ดิโอปราห์วินฟรีย์โชว์
ดิโอปราห์วินฟรีย์โชว์ | |
---|---|
ประเภท | ทอล์กโชว์ สาระบันเทิง |
สร้างโดย | โอปราห์ วินฟรีย์ |
กำกับโดย | Joseph C. Terry |
ผู้กำกับศิลป์ | Reed Woodworth |
พิธีกร | โอปราห์ วินฟรีย์ |
ประเทศแหล่งกำเนิด | สหรัฐ |
ภาษาต้นฉบับ | อังกฤษ |
จำนวนฤดูกาล | 25 |
จำนวนตอน | 4,561[1] |
การผลิต | |
สถานที่ถ่ายทำ | Harpo Studios ชิคาโก รัฐอิลลินอย |
กล้อง | หลายตัว |
ความยาวตอน | 40–45 นาที |
บริษัทผู้ผลิต | WLS-TV ชิคาโก (1986–1988) (ฤดูกาลที่ 1–3) Harpo Productions (1988–2010) (ฤดูกาลที่ 3–24) Harpo Studios (2010–2011) (ฤดูกาลที่ 25) |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | Syndication |
ออกอากาศ | 8 กันยายน ค.ศ. 1986 – 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 |
การแสดงที่เกี่ยวข้อง | |
Oprah's Lifeclass Super Soul Sunday Oprah's Next Chapter Oprah: Where Are They Now? |
ดิโอปราห์วินฟรีย์โชว์ (อังกฤษ: The Oprah Winfrey Show) หรือ ดิโอปราห์โชว์ หรือ โอปราห์ (อังกฤษ: The Oprah Show หรือ Oprah) เป็นรายการทอล์กโชว์ขายข่าวอเมริกัน สร้างและดำเนินรายการโดย โอปราห์ วินฟรีย์ ออกอากาศ 25 ฤดูกาล ก่อนที่จะจบลงใน ค.ศ. 2011 เป็นรายการทอล์กโชว์ที่มีเรตติ้งสูงสุดในประวัติศาสตร์โทรทัศน์อเมริกัน[2] ออกอากาศทางช่องเอบีซี ยกเว้น KTRK-TV ในฮูสตัน และออกอากาศทดแทนในช่อง KHOU-TV (เช่นเดียวกับสถานีอื่นในการจัดจำหน่ายของ ซีบีเอสเทเลวิชันดิสทริบิวชัน ต่อจาก คิงเวิลด์)
รายการมีอิทธิพลอย่างสูงและมีหลายหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการตระหนักในวัฒนธรรมสมัยนิยมอเมริกัน ในช่วงแรกรายการได้รับอิทธิพลแนวทางจากรายการของฟิล โดนาฮิว ที่นำเสนอเรื่องอื้อฉาวของสังคม แต่ต่อมารายการได้ปรับเปลี่ยนสู่แนวคิดด้านบวก ประสบการณ์การยกระดับจิตใจ มีทั้งสมาคมหนังสือ การสัมภาษณ์ผู้มีชื่อเสียง การปรับปรุงตนเอง และกิจกรรมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ รายการไม่ได้หาผลประโยชน์กำไรจากผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด ทั้งนี้มีการตกลงกันกับผู้ค้าว่าสินค้าที่ได้รับการประชาสัมพันธ์ในรายการนั้น รายการจะไม่รับเงินจากการโฆษณา เช่นจากการประชาสัมพันธ์ในหนังสือในรายการ[3]
ในปี ค.ศ. 2011 ถือเป็นรายการทอล์กโชว์ช่วงกลางวันที่ดำเนินรายการยาวนานที่สุดในสหรัฐอเมริกา ออกอากาศทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1986 เป็นเวลา 25 ฤดูกาล จำนวน 4,561 ตอน ตอนสุดท้ายของรายการออกอากาศวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 โดยจะคงออกอากาศซ้ำโดยคัดตอนที่มีความน่าจดจำมาออกอากาศอีกประมาณ 70 ตอนจนถึงวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2011[4][5][6]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Hollingshead, Iain (May 20, 2011). "Oprah Winfrey retires: Those in the spotlight can't bear the final curtain". The Daily Telegraph. London. สืบค้นเมื่อ May 23, 2011.
- ↑ Forbes article Retrieved Jan 1, 2011
- ↑ Carr, David (2009-11-22). "The Media Equation - Oprah Winfrey's Success Owes to Decisions That Avoided Common Traps". NYTimes.com. สืบค้นเมื่อ 2011-05-26.
- ↑ "Gathering for a Sweet Farewell to 'Oprah'". The New York Times. 25 May 2011. สืบค้นเมื่อ 25 May 2011.
- ↑ Stelter, Brian; Carter, Bill (2009-11-19). "Oprah Winfrey to End Her Talk Show". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2009-11-19.
- ↑ "Oprah Winfrey Show" to End in 2011, MSNBC, November 19, 2009
อ่านเพิ่ม
[แก้]- Illouz, Eva (2003). Oprah Winfrey and the Glamour of Misery: An Essay on Popular Culture. New York: Columbia University Press. ISBN 978-0-231-11813-2. สืบค้นเมื่อ May 31, 2011.
- Oppenheimer, Mark (May 28, 2011). "The Church of Oprah Winfrey and a Theology of Suffering". The New York Times. สืบค้นเมื่อ May 31, 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ The Oprah Winfrey Show