ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อุปราคา"
ล r2.7.3) (โรบอต เพิ่ม: new:गंकि |
ล Bot: Migrating 57 interwiki links, now provided by Wikidata on d:q141022 (translate me) ป้ายระบุ: ลบลิงก์ข้ามภาษา |
||
บรรทัด 46: | บรรทัด 46: | ||
[[หมวดหมู่:อุปราคา| ]] |
[[หมวดหมู่:อุปราคา| ]] |
||
[[หมวดหมู่:ปรากฏการณ์บนโลก]] |
[[หมวดหมู่:ปรากฏการณ์บนโลก]] |
||
[[af:Verduistering]] |
|||
[[an:Eclix]] |
|||
[[arc:ܚܘܦܝܐ]] |
|||
[[az:Tutulma (astronomiya)]] |
|||
[[be:Зацьменне]] |
|||
[[be-x-old:Зацьменьне]] |
|||
[[bg:Затъмнение]] |
|||
[[bjn:Garaha]] |
|||
[[bn:গ্রহণ (জ্যোতির্বিজ্ঞান)]] |
|||
[[ca:Eclipsi]] |
|||
[[el:Έκλειψη]] |
|||
[[en:Eclipse]] |
|||
[[eo:Eklipso]] |
|||
[[es:Eclipse]] |
|||
[[et:Varjutus]] |
|||
[[eu:Eklipse]] |
|||
[[fa:گرفت (ستارهشناسی)]] |
|||
[[fr:Éclipse]] |
|||
[[fy:Eklips]] |
|||
[[gl:Eclipse]] |
|||
[[he:ליקוי מאורות]] |
|||
[[hi:ग्रहण]] |
|||
[[hr:Pomrčina]] |
|||
[[id:Gerhana]] |
|||
[[it:Eclissi]] |
|||
[[ja:食 (天文)]] |
|||
[[kk:Тұтылу]] |
|||
[[kn:ಗ್ರಹಣ]] |
|||
[[ko:식 (천문)]] |
|||
[[la:Eclipsis]] |
|||
[[lmo:Eclissi]] |
|||
[[lt:Užtemimas]] |
|||
[[ml:ഗ്രഹണം]] |
|||
[[mr:ग्रहण]] |
|||
[[ms:Gerhana]] |
|||
[[mt:Eklissi]] |
|||
[[my:နေကြတ်ခြင်း နှင့် လကြတ်ခြင်း]] |
|||
[[ne:ग्रहण]] |
|||
[[new:गंकि]] |
|||
[[nl:Eclips]] |
|||
[[no:Formørkelse]] |
|||
[[pl:Zaćmienie]] |
|||
[[pt:Eclipse]] |
|||
[[ro:Eclipsă]] |
|||
[[ru:Затмение]] |
|||
[[scn:Ecclissi]] |
|||
[[simple:Eclipse]] |
|||
[[sk:Zatmenie]] |
|||
[[sl:Mrk]] |
|||
[[sr:Помрачење]] |
|||
[[sv:Eklips]] |
|||
[[ta:கிரகணம்]] |
|||
[[tl:Eklipse]] |
|||
[[uk:Затемнення]] |
|||
[[vi:Thiên thực]] |
|||
[[war:Bakunawa]] |
|||
[[zh:食 (天文現象)]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:00, 8 มีนาคม 2556
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
อุปราคา คือ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ เกิดขึ้นเมื่อวัตถุท้องฟ้าหนึ่ง เช่น ดาวเคราะห์หรือดาวบริวารมาอยู่ระหว่างต้นกำเนิดแสง (เช่น ดวงอาทิตย์) กับอีกวัตถุหนึ่ง
อุปราคาบนโลก
อุปราคาที่สังเกตได้จากโลกไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะระนาบการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์กับระนาบการโคจรของดวงจันทร์รอบโลกไมได้เป็นระนาบเดียวกัน แต่เป็นระนาบที่ตัดกันโดยจะเกิดขึ้นเมื่อโลก ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อยู่บนระนาบเดียวกันเท่านั้น
อุปราคาที่มองเห็นได้ชัดเจนจากโลก ได้แก่:
- จันทรุปราคา - โลกเข้าบังดวงอาทิตย์เมื่อมองดูจากดวงจันทร์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ดวงจันทร์เคลื่อนเข้าไปในเงามืดของโลก มีโอกาสเกิดขึ้นได้เฉพาะในคืนวันเดือนเพ็ญ
- สุริยุปราคา - ดวงจันทร์เข้าบังดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ดวงจันทร์ทอดเงาตกลงบนผิวโลก มีโอกาสเกิดขึ้นได้เฉพาะในวันเดือนดับ
ประเภทของอุปราคา
- อุปราคาเต็มดวง เกิดขึ้นเมื่อผู้สังเกตอยู่ภายใต้เงามืดของดวงจันทร์ ทำให้แสงที่ส่องมาจากดวงอาทิตย์ถูกบดบังไปทั้งหมด
- อุปราคาบางส่วน
- สำหรับสุริยุปราคา เกิดขึ้นเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ถูกบดบังไปบางส่วน โดยผู้สังเกตจะอยู่ภายใต้เงามัวของดวงจันทร์
- สำหรับจันทรุปราคา เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ถูกบังบางส่วนโดยเงาของโลก จะเห็นดวงจันทร์เป็นเสี้ยว
- อุปราคาวงแหวน ในสุริยุปราคา เกิดเหมือนสุริยุปราคาเต็มดวง แต่เห็นเป็นวงแหวน
- อุปราคาแบบผสม ในสุริยุปราคา เหตุการณ์ที่ผู้สังเกตสามารถสังเกตได้จะเห็นเป็นขั้นตอน โดยขั้นแรกจะเห็นเป็นสุริยุปราคาวงแหวน จากนั้นเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง จากนั้นก็จะเห็นเป็นแบบวงแหวนอีกครั้ง
เฟสของสุริยุปราคาเต็มดวง
ลำดับขั้นตอนในการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงโดยมองจากผู้สังเกตบนโลก
- สัมผัสที่ 1 ด้านตะวันออกของดวงจันทร์เริ่มสัมผัสกับด้านตะวันตกของดวงอาทิตย์ ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี อากาศเริ่มเย็น ลักษณะธรรมชาติเวลานั้นจะเหมือนเวลาเย็น เมื่อมองดวงอาทิตย์ผ่านแผ่นกรองแสง จะเห็นว่าดวงอาทิตย์ถูกบดบังไปบางส่วนแล้ว
- สัมผัสที่ 2 ดวงจันทร์เริ่มบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ไปเกือบหมด เหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะสังเกตได้จากความขรุขระของผิวของดวงจันทร์ จะเห็นแสงสว่างลอดออกมาจากผิวขรุขระนั้น เรียกว่า ปรากฏการณ์ลูกปัดของเบลีย์ และ ปรากฏการณ์แหวนเพชร ดวงดาวสว่างๆ เริ่มปรากฏให้เห็น เมื่อดวงอาทิตย์ถูกบดบังทั้งหมด จะสามารถสังกตเห็นชั้นบรรยากาศโคโรนา ของดวงอาทิตย์ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ในเวลาปกติ นอกจากนี้อาจเห็นพวยแก๊สที่พุ่งออกมาจากชั้นบรรยากาศชั้นโครโมสเฟียร์ แสงเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเข้าสู่สัมผัสที่ 3
- สัมผัสที่ 3 ดวงจันทร์เริ่มเคลื่อนออกไปจากดวงอาทิตย์เกิดปรากฏการณ์ลูกปัดของเบลีย์ และ ปรากฏการณ์แหวนเพชร ดวงอาทิตย์ที่เคยถูกบดบังก็จะสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่สัมผัสสุดท้าย
- สัมผัสสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ออกไปจากดวงอาทิตย์ทั้งดวง เป็นการสิ้นสุดสุริยุปราคาเต็มดวงอย่างสมบูรณ์
เฟสของจันทรุปราคา
ลำดับขั้นตอนในการเกิดจันทรุปราคาโดยมองจากผู้สังเกตบนโลก
- สัมผัสที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรเข้าสู่เงามืดของโลก
- สัมผัสที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรเข้าสู่เงามืดของโลกทั้งดวง ก่อนที่จะเข้าสู่เงามืดเต็มดวง จะเห็นแสงสว่างของดวงจันทร์น้อยมาก แต่ในขณะที่ดวงจันทร์เข้าสู่เงามืดของโลกอย่างเต็มดวงแล้ว จะเห็นดวงจันทร์มีสีค่อนข้างแดงเนื่องจากการหักเหของแสง
- สัมผัสที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์กำลังเริ่มเคลื่อนออกจากเงามืดของโลก
- สัมผัสสุดท้าย เมื่อดวงจันทร์โคจรพ้นเงามืดของโลก สิ้นสุดจันทรุปราคาโดยสมบูรณ์
ความเชื่อ
ก่อนหน้าที่จะมีการศึกษาการเกิดอุปราคาในวิชาดาราศาสตร์ ได้มีตำนานหรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับการเกิดอุปราคาในหลาย ๆ ลักษณะ เช่น ในตำนานของชาวฮินดูนั้น เล่ากันว่า จันทรุปราคาเกิดจากราหูอมจันทร์ และในวรรณคดีเรื่องไตรภูมิพระร่วงก็มีการกล่าวถึงราหูอมจันทร์เช่นกัน
อุปราคาบนดาวเคราะห์ดวงอื่น
อุปราคาไม่สามารถเกิดขึ้นบนดาวพุธและดาวศุกร์ได้เลย เนื่องจากดาวเคราะห์ทั้งสองดวงนี้ไม่มีดวงจันทร์บริวารของตน
ส่วนอุปราคาบนดาวอังคารนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะอุปราคาแบบบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากดวงจันทร์ของดาวอังคารไม่ใหญ่พอที่จะบดบังดวงอาทิตย์ทั้งดวงได้
บนดาวพฤหัสสามารถเกิดอุปราคาได้บ่อยครั้งมาก โดยมักเกิดจากดวงจันทร์ดวงใหญ่ 4 ดวง คือ ไอโอ ยูโรปา แกนิมีตและคัลลิสโต ซึ่งสามารถสังเกตได้จากเงาของดวงจันทร์บนดาวพฤหัส
ดาวพลูโตก็เป็นอีกดวงหนึ่งที่เกิดอุปราคาได้บ่อย เนื่องจากมีดวงจันทร์ที่ขนาดใหญ่พอๆ กับตัวมันเอง