ผู้ใช้:Carasjaya

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ทำวัตรเช้า

โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น พระองค์ใด เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมเป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใดตรัสไว้ดีแล้ว สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใดปฏิบัติดีแล้ว ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอบูชาเฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยพระธรรม พระด้วยพระสงฆ์ ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ ที่ยกขึ้นแล้วตามสมควร สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ พระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ปรินิพพานนานแล้ว ขอได้ทรงพระกรุณาโปรดเถิด ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา ขอได้มีน้ำพระทัย อนุเคราะห์แก่หมู่ชนที่เกิดมาในภายหลัง อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ ขอจงทรงรับเครื่องสักการะ อันเป็นบรรณาการของคนยากเหล่านี้ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ข้าพเจ้าขออภิวาท พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้แจ้งแล้ว (กราบ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว ธัมมัง นะมัสสามิ ข้าพเจ้าขอนมัสการพระธรรม (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติดีแล้ว สังฆัง นะมามิ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)

ปุพพภาคนมการ (นำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส (รับ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ข้าพเจ้าขอนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ พุทธาภิถุติ (นำ) หันทะ มะยัง พุทธาภิถุติง กะโรมะ เส (รับ) โย โส ตะถาคะโต อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระตถาคตเจ้า พระองค์นั้นใด, เป็นผู้ไกลกิเลสควรไหว้ควรบูชา, เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ วิชชาจะระณะสัมปันโน เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ สุคะโต เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว โลกะวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ เป็นผู้ฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ ไม่มีใครยิ่งกว่า สัตถา เทวะมะนุสสานัง เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พุทโธ เป็นผู้ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว ภะคะวา เป็นผู้จำแนกแจกแบ่งพระธรรม โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพรหมะกัง สัสสะมะณะพราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อะภิญญา สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ พระองค์ใด ทรงทำให้แจ้งด้วยพระปัญญาอันยิ่งเอง แล้วทรงสั่งสอนโลกนี้กับทั้งเทวดา มาร พรหม และหมู่สัตว์ พร้อมด้วยสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ให้รู้ตาม โย ธัมมัง เทเสสิ พระองค์ใด ทรงแสดงแล้วซึ่งพระธรรม อาทิกัลยาณัง ไพเราะในเบื้องต้น มัชเฌกัลยาณัง ไพเราะในท่อมกลาง ปะริโยสานะกัลยาณัง ไพเราะในที่สุด สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรหมะจะริยัง ปะกาเสสิ ทรงประกาศแล้ว ซึ่งพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริบูรณ์ บริสุทธิ์สิ้นเชิง ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ ข้าพเจ้าขอบูชาโดยยิ่ง ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ตะมะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิ ข้าพเจ้าขอนอบน้อม ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ด้วยเศียรเกล้า (กราบ) ธัมมาภิถุติ (นำ) หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เส (รับ) โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมนั้นใด อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว สันทิฏฐิโก อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง อะกาลิโก ให้ผลไม่เลือกกาล เอหิปัสสิโก เป็นของควรเรียกให้มาดู โอปะนะยิโก เป็นของควรน้อมเข้ามาในตน ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ อันวิญญูชนทั้งหลาย จะพึงรู้เฉพาะตน ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ ข้าพเจ้าขอบูชาโดยยิ่ง ซึ่งพระธรรมนั้น ตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระธรรมนั้นด้วยเศียรเกล้า (กราบ)

สังฆาภิถุติ (นำ) หันทะ มะยัง สังฆาภิถุติง กะโรมะ เส (รับ) โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่นั้นใดปฏิบัติดีแล้ว อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติตรงแล้ว ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติธรรมเพื่อออกจากทุกข์แล้ว สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติสมควรแล้ว ยะทิทัง นี้คือใคร จัตตาริ ปุริสะยุคานิ คือคู่แห่งบุรุษทั้งหลาย ๔ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา นับโดยบุคคลเป็น ๘ เอสะภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ นี้แล คือ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า อาหุเนยโย เป็นผู้ควรของคำนับ ปาหุเนยโย เป็นผู้ควรของต้อนรับ ทักขิเณยโย เป็นผู้ควรของทำบุญ อัญชะลิกะระณีโย เป็นผู้ควรยกมือไหว้ อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ตะมะหัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ ข้าพเจ้าขอบูชาโดยยิ่ง ซึ่งพระสงฆ์หมู่นั้น ตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิ ข้าพเจ้าขอนอบน้อม ซึ่งพระสงฆ์หมู่นั้นด้วยเศียรเกล้า (กราบ) รตนัตตยัปปณามคาถา (นำ) หันทะ มะยัง ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ สังเวคะวัตถุปะริทีปะกะปาฐัญจะ ภะณามะ เส (รับ) พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้หมดจดดีแล้ว มีพระกรุณาไม่สิ้นสุดดุจห่วงมหรรณพ โยจจันตะสุทธัพพะระญาณะโลจะโน พระองค์ใด มีจักษุคือปัญญา เครื่องตรัสรู้อันประเสริฐหมดจดดีแล้วโดยส่วนเดียว โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก เป็นผู้ฆ่าบาป และอุปกิเลสแห่งโลก วันทามิ พุทธัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ข้าพเจ้าขอไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น โดยเอื้อเฟื้อ ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตัสสะ สัตถุโน พระธรรมของพระศาสดาจารย์พระองค์นั้น รุ่งโรจน์ราวดวงประทีป โย มัคคะปากามะตะเภทะภินนะโก พระธรรมใด ต่างโดยประเภท คือ มรรค ผล และนิพพาน โลกุตตะโร เป็นธรรมอันข้ามโลก โย จะ ตะทัตถะทีปะโน อนึ่ง พระธรรมใด ส่องเนื้อความแห่งโลกุตระธรรมนั้น วันทามิ ธัมมัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ข้าพเจ้าขอไหว้พระธรรมนั้น โดยเอื้อเฟื้อ สังโฆ สุเขตาภยะติเขตตะสัญญิโต พระสงฆ์ใด ปรากฏเป็นนาอันดีและเป็นนาบุญอันยิ่งใหญ่ โย ทิฏฐะสันโต สุคะตานุโพธะโก มีความระงับอันประจักษ์แล้ว รู้ตามเสด็จพระสุคตเจ้า โลลัปปะหีโน อะริโย สุเมธะโส มีกิเลสโลเลอันละได้แล้ว ไปจากข้าศึกมีปัญญาดี วันทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ข้าพเจ้าขอไหว้พระสงฆ์หมู่นั้น โดยเอื้อเฟื้อ อิจเจวะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง วัตถุตตะยัง วันทะยะตาภิสังขะตัง ปุญญัง มะยา ยัง มะมะ สัพพุปัททะวา มา โหนตุ เว ตัสสะ ปะภาวะสิทธิยา บุญใด อันข้าพเจ้าไหว้อยู่ซึ่งหมวดแห่งวัตถุอันเป็นของควรบูชา โดยส่วนเดียว สั่งสมแล้วอย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้ ขออุปัทวะทั้งหลายทั้งปวง อย่าได้มีแล้วแก่ข้าพเจ้าเลย ด้วยความสำเร็จผลที่เกิดจากบุญนั้นเทียว

สังเวคปริกิตตนปาฐะ อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปันโน อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระตถาคตเจ้าเกิดขึ้นแล้วในโลกนี้, เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ธัมโม จะ เทสีโต อนึ่ง พระธรรมอันพระตถาคตเจ้าทรงแสดงแล้ว นิยยานิโก เป็นไปเพื่อนำสัตว์ออกจากทุกข์ อุปะสะมิโก เป็นไปเพื่อความสงบระงับใจ ปะรินิพพานิโก เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ สัมโพธะคามี ให้ถึงความตรัสรู้ สุคะตัปปะเวทิโต พระสุคตเจ้าทรงประกาศแล้ว มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เราทั้งหลายได้ฟังแล้ว ซึ่งธรรมนั้น เอวัง ชานามะ จึงรู้อย่างนี้ว่า ชาติปิ ทุกขา แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ ชะราปิ ทุกขา แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์ มะระณัมปิ ทุกขัง แม้ความตายก็เป็นทุกข์ โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา แม้ความแห้งใจ ความพิไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความเสียใจและคับแค้นใจก็เป็นทุกข์ อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ความประสบพบเห็นสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ก็เป็นทุกข์ ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นสมหวังก็เป็นทุกข์ สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา โดยย่อ การยึดขันธ์ ๕ ว่าเป็นเราก็เป็นทุกข์ เสยยะถีทัง นี้ อย่างไร รูปูปาทานักขันโธ อุปาทานขันธ์ คือ รูป เวทะนูปาทานักขันโธ อุปาทานขันธ์ คือ เวทนา สัญญูปาทานักขันโธ อุปาทานขันธ์ คือ สัญญา สังขารูปาทานักขันโธ อุปาทานขันธ์ คือ สังขาร วิญญาณูปาทานักขันโธ อุปาทานขันธ์ คือ วิญญาณ เยสังปะริญญายะ ธะระมาโน โส ภะคะวา เอวัง พะหุลัง สาวเก วิเนติ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เมื่อยังดำรงพระชนม์อยู่ ย่อมแนะนำสาวกทั้งหลาย เพื่อให้ซึ่งรู้อุปาทานขันธ์ทั้งหลายอย่างนี้ เป็นอันมาก เอวัง ภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนุสาสะนี พะหุลา ปะวัตตะติ ก็แล การพร่ำสอนขอนพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น มีส่วนอย่างนี้ เป็นไปมากในหมู่สาวกทั้งหลาย ว่า รูปัง อะนิจจัง รูปไม่เที่ยง เวทะนา อะนิจจา เวทนาไม่เที่ยง สัญญา อะนิจจา สัญญาไม่เที่ยง สังขารา อะนิจจา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง วิญญาณัง อะนิจจา วัญญาณไม่เที่ยง รูปัง อะนัตตา รูปมิใช่ตัวตน เวทะนา อะนัตตา เวทนามิใช่ตัวตน สัญญา อะนัตตา สัญญามิใช่ตัวตน สังขารา อะนัตตา สังขารทั้งหลายมิใช่ตัวตน วิญญาณัง อะนัตตา วิญญาณมิใช่ตัวตน สัพเพ สังขารา อะนิจจา สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นของมิใช่ตัวตน ดังนี้แล เต มะยัง โอติณณามหะ ชาติยา ชะรามะระเณนะ โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ เราทั้งหลายเหล่านั้นใด เป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสและอุปายาสะ ครอบงำแล้ว ทุกโขติณณา ทุกขะปะเรตา อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ ชื่อว่า เป็นผู้มีทุกข์ครอบงำแล้ว มีทุกข์จำเป็นแล้ว มีทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว ไฉน ความทำที่สุดแห่งกองทุกข์นี้ให้สิ้นเชิงจะพึงปรากฏ จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง อุทิสสะ อะระหันตัง สัมมาสัมพุทธัง เราทั้งหลาย เป็นผู้อุทิศต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ แม้เสด็จปรินิพพานนานแล้ว สัทธา อะคารัสมา อะนะคาริยัง ปัพพาชิตา มีศรัทธาออกจากเรือน บวชหาเรือนมิได้ ตัสมิง ภะคะวะติ พรัหมะจะริยัง จะรามะ ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ภิกขูนัง สิกขาสาชีวะสะมาปันนา ถึงพร้อมแล้วด้วยสิกขาสาชีพของภิกษุทั้งหลาย ตัง โน พรัหมะจะริยัง อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุ ขอพรหมจรรย์ของเราทั้งหลายนั้น จงเป็นไปเพื่ออันทำที่สุดแห่งกองทุกข์นี้ให้สิ้นเชิง เทอญ ฯ

ตังขณิกปัจจเวกขณปาฐะ (นำ) หันทะ มะยัง ตังขะณิกะปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส.

(รับ)	ปะฏิสังขา โยนิโส จีวะรัง ปะฏิเสวามิ

เราพิจารณาโดยแยบคายแล้ว จะใช้สอยซึ่งจีวร ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดหนาว อุณ๎หัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดร้อน ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, เพียงเพื่อกำจัดสัมผัสอันเกิดจากเหลือบ ยุง ลม แดดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ยาวะเทวะ หิริโกปินะปะฏิจฉาทะนัตถังฯ เพียงเพื่อปกปิดซึ่งอวัยวะอันยังความละอายให้กำเริบ ฯ ปะฏิสังขา โยนิโส ปิณฑะปาตัง ปะฏิเสวามิ, เราพิจารณาโดยแยบคายแล้วจะฉันซึ่งบิณฑบาต เนวะ ทะวายะ ไม่ฉันเพื่อการเล่น นะ มะทายะ ไม่ฉันเพื่อความมัวเมา เกิดกำลังพลังทางกาย นะ มัณฑะนายะ ไม่ฉันเพื่อประดับ นะ วิภูสะนายะ ไม่ฉันเพื่อตกแต่ง ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา ฉันเพื่อความดำรงอยู่แห่งกายนี้ ยาปะนายะ เพื่อยังอัตภาพให้เป็นไป วิหิงสุปะระติยา เพื่อกำจัดความเบียดเบียน พรัหมะจะริยานุคคะหายะ เพื่ออนุเคราะห์แก่พรหมจรรย์ อิติ ปุราณัญจะ เวทะนัง ปะฏิหังขามิ ด้วยการพิจารณาอย่างนี้ จักบรรเทาเวทนาเก่าคือความหิวเสียได้ นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ จักไม่ยังเวทนาใหม่ให้เกิดขึ้น ยาตรา จะ เม ภะวิสสะติ อะนะวัชชะตา จะ ผาสุวิหาโร จาติ ฯ ความเป็นไปสะดวกแห่งกายก็ดี ความเป็นผู้หาโทษมิได้ก็ดี และความเป็นอยู่โดยผาสุขก็ดี จักมีแก่เรา ดังนี้แล ปะฏิสังขา โยนิโส เสนาสะนัง ปะฏิเสวามิ เราพิจารณาโดยแยบคายแล้ว จะใช้สอยซึ่งเสนาสนะ ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดหนาว อุณ๎หัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดร้อน ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, เพียงเพื่อกำจัดสัมผัสอันเกิดแต่เหลือบ ยุง ลม แดดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ยาวะเทวะ อุตุปะริสสะยะวิโนทะนัง ปะฏิสัลลานารามัตถังฯ เพียงเพื่อบรรเทาอันตรายทั้งหลาย อันเกิดจากดินฟ้าอากาศ เพื่อให้ยินดี ในการลีกเร้นสำหรับภาวนาฯ ปะฏิสังขา โยนิโส คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขารัง ปะฏิเสวามิ, เราพิจารณาโดยแยบคายแล้ว จะใช้สอยซึ่งยาแก้ไข้ ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิกานัง เวทะนานัง ปะฏิฆาตายะ, เพียงเพื่อกำจัดเวทนาทั้งหลาย อันบังเกิดแต่อาพาธต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว อัพยาปัชฌะปะระมะตายาติ เพื่อไม่ให้ถูกเบียดเบียนเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้แล


ทำวัตรเย็น โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น พระองค์ใด เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมเป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใดตรัสไว้ดีแล้ว สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใดปฏิบัติดีแล้ว ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอบูชาเฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยพระธรรม พร้อมด้วยพระสงฆ์ ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ ที่ยกขึ้นแล้วตามสมควร สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ พระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ปรินิพพานนานแล้ว ขอได้ทรงพระกรุณาโปรดเถิด ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา ขอได้มีน้ำพระทัย อนุเคราะห์แก่หมู่ชนที่เกิดมาในภายหลัง อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ ขอจงทรงรับเครื่องสักการะ อันเป็นบรรณาการของคนยากเหล่านี้ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ข้าพเจ้าขออภิวาท พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้แจ้งแล้ว (กราบ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว ธัมมัง นะมัสสามิ ข้าพเจ้าขอนมัสการพระธรรม (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติดีแล้ว สังฆัง นะมามิ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)

ปุพพภาคนมการ (นำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส (รับ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ข้าพเจ้าขอนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ พุทธานุสสะติ (นำ) ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคะโต ก็กิตติศัพท์อันงามของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นแล ระบือไปแล้วอย่างนี้ว่า อิติปิ โส ภะคะวา แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น อะระหัง เป็นผู้ไกลกิเลสควรไหว้ควรบูชา สัมมาสัมพุทโธ เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ วิชชาจะระณะสัมปันโน เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ สุคะโต เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว โลกะวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ เป็นผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึกได้ ไม่มีใครยิ่งกว่า สัตถา เทวะมะนุสสานัง เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พุทโธ เป็นผู้ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว ภะคะวาติ. เป็นผู้จำแนกแจกแบ่งพระธรรม ดังนี้แล ฯ พุทธาภิคีติ (นำ) หันทะ มะยัง พุทธาภิคีติง กะโรมะ เส. (รับ) พุทธะวาระหันตะวะระตาทิคุณาภิยุตโต พระพุทธเจ้าเป็นผู้ประกอบแล้วด้วยพระคุณ มีความเป็นพระอรหันต์อันประเสริฐ เป็นต้น สุทธาภิญาณะกะรุณาหิ สะมาคะตัตโต, มีตนอันประกอบแล้วด้วยพระญาณ และพระกรุณาทั้งหลายอันบริสุทธิ์ โพเธสิ โย สุชะนะตัง กะมะลังวะ สูโร, พระองค์ใด ยังประชุมชนที่ดีให้เบิกบานแล้ว ดังดวงพระอาทิตย์ยังดอกบัวให้บานอยู่ฉะนั้น วันทามะหัง ตะมะระณัง สิระสา ชิเนนทัง. ข้าพเจ้าขอไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไม่มีกิเลสเครื่องรบกวน ผู้เป็นจอมแห่งผู้ชนะ ด้วยเศียรเกล้า พุทโธ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็นสรณะอันเกษมสุด ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ปะฐะมานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ข้าพเจ้าขอไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นที่ตั้งแห่งความระลึกถึงองค์ที่หนึ่งด้วยเศียรเกล้า พุทธัสสาหัสมิ ทาโส วะ ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระพุทธเจ้าแล พุทโธ เม สามิกิสสะโร พระพุทธเจ้าเป็นนายใหญ่ของข้าพเจ้า พุทโธ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ พระพุทธเจ้าเป็นนายใหญ่ของข้าพเจ้า วิธาตา จะ หิตัสสะ เม เป็นผู้ทำประโยชน์เกื้อกูล แก่ข้าพเจ้าด้วย พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตนี้ แด่ข้าพเจ้า วันทันโตหัง จะริสสามิ ข้าพเจ้าไหว้อยู่จักประพฤติ พุทธัสเสวะ สุโพธิตัง ซึ่งความตรัสรู้ดีของพระพุทธเจ้าแล นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พุทโธ เม สะระณัง วะรัง พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา พุทธัง เม วันทะมาเนนะ ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ, บุญใดอันข้าพเจ้าไหว้อยู่ซึ่งพระพุทธเจ้า ขวนขวายแล้วในที่นี้ สัพเพปิ อันตะรายา เม, มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา ขออันตรายทั้งหลายแม้ทั้งปวง อย่าได้มีแล้วแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งบุญนั้น (หมอบกราบว่า) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง กรรมชั่วอันใด อันข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้า ด้วยกาย วาจา หรือด้วยใจ พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง ขอพระพุทธเจ้า จงอดโทษ อันล่วงไปแล้ว กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ. เพื่อข้าพเจ้าจะได้ระวังในพระพุทธเจ้า ในกาลต่อไป ธัมมานุสสะติ (นำ) หันทะ มะยัง ธัมมานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส. (รับ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว สันทิฏฐิโก อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง อะกาลิโก ให้ผลไม่เลือกกาล เอหิปัสสิโก เป็นของควรเรียกให้มาดู โอปะนะยิโก เป็นของควรน้อมเข้ามาในตน ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญูหีติ อันวิญญูชนทั้งหลาย จะพึงรู้เฉพาะตนดังนี้แล ฯ ธัมมาภิคีติ (นำ) หันทะ มะยัง ธัมมาภิคีติง กะโรมะ เส. (รับ) สวากขาตะตาทิคุณะโยคะวะเสนะ เสยโย พระธรรมเป็นของอันประเสริฐ ด้วยอำนาจอันประกอบแล้วด้วยพระคุณ เป็นธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นต้น โย มัคคะปากะปะริยัตติวิโมกขะเภโท พระธรรมใด อันต่างด้วยมรรคผลปริยัติและวิโมกข์ ธัมโม กุโลกะปะตะนา ตะทะธาริธารี พระธรรมย่อมป้องกันผู้ประพฤติธรรม มิให้ตกไปในโลกที่ชั่ว วันทามะหัง ตะมะหะรัง วะระธัมมะเมตัง ข้าพเจ้าขอไหว้พระธรรมอันประเสริฐ อันกำจัดมืดนั้น ธัมโม โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง พระธรรมใด เป็นสรณะอันเกษมสุด ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ข้าพเจ้าขอไหว้พระธรรมนั้น อันเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกถึงองค์ที่สอง ด้วยเศียรเกล้า ธัมมัสสาหัสมิ ทาโส วะ ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระธรรมเจ้าแล ธัมโม เม สามิกิสสะโร พระธรรมเจ้าเป็นนายใหญ่ของข้าพเจ้า ธัมโม ทุกขัสสะ ฆาตา จะ พระธรรมเจ้าเป็นผู้กำจัดทุกข์ด้วย วิธาตา จะ หิตัสสะ เม เป็นผู้ทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ข้าพเจ้าด้วย ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตนี้ แด่พระธรรมเจ้า วันทันโตหัง จะริสสามิ ข้าพเจ้าไหว้อยู่จักประพฤติ ธัมมัสเสวะ สุธัมมะตัง ซึ่งความที่พระธรรมเป็นธรรมอันดี นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี ธัมโม เม สะระณัง วะรัง พระธรรมเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ บุญใดอันข้าพเจ้าไหว้อยู่ซึ่งพระธรรมเจ้า ขวนขวายแล้วในที่นี้ สัพเพปิ อันตะรายา เม, มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา ขออันตรายทั้งหลายแม้ทั้งปวง อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งบุญนั้น (หมอบกราบว่า) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง กรรมชั่วอันใด อันข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ในพระธรรมเจ้า ด้วยกาย วาจา หรือด้วยใจ ธัมโม ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง ขอพระธรรมเจ้า จงอดโทษ อันล่วงไปแล้ว กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม. เพื่อข้าพเจ้าจะได้ระวังในพระธรรมเจ้า ในกาลต่อไป สังฆานุสสะติ (นำ) หันทะ มะยัง สังฆานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส. (รับ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติดีแล้ว อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

	พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติตรงแล้ว

ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติเป็นธรรมเพื่อออกจากทุกข์แล้ว สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติสมควรแล้ว ยะทิทัง นี้คือใคร จัตตาริ ปุริสะยุคานิ คือ คู่แห่งบุรุษทั้งหลาย ๔ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา นับโดยบุคคลเป็น ๘ เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ นี้แล คือพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า อาหุเนยโย เป็นผู้ควรของคำนับ ปาหุเนยโย เป็นผู้ควรของต้อนรับ ทักขิเณยโย เป็นผู้ควรของทำบุญ อัญชะลีกะระณีโย เป็นผู้ควรยกมือไหว้ อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ. เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้แล ฯ สังฆาภิคีติ (นำ) หันทะ มะยัง สังฆาภิคีติง กะโรมะ เส. (รับ) สัทธัมมะโช สุปะฏิปัตติคุณาทิยุตโต พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดจากพระสัทธรรม ประกอบแล้วด้วยพระคุณ มีความเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว เป็นต้น โยฏฐัพพิโธ อะริยะปุคคะละสังฆะเสฏโฐ พวกใดเป็นหมู่แห่งพระอริยบุคคลอันประเสริฐ ๘ จำพวก สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต มีกายและจิต อาศัยธรรมะอันประเสริฐ มีศีลเป็นต้น วันทามะหัง ตะมะริยานะคะณัง สุสุทธัง ข้าพเจ้าขอไหว้ซึ่งหมู่แห่งพระอริยเจ้าทั้งหลายพวกนั้นผู้หมดจดดีแล้ว สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง พระสงฆ์ใด เป็นสรณะอันเกษมสูงสุด ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตะติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ข้าพเจ้าขอไหว้พระสงฆ์นั้น อันเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกถึงองค์ที่สาม ด้วยเศียรเกล้า สังฆัสสาหัสมิ ทาโส วะ สังโฆ เม สามิกิสสะโร ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระสงฆ์แล สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ พระสงฆ์เป็นผู้กำจัดทุกข์ด้วย วิธาตา จะ หิตัสสะ เม. เป็นผู้ทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ข้าพเจ้าด้วย สังฆัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง, ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตนี้ แด่พระสงฆ์ วันทันโตหัง จะริสสามิ ข้าพเจ้าไหว้อยู่จักประพฤติ สังฆัสโสปะฏิปันนะตัง ถึงความที่พระสงฆ์เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี สังโฆ เม สะระณัง วะรัง พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา สังฆัง เม วันทะมาเนนะยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ บุญใดอันข้าพเจ้าไหว้อยู่ซึ่งพระสงฆ์ ขวนขวายแล้วในที่นี้ สัพเพปิ อันตะรายา เม, มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา. ขออันตรายทั้งหลายแม้ทั้งปวง อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งบุญนั้น (หมอบกราบว่า)

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง กรรมชั่วอันใด อันข้าพเจ้าได้กระทำแล้วในพระสงฆเจ้า ด้วยกาย วาจา หรือด้วยใจ สังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง ขอพระสงฆเจ้า จงอดโทษ อันล่วงไปแล้ว กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ ข้าพเจ้าจะได้ระวังในพระสงฆเจ้าในการต่อไป (แล้วนั่งพับเพียบ)

อตีตปัจจเวกขณปาฐะ (นำ) หันทะ มะยัง อะตีตะปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส.

(รับ)	อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา ยัง จีวะรัง ปะริภุตตัง

จีวรนี้ใด อันเราไม่ได้พิจารณาแล้ว ใช้สอยแล้วในวันนี้ ตัง ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดหนาว อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดร้อน ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, เพียงเพื่อกำจัดสัมผัสอันเกิดจากเหลือบ ยุง ลม แดดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ยาวะเทวะ หิริโกปินะปะฏิจฉาทะนัตถังฯ เพียงเพื่อปกปิดซึ่งอวัยวะอันยังความละอายให้กำเริบ ฯ อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา โย ปิณฑะปาโต ปะริภุตโต บิณฑบาตนี้ใด อันเราไม่ได้พิจารณาแล้ว ฉันแล้วในวันนี้ เนวะ ทะวายะ ไม่ฉันเพื่อการเล่น นะ มะทายะ ไม่ฉันเพื่อความมัวเมา เกิดกำลังพลังทางกาย นะ มัณฑะนายะ ไม่ฉันเพื่อประดับ นะ วิภูสะนายะ ไม่ฉันเพื่อตกแต่ง ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา ฉันเพื่อความดำรงอยู่แห่งกายนี้ ยาปะนายะ เพื่อยังอัตภาพให้เป็นไป วิหิงสุปะระติยา เพื่อกำจัดความเบียดเบียน พรัหมะจะริยานุคคะหายะ เพื่ออนุเคราะห์แก่พรหมจรรย์ อิติ ปุราณัญจะ เวทะนัง ปะฏิหังขามิ ด้วยการพิจารณาอย่างนี้ จักบรรเทาเวทนาเก่าคือความหิวเสียได้ นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ จักไม่ยังเวทนาใหม่ให้เกิดขึ้น ยาตรา จะ เม ภะวิสสะติ อะนะวัชชะตา จะ ผาสุวิหาโร จาติ ฯ ความเป็นไปสะดวกแห่งกายก็ดี ความเป็นผู้หาโทษมิได้ก็ดี และความเป็นอยู่โดยผาสุขก็ดี จักมีแก่เรา ดังนี้แล อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา ยัง เสนาสะนัง ปะริภุตตัง เสนาสนะนี้ใด อันเราไม่ได้พิจารณาแล้ว ใช้สอยแล้วในวันนี้ ตัง ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดหนาว อุณ๎หัสสะ ปะฏิฆาตายะ เพียงเพื่อกำจัดร้อน ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, เพียงเพื่อกำจัดสัมผัสอันเกิดแต่เหลือบ ยุง ลม แดดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ยาวะเทวะ อุตุปะริสสะยะวิโนทะนัง ปะฏิสัลลานารามัตถังฯ เพียงเพื่อบรรเทาอันตรายทั้งหลาย อันเกิดจากดินฟ้าอากาศ เพื่อให้ยินดี ในการลีกเร้นสำหรับภาวนาฯ อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา โย คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโร ปะริภุตโต ยาแก้ไข้นี้ใด อันเราไม่ได้พิจารณาแล้ว ใช้สอยแล้วในวันนี้ โส ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิกานัง เวทะนานัง ปะฏิฆาตายะ, เพียงเพื่อกำจัดเวทนาทั้งหลาย อันบังเกิดแต่อาพาธต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว อัพยาปัชฌะปะระมะตายาติ ฯ เพื่อไม่ให้ถูกเบียดเบียนเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้แล


อุททิสสะนะคาถา (นำ) หันทะ มะยัง อุททิสสะนะคาถาโย ภะณามะ เส. (รับ) อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยบุญนี้อุทิศให้ อุปัชฌายา คุณุตตะรา อุปัชฌาย์ผู้เลิศคุณ อาจะริยูปะการา จะ แลอาจารย์ผู้เกื้อหนุน มาตา ปิตา จะ ญาตะกา ปิยา มะมัง ทั้งพ่อแม่แลปวงญาติ สุริโย จันทิมา ราชา สูรย์จันทร์และราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ ผู้ทรงคุณหรือสูงชาติ พรัหมะมารา จะ อินทา จะ พรหมมาร และอินทราช โลกะปาลา จะ เทวะตา ทั้งทวยเทพ โลกบาล ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ ยมราช มนุษย์มิตร มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ ผู้เป็นกลางผู้จองผลาญ สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ขอให้เป็นสุขสานต์ ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน ปุญญานิ ปะกะตานิ เม บุญผองที่ข้าทำจงช่วยอำนวยศุภผล สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ ให้สุขสามอย่างล้น ขิปปัง ปาเปถะ โวมะตัง ให้ลุถึงนิพพานพลัน อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยบุญนี้ที่เราทำ อิมินา อุททิเสนะ จะ แลอุทิศให้ปวงสัตว์ ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ เราพลันได้ซึ่งการตัด ตัณหุปาทานะเฉทะนัง ตัวตัณหา อุปาทาน เย สันตาเน หินา ธัมมา สิ่งชั่วในดวงใจ ยาวะ นิพพานะโต มะมัง กว่าเราจะถึงนิพพาน นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ มลายสิ้นจากสันดาน ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว ทุก ๆ ภพที่เราเกิด อุชุจิตตัง สะติปัญญา มีจิตตรงและสติทั้งปัญญาอันประเสริฐ สัลเลโข วิริยัมหินา พร้อมทั้งความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขุดกิเลสหาย มารา ละภันตุ โนกาสัง โอกาสอย่าพึงมีแก่หมู่มารสิ้นทั้งหลาย กาตุญจะ วิริเยสุ เม เป็นช่องประทุษร้ายทำลายล้างความเพียรจม พุทโธ ทีปะวะโร นาโถ พระพุทธ ผู้บวรนาถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม พระธรรมที่พึ่งอุดม นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ พระปัจเจกะพุทธะสมทบ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง พระสงฆ์ที่พึงผยอง เตโสตตะมานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพนั้น มาโรกาสัง ละภันตุ มา ขอหมู่มารอย่าได้ช่อง ทะสะปุญญานุภาเวนะ ด้วยเดชบุญทั้งสิบป้อง มาโรกาสัง ละภันตุ มา อย่าเปิดโอกาสแก่มาร เทอญ

คำสมาทานวิปัสสนากัมมัฏฐาน อุกาสะ อุกาสะ ณ โอกาสบัดนี้ ข้าพเจ้า ขอสมาทานเอาซึ่งพระกัมมัฏฐาน ขอขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ และวิปัสสนาญาณ จงบังเกิดมีในขันธสันดานของข้าพเจ้า ๆ จะตั้งสติกำหนดไว้ที่รูปยืน ในขณะยืน โดยกำหนดว่ารูปยืน จะตั้งสติกำหนดไว้ที่รูปก้าว ในขณะก้าว โดยกำหนดว่ารูปก้าว จะตั้งสติกำหนดไว้ที่รูปนั้ง ในขณะนั้ง โดยกำหนดว่ารูปนั้ง จะตั้งสติกำหนดไว้ที่รูปนอน ในขณะนอน โดยกำหนดว่ารูปนอน เป็นต้น ด้วยความไม่ประมาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญ

คำแผ่เมตตา อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอเดชะตั้งจิตอุทิศผล บุญกุศลแผ่ไปให้ไพศาล ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ อีกวงศ์วารญาติมิตรสนิทชน คนเคยร่วมเคยรักสมัครใคร่ ขอจงได้ในกุศลผลของฉัน ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ ขอทุกท่านได้กุศลผลนี้เทอญ ฯ สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น อะเวรา จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อัพยาปัชฌา จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

คำอธิษฐานจิต ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจอธิษฐาน อ้างอิงเอง บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำบำเพ็ญมาแล้วในวันนี้จงเป็นพลวปัจจัย เป็นอุปนิสัยตามส่ง ให้เกิดสติปัญญาญาณ ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ตลอดชาติอย่ายิ่ง ได้แก่ ความพ้นทุกข์ คือ พระนิพพานเทอญ ฯ

คำถวายพระราชกุศล ฯ อนึ่ง ข้าพเจ้าทั้งหลาย ของน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศานุวงศ์ทุก ๆ พระองค์ จงทรงพระเกษมสำราญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรทั้งหลายตลอดไปเทอญฯ คำนมัสการพระธาตุพนม ปุริมายะ ทักขิณายะ ปัจฉิมายะ อุตตะรายะ เหฏฐิมายะ อุปะริมายะ ทิสายะ กะปะณะคิริสมิง ปัพพะเต มะหากัสสะเปนะ ฐาปิตัง พุทธะอุรังคะธาตุง สิระสา นะมามิ สุวัณณะระชะตัง ระตะนัง ปะณีตัง พุทธะอุรังคะเจติยัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ

โมระปะริตตัง

อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะรัสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ

คาถาจุดเทียนชัย

พุทโธ สัพพัญญุตะญาโน ธัมโม โลกุตตะโร วะโร นะวะ สังโฆ มัคคะผะลัฎโฐ อิจเจตัง ระตะนัตตะยัง เอตัสสัง อานุภาเวนะ สัพพันตะรายา วินสสันตุ สัพพะทา เอเตสัญจะ อานุภาเวนะ สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา สัพพะสัตตู นัสสันตุ สัพพะทา ฯ มะหาเถเร ปะมาเถนะ ทะวาระตะเย นะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถุ โน ภันเต. ขมามะ ภันเต. บูชารอยพระพุทธบาท วันทามิ พุทธัง ภะวะปาระติณณัง ติโลกะเกตุง ติภะเวกะนาถัง โย โลกะเสฏโฐ สะกะลังกิเลสัง เฉตะวานะ โพเธสิ ชะนัง อะนันตัง ยัง นัมมะทายะ นะทิยา ปุลิเน จะ ตีเร ยัง สัจจะพันธะคิริเก สุเมนา จะลัคเค ยัง ตัตถะ โยนะกะปุเร มุนิโน จะ ปาทัง ตัง ปะทะลัญชะนะมะหังสิระสา นะมามิ สุวัณณะมาลิเก สุวัณณะปัพพะเต สุมะนะกูเฏ โยนะกะปุเร นัมมะทายะ นะทิยา ปัญจะปาทะวะรัง ฐานัง อะหัง วันทามิ ทูระโตฯ อิจเจวะมัจจันตะ นะมัสสะเนยยะ นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุภาเวนะ หะตันตราโยฯ อามันตะยามิ โว ภิกขะเว ปฏิเวทะยามิ โว ภิกขะเว ขะยะวะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติฯ บูชาพระเจดีย์พระศรีมหาโพธิ์ อุกาสะ วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัง สัพพัตถะ ฐาเน สุปะติฏฐิตัง สารีริกะธาตุง มะหาโพธิง พุทธะรูปัง สะกะลัง วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทา เม เต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา ฯ คารวะครูอาจารย์ อุกาสะ วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ หน) โย สันนิสินโน วะระโพธิมูเล มารัง สะเสนัง สุขิตัง วิเชยยะ สัมโพธิมาคัจฉิ อะนันตัญาโณ โลกุตตะโม ตัง ปะณะมามั พุทธัง เย จะ พุทธา อะตีตา จะ เย พุทธา อะนาคะตา ปัจจุปปันนา จะ เย พุทธา อะหัง วันทามิ สัพพะทา อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง ปาทะปังสุง วะรุตตะมังเคนะ วันเทหัง ปาทะปังสุง วะรุตตะมัง พุทเธ โย ขะลิโต โทโส พุทโธ ขะมะตุ ตัง มะมัง กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ ฯ

อัฏฐังคิโก อะริยะปะโถ ชะนานัง โมกขัปปะเวสายะ อุชู จะ มัคโค ธัมโม อะยัง สันติกะโร ปะณีโต นิยยานิโก ตัง ปะณะนามิ ธัมมัง เย จะ ธัมมา อะตีตา จะ เย จะ ธัมมา อะนาคะตา ปัจจุปปันนา จะ เย ธัมมา อะหัง วันทามิ สัพพะทา สวากขาโต ภะคะวะโต ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง ธัมมัญจะ ทุวิธัง วะรัง ธัมเม โย ขะลิโต โทโส ธัมโม ขะมะตุ ตัง มะมัง

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง ธัมโม ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม ฯ

สังโฆ วิสุทโธ วะระทักขิเณยโย สันตินทริโย สัพพะมะลัปปะหีโน คุเณหิ เนเกหิ สะมิทธิปัตโต อะนาสะโว ตัง ปะณะมามิ สังฆัง เย จะ สังฆา อะตีตา จะ เย จะ สังฆา อะนาคะตา ปัจจุปปันนา จะ เย สังฆา อะหัง วันทามิ สัพพะทา สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญังเขตตัง โลกัสสาติ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง สังฆัญจะ ทุวิธุตตะมัง สังเฆ โย ขะลิโต โทโส สังฆัง ขะมะตะ ตัง มะมัง อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยังยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย.

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง สังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ ฯ

ทำวัตรแบบสรภัญญะ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ (นำ) องค์ใดพระสัมพุทธ (รับ) สุวิสุทธสันดาน ตัดมูลกิเลสมาร บ มิหม่นมิหมองมัว หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร โปรดหมู่ประชากร มละโอฆกันดาร ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมศานต์ ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ ข้าขอประนตน้อม ศิระเกล้าบังคมคุณ สัมพุทธการุญ- ญ ภาพนั้นนิรันดร(กราบ)

บทสวดพระธรรมคุณ

(นำ) สะหวากขาโต (รับ) ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ

บทสวดพระธรรมคุณทำนองสรภัญญะ (นำ) ธรรมะคือคุณากร (รับ) ส่วนชอบสาธร ดุจดวงประทีปชัชวาล แห่งองค์พระศาสดาจารย์ ส่องสัตว์สันดาน สว่างกระจ่างใจมล ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล และเก้ากับทั้งนฤพาน สมญาโลกอุดรพิสดาร อันลึกโอฬาร พิสุทธิ์พิเศษสุกใส อีกธรรมต้นทางครรไล นามขนานขานไข ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง คือทางดำเนินดุจคลอง อันล่วงลุปอง ยังโลกอุดรโดยตรง ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์ นบธรรมจำนง ด้วยจิตและกายวาจา (กราบ) บทสวดพระสังฆคุณ (นำ) สุปฏิปันโน (รับ) ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโนภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชลี กะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ บทสวดพระสังฆคุณทำนองสรภัญญะ (นำ) สงฆ์ใดสาวกศาสดา (รับ) รับปฏิบัติมา แต่องค์สมเด็จภัควันต์ เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- ลุทางที่อัน ระงับและดับทุกข์ภัย โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร ปัญญาผ่องใส สะอาดและปราศมัวหมอง เหินห่างทางข้าศึกปอง บ มิลำพอง ด้วยกายและวาจาใจ เป็นเนื้อนาบุญอันไพ- ศาลแด่โลกัย และเกิดพิบูลย์พูนผล สมญาเอารสทศพล มีคุณอนนต์ อเนกจะนับเหลือตรา ข้าขอนบหมู่พระศรา- พกทรงคุณา นุคุณประดุจรำพัน ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ พระไตรรัตน์อัน อุดมดิเรกนิรัติศัย ขอจงขจัดโภยภัย อันตรายใดใด จงดับและกลับเสื่อมสูญ (กราบ)

บทสวดชัยสิทธิคาถา (นำ พาหุง (รับ) สะหัสสะมะภินิม มิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเต ชะยะสิทธินิจจัง บทสวดชัยสิทธิคาถาทำนองสรภัญญะ (นำ) ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุท- (รับ)ธะวิสุทธะศาสดา ตรัสรู้อะนุตตะระสะมา- ธิ ณ โพธิบัลลังค์ ขุนมารสะหัสสะพาหุพา- หุวิชาวิชิตขลัง ขี่คีริเมขละประทัง คะชะเหี้ยมกระเหิมหาญ แสร้งเสกสะราวุธะประดิษฐ์ กะละคิดจะรอนราญ รุมพลพะหลพะยุหะปาน พระสมุททะนองมา หวังเพื่อผจญวะระมุนิน- ทะสุชินะราชา พระปราบพะหลพะยุหะมา ระมะเลืองมลายสูญ ด้วยเดชะองค์พระทศพล สุวิมละไพบูลย์ ทานาทิธัมมะวิธิกูล ชนะน้อมมะโนตาม ด้วยเดชะสัจจะวัจนา และนะมามิองค์สาม ขอจงนิกรพละสยาม ชะยะสิทธิทุกวาร ถึงแม้จะมีอะริวิเศษ พละเดชะเทียมมาร ขอไทยผจญพิชิตะผลาญ อะริแม้นมุนินทร (กราบ ๓ ครั้ง)

อะภิณหะปัจจะเวกขะณะปาฐะ หันทะ มะยัง อะภิณหะปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส. ชะราธัมโมมหิ ชะรัง อะนะตีโต เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ พยาธิธัมโมมหิ พยาธิง อะนะตีโต เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ มะระณะธัมโมมหิ มะระณัง อะนะตีโต เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น กัมมัสสะโกมหิ เรามีกรรมเป็นของตน กัมมะทายาโท เรามีกรรมเป็นมรดก กัมมะโยนิ เรามีกรรมเป็นกำเนิด กัมมะพันธุ เรามีกรรมเป็นพวกพ้วง กัมมะปะฏิสะระโณ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ยัง กัมมัง กะริสสามิ เราจักทำกรรมอันใดไว้ กัลยาณัง วา ดีหรือก็ตาม ปาปะกัง วา ชั่วก็ตาม ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ๆ เอวัง อัมเหหิ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง เราทั้งหลายควรพิจารณาอน่างนี้ทุกวัน ๆ วัน เทอญ


นมัสการพระอรหันต์ ๘ ทิศ (นำ) หันทะ มะยัง สะระภัญเญนะ พุทธะมังคะละคาถาโย ภะณามะ เส ฯ (รับ) สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ อาคะเนยเย จะ กัสสะโป สารีปุตโต จะ ทักขิเณ หะระติเย อุปาลี จะ ปัจฉิเมปิ จะ อานันโท พายัพเพ จะ คะวัมปะติ โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร อิสาเณปิ จะ ราหุโล อิเม โข มังคะลา พุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา วันทิตา เต จะ อัมเหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน ฯ อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย ฯ

โอวาทปาฏิโมกขคาถา (นำ) หันทะ มะยัง โอวาทะปาฏิโมกขะคาถาโย ภะณามะ เส ฯ (รับ) สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง การไม่ทำบาปทั้งปวง กุสะลัสสูปะสัมปะทา การยังกุศลให้ถึงพร้อม สะจิตตะปะริโยทะปะนัง การยังจิตของตนให้ผ่องใส เอตัง พุทธานะสาสะนัง ธรรมทั้งสามอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา ขันติ คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา ผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า พระนิพพานเป็นธรรมอันยิ่ง นะ หิ ปัพพาชิโต ปะรูปะฆาตี ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่ ไม่ชื่อว่า เป็นบรรพชิตเลย สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต การไม่พูดร้าย การไม่ทำร้าย ปาฏิโมกเข จะ สังวะโร การสำรวมในพระปาฏิโมกข์ มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง ความเป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง การนอนการนั้งในที่อันสงัด อะธิจิตเต จะ อาโยโค การหมั่นประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง เอตัง พุทธานะสาสะนัง ธรรมทั้งหกอย่างนี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

พิจารณาสังขาร มนุษย์เราเอ๋ย เกิดมาทำไม นิพพานมีสุข อยู่ไยมิไป ตัณหาหน่วงหนัก หน่วงชักหน่วงไว้ ผู้ไปมิได้ ตัณหาผูกพัน ห่วงนั้นพันผูก ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงทรัพย์ศฤงคาร จงสละเสียเถิด จะได้ไปนิพพาน ข้ามพ้นภพสาม ยามหนุ่มสาวน้อย หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ แก่เฒ่าหนังยาน แต่ล้วนเครื่องเหม็น เอ็นใหญ่เก้าร้อย เอ็นน้อยเก้าพัน มันมาทำเข็ญใจ ให้ร้อนให้เย็น เมื่อยขบทั้งตัว ขนคิ้วก็ขาว นัยน์ตาก็มัว ผมอยู่บนหัว ดำแล้วกลับหงอก หน้าตาเว้าวอก ดูน่าบัดสี จะลุกก็โอย จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรย ไม่มีเกสร จะเข้าที่นอน พร่ำสอนภาวนา ว่าอนิจจัง วะตะ สังขารา มนุษย์เกิดมา มีแต่จะตาย ผู้ดีเข็ญใจ ก็ตายเหมือนกัน เงินทองทั้งนั้น มิติดตัวไป ตายไปเป็นผี ลูกเมียผัวรัก เขาชักหน้าหนี เขาเหม็นซากผี เปื่อยเน่าพุพอง หมู่ญาติพี่น้อง เขาหามเราไป เขาวางลงไว้ เขานั่งร้องไห้ แล้วกลับคืนมา อยู่แต่ผู้เดียว ป่าไม้ชายเขียว เหลียวไปไม่เห็นใคร เห็นแต่ฝูงแร้ง เห็นแต่ฝูงกา เห็นแต่ฝูงหมา ยื้อแย่งกัดกิน ดูน่าสมเพช กระดูกกูเอ๋ย เรี่ยรายแผ่นดิน แร้งกาหมากิน เอาเป็นอาหาร เที่ยงคืนสงัด ตื่นขึ้นมินาน ไม่เห็นลูกหลาน พี่น้องเผ่าพันธุ์ เห็นแต่นกเค้า จับเจ่าเรียงกัน เห็นแต่นกแสก ร้องแรกแหกขวัญ เห็นแต่ฝูงผี ร้องไห้หากันกัน มนุษย์เราเอ๋ย อย่าหลงนักเลย ไม่มีแก่นสาร อุตส่าห์ทำบุญ ค้ำจุนเอาไว้ จะได้ไปสวรรค์ จะได้ทันพระพุทธเจ้า จะได้เข้าพระนิพพาน. อะหัง วันทามิ สัพพะโส อะหัง วันทามิ นิพพานะปัจจะโย โหตุ ขอขมาพ่อแม่ ธูปเทียนพานดอกไม้ ยกขึ้นไหว้เพื่อขอขมา (ซ้ำ) กรรมใดลูกเคยทำ เลวระยำหยาบต่ำช้า (ซ้ำ) กรรมนั้นกายวาจา เจตนาทำผิดไป (ซ้ำ) ต่อไปไม่ทำอีกแล้ว ตั้งใจแน่วต่อพระศาสนา (ซ้ำ) แทนคุณบิดามารดา ลูกขอลาบวชแทนคุณ (ซ้ำ) ลาแล้วลูกขอลา สู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ (ซ้ำ) ขอพรคุณพ่อแม่ โปรดได้แผ่ใจการุณ (ซ้ำ) อบรมบ่มนิสัย ฝึกกายใจให้ดีงาม (ซ้ำ) ทำตามพระพุทธพระธรรม พระสงฆ์นำให้ทำดี (ซ้ำ)

พระคุณแม่ แม่สละสวยสละสาวคราวอุ้มท้อง แม่ไม่ร้องแม่ไม่บ่นแม่ทนได้ แม่เฝ้าถนอมจนครรภ์แก่แม่เต็มใจ จะหาใครเหมือนแม่แพ้ทุกคน ครบสิบเดือนเคลื่อนคลอดรอดชีวิต แม่ไกล้ชิดลูกน้อยคอยฝึกฝน แม่ลำบากอย่างไรใจแม่ทน สายเลือดข้นเต้าแม่กลั่นปันลูกกิน แม่ป้องริ้นป้องไรมิให้ผ่าน แม่สงสารห่วงลูกยากว่าทรัพย์สิน แม่เห่กล่อมยามนิทราเป็นอาจิณ แม่ไม่ผินแม่ไม่ฝันทุกวันมา ยามลูกสุขแม่สุขสมอารมณ์ชื่น ยามลูกขื่นแม่ขมระทมกว่า ยามลูกไข้แม่อดนอนร้อนอุรา ยามลูกยาอับโชคแม่โศกใจ คราลูกหิวแม่หิวกว่าน้ำตาร่วง แม่เป็นห่วงดิ้นรนหาเอามาให้ ถึงแม่อดหมดข้าวปลาไม่ว่าไร แม่สละได้ลูกอิ่มแปล้แม่ทนเอา ใครไหนเล่าเฝ้าอบรมบ่มนิสัย แม่เติบใหญ่ไม่ท้อถอยคอยนั่งเฝ้า พระคุณเลิศลูกโศกศัลย์ช่วยบรรเทา ใครไหนเล่ารักมั่นแท้แม่ฉันเอง

ระลึกถึงวันเกิด งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้ หญิงแก่ ๆ นั่งหงอยและคอยหาย โอ้วันนั้นเป็นวันอันตราย แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์ วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่ เจ็บท้องแท้เท่าไหร่มิได้บ่น แม่อุ้มท้องกว่าจะคลอดรอดเป็นคน เติบโตจนบัดนี้นี่เพราะใคร แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น กลับเป็นวันลูกฉลองกันผ่องใส ได้ชีวิตแล้วก็หลงระเริงใจ ลืมผู้ให้ชีวิตอนิจจา ไฉนจึงเรียกกันว่าวันเกิด วันผู้ให้กำเนิดจะถูกกว่า คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา ให้มารดาคุณเป็นสุขจึงถูกแท้ เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ ควรที่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่ ระลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด อย่ามัวแต่จัดงานประจานตัว คำขอขมาลาโทษพ่อ แม่ โทษกรรมใดที่ลูกได้สะหรั่งพลั้งพลาด ประมาทลืมหลง ด้วยกายวาจาและจิตใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งที่มีเจตนาและหาเจตนามิได้ อันเป็นมูลเหตุทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียใจ ร้องให้หลั่งน้ำตา เพราะการกระทำไม่ดีของลูก ลูกขอกราบอโหสิกรรมไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย ลูกขอกราบอโหสิกรรมไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย ลูกขอกราบอโหสิกรรมไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย บุญใดกุศลใด ที่ลูกได้กระทำบำเพ็ญมาแล้วในวันนี้ เป็นต้นว่าไหว้พระสวดมนต์ เจริญเมตตาภาวนา ลูกขอน้อมบูชาคุณของคุณพ่อคุณแม่ ขอให้คุณพ่อคุณแม่จงได้โปรดอนุโมทนาสาธุการในบุญกุศลที่ลูกได้กระทำบำเพ็ญมาแล้วในวันนี้ เสมือนหนึ่งว่า คุณพ่อคุณแม่ได้กระทำด้วยตนเอง และลูกขอให้สัจจะสัญญาว่า จะตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติตน เป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นพสกนิกรที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีของพระพุทธศาสนาตลอดไป สุภาษิตสอนใจ ทางเจ็ดสาย ๑. ทางไปนรกได้แก่โทสะ ๒. ทางไปเปรต-อสุรกายได้แก่โลภะ ๓. ทางไปสัตว์เดรัจฉานได้แกโมหะ ๔. ทางไปมนุษย์ได้แก่ศีลห้า กุศลกรรมบถสิบ ๕. ทางไปสวรรค์ได้แก่มหากุศลแปด ๖. ทางไปพรหมโลกได้แก่สมถะกัมมัฏฐาน ๗. ทางไปพระนิพพานได้แก่เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน

เพชรในดวงใจ เสียสละ สามัคคี มีสัจจะ มีวินัย ใจเยือกเย็น เป็นบัณฑิต จิตสู้ตาย คลายทิฏฐิ ดำริชอบ กอรปกุศล ผลอนันต์ คนใจเพชร ขยันเอาการ งานสะอาด ฉลาดรอบคอบ ชอบระวัง ตั้งใจตรง ทรงศีลธรรม นำทางถูก ปลูกสติ ดำริชอบ กอปรเอาเพชร เด็ดไปเลย สูตรของคน เกิดเป็นคน คนให้ทั่ว ปากไม่ล้น ก้นไม่รั่ว ชั่วไม่เอา เมาไม่มี นี้คือคน เรื่องของคน คนดีชอบแก้ใข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนชั่วชอบทำราย คนมักง่ายชอบทิ้ง คนจริงชอบทำ คนระยำชอบติ คนอุตตริ ชอบพาลหาเรื่อง คนจะครองบ้านครองเมือง ต้องมีพรหมวิหาร คนอันธพาล เป็นคนหนักแผ่นดิน คนไม่มีที่มีถิ่น เป็นภัยต่อสังคม คนอุดมด้วยธรรม นำมาแต่ความสุข รักกัน ดีกว่า ชังกัน พร้อมเพรียงกัน ดีกว่า แตกแยกกัน ทำดีใส่ตัว ดีกว่า ทำชั่วใส่ตัว สร้างมิตรไว้ ดีกว่า สร้างศัตรู ขี้เกียจเป็นแมลงวัล ขยันเป็นแมลงผึ้ง ชั่วเป็นพวกของผี ดีเป็นพวกของพระ ชั่วเป็นขี้ ดีเป็นแก้ว นอนนานงานน้อย ใช้บ่ายเงินหมด เงินมีหน้าสด เงินหมดหน้าแห่ง คนขยันชอยทำงาน คนเกียจคล้านชอบนอน คำกลอนสุภาษิต จงอ่อนน้อมถ่อมตนให้คนรัก อย่าเห่อศักดิ์ทะนงตัวจะมัวหมอง เพราะถ่อมลงสูงระหงเป็นพงศ์ทอง แต่จองหองใฝ่สูงถูกจูงลง มียศศักดิ์สูงเยี่ยมจงเจียมจิต อย่ามัวคิดฟุ้งเฟ้อละเมอหลง รู้ประมาณดีจริงเกียรยิ่งยง ยิ่งถ่อมลงยิ่งเฟื่องกระเดืองนาม ยิ่งทะนงองอาจชาติคนหลง ยิ่งทะนงยิ่งเร้าให้เขาหยาม ยิ่งหัวสูงมุ่งใหญ่ยิ่งใจทราม ยิ่งลวนลามยิ่งด้อยเสื่อมถอยลง วัดจะดีมีหลักฐานเพราะบ้านช่วย บ้านจะสวยเพราะมีวัดดัดนิสัย บ้านกับวัดพลัดกันช่วยก็อวยชัย ถ้าขัดกันก็บรรลัยทั้งสองทาง วัดจะดีใช่ว่าดีที่โบสถ์สวย หรือร่ำรวยด้วยทรัพย์อสงไขย วัดจะดีเพราะพระเณรเก่งเคร่งวินัย ยึดหลักชัยอรหันต์เป็นสันดาน เป็นชาวพุทธหยุดทำซึ่งกรรมชั่ว เร่งสร้างตัวแต่กรรมดีมีกุศล มุ่งทำใจใสสะอาดปราศหมองมล เป็นธรรมของทศพลวิมลญาณ การทำบุญใช่ขนทุนชี้อบุญได้ บุญมิใช่ซื้อหาเป็นค่าของ การทำใจใสสะอาดปราศละออง เป็นครรลองของบุญทุนไม่เปลือง เหงือพ่อแม่แต่ละหยาดสาดเพื่อลูก จิตหวังปลูกอนาคตให้สดใส ลูกรู้คุณผลบุญส่งผลอำไพ เศร้าตรอมใจในเมื่อลูกถูกมลทิน ถึงลูกจนพอทนได้ไม่ทุกข์หนัก เท่าลูกรักประพฤติตนเป็นคนชั่ว แม้ลูกตายคลายโศกได้ไม่หมองมัว หากลูกตัวชั่วระยำซ้ำจนตาย กตัญญูกตเวทีแสนดีเลิศ เป็นเครื่องเชิดชูสง่าเพิ่มราศี เป็นรากแก้วขวัญตนของคนดี เป็นสักขีชี้ให้เป็นว่าเป็นคน คนมีอัธยาศัยน้ำใจเอื้อ ใครช่วยเหลือกิจใดเท่าใบหญ้า ย่อมรู้สึกเป็นคุณหนุนนำมา กล่าววาจาชื่นชอบขอขอบคุณ คนมีอัธยาศัยน้ำใจต่ำ หัวใจดำไม่เอื่อไร้เกื้อหนุน ใครละชีพช่วยเหลือเข้าเจือจุน เขายิ่งวุ่นขุ่นใจเป็นไพรี คนอกตัญญูไม่รู้คุณ ถึงการุณเช้าค่ำพร่ำว่าขาน แม้หยิบทรัพย์นับให้ทั้งจักรวาล ไม่เนินนานหน่อยจิตกลับคิดร้าย อย่าเบื่อหน่ายอาจารย์ที่ดุด่า อย่าเบื่อหน่ายตำราน่าเวียนหัว อย่าเบื่อหน่ายไม่เลียวอันน่ากลัว อย่าไปมัวระเริงสุขจะทุกข์ใจ ถ้าคล้านเรียนเรียนอะไรก็ไม่รู้ ถ้าคล้านดูดูอะไรก็ไม่เห็น ถ้าคล้านทำทำอะไรก็ไม่เป็น จึงลำเค็ญเป็นขอทานเพราะคร้านเอย ถ้าหมั่นเรียนเรียนอะไรก็ต้องรู้ ถ้าหมั่นดูดูอะไรก็ต้องเห็น ถ้าหมั่นทำทำอะไรก็ต้องเป็น ถ้าไม่เล่นหมั่นแต่ทำจักจำเริญ จะขยันหมั่นเพียรเรียนหนังสือ จะไม่ดื้อถือรั้นทำหันหุน จะเคารพนพน้อมครูผู้มีคุณ จะค้ำจุนสกุลไว้ให้มั่นคง จะพูดจาปราศรัยไม่โอหัง จะเชื่อฟังผู้ใหญทไม่ลุ่มหลง จะฝึกตนจนฉลาดและอาจอง จะเป็นใหญ่ไม่ทะนงหลงลืมตน เมื่อทำดีมีคนคิดคอยอิจฉา คอยขอดว่านินทราร้ายไร้เหตุผล ทำอย่างไรก็ไม่สิ่นเล่ห์ลิ้นคน อย่ากังวลคนอิจฉาถ้ารักงาน ช่างเถิดใครชังใครชอบ ใครนอบใครหนีช่างเขา ใครเบื่อใครบ่นทนเอา ใจเราพ้นทุกข์สุขเอย เอาความดีเป็นแกนกลางทางชีวิต เอาความคิดเป็นเครื่องช่วยอำนวยผล เอาแรงกายเป็นกลไกภายในตน นี่แหละคนมีค่าราคางาม ฝูงลิงค่างกลางป่าจับมามัด สารพัดฝึกหัดได้จังใจหมาย เรานักเรียนครูเพียนสอนแทบตาย เกิดเป็นคนเอาดีไม่ได้ก็อายลิง อันโคควายเลี้ยงไว้ใช้งานไถ เมื่อตายไปเนื้อและหนังยังให้ผล วิสัยพาลพาลเพียรเบียดเบียนคน ประพฤติตนไร้ค่าเลวกว่าควาย อันแมวดีหมาดีมีคนรัก เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงไว้ในเคหา เป็นคนดีย่อมไม่จนคนเมตตา หมั่นอุตสาห์สร้างดีไว้ให้คนปอง สุภาษิตท้ายทบ ทำใจให้สะอาดเวลาเช้า ทำใจให้ขาวเวลาเพล ทำใจให้เย็นเวลาค่ำ ทำใจให้ชุ่มฉ่ำเวลากลางคืน ทำใจให้สดชื่นเวลารุ่งอรุณ ใจเร่าร้อนเป็นคน ใจกังวลเป็นเป็นผีบ้า ใจกล้าเป็นนักรบ ใจสงบเป็นนักปราชญ์ ใจฉลาดเป็นบัณฑิต ใจไม่ยึดไม่ติดเป็นนิพพาน อย่าโกรธคนสอน อย่านอนตืนสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยแต่วาสนา จะพาฉิบหาย โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่า จะได้ไม่บ้าไม่โง่ โกรธให้เขา เหมือนจุดไฟเผาตัวเอง ฆ่าสัตว์ได้โทษ ฆ่าความโกรธได้บุญ มีทุกข์เพราะยึด ทุกข์ยืดเพราะอยาก ทุกข์มากเพราะพลอย ทุกข์น้อยเพราะหยุด ทุกข์หลุดเพราะปล่อย อยากจึงยาก ยิ่งอยากก็ยิ่งยาก หยุดยากยากก็หยุด หยาดเหงือของพ่อแม่ คือ กระแสแห่งความหวัง ความสำเร็จของลูก คือ ความสุขของพ่อแม่ อ่านตัวเองให้ออก บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น เห็นตัวเองให้ชัด ปฏิบัติตัวเองให้ถูก กินเหล้าเขาดูถูก เมียและลูกก็เดือดร้อน รักลูกเมียให้เลิกเมา รักเหล้าข้าวอย่ากิน เมาเหล้าเสียการงาน เมานานนานเสียสุขภาพ อดทน ข่มใจ ใจเย็นเย็น พอทนได้ ไม่ตายแล ชิตัง เม ชิตัง เม ชิตัง เม สาธุ สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ อานิสงส์ของการบวช ๔ อย่าง คือ ๑. ฉันบวชเพื่อพ่อแม่ฉันนั้นเป็นสุข ๒. ฉันบวชเพื่อความทุกข์พอจางหาย ๓. ฉันบวชเพื่ออบรมบ่มใจกาย ๔. ฉันบวชเพื่อมุ่งหมายเป็นคนดี ประโยชน์ของการทำวัตรสวดมนต์มี ๖ อย่าง คือ ๑. ได้กล่าวภาษิตเป็นมงคล ๒. ได้ผลพัฒนาความจำ ๓. ได้ทำสติเจริญยิ่ง ๔. ได้จิตนิ่งเป็นสมาธิ ๕. ได้ผลิปัญญารู้เห็น ๖. ได้บำเพ็ญบุญกุศลที่ถูกต้อง ประโยชน์ของการเดินจงกรมมี ๕ อย่าง คือ ๑. ทำให้การเดินทางอดทนมาก ๒. ทำให้มีความพากเพียรดี ๓. ทำให้เป็นผู้มีโรคน้อย ๔. ทำให้ย่อยอาหารได้ดี ๕. ทำให้สมาธิตั้งมั่นอยู่ได้นาน ประโยชน์ของสมาธิมี ๘ อย่างคือ ๑. จิตแจ่มใสใจเบิกบาน ๒. ทำงานผิดพลาดน้อยลง ๓. ทรงความจำ ๔. ทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย ๕. คลายความเครียด ๖. ไม่เบียดเบียนกัน ๗. ศรัทธามั่นในพระรัตนตรัย ๘. มีใจเมตตากรุณาต่อสังคม ขี้เกียจเป็นแมลงวัล แมลงวันมีสิ่งไม่ดี ๕ อย่าง คือ ๑. ชอบสิ่งสกปรก ๒. มีเชื้อโรคในตัว ๓. ชอบเกลือกกลั้วอาหาร ๔. ก่อความลำคาญให้แก่คน ๕. เป็นต้นเหตุแห่งหนอน ขยันเป็นแมลงผึ้ง แมลงผึ้งมีดี ๕ อย่าง คือ ๑. ขยันหากิน ๒. บินไม่สูงนัก ๓. รักความสะอาด ๔. ฉลาดสะสม ๕. นิยมความสามัคคี ผี ผี ผี ผีขี้เกียจเสนียดจัญไร อยู่กับใครบรรลัยฉิบหาย อยู่กับหญิงทำสิ่งวอดวาย อยู่กับชายทำลายครอบครัว อยู่กับพระกับเณรก็ทำความชั่ว ถ้าใครกลัวก็ไล่ออกไป ผีร้าย ๖ ตัว ผีที่ ๑ ชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลาเป็นอาหาร ผีที่ ๒ ชอบเที่ยวยามวิกาล ไม่รักบ้านรักลูกรักเมียตน ผีที่ ๓ ชอบตามดูการละเล่น ไม่ละเว้นบาร์คลับละครโขน ผีที่ ๔ ชอบคบคนชั่วมั่วกับโจร หนีไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน ผีที่ ๖ เกียจคร้านการทำกิน มีทั้งสิ้นหาผีอัปรีย์เอ๋ย ฯ กิจวัตร ๑๐ ประการ คือ ๑. การเดินบิณบาตร ๒. การกวาดลานวัด ๓. การปลงอาบัติ ๔. การทำวัตรสวดมนต์ ๕. การขวนขวายปัจจเวกขณ์ ๖. การอุปฏฐากครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ๗. การบริหารสิ่งของและร่างกาย ๘. การขวนขวายเรียนพระธรรมวินัย ๙. การใส่ใจในกิจของสงฆ์ ๑๐. การดำรงตนให้น่ากราบน่าไหว้ เยาวชนต้นแบบ ๑. ยึดมั่นกตัญญู ๒. ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ๓. มีความเพียรสม่ำเสมอ ๔. ไม่เผลอใจใฝ่ต่ำ ๕. เชื่อฟังคำผู้หลักผู้ใหญ่ ๖. รักไทยดำรงไทย ๗. ใส่ใจในโลกกว้าง ๘. ยึดแนวทางแห่งความดี ๙. รู้รักสามัคคีตลอดเวลา ๑๐. ใช้พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต

ทวัตติงสาการปาฐะ (นำ) หันทะ มะยัง ทวัตติงสาการะปาฐัง ภะณามะ เส (รับ) อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้แล อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา อะโธ เกสะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป ตะจะปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาดมีประการต่าง ๆ อัตถิ อิมัสมิง กาเย มีอยู่ในกายนี้ เกสา ผมทั้งหลาย โลมา ขนทั้งหลาย นะขา เล็บทั้งหลาย ทันตา ฟันทั้งหลาย ตะโจ หนัง มังสัง เนื้อ นะหารู เอ็นทั้งหลาย อัฏฐี กระดูกทั้งหลาย อัฏฐิมิญชัง เยื่อในกระดูก วักกัง ม้าม หะทะยัง หัวใจ ยะกะนัง ตับ กิโลมะกัง พังผืด ปิหะกัง ไต ปัปผาสัง ปอด อันตัง ไส้ใหญ่ อันตะคุณัง ไส้น้อย อุทะริยัง อาหารใหม่ กะรีสัง อาหารเก่า ปิตตัง น้ำดี เสมหัง น้ำเสลด ปุพโพ น้ำเหลือง โลหิตัง น้ำเลือด เสโท น้ำเหงือ เมโท น้ำมันข้น อัสสุ น้ำตา วะสา น้ำมันเหลว เขโฬ น้ำลาย สังฆาณิกา น้ำมูก ละสิกา น้ำมันไขข้อ มุตตัง น้ำมูตร มัตถะลุงคัง เยื่อมันสมอง อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้แล อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา อะโธ เกสะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป ตะจะปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาดมีประการต่าง ๆ อย่างนี้แล ฯ




บทเจริญพระพุทธมนต์ ชุมนุมเทวดา สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพานาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ ฯ ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ โย จักขุมา โมหะมะลาปะกัฏโฐ สามัง วะ พุทโธ สุคะโต วิมุตโต มารัสสะ ปาสา วินิโมจะยันโต ปาเปสิ เขมัง ชะนะตัง วิเนยยัง ฯ พุทธัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ โลกัสสะ นาถัญจะ วินายะกัญจะ ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ ฯ ธัมโม ธะโช โย วิยะ ตัสสะ สัตถุ ทัสเสสิ โลกัสสะ วิสุทธิมัคคัง นิยยานิโก ธัมมะธะรัสสะ ธารี สาตาวะโห สันติกะโร สุจิณโณ ฯ ธัมมัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ โมหัปปะทาลัง อุปะสันตะทาหัง ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ ฯ สัทธัมมะเสนา สุคะตานุโค โย โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะเชตา สันโต สะยัง สันตินิโยชะโก จะ สวากขาตะธัมมัง วิทิตัง กะโรติ ฯ สังฆัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ พุทธานุพุทธัง สะมะสีละทิฏฐิง ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ ฯ สัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก ปัญจะสะตะสะหัสสามิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ สัมพุทเธ ปัญจะปัญญาสัญจะ จะตุวีสะติสะหัสสะเก ทะสะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ สัมพุทเธ นะวุตตะระสะเต อัฏฐะจัตตาฬีสะสะหัสสะเก วีสะติสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ

นะโมการะอัฏฐะกะ นะโม อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ มะเหสิโน นะโม อุตตะมะธัมมัสสะ สวากขาตัสเสวะ เตนิธะ นะโม มะหาสังฆัสสาปิ วิสุทธะสีละทิฏฐิโน นะโม โอมาตยารัทธัสสะ ระตะนัตตะยัสสะ สาธุกัง นะโม โอมะกาตี ตัสสะ ตัสสะวัตถุตตะยัสสะปิ นะโม การัปปะภาเวนะ วิคัจฉันตุ อุปัททะวา นะโม การานุภาเวนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา นะโม การัสสะ เตเชนะ วิธิมหิ โหมิ เตชะวา ฯ

มังคะละสูตร อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ เอตาทิสานิ กัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ

ระตะนะสุตตัง ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

กะระณียะเมตตะสุตตัง กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติ สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง สุขิโน วา เขมิโน โหตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิยา รัสสะกา อะณุกะถูลา ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร ภูตา วา สัมภะเวสี วา สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข เอวัมปิ สัพพะภุเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ ฯ

บทสวดมนต์ขันธปริตร วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิเม ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิจะ อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิเม จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิเม มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพภูตาจะเกวะลา สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธรรมโม อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะ วันตานิ สิริงสะปานิ อะหิวิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิโสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานังติ ฯ

วัฏฏะกะปะริตตัง อิตถิ โลเก สีละคุโณ สัจจัง โสเจยยะนุททะยา เตนะ สัจเจนะ กาหามิ สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง อาวัชชิตวา ธัมมะพะลัง สะริตวา ปุพพะเก ชิเน สัจจะพะละมะวัสสายะ สัจจะกิริยะมะกาสะหัง สันติ ปักขา อะปัตตะนา สันติ ปาทา อะวัญจะนา มาตา ปิตา จะ นิกขันตา ชาตะเวทะ ปะฏิกกะมะ สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง มะหาปัชชะลิโต สิขี วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ อุทะกัง ปัตวา ยะถา สิขี สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ เอสา เม สัจจะปาระมีติ ฯ

อะภะยะปะริตตัง ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

เทวะตาอุยโยชะนะคาถา ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน เอตตาวะตา จะ อัมเหหิ สัมภะตัง ปุญญะสัมปะทัง สัพเพเทวานุโมทันตุ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ สีลัง รักขันตุ สัพพะทา ภาวะนาภิระตา โหนตุ คัจฉันตุ เทวะตา คะตา สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส ฯ

อาฏานาฏิยะปะริตตัง

วิปัสสิสสะ นะมัตถุ		จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต

สิขิสสะปิ นะมัตถุ สัพพะภูตานุกัมปิโน เวสสะภุสสะ นะมัตถุ นหาตะกัสสะ ตะปัสสิโน นะมัตถุ กะกุสันธัสสะ มาระเสนัปปะมัททิโน โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ พราหมะณัสสะ วุสีมะโต กัสสะปัสสะ นะมัตถุ วิปปะมุตตัสสะ สัพพะธิ อังคีระสัสสะ นะมัตถุ สักยะปุตตัสสะ สิรีมะโต โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง เย จาปิ นิพพุตาโลเก ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง เต ชะนา อะปิสุณา มะหันตา วีตะสาระทา หิตัง เทวะมะนุสสานัง ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง วิชชาจะระณะสัมปันนัง มะหันตัง วีตะสาระทัง ฯ (วิชชาจะระณะสัมปันนัง พุทธัง วันทามะ โคตะมันติ) นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยะปุงคะโว ฯ เอเต จัญเญ จะ สัมพุทธา อะเนกะสะตะโกฏะโย สัพเพ พุทธา อะสะมะสะมา สัพเพ พุทธา มะหิทธิกา สัพเพ ทะสะพะลูเปตา เวสารัชเชหุปาคะตา สัพเพ เต ปะฏิชานันติ อาสะภัณฐานะมุตตะมัง สีหะนาทัง นะทันเต เต ปะริสาสุ วิสาระทา พรัหมะจักกัง ปะวัตเตนติ โลเก อัปปะฏิวัตติยัง อุเปตา พุทธะธัมเมหิ อัฏฐาระสะหิ นายะกา ทวัตติงสะ ลักขะณูเปตา- สีตยานุพยัญชะนาธะรา พยามัปปะภายะ สุปปะภา สัพเพ เต มุนิกุญชะรา พุทธา สัพพัญญุโน เอเต สัพเพ ขีณาสะวา ชินา มะหัปปะภา มะหาเตชา มะหาปัญญา มะหัพพะลา มะหาการุณิกา ธีรา สัพเพสานัง สุขาวะหา ทีปา นาถา ปะติฏฐา จะ ตาณา เลณา จะ ปาณินัง คะตี พันธู มะหัสสาสา สะระณา จะ หิเตสิโน สะเทวะกัสสะ โลกัสสะ สัพเพ เอเต ปะรายะนา เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตะเม วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา สะทา สุเขนะ รักขันตุ พุทธา สันติกะรา ตุวัง เตหิ ตวัง รักขิโต สันโต มุตโต สัพพะภะเยนะ จะ สัพพะโรคะวินิมุตโต สัพพะสันตาปะวัชชิโต สัพพะเวระมะติกกันโต นิพพุโต จะ ตุวัง ภะวะ ฯ เตสัง สัจเจนะ สีเลนะ ขันติเมตตาพะเลนะ จะ เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะ จะฯ ปุรัตถิมัสมิง ทิสาภาเค สันติ ภูตา มะหิทธิกา เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะ จะ ทักขิณัสมิง ทิสาภาเค สันติ เทวา มะหิทธิกา เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะ จะ ปัจฉิมัสมิง ทิสาภาเค สันติ นาคา มิหิทธิกา เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะ จะ อุตตะรัสมิง ทิสาภาเค สันติ ยักขา มะหิทธิกา เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะ จะ ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทิกขิเณนะ วิรุฬหะโก ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง จัตตาโร เต มะหาราชา โลกะปาลา ยะสัสสิโน เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะ จะ อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะ จะ ฯ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณังวะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง ฯ ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก วิชชะติ วิวิธัง ปุถุ ระตะนัง พุทธะสะมัง นัตถิ ตัสมา โสตถี ภะวันตุ เต ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก วิชชะติ วิวิธัง ปุถุ ระตะนัง ธัมมะสะมัง นัตถิ ตัสมา โสตถี ภะวันตุ เต ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก วิชชะติ วิวิธัง ปุถุ ระตะนัง สังฆะสะมัง นัตถิ ตัสมา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ สักกัตวา พุทธะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมะนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต สักกัตวา ธัมมะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง ปะริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ภะยา วูปะสะเมนตุ เต สักกัตวา สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ โรคา วูปะสะเมนตุ เต ฯ สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ มา เต ภะวัตวันตะราโย สุขีทีฆายุโก ภะวะ อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง ฯ

อังคุลิมาละปะริตตัง ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตาฯ เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตาฯ เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตาฯ เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ

โพชฌังคะปะริตตัง โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานังวิจะโย ตะถา วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะตะถาปะเร มุนินาสัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะจะโพธิยา เอเตนะสัจจะวัชเชนะ โสตถิเตโหตุสัพพะทาฯ เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเนทุกขิตา ทิสะวา โรคามุจจิงสุ ตังจะเณ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิเตโหตุ สัพพะทาฯ เอกะทาธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตะวานะ สาทะรัง สัมโมทิตะวา จะอาพาธาตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิเตโหตุ สัพพะทาฯ ปะหีนา เตจะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปัตติธัมมะตัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

    เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา พาราณะสิยัง  วิหะระติ อิสิปะตะเน มิคะทาเย ฯ ตัตระ โข ภะคะวา ปัญจะวัคคิเย ภิกขู อามันเตสิ ฯ
    เทวเม ภิกขะเว อันตา ปัพพะชิเตนะ  นะ เสวิตัพพา โย จายัง กาเมสุ กามะสุขัลลิกานุโยโค หีโน คัมโม โปถุชชะนิโก อะนะริโย อะนัตถะสัญหิโต โย จายัง  อัตตะกิละมะถานุโยโค ทุกโข อะนะริโย อะนัตถะสัญหิโต ฯ
    เอเต เต ภิกขะเว อุโภ อันเต อะนุปะคัมมะ มัชฌิมา ปะฏิปะทา  ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณี ญาณะกะระณี อุปะสะมายะ อะภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติ ฯ
    กะตะมา จะ สา ภิกขะเว มัชฌิมา ปะฏิปะทา ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณี ญาณะกะระณี อุปะสะมายะ อะภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติ ฯ  
     อะยะเมวะ อะริโย อัฏฐังคิโก มัคโค ฯ เสยยะถีทัง ฯ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต  สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสะติ สัมมาสะมาธิ ฯ
    อะยัง โข สา ภิกขะเว มัชฌิมา ปะฏิปะทา ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณี ญาณะกะระณี อุปะสะมายะ อะภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติ ฯ
    อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขัง อะริยัะสัจจัง ฯ ชาติปิ  ทุกขะ ชะราปิ ทุกขา มะระณัมปิ ทุกขัง โสกะปะริเทวะ ทุกขะ โทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข  ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา ฯ
    อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว  ทุกขะสะมุมะโย อะริยะสัจจัง ฯ ยายัง ตัณหา โปโนพภะวิกา นันทิราคะสะหะคะตา ตัตระ ตัตราภิ นันทินี ฯ เสยยะถีทัง ฯ  กามะตัณหา ภะวะตัณหา วิภะวะตัณหา ฯ
    อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง ฯ โย ตัสสาเยวะ ตัณหายะ  อะเสสะวิราคะนิโรโธ จาโค ปะฏินิสสัคโค มุตติ อะนาละโย ฯ
    อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะ  สัจจัง ฯ
    อะยะเมวะ อะริโย อัฏฐังคิโก มัคโค ฯ เสยยะถีทัง ฯ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมา  อาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสะติ สัมมาสมาธิ ฯ 
    อิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก  อุทะปาทิ ฯ
   ตัง โข ปะนิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจัง ปะริญเญยยันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง  อุทะปาทิญานัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
   ตัง โข ปะนิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจัง ปะริญญาตันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญาอุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิฯ
   อิทัง ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว  ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก  อุทะปาทิ ฯ
   ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะสะมุทมะโย อะริยะสัจจัง ปะหาตัพพันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ เม ภิกขะเว  ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก  อุทะปาทิ ฯ
   ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะสะมุทมะโย อะริยะสัจจัง ปะหีนันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ  ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ฯ
   อิทัง ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว  ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ฯ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก  อุทะปาทิ ฯ
   ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง สัจจิกาตัพพันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ  ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ฯ
   ตัง โข ปะนิทัง  ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง สัจจิกะตันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ  ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ฯ
   อิทัง ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจันติ  เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ  อาโลโก อุทะปาทิฯ
   ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจัง ภาเวตัพพันติ เม ภิกขะเว  ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ฯ
   ตัง โข ปะนิทัง ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจัง ภาวิตันติ เม ภิกขะเว ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ  ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ฯ
    ยาวะกีวัญจะ เม ภิกขะเว อิเมสุ จะตูสุ อะริยะสัจเจสุ  เอวันติปะริวัฏฏัง ทวาทะสาการัง ยะถาภูตัง ญาณะทัสสะนัง นะ สุวิสุทธัง อะโหสิ ฯ
    เนวะ ตาวาหัง ภิกขะเว  สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพรัหมะเก สัสสะมะณะพราหมะณิยา ปะชายะ สะเทวะมะนุสสายะ อะนุตตะรัง สัมมาสัมโพธิง อะภิสัมพุทโธ ปัจจัญญาสิง ฯ
    ยะโต จะ โข เม  ภิกขะเว อิเมสุ จะตูสุ อะริยะสัจเจสุ เอวันติ ปะริวัฏฏัง  ทวาทะสาการัง ยะถาภูตัง ญาณะทัสสะนัง สุวิสุทธัง อะโหสิ ฯ
    อะถาหัง ภิกขะเว สะเทวะเก โลเก สะมาระเก  สะพรัหมะเก สัสสะมะณะพราหมะณิยา ปะชายะ สะเทวะมะนุสสายะ อะนุตตะรัง สัมมาสัมโพธิง อะภิสัมพุทโธ  ปัจจัญญาสิง ฯ ญาณัญจะ ปะนะ เม ทัสสะนัง อุทะปาทิ อะกุปปา เม วิมุตติ อะยะมันติมา ชาติ นัตถิทานิ ปุนัพภะโวติ ฯ
    อิทะมะโว จะ ภะคะวา ฯ อัตตะมะนา ปัญจะวัคคิยา ภิขู ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุง ฯ  อิมัสมิญจะ ปะนะ เวยยากะระณัสมิ ภัญญะมาเน อายัสมะโต โกณฑัญญัสสะ วิระชัง วีตะมะลัง ธัมมะจักขุง  อุทะปาทิ ยังกิญจิ สะมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมันติ ฯ
   ปะวัตติเต จะ ภะคะวะตา ธัมมะจักเก ภุมมา เทวา  สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง  อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรัหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสมินติ ฯ
    ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา จาตุมมะหาราชิกา  เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ
    จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ
    ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ
    ยามานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตุสิตา  เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ
    ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ  
    นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ
    ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรัหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรัหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสมินติ ฯ
    อิติหะ เตนะ ขะเณนะ เตนะ มุหุตเตนะ ยาวะ  พรัหมะโลกา สัทโท อัพภุคคัจฉิฯ อะยัญจะ ทะสะสะหัสสี โลกะธาตุ สังกัมปิ สัมปะกัมปิ สัมปะเวธิฯ อัปปะมาโณ จะ โอฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุระโหสิ อะติกกัมเมวะ เทวานัง เทวานุภาวัง ฯ
    อะถะโข ภะคะวา  อุทานัง อุทาเนสิ อัญญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญ อัญญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญติ ฯ
    อิติหิทัง อายัสมะโต โกณฑัญญัสสะ อัญญาโกณฑัญโญ เตววะ นามัง อะโหสีติ ฯ
 ถวายพรพระ
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมฺมาสัมฺพุทฺโธ, วิชฺชาจะระณะสัมฺปันฺโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตฺตะโร ปุริสะทัมฺมะสาระถิ สัตฺถา เทวะมะนุสฺสานัง พุทฺโธ ภะคะวาติ
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฺฐะ ปุริสะปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชลีกะระณีโย, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.

พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ขะยะมังคะลานิ ฯ มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตตึง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะ วิธินา ชิตะวา มุนินฺโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ นาฬาคิรึง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.ฯ สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.ฯ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฺฐะหัตถัง พรัหมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา    โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตตะวานะเนกะวิวิธานิ  จุปัททะวานิ    โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ
                                                          ชะยะปะริตตัง
   มะหาการุณิโก  นาโถ 	หิตายะ  สัพพะปาณินัง

ปูเรตะวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง.ฯ ชะยันโต โพธิยา มูเล สักะยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ.ฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตะวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ.ฯ

   ภะวะตุ  สัพพะมังคะลัง 	รักขันตุ  สัพพะเทวะตา

สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต.ฯ

   ภะวะตุ  สัพพะมังคะลัง	รักขันตุ   สัพพะเทวะตา

สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต.ฯ

   ภะวะตุ  สัพพะมังคะลัง    	รักขันตุ   สัพพะเทวะตา

สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต.ฯ

พระสังคิณี กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา, กะตะเม ธัมมา กุสะลา, ยัสมิง สะมะเย กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง อุปปันนัง โหติ โสมะนัสสะสะหะคะตัง ญาณะสัมปะยุตตัง รูปารัมมะณัง วา สัททารัมมะณัง วา คัณธารัมมะณัง วา ระสารัมมะนัง วา โผฏฐัพพา รัมมะณังวา ธัมมา รัมมะณัง วา ยัง ยัง วา ปะนะรัพภะ ตัสมิงสะมะเย ผัสโส โหติ อะวิเข โป โหติ เย วา ปะนะ ตัสมัง สะมะเย อัญเญปิ อัตถิ ปฏิจจะสะมุปปันนา อรูปิโน ธัมมา อิเม ธัมมา กุสะลา. พระวิภังค์ ปัญจักขันธา รูปักขันโธ เวทะนากขันโธ สัญญากขันโธ สังขารักขันโธ วิญญาณักขักขันโธ, ตัตถะ กะตะโม รูปักขันโธ, ยังกิญจิ รูปัง อะตีตานาคะ ตะปัจจุปปันนัง อัชฌัตตัง วา พะหิตธา วา โอฬาริกัง วา สุขุมัง วา ทีนัง วา ปะณีตัง วา ยัง ทูเร วา สันติเก วา ตะเทกัชฌัง อภิสัญญูหิตวา อภิสังขิปิตวา อะยัง วุจจะติ รูปักขันโธ.

พระธาตุกะถา สังคะโห อะสังคะโห, สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง สัมปะโยโค วิปปะโยโค, สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง อะสังคะหิตัง.

พระปุคคะละปัญญัตติ ฉะ ปัญญัตติโย ขันธะปัญญัติ อายะตะนะปัญญัตติ ธาตุปัญญัตติ สัจจะปัญญัตติ อินทริยะปัญญัตติ ปุคคะละปัญญัตติ, กิตตาวะตา ปุคคะลานัง ปุคคะละปัญญัตติ, สะมะยะวิมุตโต อะสะมะยะวิมุตโต กุปปะธัมโม อะกุปปะธัมโม ปะริหานะธัมโม อะปะริหานะธัมโม เจตะนา ภัพโพ อนุรักขะนาภัพโพ ปุถุชชะโน โคตระภู ภะยูปะระโต อะภะยูปะระโต ภัพพาคะมะโน อะภัพพาคะมะโน นิยะโต อะนิยะโต ปฏิปันนะโก ผะเลฏฐิโต อะระหา อะระหัตตายะ ปฏิปันโน.

พระกถาวัตถุ ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ อามันตา, โย สัจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ, นะ เหวัง วัตตัพเพ, อาชานาหิ นิคคะหัง หัญจิ ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนะ เตนะ วะตะ เร วัตตัพเพ โย สัจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ ตะโต โส ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนาติ, มิจฉา.

พระยะมะกะ เย เกจิ กุสะลา ธัมมา สัพเพ เต กุสะลามูลา, เย วา ปะนะ กุสะละมูลา สัพเพ เต ธัมมา กุสะลา, เย เกจิ กุสะลา ธัมมา สัพเพ เต กุสะละมูเลนะ เอกะมูลา, เย วา ปะนะ กุสะละมูเลนะ เอกะมูลา สัพเพ เต ธัมมา กุสะลา.

พระมหาปัฏฐาน เหตุปัจจะโย อารัมมะณะปัจจะโย อธิปะติปัจจะโย อนันตะระปัจจะโย สะมะนันตะระปัจจะโย สะหะชาตะปัจจะโย อัญญะมัญญะปัจจะโย นิสสะยะปัจจะโย อุปะนิสสะยะปัจจะโย ปุเรชาตะปัจจะโย ปัจฉาชาตะปัจจะโย อาเสวะนะปัจจะโย กัมมะปัจจะโย วิปากาปัจจะโย อาหาระปัจจะโย อินทริยะปัจจะโย ฌานะปัจจะโย มัคคะปัจจะโย สัมปะยุตตะปัจจะโย วิปปะยุตตะปัจจะโย อัตถิปัจจะโย นัตถิปัจจะโย วิคะตะปัจจะโย อะวิคะตะปัจจะโย.

ธัมมะสังคิณีมาติกา กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา ฯ สุขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา ทุกขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา อะทุกขะมะสุ ขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตาธัมมา ฯ วิปากา ธัมมา วิปากะธัมมะธั มมา เนวะวิปากะนะวิปากะธัมมะธัมมา ฯ อุปาทินนุปาทานิยา ธัมมา อะนุปาทินนุ ปาทานิยา ธัมมา อะนุปาทินนานุปาทานิยา ธัมมา ฯ สังกิลิฏฐะสังกิเลสิกา ธัมมา อะสังกิลิฏฐะสังกิเลสิกาธัมมา อะสังกิลิฏฐาสังกิเลสิกา ธัมมา ฯ สะวิตักกะสะวิจารา ธัมมา อะวิตักกะวิจาระมัตตา ธัมมา อะวิตักกาวิจารา ธัมมา ฯ ปีติ สะหะคะตา ธั มมา สุขะสะหะคะตา ธัมมา อุเปกขาสะหะคะตา ธัมมา ทัสสะเนนะ ปะหาตั พพา ธั มมา ภาวะนายะ ปะหาตัพพาธัมมา เนวะทัสสะเนนะ นะภาวะนายะ ปะหาตัพพา ธัมมา ฯ ทัสสะเนนะ ปะหาตั พพะเหตุกา ธัมมา ภาวะนายะปะหาตัพพะเหตุ กา ธัมมา เนวะทัสสะเนนะ นะภาวะนายะปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมา ฯ อาจะยะคามิโน ธัมมา อะปะจะยะคามิโน ธัมมา เนวาจะยะคามิโน นาปะจะยะคามิโน ธัมมา ฯ เสกขา ธัมมา อะเสกขา ธัมมา เนวะเสกขานาเสกขา ธัมมา ฯ ปะริตตา ธัมมา มะหัคคะตา ธัมมา อัปปะมาณา ธัมมา ฯ ปะริตตารัมมะณา ธัมมา มะหัคคะตารัมมะณา ธัมมาอัปปะมาณารัมมะณา ธัมมา ฯ หีนาธัมมา มัชฌิมาธัมมา ปะณีตาธัมมา ฯ มิจฉัตตะนิยะตา ธัมมา สัมมัตตะนิยะตา ธัมมา อะนิยะตาธัมมา ฯ มัคคารัมมะณา ธัมมามัคคะเหตุกา ธัมมา มัคคาธิปะติโนธัมมา ฯ อุปปันนา ธัมมา อะนุปปันนา ธัมมา อุปปาทิโน ธัมมา ฯ อะตีตา ธัมมา อะนาคะตา ธัมมา ปัจจุปปันนา ธัมมา ฯ อะตีตารัมมะณาธัมมา อะนาคะตารัมมะณาธัมมาปัจจุปปันนารัมมะณา ธัมมา ฯ อัชฌัตตา ธัมมา พะหิทธา ธัมมา อัชฌัตตะพะหิทธา ธัมมา ฯ อัชฌัตตารัมมะณาธัมมา พะหิทธารัมมะณาธัมมา อัชฌัตตะพะหิทธารัมมะณา ธัมมา ฯ สะนิทัสสะนะสัปปะฏิฆา ธัมมา อะนิทั สสะนะสัปปะฏิฆาธัมมา อะนิทัสสะนาปปะฏิฆา ธัมมา ฯ

พระมะหาปัฏฐาน เหตุปัจจะโย อารัมมะณะปัจจะโย อะธิปะติปัจจะโย อะนันตะระปัจจะโย สะมะนันตะระปัจจะโย สะหะชาตะปัจจะโย อัญญะมัญญะปัจจะโย นิสสะยะปัจจะโย อุปะนิสสะยะปัจจะโย ปุเรชาตะปัจจะโย ปัจฉาชาตะปัจจะโย อาเสวะนะปัจจะโย กัมมะปัจจะโย วิปากะปัจจะโย อาหาระปัจจะโย อินทริยะปัจจะโย ฌานะปัจจะโย มัคคะปัจจะโย สัมปะยุตตะปัจจะโย วิปปะยุตตะปัจจะโย อัตถิ ปัจจะโย นัตถิปั จจะโย วิคะตะปัจจะโย อะวิคะตะปัจจะโย บทสวดมงคลไทย ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ธะตะรัฏโฐ ปะสาสะติ คันธัพพานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยัสสะสิโส ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสะสิโน โมทะมานา อะภิกามุง ภิกขุนัง สะมิติง วะนัง ทักขิณัญจะ ทิสัง ราชา วิรุฬโห ตัปปะสาสะติ กุมภัณฑานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยัสสะสิโส ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสะสิโน โมทะมานา อะภิกามุง ภิกขุนัง สะมิติง วะนัง ปัจฉิมัญจะ ทิสัง ราชา วิโรปักโข ปะสาสะติ นาคานานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยัสสะสิโส ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสะสิโน โมทะมานา อะภิกามุง ภิกขุนัง สะมิติง วะนัง อุตตะรัญจะ ทิสัง ราชา กุเวโร ตัปปะสาสะติ ยักขานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยัสสะสิโส ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสะสิโน โมทะมานา อะภิกามุง ภิกขุนัง สะมิติง วะนัง พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ พาหุงสะหัสสะมะภินิมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลังอุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินาชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคะลานิ มาราติเรกะมะภิยุตฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถักถะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินาชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคะลานิ นาฬาคิริงคะชะวะรังอะติมัตตะภูตัง ทาวักคิจักกะมะสะนีวะสุทารุณันตัง เมตตัมภุเสกะวิธินาชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคะลานิ อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิยังขะตะมะโนชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคลานิ กัตวานะกัฏฐะมุทะรังอิวะคัพภินียา จิญจายะทุฏฐะวะจะนังชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะโสมะวิธินาชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคะลานิ สัจจังวิหายะมะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนังอะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโตชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคะลานิ นันโทปะนันทะภุชะคังวิพุธังมะหิทธิง ปุตเตนะเถระภุชะเคนะทะมาปะยันโต อิทธูปเทสะวิธินาชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคะลานิ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะสุทัฏฐะหัตถัง พรัหมังวิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะวิธินาชิตะวามุนินโท ตันเตชะสาภะวะตุเตชะยะมังคะลานิ เอตาปิพุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โยวาจาโนทินะทิเนสะระเตมะตันที หิตะวานะเนกะวิวิธานิจุปัฐถะวานิ โมกขังสุขังอะธิคะเมยยะนะโรสะปัญโญ โย จักขุมา โมหะมะลาปะกัฏโฐ สามัง วะ พุทโธ สุคะโต วิมุตโต มารัสสะ ปาสา วินิโม จะ ยันโต ปาเปสิ เขมัง ชะนะตัง วิเนยยัง พุทธัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ โลกัสสะ นาถัญจะ วินายะกัญจะ ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ ธัมโม ธะโช โย วิยะ ตัสสะ สัตถุ ทัสเสสิ โลกัสสะ วิสุทธิ มัคคัง นิยยานิโก ธัมมะธะรัสสะ ธาวี สาตาวะโห สันติกะโร สุจิณโณ ธัมมัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ โมหัปปะทาลัง อุปะสันตะทะหัง ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ สัทธัมมะ เสนา สุคะตานุโค โย โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะเชตา สันโต สะยัง สันตินิโยชะโก จะ สะวากขาตะธัมมัง วิธิตัง กะโรติ สังฆัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ พุทธานุพุทธัง สะมะสีละทิฏฐิง ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ พาหุง เว สะระณัง ยันติ ปัพพะตานิ วะนานิ จะ อารามะรุกขะเจตะยานิ มะนุสสา ภะยะตัชชิตา เนตัง โข สะระณัง เขมัง เนตัง สะระณะ มุตตะมัง เนตัง สะระณะ มาคัมมะ สัพพะ ทุกขา ปะมุจจะติ โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะโต จัตตาริ อะริยะสัจจานิ สัมมัปปัญญายะ ปัสสะติ ทุกขัง ทักขะสะมุปปะทัง ทุกขัสสะ จะ อะติกกะมัง อะริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง ทุกขูปะสะมะคามินัง เอตัง โข สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะ มุตตะมัง เอตัง สะระณะ มาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะตีติ ยัสสะ สัทธา ตะถาคะเต อะจะลา สุปะติฏฐิตา สีลัญจะ ยัสสะ กัลยาณัง อะริยะ กันตัง ปะสังสิตัง สังเฆ ปะสาโท ยัสสัตถิ อุชุภูตัญจะ ทัสสะนัง อะทะลิทโทติ ตัง อาหุ อะโมฆันตัสสะ ชีวิตัง ตัสมา สัทธัญจะ สีลัญจะ ปะสาทัง ธัมมะ ทัสสะนัง อะนุยุญเชถะ เมธาวี สะรัง พุทธานะสาสะนันติ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก วิชชะติ วิวิธัง ปุถุ ระตะนัง พุทธะ สะมัง นัตถิ ตัสมา โสตถี ภะวันตุ เต ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก วิชชะติ วิวิธัง ปุถุ ระตะนัง ธัมมะ สะมัง นัตถิ ตัสมา โสตถี ภะวันตุ เต ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก วิชชะติ วิวิธัง ปุถุ ระตะนัง สังฆะ สะมัง นัตถิ ตัสมา โสตถี ภะวันตุ เต นะโม อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ มะเหสิโน นะโม อุตตะมะ ธัมมัสสะ สวากขา ตัสเสวะ เตนิธะ นะโม มะหา สังฆัสสาปิ วิสุทธะ สีละทิฏฐิโน นะโม โอมาตะยารัทธัสสะ ระตะนัตตะยัสสะ สาธุกัง นะโม โอมะกาตี ตัสสะ ตัสสะ วัตถุตตะ ยัสสะปิ นะโม การัปปะภาเวนะ วิคัจฉันตุ อุปัททะวา นะโม การา นุภาเวนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา นะโม การัสสะ เตเชนะ วิธิมหิ โหมิ เต ชะวา อะเสวะนาจะพาลานัง ปัณฑิตานัญจะเสวะนา ปูชาจะปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ปะฏิรูปะเทสะวาโสจะ ปุพเพจะกะตะปุญญะตา อัตตะสัมมาปะณิธิจะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง พาหุสัจจัญจะสิปปัญจะ วินะโยจะสุสิกขิโต สุภาสิตาจะยาวาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะสังคะโห อะนากุลาจะกัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ทานัญจะธัมมะจะริยาจะ ญาตะกานัญจะสังคะโห อะนะวัชชานิกัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง อาระตีวิระตีปาปา มัชชะปาณาจะสัญญะโม อัปปะมาโทจะธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง คาระโวจะนิวาโตจะ สันตุฏฐีจะกะตัญญุตา กาเลนะธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ขันตีจะโสวะจัสสะตา สะมะณาณัญจะทัสสะนัง กาเลนะธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ตะโปจะพรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะทัสสะนัง นิพพานะสัจฉิกิริยาจะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ผุฏฐัสสะโลกะธัมเมหิ จิตตังยัสสะนะกัมปะติ อะโสกังวิระชังเขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง เอตาทิสานิกัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา สัพพัตถะโสตถิงคัจฉันติ ตันเตสังมังคะละมุตตะมันติ ยานีธะภูตานิสะมาคะตานิ ภุมมานิวายานิวะอันตะลักเข ตะถาคะตังเทวะมะนุสสะปูชิตัง พุทธังนะมัสสามะสุวัตถิโหนตุ ยานีธะภูตานิสะมาคะตานิ ภุมมานิวายานิวะอันตะลักเข ตะถาคะตังเทวะมะนุสสะปูชิตัง ธัมมังนะมัสสามะสุวัตถิโหนตุ ยานีธะภูตานิสะมาคะตานิ ภุมมานิวายานิวะอันตะลักเข ตะถาคะตังเทวะมะนุสสะปูชิตัง สังฆังนะมัสสามะสุวัตถิโหนตุ กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ สันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติ สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโพ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กัญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง สุขิโน วา เขมิโน โหตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร ภูตา วา สัมภะเวสี วา สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโท เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะหิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะรัสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะรัสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิง สิ ทิปาทะโก มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง อิติปิ โส ภะคะวะ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ สวากขาโ ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ เอวัม พุทธัง สะรันตะนัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ ภิกขะโว ภะยัมวา สัมภิตตะตัม วา โลมะหัง โส นะ เหสะตีติ ทัสสะคัง ปะริตตัง สะทาสุเขนะ รักขันตุ พุทธาสันติ กะราตุวัง เตหิ ตะวัง รักขิโต สันโต มุตโต สัพพะภะเยนะ จะ สัพพะโรคาวินิมุตโต สัพพะสันตาปะวัชชิโต สัพพะเวระมะติกกันโต นิพพุโต จะ ตุวัง ภะวะ สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ มา เต ภะวัตวันตะราโย สุขี ทีฆายุโก ภะวะ อะภิวาทะนะสีลิสสะนิจจัง วุฑฒาปะจายิโน จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนา โป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนา โป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนา โป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปัตตา จะนิพภะยา โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโณ เอตตาวะตา จะ อัมเหหิ สัมภะตัง ปุญญะ สัมปะทัง สัพเพ เทวานุโมทันตุ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ สีลัง รักขันตุ สัพพะทา ภาวะนาภิระตา โหนตุ คัจฉันตุ เทวะตาคะตา สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา เอเตนะสัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ เต จะ ตัง อะภินันทิตวา โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปิฬิโต จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณัมนัมปิ มะเหสินัง มัคคาหะตะกิเลสา วะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา สักกัตวา พุทธะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมะนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต สักกัตวา ธัมมะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง ปะริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ภะยา วูปะสะเมนตุ เต สักกัตวา สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ โรคา วูปะสะเมนตุ เต มะหาการุณิโก นาโถ อัตถายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ มา โหนตุ สัพพุปัททะวา มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ มา โหนตุ สัพพุปัททะวา มะหาการุณิโก นาโถ สุขายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ มา โหนตุ สัพพุปัททะวา สุโขพุทธานัง อุปปาโท สุขัสสะ ธัมมะเทสนา สุขายะ สังฆัสสะสามัคคี สามัคคานัง ตะโป สุโขเทวา ตะปะติ อาทิโจรัตติง ตะปะติ จันทิมา ชันนะโท ขัตติโย ตะปะติ ฌายิ ตะปะติ พรัมหมะโณ อัตถะสัพพะมุลละโหรัตติง พุทโธ ตะปะติ เตชะสา หิริโอตัปปะสัมปันนา สุขะธัมมะธัมมา หิตาสันโต สัปปุริสะโลเก เทวาธัมมาติ วุจจะเรสันติปาทา อะวันจะนาสันติปาทา อะวันจะนา มาตาปิตา จะ นิคคันทา จะติเวรา ปะติกัมมา สุวัณณะพรหมิง กัตวานะ โส อะนุตตะรัง มะหิทธิกา มิจสัจเจ นะคะมิตวา พรัหมะจะรัง อาจินตะยุง สัพเพ ยักขา ปะรายันตุ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหนตุ โน ชะยะมังคะลัง อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวานาคา มะหิทธิกา ปุญญังโน อะนุโมทันตุ จีรัง รักขันตุ สาสะนา อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวานาคา มะหิทธิกา ปุญญังโน อะนุโมทันตุ จีรัง รักขันตุ ปามิโน อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวานาคา มะหิทธิกา ปุญญังโน อะนุโมทันตุ จีรัง รักขันตุ โนสัฏฐา อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวานาคา มะหิทธิกา ปุญญังโน อะนุโมทันตุ จีรัง รักขันตุ โสตถิง รักขันตุ เทวะตาคะตา

นะโม เม พุทธะเตเชสะสา ระตะนัตตะยะ ธัมมิกา เต สัพพะสิทธิปะสี เทวา นะรายะ มอระเมนสวนราช สิทธิพรหมา จะ อินทา จะตุโลกา คัมภีรักขะกา สะมุททา ภูตุง คังคา จะ สะหลาม พะชะยะ ปะสิทธิ ภะวันตุ โน ชัยยะ ชัยยะ ธรณิ ธรณี อุททิ อุทที นาทิ นาที ชัยยะ ชัยยะ คะโคลละโตลละ นิสัย นิลัย สัยเสน นะเมนโนราช คัจฉะพล นอระสี ชัยยะ ชัยยะ คัมภีระโสมภี นาเคนทะนาคี ปีสาจะ ภูตกกอลี ชัยยะ ชัยยะ ทุนนิมิตตะโรคี ชัยยะ ชัยยะ สังคีสุทธา ทะนะมุกขัสสา ชัยยะ วะรุณณะมุกขัตยะตา ชัยยะ ชัยยะ จัมปาทินนาคะกุระคันทก ชัยยะ ชัยยะ คัจฉะพลนะตุรง สุกอระภุชง สีหะเผียกคัตติปา ชัยยะ ชัยยะ วะรุณณะมุกขัตยะตา ชัยยะ ชัยยะ สิทธะ สิทธะ เสนารี ปุณณะสุทธี นอระดี ชัยยะ ชัยยะ สุขะ สุขะ ชีวี ชัยยะ ชัยยะ ธรณี ตะเล สัทธา สุตชัย ชัยยะ ชัยยะ ธรณีสวนดินสัทธา ชัยยะ ชัยยะ มังกอราชรัญญา ปะวัคเข ชัยยะ ชัยยะ วะรุณนะยักเข ชัยยะ ชัยยะ รักขะเสน สุระพล สะเตชา ชัยยะ ชัยยะ พรหเมนทะคะโคลละนา ชัยยะ ชัยยะ ราชาธิราช สาทชัย ชัยยะ ชัยยะ ปัฏฐะวิง สัพพัง ชัยยะ ชัยยะ อะระหันตัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง ชัยยะ ชัยยะ มะเหสุโลหะโลหะรินเทวา ชัยยะ ชัยยะ พรหมา สุรักโข ชัยยะ ชัยยะ นาโค วิรุฬหะโก วิรูปักโข จันทิมาระวิ อินโท จะ เวนะตะราโย จะ กุเวโร วะรุณโนปิ จะ อัคคิ วาโย จะ ปะสุระโห กุมาโร อัฏฐะรัฏฐะโก อัฏฐะรัสสะ มะหาเทวา สิทธิ ตะวา ปัสสาอัสสะโย อิสิโน สาวะกา สัพพะชะยะลาโม ภะวันตุ โน ชัยยะธัมโม จะ สังโฆ จะ ทะนะสะปาโล จะ ชัยยะกัง เอเตนะ ชัยยะ เต เชนะ ชัยยะ โสตถี ภะวันตุ โน เอเตนะ พุทธะเตเชนะ โหนตุ โน ชัยยะมังคะลัง ชะโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย อุงโค ชัยยุง โพธิมัณเฑ ปะโมทิตวา ชัยยะ ตะถา พรหมะคะณา มะเหสิโน ชะโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย อุงโค ชัยยุง โพธิมัณเฑ ปะโมทิตวา ชัยยะ ตะถา อินทะคะณา มะเหสิโน ชะโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย อุงโค ชัยยุง โพธิมัณเฑ ปะโมทิตวา ชัยยะ ตะถา เทวะคะณา มะเหสิโน ชะโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย อุงโค ชัยยุง โพธิมัณเฑ ปะโมทิตวา ชัยยะ ตะถา สุปัณณะคะณา มะเหสิโน ชะโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย อุงโค ชัยยุง โพธิมัณเฑ ปะโมทิตวา ชัยยะ ตะถา นาคะคะณา มะเหสิโน ชะโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย อุงโค ชัยยุง โพธิมัณเฑ ปะโมทิตวา ชัยยะ ตะถา จะ สะหลามมะคะณา มะเหสิโน ราชะโต วา โจระโต วา มะนุสสะโต วา อะมะนุสสะโต วา อัคคิโต วา อุทะกะโต วา ปิสาจะโต วา ขาณุกะโต วา กัณฏะกะโต วา นักขัตตะโต วา ชะนะปะทะโรคะโต วา อะสัทธัมมะโต วา อะสันทิฏฐิโต วา อะสัปปุริสะโต วา จัณฑะหัตถิอัสสะมิคะโคณะกุกกุระอะหิวิจฉิกะมะนิสัปปะทีปิอัจฉะตะรัจฉะสุกะระมะหิสะ ยักขะรักขะสาทีหิ นานาภะยะโต วา นานาโรคะโต วา นานาอุปัททะวะโต วา อารักขัง คัณหันตุ ปะณิธานะโต ปัฏฐายะ ตะถาคะตัสสะ ทะสะ ปาระมิโย ทะสะ อุปะปาระมิโย ทะสะ ปะระมัตถะปาระมิโย ปัญจะ มะหาปะริจจาเค ติสโส จะริยา ปัจฉิมัพภะเว คัพภาวักกันติง ชาติง อะภินิกขะมะนัง ปะธานะจะริยัง โพธิปัลลังเก มาระวิชะยัง สัพพัญญุตะญาณัปปะฏิเวธัง นะวะ โลกุตตะระธัมเมติ สัพเพปิ เม พุทธะคุเณ อาวัชชิตวา เวสาลิยา ตีสุ ปาการันตะเรสุ ติยามะรัตติง กะโรนโต อายัสมา อานันทัตเถโร วิยะ การุญญะจิตตัง อุปัฏฐะเปตวา โกฏิสะตะสะหัสเสสุ จักกะวาเฬสุ เทวะตา ยัสสาณัมปะฏิคัณหันติ ยัญจะ เวสาลิยัมปุเร โรคามะนุสสะทุพภิกขะ สัมภูตันติวิธัมภะยัง ขิปปะมันตะระธาเปสิ ปะริตตันตัมภะณามะ หายะ สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิมะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปารามิตานุภาเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะธัมมักขันธานุภาเวนะ นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมัชฌันตุ ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วัชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุกขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ เต อัตถะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสาสะเน อะโรคา สุขิตา โหถะ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ พุทธะระตะนัง ธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนัง ติณณัง ระตะนานัง อานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะธัมมักขันธานุภาเวนะ ปิฏะกัตตะยะนุภาเวนะ ชินะสาวะกานุภาเวนะ สัพเพ เต โรคา สัพเพ เต ภะยา สัพเพ เต อันตะรายา สัพเพ เต อุปัททะวา สัพเพ เต ทุนนิมิตตา สัพเพ เต อะวะมังคะละ วินัสสันตุ อายุวัฑฒะโก ธะนะวัฑฒะโก สิริวัฑฒะโก ยะสะวัฑฒะโก พะละวัฑฒะโก วัณณะวัฑฒะโก สุขะวัฑฒะโก โหตุ สัพพะทา ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสกา สัตตุ จุปัททะวา อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ จะ เตชะสา ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง โสตถิ ภาคยัง สุขัง พะลัง สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา สะตะวัสสา จะ อายู จะ ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหานิวาระณา ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหานิวาระณา ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหานิวาระณา ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว สุณาตุ โพนโต เย เทวา อัสมิง ฐาเน อะธิคะตาฑีฆายุกา สะทาโหนตุ สุขิตา โหนตุ สัพพะทา รักขันตุ สัพพะสัตตานัง รักขันตุ ชินะสาสะนัง ยากาจิ ปัฏฐะวา เตสัง สัพเพปุเรนตุ มะโนระถา ยุตตะกาเล ปะวัสสันตุ วัสสัง วัสสา วะราหะกา โรคา จุปัททะวา เตสัง นิวาเรนตุ จะ สัพพะทา กายะสุขัง จิตตะสุขัง อะระหันตุ ยะถาระหัง อิติจุลละชะยะสิทธิ ปะการะณัง สะมันตัง นิฏฐิตัง บูระพา รัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพา รัสมิง พระธรรมเมตัง บูระพา รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ อาคเนย์ รัสมิง พระพุทธะคุณัง อาคะเนย์ รัสมิง พระธรรมเมตัง อาคะเนย์ รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ ทักษิณ รัสมิง พระพุทธะคุณัง ทักษิณ รัสมิง พระธรรมเมตัง ทักษิณ รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ หรดี รัสมิง พระพุทธะคุณัง หรดี รัสมิง พระธรรมเมตัง หรดี รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ ปัจจิม รัสมิง พระพุทธะคุณัง ปัจจิม รัสมิง พระธรรมเมตัง ปัจจิม รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ พายัพ รัสมิง พระพุทธะคุณัง พายัพ รัสมิง พระธรรมเมตัง พายัพ รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ อุดร รัสมิง พระพุทธะคุณัง อุดร รัสมิง พระธรรมเมตัง อุดร รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ อิสาน รัสมิง พระพุทธะคุณัง อิสาน รัสมิง พระธรรมเมตัง อิสาน รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ อากาศ รัสมิง พระพุทธะคุณัง อากาศ รัสมิง พระธรรมเมตัง อากาศ รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ ปฐวี รัสมิง พระพุทธะคุณัง ปฐวี รัสมิง พระธรรมเมตัง ปฐวี รัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะ โรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ

อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบคอบทั้วอนัตตา ราชะเสมานาเขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ พุทธะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบคอบทั้วอนัตตา ราชะเสมานาเขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ ธัมมะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบคอบทั้วอนัตตา ราชะเสมานาเขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ ปัจเจกะพุทธะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบคอบทั้วอนัตตา ราชะเสมานาเขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ สังฆะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ