วันเมษาหน้าโง่
วันเมษาหน้าโง่ | |
---|---|
การโกหกในวันเมษาหน้าโง่ว่ามีการสร้างสถานีรถไฟโคเพนฮาเกนในปี 2001 | |
ชื่ออื่น | April Fool's Day |
ประเภท | Cultural, Western |
ความสำคัญ | การโกหกในปกติ, หลอกลวง |
การถือปฏิบัติ | มุ่งเน้นความสนุกสนาน |
วันที่ | 1 เมษายน |
ความถี่ | ทุกปี |
วันเมษาหน้าโง่ (อังกฤษ: April Fools' Day) หรือ วันโกหก เฉลิมฉลองในหลายประเทศในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี โดยผู้คนจะเล่นมุกตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน ตามสำนักพิมพ์หรือสื่อต่าง ๆ อาจรายงานเรื่องหลอกลวงในวันนี้ และออกมาเฉลยในวันต่อมา เช่น วันนี้ไม่ใช่วันหยุดราชการ เริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในแคนาดา ยุโรป ออสเตรเลีย บราซิล และสหรัฐอเมริกา
การเชื่อมโยงระหว่างวันที่ 1 เมษายนกับความเขลาที่เก่าแก่ที่สุดที่มีบันทึกสามารถพบได้ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ (ค.ศ. 1392) นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า การฟื้นฟูวันที่ 1 มกราคมให้เป็นวันขึ้นปีใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีผลต่อการสร้างสรรค์วันดังกล่าว แต่ทฤษฎีนี้มิได้อธิบายการอ้างถึงก่อนหน้านั้น
กำเนิด
[แก้]ต้นกำเนิดของวันเมษาหน้าโง่มีเทศกาลฮิลาเรียของโรมัน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคมและเทศกาลคนโง่ในสมัยกลาง จัดขึ้นวันที่ 28 ธันวาคม และยังคงเป็นวันซึ่งมีการเล่นตลกอยู่ในประเทศที่พูดภาษาสเปน
ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ "ตำนานของแม่ชีของพระ" (Nun's Priest's Tale) ซึ่งเรื่องมีขึ้น "Syn March bigan thritty dayes and two"[1] นักวิชาการสมัยใหม่เชื่อว่ามีความผิดพลาดในการทำสำเนาในเอกสารเขียนต้นฉบับเท่าที่มีอยู่ และชอเซอร์แท้จริงแล้วเขียนว่า "Syn March was gon"[2] ดังนั้น วลีนี้เดิมจึงหมายถึง 32 วันหลังเดือนเมษายน คือ 2 พฤษภาคม[3] วันครบรอบการหมั้นระหว่างพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษกับแอนน์แห่งโบฮีเมีย สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ซึ่งเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1564 ผู้อ่านกลับเข้าใจผิดว่าวลีนี้หมายถึง "32 มีนาคม" หรือ 1 เมษายน ในตำนานของชอเซอร์ ไก่ตัวผู้ที่หลงตัวเองถูกสุนัขจิ้งจอกตบตา
ในสมัยกลาง วันขึ้นปีใหม่เฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 มีนาคมในเมืองยุโรปส่วนมาก[4] ในบางพื้นที่ของฝรั่งเศสเป็นวันหยุดนานหนึ่งสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงในวันที่ 1 เมษายน[5][6] นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า วันเมษาหน้าโง่ถือกำเนิดขึ้นเพราะผู้ที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม ล้อคนที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่วันอื่น[5] การใช้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่นั้นพบทั่วไปในฝรั่งเศสเมื่อถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16[3] และวันนี้ได้รับมาอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1564 โดยกฤษฎีการูสิยอง (Edict of Roussillon)
ประเทศไทย
[แก้]ในปี 2564 ตำรวจแจ้งเตือนว่าการโพสต์และแบ่งปันข่าวปลอมบนสื่อสังคมถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550[7]
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ[8]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ The Canterbury Tales, "The Nun's Priest's Tale" - "Chaucer in the Twenty-First Century", University of Maine at Machias, September 21, 2007
- ↑ Carol Poster, Richard J. Utz, Disputatio: an international transdisciplinary journal of the late middle ages, Volume 2, pp. 16-17 (1997).
- ↑ 3.0 3.1 Boese, Alex (2008) "April Fools Day - Origin " Museum of Hoaxes
- ↑ Groves, Marsha, Manners and Customs in the Middle Ages, p. 27, 2005.
- ↑ 5.0 5.1 "April Fools' Day". Encyclopædia Britannica. สืบค้นเมื่อ April 4, 2013.
- ↑ Santino, Jack (1972). All around the year: holidays and celebrations in American life. University of Illinois Press. p. 97. ISBN 978-0-252-06516-3.
- ↑ "Phuket News: Police warn of prison terms for April Fool's stories". The Phuket News Com (ภาษาอังกฤษ). 1 April 2021. สืบค้นเมื่อ 1 April 2021.
- ↑ Thosapol (2024-03-29). "สรุปกฎหมาย วันโกหก 1 เมษายน เล่นมุกยังไง ไม่เสี่ยงคุก ผิด พ.ร.บ.คอม". Thaiger ข่าวไทย.