พอล ดัมเมตต์
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | พอล ดัมเมตต์[1] | ||
วันเกิด | 26 กันยายน ค.ศ. 1991 | ||
สถานที่เกิด | นิวคาสเซิลอะพอนไทน์ | ||
ส่วนสูง | 1.83 m (6 ft 0 in)[2] | ||
ตำแหน่ง | กองหลัง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2000–2012 | Newcastle United | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2010– | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 191 | (3) |
2012 | → เกตส์เฮด (ยืม) | 10 | (0) |
2012–2013 | → เซนต์มีร์เริน (ยืม) | 30 | (2) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
พอล ดัมเมตต์ (อังกฤษ: Paul Dummett; เกิด 26 กันยายน 1991) เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งล่าสุดเล่นในตำแหน่งกองหลังให้กับนิวคาสเซิลยูไนเต็ด เกิดในอังกฤษ แต่เล่นให้กับทีมชาติเวลส์ เขาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กเป็นหลัก แต่สามารถเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้ด้วย
ดัมเมตต์เริ่มต้นอาชีพของเขากับสโมสรในบ้านเกิดอย่างนิวคาสเซิลยูไนเต็ด หลังจากก้าวผ่านทีมเยาวชนของสโมสรแล้ว เขาก็ถูกยืมตัวไปที่เกตส์เฮดและเซนต์มีร์เรินที่สกอตแลนด์ เขาประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2013–14 และยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกในเกมที่พบลิเวอร์พูลเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2013
ระดับสโมสร
[แก้]นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
[แก้]ดัมเมตต์เริ่มต้นอาชีพของเขาในระบบเยาวชนของนิวคาสเซิลยูไนเต็ด[3] โดยเป็นกัปตันทีมสำรองของสโมสรหลายต่อหลายครั้ง
ยืมไปเกตส์เฮด
[แก้]ดัมเมตต์เข้าร่วมทีมเกตส์เฮดในคอนเฟอเรนซ์ เนชันนัล ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 เริ่มแรกด้วยสัญญายืมตัวระยะยาวหนึ่งเดือน[4] จากนั้นขยายออกไปจนจบฤดูกาล[5] โดยช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตได้ 6 จาก 10 นัด[6]
ยืมไปเซนต์มีร์เริน
[แก้]ฤดูกาลต่อมาเซนต์มีร์เรินยืมตัวเขาไปเล่นในสกอตติชพรีเมียร์ลีก ดัมเมตต์เปิดตัวในเกมที่ชนะฮาตส์ 2–0 เมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2012 และเขาทำประตูแรกให้ทีมชุดใหญ่ในเกมเสมอกับเซนต์จอห์นสตัน 1–1[7]
กลับสู่นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
[แก้]ดัมเมตต์กลับสู่นิวคาสเซิลและเซ็นขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี[8] เขาประเดิมสนามให้กับสโมสรในฐานะตัวสำรองในเกมพ่ายแมนเชสเตอร์ซิตี 0–4 ในนัดเปิดฤดูกาล 2013–14 หลังจากที่แนวรับเพื่อนร่วมทีมอย่างสตีเวน เทย์เลอร์ถูกไล่ออกจากสนาม และเล่นครึ่งหลังเต็มเกม[9] เขาทำประตูแรกของเขาให้กับนิวคาสเซิลในนัดที่เปิดบ้านเสมอกับลิเวอร์พูล 2–2 เมื่อเดือนตุลาคม 2013[10] เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากทำประตูแรกให้กับสโมสร ดัมเมตต์ก็จรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับนิวคาสเซิลเป็นเวลา 6 ปี สัญญาฉบับนี้ขยายจนถึงปี 2019[11]
ในวันสุดท้ายของฤดูกาล ดัมเมตต์เข้าสกัดลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าของลิเวอร์พูลทำให้ซัวเรซได้รับบาดเจ็บที่เข่า จากการผ่าตัดที่เข่าทำให้ซัวเรซหมดสิทธิ์ไปแข่งฟุตบอลโลก 2014 แฟนบอลชาวอุรุกวัยจึงส่งคำขู่ฆ่าดัมเมตต์ไปทางออนไลน์[12]
ดัมเมตต์เริ่มต้นฤดูกาล 2014–15 ในฐานะแบ็กซ้ายตัวจริงของนิวคาสเซิลด้วยเหตุที่ดาวิเด ซานตอน บาดเจ็บ และมัสซาดิโอ ไฮดารา นั่งสำรอง ดัมเมตต์ยิงประตูที่ 2 ของเขาให้กับทีมสาลิกาดง ในวันที่ 25 กันยายน 2014 ในการแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ ที่เอาชนะคริสตัลพาเลซอย่างหวุดหวิดด้วยการยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ[13] เล่นเคียงข้างกับฟาบริซิโอ โกโลชินิ กัปตันทีมในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ดัมเมตต์มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นิวคาสเซิลเก็บคลีนชีทได้สำเร็จในเกมที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตีและเวสต์บรอมมิชอัลเบียน[14][15] วันที่ 12 มกราคม 2016 ดัมเมตต์ยิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 90 ในนัดที่เปิดเซนต์เจมส์พาร์กเสมอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3–3 ตั้งแต่ปี 2017 ดัมเมตต์สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กและแบ็กซ้าย
เขาทำประตูแรกในรอบ 5 ปีในเกมเยือนที่ชนะเลสเตอร์ซิตี 4–2 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2021[16] เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2022 ดัมเมตต์เซ็นขยายสัญญาอยู่กับสโมสรออกไปอีก 1 ปี[17] ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2023 สโมสรได้ประกาศต่อสัญญาเขาเพิ่มอีก 1 ปี[18] เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2024 นิวคาสเซิลประกาศว่าดัมเมตต์จะอำลาสโมสรหลังจากหมดสัญญาในเดือนกรกฎาคม[19]
เกียรติประวัติ
[แก้]เซนต์มีร์เริน
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Updated squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 2 February 2018. สืบค้นเมื่อ 15 February 2018.
- ↑ "Paul Dummett". Newcastle United F.C. สืบค้นเมื่อ 19 July 2022.
- ↑ "Debutant Paul Dummett is desperate to be talk of the Toon". Chronicle Live. 7 January 2013. สืบค้นเมื่อ 15 March 2013.
- ↑ "Gateshead sign Dummett on loan". Gateshead FC. 5 March 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2012. สืบค้นเมื่อ 30 December 2012.
- ↑ "Dummett Deal Extended". Gateshead FC. 4 April 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2013. สืบค้นเมื่อ 30 December 2012.
- ↑ "Games played by Paul Dummett in 2011/2012". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 30 December 2012.
- ↑ "St Mirren 1 St Johnstone 1: Buddies salvage point against nine-man Saints". Daily Record. Glasgow. 9 December 2012. สืบค้นเมื่อ 10 January 2013.
- ↑ "Conor Newton and Paul Dummett have agreed new deals at Newcastle". Sky Sports. 25 June 2012. สืบค้นเมื่อ 27 July 2013.
- ↑ "Manchester City 4–0 Newcastle United". BBC Sport. 23 May 2014. สืบค้นเมื่อ 23 May 2014.
- ↑ "First Goal For Dummett As 10-Man Newcastle Make Point". Sky Tyne & Wear. 19 October 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 October 2013. สืบค้นเมื่อ 23 October 2013.
- ↑ Mandeep Sanghera BBC Sport. "Newcastle United 2–2 Liverpool". BBC Sport.
- ↑ "Luis Suarez injury: Uruguay fans blame Newcastle's Paul Dummett". BBC Sport. 23 May 2014. สืบค้นเมื่อ 23 May 2014.
- ↑ "Crystal Palace 2–3 Newcastle United (aet)". BBC Sport. 24 September 2014. สืบค้นเมื่อ 26 September 2014.
- ↑ "Manchester City vs. Newcastle United – 29 October 2014". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 10 November 2014.
- ↑ "West Bromwich Albion vs. Newcastle United – 9 November 2014". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 10 November 2014.
- ↑ "Newcastle one point from safety after thumping Leicester". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 10 May 2021.
- ↑ "Paul Dummett signs one-year contract extension". www.nufc.co.uk. 5 May 2022. สืบค้นเมื่อ 5 May 2022.
- ↑ "Dummett and Karius agree one-year contract extensions". Newcastle United Football Club (ภาษาอังกฤษ). 2023-07-09. สืบค้นเมื่อ 2024-04-03.
- ↑ "Dummett and Ritchie to depart as five players reach end of contract". Newcastle United Football Club. 29 May 2024. สืบค้นเมื่อ 29 May 2024.
- ↑ Murray, Keir (17 March 2013). "St Mirren 3–2 Hearts". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 30 May 2024.