ข้ามไปเนื้อหา

เจ้าชายแอนสท์ที่ 2 ดยุกแห่งซัคเซิน-อัลเทินบวร์ค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจ้าชายแอนสท์ที่ 2 ดยุกแห่งซัคเซิน-อัลเทินบวร์ค
ดยุกแห่งซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก
ประสูติ31 สิงหาคม พ.ศ. 2414
ซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก
สิ้นพระชนม์22 มีนาคม พ.ศ. 2498 (83 ชันษา)
พระชายาเจ้าหญิงแอดิเลดแห่งชัมเบิร์ก-ลิพเพอ
พระนามเต็ม
แอนสท์ แบร์นฮาร์ด จอร์จ โยฮัน คาร์ล เฟรเดอริก ปีเตอร์ อัลเบิร์ต
พระบุตรเจ้าหญิงชาลอตต์แห่งซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก
เจ้าชายจอร์จ โมริทซ์ เจ้าชายรัชทายาทแห่งซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก
เจ้าหญิงเอลิซาเบธ
เจ้าชายเฟรเดอริก
ราชวงศ์ราชวงศ์ซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก
พระบิดาเจ้าชายโมริตส์แห่งซัคเซิน-อัลเทินบวร์ค
พระมารดาเจ้าหญิงเอากุสเทอแห่งซัคเซิน-ไมนิงเงิน

เจ้าชายแอนสท์ที่ 2 ดยุกแห่งซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก (อังกฤษ: Ernst II, Duke of Saxe-Altenburg) ประสูติเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2414 เป็นพระโอรสพระองค์สุดท้องใน เจ้าชายโมริตส์แห่งซัคเซิน-อัลเทินบวร์ค กับ เจ้าหญิงเอากุสเทอแห่งซัคเซิน-ไมนิงเงิน เป็นพระนัดดาใน เจ้าชายจอร์จ ดยุกแห่งซัคเซิน-อัลเทินบวร์ค และ ดัชเชสมารี ลูอีสแห่งแห่งเมคเลินบวร์ค-ชเวรีน

เมื่อพระบิดาของพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2450 ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นของ เจ้าชายแอนสท์ที่ 1 ดยุกแห่งซัคเซิน-อัลเทินบวร์ค พระปิตุลา แต่ด้วยพระปิตุลานั้นไม่มีพระบุตร ตำแหน่งนี้เลยตกมาเป็นของพระองค์

พระองค์ทรงเสกสมรสและหย่ากับ เจ้าหญิงแอดิเลดแห่งชัมเบิร์ก-ลิพเพอ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2441 พระชายารับพระราชทานพระอิสริยยศที่ ดัชเชสแห่งซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก พระชายา และทรงหย่าเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2463 มีพระบุตรดังนี้

  1. เจ้าหญิงชาลอตต์แห่งซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก
  2. เจ้าชายจอร์จ โมริทซ์ เจ้าชายรัชทายาทแห่งซัคเซิน-อัลเทินบวร์ค
  3. เจ้าหญิงเอลิซาเบธ
  4. เจ้าชายเฟรเดอริก

ต่อมาทรงเสกสมรสใหม่กับ มาเรีย ทริเบล ไม่มีพระบุตร

พระชนม์ชีพในสงครามโลกครั้งที่ 1

[แก้]

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พระองค์ทรงปฏิเสธการนัดหมายกิตติมศักดิ์ทั้งหมดที่สำนักงานใหญ่ของคาเซียร์ ที่จะคุ้มครองพระองค์และพระญาติ พระองค์ทรงเห็นว่า สงครามครั้งนี้ ผู้คนเผชิญทั้งโลก ไม่ใช่แค่พระองค์เท่านั้น จากนั้นทรงลาออกจากตำแหน่งประธานสมาคมกลูเทนเตอร์ หรือสมาคมการค้าระหว่างดินอดน จากนั้นพระองค์ทรงมีพระประสงค์ต่อรัฐบาลที่จะใช้ยศทหารเป็น พันเอก ซึ่งรัฐบาลได้ถวายตำแหน่งนี้ และเป็นพันเอกคนที่ 153 พระองค์ทรงมีความรักในวิทยาศาสตร์ พระองค์ทรงทุ่ม้เงินมหาศาลไปกับการตั้งระบบไร้สายเกี่ยวกับการบินและสงครามภายในปราสาทของพระองค์ใน อัลเทินบวร์ค ซึ่งรัฐบาลสามารถมาใช้อุปกรณ์ของพระองค์ได้ รัฐบาลจึงแต่งตั้งให้พระองค์เป็น นักวิชาการชำนาญพิเศษเกี่ยวกับระบบไร้สายในสงครามแห่งอัลเทนบูร์ก


เมื่อเยอรมนีสูญเสียสงครามเจ้าชายเยอรมันทั้งหมดเสียชื่อและรัฐ พระองค์เป็นหนึ่งในเจ้าชายพระองค์แรกๆ ที่ตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกำลังจะมาถึง และมาถึงอย่างรวดเร็วใน พระองค์ทรงเริ่มการตั้งถิ่นฐานเป็นมิตรกับอาสาสมัครของหลายประเทศในสงคราม ทรงถูกบังคับให้สละราชสมบัติและตำแหน่ง ดยุกแห่งซัคเซิน-อัลเทนบูร์ก เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2461 และทรงใช้เวลาที่เหลือของพระชนม์ชีพในฐานะพลเมือง

พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2498 สิริพระชันษา 84 ชันษา

อ้างอิง

[แก้]

[1] [2] [3]

  1. "German Ex-Duke to Wed Opera Singer", The New York Times, Berlin, 20 September 1920
  2. "Prince's Wireless Plant", The New York Times, Berlin, 7 April 1914
  3. Ernst Klee: Das Kulturlexikon zum Dritten Reich. Wer war was vor und nach 1945. S. Fischer, Frankfurt am Main 2007, S.505.