คาร์สัน แมคคัลเลอส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คาร์สัน แมคคัลเลอส์
ภาพแมคคัลเลอส์ ถ่ายโดยคาร์ล แวน เวคเทนในปี ค.ศ. 1959
ภาพแมคคัลเลอส์ ถ่ายโดยคาร์ล แวน เวคเทนในปี ค.ศ. 1959
เกิดลูลา คาร์สัน สมิธ
19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917(1917-02-19)
โคลัมบัส รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา
เสียชีวิตกันยายน 29, 1967(1967-09-29) (50 ปี)
ไนแอก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
อาชีพนักเขียน
แนวเซาเทิร์นกอทิก
ผลงานที่สำคัญหัวใจคือนักล่าผู้ว้าเหว่
บทเพลงคาเฟ่อันแสนเศร้า

ลายมือชื่อ

คาร์สัน แมคคัลเลอส์ (อังกฤษ: Carson McCullers; 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 191729 กันยายน ค.ศ. 1967) เป็นนักเขียนชาวอเมริกัน ผลงานส่วนใหญ่ของเธอเป็นแนวเซาเทิร์นกอทิก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลที่แปลกแยก โดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง มักมีฉากอยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา

ประวัติ[แก้]

คาร์สัน แมคคัลเลอส์เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1917 ที่เมืองโคลัมบัส รัฐจอร์เจีย มีชื่อเกิดว่า ลูลา คาร์สัน สมิธ (Lula Carson Smith) เป็นบุตรของเวรา มาร์เกอริต วอเทอส์และลามาร์ สมิธ ช่างทำนาฬิกาและอัญมณี[1] เมื่ออายุได้ 10 ปี แมคคัลเลอส์เรียนเปียโน ต่อมาเมื่ออายุได้ 15 ปี เธอได้รับเครื่องพิมพ์ดีดจากบิดาที่สนับสนุนให้เธอเขียนเรื่องราวต่าง ๆ หลังเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมโคลัมบัส แมคคัลเลอส์มีแผนจะเรียนต่อด้านดนตรีที่โรงเรียนจูเลียร์ดที่นครนิวยอร์ก แต่เนื่องจากป่วยเป็นไข้รูมาติกจึงต้องพักรักษาตัว หลังหายป่วยเธอเริ่มสนใจจะเป็นนักเขียนและเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียและมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ในปี ค.ศ. 1936 แมคคัลเลอส์ตีพิมพ์เรื่องสั้นแรก "Wunderkind" ที่ต่อมารวมอยู่ในรวมเรื่องสั้นชื่อ บทเพลงคาเฟ่อันแสนเศร้า (The Ballad of the Sad Café)[2]

ในปี ค.ศ. 1940 แมคคัลเลอส์ในวัย 23 ปี ตีพิมพ์นวนิยายเล่มแรก หัวใจคือนักล่าผู้ว้าเหว่ (The Heart Is a Lonely Hunter)[3] ซึ่งมีฉากในรัฐจอร์เจียช่วงทศวรรษ 1930 นวนิยายเล่มนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1968[4] นำแสดงโดยอลัน อาร์คิน ปีต่อมาเธอตีพิมพ์นวนิยายเล่มที่สอง Reflections in a Golden Eye ซึ่งได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เช่นกันในปี ค.ศ. 1967 นำแสดงโดยมาร์ลอน แบรนโดและเอลิซาเบธ เทย์เลอร์

ด้านชีวิตส่วนตัว แมคคัลเลอส์แต่งงานกับรีฟส์ แมคคัลเลอส์ นักเขียนและอดีตทหารในปี ค.ศ. 1937 และใช้ชีวิตร่วมกันที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ทั้งสองหย่าร้างกันในปี ค.ศ. 1941 แมคคัลเลอส์ย้ายไปอยู่ที่นครนิวยอร์ก หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุด เธอใช้เวลาส่วนใหญ่พำนักอยู่ที่กรุงปารีสและมีเพื่อนสนิทคือทรูแมน คาโพตีและเทนเนสซี วิลเลียมส์ แมคคัลเลอส์เคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน[5] ในปี ค.ศ. 1945 เธอกลับมาแต่งงานกับรีฟส์อีกครั้ง แต่สามปีต่อมา เธอพยายามฆ่าตัวตายเพราะความเครียดอย่างหนัก ในปี ค.ศ. 1953 รีฟส์ฆ่าตัวตายหลังขอให้แมคคัลเลอส์ฆ่าตัวตายกับเขาไม่สำเร็จ[6]

แมคคัลเลอส์เสียชีวิตด้วยภาวะเลือดออกในสมองในปี ค.ศ. 1967 ที่เมืองไนแอก รัฐนิวยอร์ก[7]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Carson McCullers - Biography". The Famous People. สืบค้นเมื่อ February 19, 2017.
  2. Carr, Virginia Spencer. The Lonely Hunter. Doubleday. p. 62. ISBN 0-385-04028-8.
  3. Johnson, Thomas S. (1974). The Horror in the Mansion: Gothic Fiction in the Works of Carson McCullers. Ann Arbor, Michigan: Dissertation Abstracts.
  4. "Carson McCullers - Biography". Britannica. สืบค้นเมื่อ February 19, 2017.[ลิงก์เสีย]
  5. "Carson McCullers - Biography". Biography.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-26. สืบค้นเมื่อ February 19, 2017.
  6. Dews, Carlos (2005). Carson McCullers (1917–1967) เก็บถาวร 2013-04-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. The New Georgia Encyclopedia.
  7. "Here's a timeline of Carson McCullers' life". Columbus Ledger-Enquirer. January 13, 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]