ดอลลี (แกะ)
ร่างสตัฟของดอลลี | |
ฉายาอื่น ๆ | 6LLS (code name) |
---|---|
สปีชีส์ | แกะเลี้ยง Finn-Dorset |
เพศ | เมีย |
เกิด | 5 กรกฎาคม 2539 สถาบันรอสลิน เมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ |
ตาย | 14 กุมภาพันธ์ 2546 (อายุ 6 ปี) สถาบันรอสลิน เอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ |
ที่ไว้ซาก | พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ (จัดแสดงซาก) |
เป็นที่รู้จักสำหรับ | สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโคลนตัวแรกซึ่งถูกโคลนจากเซลล์ร่างกายที่โตเต็มวัย |
ทายาท | ลูกแกะ 6 ตัว (บอนนี่; คู่แฝด แซลลีและโรซี แฝดสาม ลูซี ดาร์ซี และคอตตอน) |
ตั้งชื่อตาม | ดอลลี พาร์ตัน[1] |
ดอลลี (อังกฤษ: Dolly) (5 กรกฎาคม 2539 – 14 กุมภาพันธ์ 2546) เป็น แกะเลี้ยงเพศเมีย และเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวแรกที่ถูกโคลนจากเซลล์โซมาติก (somatic cell) ของสัตว์โตเต็มวัย โดยใช้วิธีถ่ายฝากนิวเคลียส (nuclear transfer)[2][3] ดอลลีถูกโคลนโดย เอียน วิลมุต (Ian Wilmut) คีธ แคมป์เบล (Keith Campbell) และผู้ร่วมงาน ณ สถาบันรอสลิน (Roslin Institute) ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ PPL Therapeutics ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเอดินบะระ เงินทุนในการโคลนดอลลีมาจากบริษัท PPL Therapeutics และกระทรวงการเกษตรของสหราชอาณาจักร[4] มันเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 และตายด้วยโรคทางปอดเมื่ออายุได้ 6 ปี 7 เดือน[5] หลายสื่อ เช่น BBC News และ Scientific American ยกย่องให้มันเป็น "แกะดังที่สุดในโลก"[6][7]
เซลล์ที่ใช้เป็นผู้บริจาคเพื่อโคลนดอลลี ถูกนำมาจาก ต่อมน้ำนม และการที่สามารถสร้างโคลนที่แข็งแรงได้นั้นเป็นตัวพิสูจน์ว่า เซลล์จากส่วนหนึ่งของร่างกายสามารถนำมาสร้างสิ่งมีชีวิตได้ทั้งตัวชื่อของดอลลีว่า "ดอลลีมาจากเซลล์ต่อมน้ำนม และพวกเราไม่สามารถนึกถึงต่อมน้ำนมที่น่าประทับใจมากกว่าของดอลลี พาร์ตัน ได้"[1]
การเกิด
[แก้]ดอลลีเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 และมีแม่ถึงสามตัว (ตัวหนึ่งให้ไข่ อีกตัวให้ดีเอ็นเอ และตัวสุดท้ายเป็นแม่อุ้มบุญซึ่งเป็นที่ฝากตัวอ่อนไว้จนคลอด)[8] มันถูกสร้างโดยใช้เทคนิคการถ่ายฝากนิวเคลียจากเซลล์ร่างกาย โดยนิวเคลียสของเซลล์จากเซลล์โตเต็มวัยถูกถ่ายฝากไปยังเซลล์ไข่ (oocyte) ซึ่งไม่ได้ผสมเชื้อและถูกนำเอานิวเคลียสออกไป จากนั้นเซลล์จึงถูกกระตุ้นให้เริ่มขยายตัวโดยการช็อตไฟฟ้า และเมื่อเริ่มพัฒนาเป็นตัวอ่อนซึ่งเป็นระยะก่อนที่จะฝังตัวกับมดลูก (blastocyst) จึงถูกนำไปฝังไว้ในแม่อุ้มบุญ[9] ดอลลีเป็นร่างโคลนร่างแรกซึ่งนำเซลมาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขณะโตเต็มวัย การสร้างดอลลีทำให้เห็นว่ายีนในนิวเคลียสของเซลล์ร่างกายที่โตเต็มวัย ยังสามารถย้อนกลับไปมีศักยภาพอย่างตัวอ่อนซึ่งสร้างเซลล์ที่สามารถพัฒนาเป็นส่วนใดก็ได้ของสัตว์[10] ดอลลีถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 ดอลลีได้รับความสนใจจากสื่ออย่างล้นหลาม แม้ดอลลีจะไม่ใช่สัตว์ตัวแรกที่ถูกโคลน มันก็ได้รับความสนใจจากสื่อเนื่องจากเป็นร่างโคลนร่างแรกจากเซลล์โตเต็มวัย[4]
ชีวิต
[แก้]ดอลลีใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ที่สถาบันรอสลินในเมืองเอดินบะระ[5] มันได้ผสมพันธุ์กับแกะภูเขาเวลส์และให้กำเนิดลูกแกะ 6 ตัว ลูกตัวแรกชื่อว่า บอนนี่ เกิดเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2541 ปีต่อมี ดอลลีให้กำเนิดลูกแกะแฝด ชื่อ แซลลี่และโรซี่ จากนั้นได้ให้กำเนิดแฝดสาม ลูซี่ ดาร์ซี่ และคอตตอน ในปีต่อมา[11] ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2544 ด้วยวัยสี่ปี ดอลลีเริ่มมีอาการข้ออักเสบ และเดินอย่างแข็งทื่อ จึงได้รับการรักษาด้วยยาแก้อักเสบ[12]
การตาย
[แก้]ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ดอลลีถูกการุณยฆาต เพราะเป็นโรคเกี่ยวกับปอด และอาการข้ออักเสบขั้นรุนแรง[13] ปกติแล้วแกะพันธ์ Finn Dorset อย่างดอลลีมีอายุขัยประมาณ 11 ถึง 12 ปี ทว่าดอลลีมีอายุเพียง 6.5 ปีเท่านั้น หลังการตรวจพบว่าดอลลีมีมะเร็งชนิดต่อมของปอดแกะ (ovine pulmonary adenocarcinoma หรือ Jaagsiekte)[14] ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแกะ และมีสาเหตุมาจากรีโทรไวรัส JSRV[15] นักวิทยาศาสตร์ที่สถาบันรอสลินกล่าวว่า พวกเขาคิดว่าการที่ดอลลีเป็นร่างโคลนไม่น่าใช่สาเหตุ และแกะหลายตัวในฝูงเดียวกันก็เสียชีวิตด้วยโรคนี้เช่นกัน โรคปอดนี้พบได้ส่วนใหญ่ในแกะที่ถูกเลี้ยงไว้ในร่ม และปกติแล้ว ดอลลีก็ถูกนำมานอนในร่มด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
สื่อบางส่วนคาดว่า อีกต้นตอหนึ่งของการตายของดอลลีอาจเพราะว่ามันเกิดมาด้วยอายุยีนหกปี ซึ่งเท่ากับอายุของแกะที่ถูกโคลน หนึ่งในหลักฐานของข้อคิดนี้ คือ การที่เทโลเมียร์ ของดอลลีนั้นสั้น ซึ่งปกติแล้วเป็นตัวชี้อายุ[16][17] สถาบันรอสลินชี้ว่าการตรวจสุขภาพของดอลลีไม่ได้ชี้ถึงการแก่ตัวที่ผิดปกติ[18]
ใน พ.ศ. 2559 นักวิทยาศาสตร์รายงานว่าไม่พบข้อบกพร่องในแกะโคลนทั้งสิบสามตัว ซึ่งในนั้นมีสี่ตัวที่มาจาก เซลล์ไลน์เดียวกับดอลลี งานวิจัยแรกที่รวบรวมผลทางสุขภาพระยะยาวของการโคลน ไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับโรคกลุ่มที่ไม่ติดต่อ นอกจากตัวอย่างไม่กี่ตัวอย่างเกี่ยวกับอาการข้ออักเสบ[19][20]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "1997: Dolly the sheep is cloned". BBC News. 22 February 1997.
- ↑ McLaren A (2000). "Cloning: pathways to a pluripotent future". Science. 288 (5472): 1775–80. doi:10.1126/science.288.5472.1775. PMID 10877698.
- ↑ Wilmut I; Schnieke AE; McWhir J; Kind AJ; และคณะ (1997). "Viable offspring derived from fetal and adult mammalian cells". Nature. 385 (6619): 810–3. Bibcode:1997Natur.385..810W. doi:10.1038/385810a0. PMID 9039911.
- ↑ 4.0 4.1 Edwards, J. (1999). "Why dolly matters: Kinship, culture and cloning". Ethnos. 64 (3–4): 301–324. doi:10.1080/00141844.1999.9981606.
- ↑ 5.0 5.1 "Dolly the sheep clone dies young". BBC News. 14 February 2003
- ↑ "Is Dolly old before her time?". BBC News. London. 27 May 1999. สืบค้นเมื่อ 4 October 2009.
- ↑ Lehrman, Sally (July 2008). "No More Cloning Around". Scientific American. สืบค้นเมื่อ 21 September 2008.
- ↑ Williams, N. (2003). "Death of Dolly marks cloning milestone". Current Biology. 13 (6): 209–210. doi:10.1016/S0960-9822(03)00148-9. PMID 12646139.
- ↑ Campbell KH; McWhir J; Ritchie WA; Wilmut I (1996). "Sheep cloned by nuclear transfer from a cultured cell line". Nature. 380 (6569): 64–6. Bibcode:1996Natur.380...64C. doi:10.1038/380064a0. PMID 8598906.
- ↑ Niemann H; Tian XC; King WA; Lee RS (February 2008). "Epigenetic reprogramming in embryonic and foetal development upon somatic cell nuclear transfer cloning" (PDF). Reproduction. 135 (2): 151–63. doi:10.1530/REP-07-0397. PMID 18239046. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2018. สืบค้นเมื่อ 20 April 2018.
- ↑ Dolly's family.
- ↑ Dolly's arthritis.
- ↑ Dolly's final illness เก็บถาวร 27 กุมภาพันธ์ 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Roslin Institute, Acce ssed 21 February 2008 Cached version
- ↑ Bridget M. Kuehn Goodbye, Dolly; first cloned sheep dies at six years old เก็บถาวร 4 ตุลาคม 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน American Veterinary Medical Association, 15 April 2003
- ↑ Palmarini M (2007). "A Veterinary Twist on Pathogen Biology". PLoS Pathog. 3 (2): e12. doi:10.1371/journal.ppat.0030012. PMC 1803002. PMID 17319740.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Shiels PG; Kind AJ; Campbell KH; และคณะ (1999). "Analysis of telomere length in Dolly, a sheep derived by nuclear transfer". Cloning. 1 (2): 119–25. doi:10.1089/15204559950020003. PMID 16218837.
- ↑ Shiels PG; Kind AJ; Campbell KH; และคณะ (1999). "Analysis of telomere lengths in cloned sheep". Nature. 399 (6734): 316–7. Bibcode:1999Natur.399..316H. doi:10.1038/20580. PMID 10360570.
- ↑ Was Dolly already 'old' at birth?
- ↑ Sinclair, K. D.; Corr, S. A.; Gutierrez, C. G.; Fisher, P. A.; Lee, J.-H.; Rathbone, A. J.; Choi, I.; Campbell, K. H. S.; Gardner, D. S. (26 July 2016). "Healthy ageing of cloned sheep". Nature Communications (ภาษาอังกฤษ). p. 12359. doi:10.1038/ncomms12359.
- ↑ Klein, Joanna (26 July 2016). "Dolly the Sheep's Fellow Clones, Enjoying Their Golden Years". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Dolly the Sheep เก็บถาวร 2023-06-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at the National Museum of Scotland, Edinburgh
- Cloning Dolly the Sheep Dolly the Sheep and the importance of animal research
- Animal cloning and Dolly