ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ระบบถือครองที่ดินสมัยฟิวดัล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ผมลบประโยค-ทางตะวันออกของเยอรมนี ระบบนี้ใช้กันมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง-เพราะไม่จริ
JAnDbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: sk:Nevoľníctvo แก้ไข: an:Senyoría, hy:Ճորտատիրություն
บรรทัด 20: บรรทัด 20:
{{โครงประวัติศาสตร์}}
{{โครงประวัติศาสตร์}}


[[an:Señoría]]
[[an:Senyoría]]
[[ar:قنانة]]
[[ar:قنانة]]
[[ca:Serf]]
[[ca:Serf]]
บรรทัด 38: บรรทัด 38:
[[hr:Kmetstvo]]
[[hr:Kmetstvo]]
[[hu:Jobbágy]]
[[hu:Jobbágy]]
[[hy:Ճորտատիրություն]]
[[hy:Ճորտություն]]
[[it:Servitù della gleba]]
[[it:Servitù della gleba]]
[[ja:農奴制]]
[[ja:農奴制]]
บรรทัด 52: บรรทัด 52:
[[sh:Kmetstvo]]
[[sh:Kmetstvo]]
[[simple:Serfdom]]
[[simple:Serfdom]]
[[sk:Nevoľníctvo]]
[[sl:Tlačanstvo]]
[[sl:Tlačanstvo]]
[[sr:Кметство]]
[[sr:Кметство]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:56, 25 มีนาคม 2553

งานสิบสองเดือนของเกษตรกร (คริสต์ศตวรรษที่ 15)

ระบบมาเนอร์ หรือ สังคมศักดินา (อังกฤษ: Manorialism หรือ Seigneurialism หรือ Feudal Society[1]) คือระบบเศรษฐกิจและสังคมที่นิยมปฏิบัติกันโดยทั่วไปในยุคกลางในยุโรปตะวันตกและยุโรปกลาง ระบบมาเนอร์เป็นระบบที่ผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือลอร์ดมีอำนาจทางเศรษฐกิจและทางกฎหมายที่สนับสนุนโดยรายได้ที่ได้มาจากผลผลิตของที่ดินที่เป็นเจ้าของ และจากค่าธรรมเนียมของเกษตรกรผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองตามกฎหมาย ค่าธรรมเนียมอาจจะเป็นในรูปของ:

  • แรงงาน (ภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า “corvée”),
  • ผลผลิต หรือ
  • เงิน (ไม่บ่อยนัก)

ระบบมาเนอร์เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับยุคกลางของยุโรปตะวันตก ที่วิวัฒนาการมาจากระบบเศรษฐกิจชนบทของปลายสมัยจักรวรรดิโรมันโรมัน เมื่อจำนวนประชากรลดลงชนชั้นแรงงานกลายเป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจ ในที่สุดก็จัดเป็นระบบมาเนอร์ หรือระบบนายไพร่ที่นายไม่จำเป็นต้องเป็นคฤหัสน์เสมอไปแต่อาจจะเป็นสังฆราช หรือ เจ้าอาวาส แต่ก็มีหน้าที่รับผิดชอบเช่นเดียวกับเจ้าของที่ดิน

อ้างอิง

  1. "Feudal Society", in its modern sense, was coined in Marc Bloch's 1939-40 books of the same name.

ดูเพิ่ม