม) จึงมีความมัน สะท้อนแสงเป็นประกายวับวาวจากมุมต่างๆ ที่ทำให้สะท้อนออกเป็นสีต่างๆ
“ไหมป่า” (Wild silk) ผลิตจากดักแด้ที่ไม่ใช่ตัวไหมมัลเบอรรีและสามารถผลิตเทียมได้ การใช้ไหมป่าทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณในจีน, เอเชียใต้ และ ยุโรปแต่เป็นการผลิตระดับต่ำเมื่อเทียบกับไหมแท้ ไหมป่าจะมีลักษณะต่างๆ จากไหมเลี้ยงดักแด้ที่ไปเก็บมามักจะได้รับความเสียหายจากการที่ตัวดักแด้เจาะทะลุ “รัง” ออกมาก่อนที่จะทำการสาวซึ่งทำให้เส้นที่ออกมาเป็นเส้นสั้นๆ ไหมที่เลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมจะถูกฆ่าก่อนที่จะทำการสาวไหมโดยการต้มก่อนที่ตัวไหมจะโผล่ออกเป็นผีเสื้อ หรือเจาะด้วยเข็มที่ทำให้ “รังไหม” เพื่อที่จะไม่ให้รังได้รับความเสียหายจากการถูกเจาะ ซึ่งเป็นการทำให้สาวเส้นไหมได้เป็นเส้นเดียวตลอดทั้งรัง และทำให้ผ้าที่ทอออกมามีความแข็งแรงทนทานเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นไหมป่าก็ยังย้อมยากกว่าไหมเลี้ยง
ดูเพิ่ม