ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เครื่องฉายภาพ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Tippi k (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: วีิดีโอ โปรเจคเตอร์รับสัญญาน วีดีโอ แล้วฉายภาพไปที่ฉาก ผ่านร...
 
2T (คุย | ส่วนร่วม)
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:34, 5 กันยายน 2552

วีิดีโอ โปรเจคเตอร์รับสัญญาน วีดีโอ แล้วฉายภาพไปที่ฉาก ผ่านระบบเลนส์ วีดีโอโปรเจคเตอร์ใช้ไฟที่สว่างและจ้าในการฉายภาพ และ โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ สามารถแก้ไข ส่วนโค้งเว้า ความคมชัด ส่วนประกอบของภาพ และ อื่นๆ ด้วยการปรับโดยผู้ใช้เอง วีดีโอโปรเจคเตอร์ ถุกใช้อย่างกว้างขวางในการนำเสนองานในห้่องประชุม ห้องเรียน หรือ แม้แต่ ใช้เป็น โฮมเทียเตอร์ โปรเจคเตอร์ จึงกลายเป็นที่นิยมและถูกใช้อย่างกว้างขวางตามโรงเรียน และสถานที่อื่นๆ

อธิบายโดยสรุป วิดีโอ โปรเจคเตอร์ หรือเรียกอีกอย่างว่า ดิจิตอล โปรเจคเตอร์ สามารถติดตั้งอยู่ที่ ช่องบนเพดาน หรือตู้วางของ ด้านหลัง แล้วฉายภาพมาที่ฉาก เพื่อทำเป็น โฮมเทียเตอร์ ความละเอียดโดยปรกติของ โปรเจคเตอร์ชนิดพกพา มีทั้ง แบบSVGA ซึ่งความละเอียด 800x600 พิกเซล แบบ XGA คือ 1024x768 พิกเซล แบบ 720p คือ 1280x720 พิกเซล และ แบบ 1080p คือ 1920x1080 พิกเซล ราคาของ โปรเจคเตอร์ ไม่ใช่ถูกกำหนดแค่โดย ความละเอียดของภาพ ความสว่าง และ ความดังของเสียงรบกวน ความต่างของสี แต่ประโยชน์ใช้สอยอื่นๆ ของเครืองโปรเจค ยังสามารถ กำหนดราคาของโปรเจคเตอร์นั้นๆได้ ในขณะที่ โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ๆ สามารถฉายภาพบนฉากเล็กๆในที่สามารถควบคุมแสงได้เช่น ใต้ถุนบ้านที่ไม่มีหน้าต่าง หรือ เวลากลางคืน โปรเจคเตอร์ที่สามารถแสดงผลได้สว่างกว่า (โดยวัดเป็น ลูเมน) โปรเจคเตอร์ที่สามารถฉายแสงได้สว่างกว่าก็สามารถที่จะฉายภาพบนจอที่ใหญ่กว่าในห้องที่ควบคุมแสงได้น้อยกว่าได้ดี โดยความสว่างประมาณ 1500-2500 ลูเมน นั้นเหมาะสำหรับ ฉากเล็กในห้องที่ค่อนข้างมืด ความสว่างประมาณ 2500-4000 ลูเมน เหมาะสำหรับ ฉากปานกลางในห้องที่ไม่ค่อยสว่าง และ ความสว่างมากกว่า 4000 ลูเมน เหมาะสำหรับฉากที่ใหญ่และสามารถฉายในห้องที่ไม่ถูกควบคุมแสงได้ เช่น ห้องประชุม ภาพที่ถูกฉายนั้นสำคัญมาก เพราะว่า ประมาณแสงไม่ถูกเปลี่ยนในขณะที่ ขนาดเพิ่มขึ้น และ ความสว่างน้อยลง ขนาดของภาพจะถูกวัดทางทะแยงมุม ทำให้ยิ่งขนาดของภาพใหญ่เท่าไร ก็ยิ่งต้องการปริมาณแสงมากขึ้นเท่านั้น ถ้าขนาดโดยวัดทางเส้นทะแยงมุมเพิ่มขึ้น 25 เปอเซ็นต์ จะทำให้ ความสว่างลดลง 35 เปอเซ็นต์ และถ้าขนาดโดยวัดทางเส้นทะแยงมุมเพิ่มขึ้น 41 เปอเซ็นต์ จะทำให้ ความสว่างลดลงกว่าครึ่ง

- โปรเจคเตอร์ชนิด CRT ที่ใช้ หลอดลำแสง Cathode จะมี สามหลอดสี คือ น้ำเงิน เขียว และ แดง โปรเจคเตอร์ชนิดนี้ ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามาก ไม่เหมือนโปรเจคเตอร์ราคาแพง ที่หลอดภาพจะเสื่อมสภาพ ทำให้ต้องเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ โปรเจคเตอร์ชนิดนี้ เป็นชนิดที่เก่าที่สุด แต่ก็ยังคงมีคนใช้อยู่ แต่ก็อาจจะล้าสมัยและดูไม่สวยงาม เพราะขนาดของมันใช้พื้นที่ใต้เพดานลงมามากพอสมควรแต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถฉายภาพให้เป็นภาพขนาดใหญ่ในราคาที่ถูกกว่า โดยที่หลอดสีทั้งสามก็ยัง สามารถเลื่อนเพื่อปรับองศาของภาพให้ถูกต้องได้

- โปรเจคเตอร์ชนิดฉายแสงผ่านแผ่น LCD เป็นโปรเจคเตอร์ที่มีระบบกลไกลข้่างในที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เป็นโปรเจคเตอร์ที่ถูกใช้อย่างกว้างขวาง เพราะราคาที่ถูก แต่มีปัญหาใหญ่ของ โปรเจคเตอร์ชนิด LCD คือจะมีปัญหาด้านการมองเรียกว่า screen door effect หรือ pixilation effect ซึ่งเราจะมองเห็นภาพเป็น จุด เป็นเหลี่ยมขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม โปรเจคเตอร์ชนิด LCD รุ่นใหม่ที่ทำออกมาก้สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปได้บ้างแล้ว

ในการฉายภาพบนโปรเจคเตอร์ชนิด LCD หลอดไฟชนิด Metal Halide จะส่งแสงไปยัง ปริซึมเพื่อกระจายแสงไปยังแผงซิลิคอนสามสี คือ แดง เขียว น้ำเงิน เพื่อส่งภาพเป็นสัญญาณวิดีโอ เมื่อแสงผ่านแผงซิลิคอนนี้แล้ว แต่ละพิกเซลจะเปิดออกหรือปิดลง เพื่อให้ภาพ ทั้งระดับสีและการไล่สีตามที่ต้องการ สาเหตุที่เราใช้ หลอด Metal Halide เพราะ มันสามารถให้อุณหภูมิของสีและระดับสีที่ถูกต้องที่สุด ทั้งยังสามารถให้ความสว่างของแสงสูงในพื้นทที่มีขนาดเล็กได้ โปรเจคเตอร์รุ่นปัจจุบัน จะมีความสว่างประมาณ 2000-4000 ลูเมน อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของโปรเจคเตร์ชนิด LCD อีกประการก็คือ การเปลี่ยนหลอดไฟ ซึ่งยังแพงอยู่

- โปรเจคเตอร์ชนิด DLP ซึ่งใช้ เทคโนโลยีที่ชื่อว่า Texas Instruments’ DLP มีตัวกำเนิดแสงที่เล็กมากเรียกว่า Digital Micromirror Device หรือเรียกสั้นๆว่า DMDs โปรเจคเตอร์ชนิดนี้ทำงานโดยปรกติจะใช้ DMD 2 ตัวจะใช้จานหมุนติดกระจกเพื่อสร้างสี แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดของ โปรเจคเตอร์ชนิดนี้คือ Rainbow effect คือผู้ที่ดูภาพที่ฉายไปสีขาว เป็นสีรุ้ง แต่ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยใช้ระบบใหม่ซึ่งใช้ DMD 3 ตัว ความเร็วในการหมุนของจานหมุนติดกระจกที่สูงขึ้น จะสามารถให้สีหลักได้อย่างถูกต้อง

โปรเจคเตอร์ที่เราสามารถทำเองได้ ขณะที่ชุมชนคนที่ชอบสร้างของใช้ขึ้นมาเองเริ่มเติบโตขึ้น ทั้งยังราคาของอุปกรณ์ก็ยังถูกลงอีก คนที่หากิจกรรมทำยามว่างก็เลยคิดจะสร้างโปรเจคเตอร์เป็นของตัวเองจากอุปกรณ์ที่เค้ามี เราสามารถศึกษาวิธีทำได้จากอินเตอเนต ซึ่งมีชุมชนคนที่สร้างโปรเจคเตอร์ไว้ใช้งานเอง ถึงแม้ว่า โปรเจคเตอร์ที่สร้างเองโดยผู้ใช้ส่วนมากจะใช้หลอด HID บางคนก็ใช้ หลอด LED แทนซึ่งกำลังนิยมอย่างมากเพื่อใช้ในเฉพาะพื้นที่นั้นๆ และฉายในห้องเรียน ตามทั้งประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศที่กำลังพัฒนา สำหรับเพื่อการศึกษา และ เพื่อการผ่อนคลาย