ข้ามไปเนื้อหา

โลมาหัวบาตรหลังเรียบ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โลมาหัวบาตรหลังเรียบ
โลมาหัวบาตรหลังเรียบที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยะจิมะ ประเทศญี่ปุ่น
ขนาดเมื่อเทียบกับมนุษย์
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Mammalia
ชั้นย่อย: Theria
อันดับ: Artiodactyla
อันดับฐาน: Cetacea
อนุอันดับ: Odontoceti
วงศ์: Phocoenidae
สกุล: Neophocaena
(Palmer, 1899)
สปีชีส์: N.  phocaenoides
ชื่อทวินาม
Neophocaena phocaenoides
(Cuvier, 1829)
ชนิดย่อย
  • N. p. asiaeorientalis (Pilleri & Gihr, 1972)
  • N. p. phocaenoides (Cuvier, 1829)
  • N. p. sunameri Pilleri and Gihr, 1975
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์
ชื่อพ้อง
  • Delphinus phocaenoides Cuvier, 1829
  • Neophocaena asiaeorientalis (Pilleri & Gihr, 1972)

โลมาหัวบาตรหลังเรียบ หรือ โลมาหัวบาตรไร้ครีบหลัง (อังกฤษ: Finless porpoise, จีน: 江猪, พินอิน: Jiāng zhū-หมูแม่น้ำ; ชื่อวิทยาศาสตร์: Neophocaena phocaenoides) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับสัตว์กีบคู่ (Artiodactyla) ใน อันดับฐานวาฬและโลมา (Cetacea) ขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ในวงศ์พอร์พอยส์ (Phocoenidae)

จัดเป็นเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Neophocaena แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดย่อย (ดูในตาราง)[2] เป็นสัตว์ที่สืบทอดเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันแล้วประมาณ 20 ล้านปี

มีลักษณะทั่วไปคล้ายกับโลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง (Orcaella brevirostris) คือ มีส่วนหัวกลมหลิมเหมือนบาตรพระไม่มีจะงอยปาก แต่ส่วนหลังเรียบไม่มีครีบหลัง ครีบข้างค่อนข้างใหญ่ปลายแหลม และลักษณะฟันในปากจะเป็นตุ่ม ไม่แหลมคม อันเป็นลักษณะเฉพาะของโลมาในวงศ์พอร์พอย์ ซึ่งทั่วโลกพบอยู่ 6 ชนิด ในประเทศไทยพบเพียงชนิดนี้ชนิดเดียว [3]

มีขนาดโตเต็มที่ยาว 1.9 เมตร ลูกแรกเกิดยาว 70–80 เซนติเมตร

ในน่านน้ำไทยสามารถได้ทุกจังหวัดที่ติดกับทะเล โดยพบมากที่สุดในฝั่งอ่าวไทย คือ ทะเลแถบจังหวัดตราด[4] และจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 เหมือนกับวาฬและโลมาชนิดอื่น ๆ [5]

ในประเทศจีน โลมาหัวบาตรหลังเรียบ เป็นโลมาเพียง 1 ใน 2 ชนิด นอกจากโลมาแม่น้ำแยงซีเกียง (Lipotes vexillifer) หรือไป๋จี๋ ที่สามารถพบได้ในแม่น้ำแยงซีเกียง โดยมีชื่อเล่นจากชาวจีนว่า "หมูแม่น้ำ" หรือ"แพนด้าแม่น้ำ" เป็นสัตว์ที่อยู่ในฐานะหวั่นวิตกว่าจะสูญพันธุ์ เนื่องจากมลภาวะสภาพแวดล้อม จากการประเมินพบว่าปัจจุบันหลงเหลือเพียงพันกว่าตัวเท่านั้น ซึ่งทุกปีจะมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็วถึงร้อยละ 5–10 ต่อปี[6]

อ้างอิง

[แก้]
  1. จาก IUCN
  2. "Neophcaena". ระบบข้อมูลการจำแนกพันธุ์แบบบูรณาการ.
  3. "โลมาหัวบาตรหลังเรียบ". กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง.
  4. จุดประกาย 2 โลก คน เมือง, ความเสี่ยงของ 'สัตว์ทะเลหายาก' . กรุงเทพธุรกิจปีที่ 29 ฉบับที่ 10525: วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
  5. "กฎหมายว่าด้วยการอนุรักษ์ โลมาและปลาวาฬ". กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง.
  6. ""รอยยิ้มแพนด้ายักษ์น้ำ" ที่ยืนยาวกว่า 20 ล้านปี กำลังสูญหายไปจากโลก". ผู้จัดการออนไลน์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-27. สืบค้นเมื่อ 2012-04-25.
   ว่ะ