อารามวอรอเนตส์

พิกัด: 47°31′1.56″N 25°51′51.3″E / 47.5171000°N 25.864250°E / 47.5171000; 25.864250
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก อารามวอรอแนตส์)
อารามวอรอเนตส์
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อเต็มอารามวอรอเนตส์
ชื่ออื่น"โบสถ์น้อยซิสทีนแห่งตะวันออก"
นิกายออร์ทอดอกซ์โรมาเนีย
ตั้งขึ้นเมื่อ1488
ถวายแด่นักบุญจอร์จ
บุคคลที่เกี่ยวข้อง
ผู้ก่อตั้งชเตฟันมหาราชแห่งมอลเดเวีย
สถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง
รูปแบบสถาปัตยกรรมมอลเดเวีย
สร้างเสร็จ14 กันยายน 1488
ที่ตั้ง
ที่ตั้ง6 กิโลเมตร (3.7 ไมล์) จากกูราฮูมอรูลุย เทศมณฑลซูชาวา ประเทศโรมาเนีย
พิกัด47°31′1.56″N 25°51′51.3″E / 47.5171000°N 25.864250°E / 47.5171000; 25.864250
ซากที่คงเหลือโบสถ์
เข้าถึงได้โดยสาธารณะมี

อารามวอรอเนตส์ (โรมาเนีย: Mănăstirea Voroneț) เป็นอารามสมัยกลางในเมืองกูราฮูมอรูลุย ประเทศโรมาเนีย เป็นหนึ่งในบรรดาอารามประดับจิตรกรรมที่โด่งดังทางตอนใต้ของภูมิภาคบูโควีนาในเทศมณฑลซูชาวา[1] อารามสร้างขึ้นโดยชเตฟันมหาราชแห่งมอลเดเวียในปี 1488 สร้างแล้วเสร็จใน 3 เดือน 3 สัปดาห์ให้หลัง เพื่อฉลองชัยชนะในยุทธการที่วัสลุย อารามมักได้รับการขนานนามว่าเป็น "โบสถ์น้อยซิสทีนแห่งตะวันออก" ด้วยงานจิตรกรรมฝาผนังบนผนังด้านนอกของโบสถ์[2] งานจิตรกรรมปูนเปียกที่วอรอเนตส์ใช้สีน้ำเงินเฉดหนึ่งเป็นหลัก เฉดสีน้ำเงินนี้กลายมาเป็นที่รู้จักในชื่อ "น้ำเงินวอรอเนตส์" (albastrul de Voroneț)[1]

โบสถ์นี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ประดับจิตรกรรมแห่งมอลเดเวียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก[3]

ประวัติศาสตร์[แก้]

ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดถึงอายุของอารามตั้งแต่หลังแรก ตำนานบอกเล่าว่ากษัตริย์ชเตฟันมหาราช เมื่อครั้นประสบปัญหาคุกคามจากชาวเติร์กได้เดินทางมาพบกับฤๅษีดานียิล (Daniil Sihastrul) ที่อารามในวอรอเนตส์เพื่อขอคำแนะนำ ดานียิลบอกให้ชเตฟันอย่ายอมแพ้ในการศึกครั้งนี้ ครั้นได้รับชัยชนะแล้ว ให้สร้างอารามขึ้นที่วอรอเนตส์เพื่ออุทิศแด่นักบุญจอร์จ[4] จารึกเหนือทางเข้าเดิมของโบสถ์นักบุญจอร์จ จุดที่ปัจจุบันเป็นพื้นที่นอกโถงทางเข้า (exonarthex) มีจารึกไว้ว่า:[5] "ข้าพเจ้า ขุนศึกชเตฟัน ด้วยความเมตตากรุณาของพระเจ้า ผู้ครองมอลเดเวีย บุตรของบอกดัน ได้เริ่มก่อสร้างอารามแห่งวอรอเนตส์ขึ้น เพื่อถวายเกียรติแด่นักบุญจอร์จผู้ศักดิ์สิทธิ์และเลื่องชื่อ ผู้เป็นผู้พลีชนม์ที่กล้าหาญ..."

ในปี 1547 กรีกอรีเย รอชกา มุขนายกมหานครแห่งมอลเดเวีย ได้สร้างพื้นที่นอกโถงทางเข้าขึ้นที่ปลายฝั่งตะวันตกของโบสถ์ และมีคำสั่งให้ประดับตกแต่งผนังภายนอกของโบสถ์ด้วยจิตรกรรมฝาผนัง ตามที่มีบันทึกไว้บนประตู[5]

วอรอเนตส์กลายมาเป็นที่รู้จักในฐานะสำนักอักษรวิจิตร ที่ซึ่งนักบวชเดินทางมาเรียนเพื่ออ่าน เขียน และแปลเอกสารทางศาสนา สำนักของวอรอเนตส์ได้ผลิตไบเบิลฉบับแปลเป็นโรมาเนียสองฉบับที่เป็นที่รู้จักดี คือ Codicele Voronețean ค้นพบในปี 1871 และ Psaltirea Voronețeană ค้นพบในปี 1882 ปัจจุบันเป็นสมบัติเก็บรักษาไว้ที่บัณฑิตยสถานโรมาเนีย[5]

อารามถูกทิ้งร้างในหลังปี 1775 เมื่อราชรัฐของฮาพส์บวร์คผนวกตอนเหนือมอลเดเวียเข้ากับตนเอง ชุมชนสังฆะได้กลับมาสู่อารามอีกครั้งในปี 1991 และมีการพัฒนา ก่อสร้างถาวรวัตถุในโบสถ์เรื่อยมา

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 Sandberg-Diment, Erik (June 21, 1998). "Artistic Route Through Romania". New York Times.
  2. Ciortescu, Ramona (2015-10-24). "Voronet Monastery, The Sistine Chapel Of The East". Romania Journal.ro. สืบค้นเมื่อ 2023-02-11.
  3. "UNESCO World Heritage List: Churches of Moldavia". UNESCO World Heritage Center. สืบค้นเมื่อ 28 November 2013.
  4. Neculce, Ion. "O sama de cuvinte". Letopiseţul Ţării Moldovei [Chronicle of Moldavia] (ภาษาโรมาเนีย). สืบค้นเมื่อ 3 December 2013.
  5. 5.0 5.1 5.2 Simionovici, Elena (2001). The sacred monastery of Voronet. แปลโดย Ligia Doina Constantinescu. Sibiu: Thausib. ISBN 973-97726-7-6.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]