ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สตาร์บัคส์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรียกดูประวัติแบบโต้ตอบ
← การแก้ไขก่อนหน้าการแก้ไขถัดไป →
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เห็นภาพข้อความวิกิ
Tui Surasak (คุย | ส่วนร่วม)
การแก้ไข 4 ครั้ง
ไม่มีความย่อการแก้ไข
แทนที่เนื้อหาด้วย " <!-- sorted by short column --> <!-- sorted by long column -->หมวดหมู่:บริษัทข้ามชาติ ห..."
ป้ายระบุ: ถูกแทน การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:


{{Infobox company
| name = สตาร์บัคส์ คอร์เปอเรชัน
| logo = Starbucks Corporation Logo 2011 new.svg
| logo_size = 100px
| logo_alt =
| image = Starbuckscenter.jpg
| image_size = 250px
| image_caption = สำนักงานใหญ่ของสตาร์บัคส์ ที่[[สตาร์บัคส์เซ็นเตอร์]] ใน[[ซีแอตเทิล]] [[รัฐวอชิงตัน]]
| type = บริษัท
| founded = {{Start date and age|1971|03|31}}<br>ตลาดไพก์เพลซ, เอลลิออตเบย์, ซีแอตเทิล [[สหรัฐอเมริกา]]
| founder = {{plain list|
* เจอร์รี บัลด์วิน
* เซฟ ซีเกิล
* กอร์ดอน โบว์เกอร์
}}
| hq_location = 2401 อูทาห์อเวนิวเซาธ์
| hq_location_city = ซีแอทเทิล, รัฐวอชิงตัน
| hq_location_country = สหรัฐอเมริกา
| num_locations = 27,984 สาขา<ref name="loxcel">{{cite web|title=Loxcel Starbucks Map|url=http://www.loxcel.com/sbux-faq.html|work=Starbucks|accessdate=April 17, 2018|date=April 17, 2018}}</ref>
| num_locations_year = พ.ศ. 2561
| area_served = ทั่วโลก
| key_people = {{plain list|
* โฮเวิร์ด ชูลซ์<br>{{small| (ประธานบริษัทและผู้บริหาร)}}
* เควิน จอห์นสัน<br>{{small| (ประธานบริษัทและประธานฝ่ายปฏิบัติการ)}}
}}
| industry = [[ร้านกาแฟ]]
| products = {{flat list|
* กาแฟ
* น้ำปั่น
* ชา
* เบเกอรี
* แซนด์วิช
}}
| revenue = {{increase}} 22.387 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ <ref name=SEC2017>[http://www.nasdaq.com/symbol/sbux/financials?query=income-statement "Starbucks financial report 2017"]. NASDAQ.</ref>
| revenue_year = ค.ศ. 2017
| operating_income = {{increase}} 4.135 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name=SEC2017>
| income_year = ค.ศ. 201
| net_income = {{increase}}2.885 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
| net_income_year = ค.ศ. 2017
| assets = {{increase}} 14.366 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name=SEC2017>
| assets_year = ค.ศ. 2017
| equity = {{decrease}} 5.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name=SEC2017>
| equity_year = ค.ศ. 2017
| num_employees = 238,000 คน<ref>{{cite news|url=http://www.forbes.com/companies/starbucks/|title=Starbucks|date=May 2013|website=forbes.com|accessdate =February 21, 2014}}</ref>
| num_employees_year = ค.ศ. 2016
| divisions =
| subsid = {{flat list|
* สตาร์บัคส์คอฟฟี
* [[Ethos Water|เอธอสวอเตอร์]]
* [[Evolution Fresh|อีโวลูชันเฟรช]]
* [[Hear Music|เฮียร์มิวสิก]]
* [[La Boulange Bakery|ลาบูลังเบเกอรี]]
* [[Seattle's Best Coffee|ซีแอทเทิลส์เบสต์คอฟฟี]]
* [[Tazo|ทาโซ]]
* [[Teavana|ทีวานา]]
* [[Torrefazione Italia|ทอร์เรฟาซีโอเน อีตาเลีย]]
}}
| website = {{URL|http://www.starbucks.com/}}
}}

'''สตาร์บัคส์''' ({{lang-en|Starbucks}}) เป็นร้านกาแฟจากอเมริกาใน[[ซีแอตเทิล|เมืองซีแอตเทิล]]ใน[[รัฐวอชิงตัน]] ในปี [[ค.ศ. 1971]] โดย กอร์ดอน โบเคอร์, เจอรี่ บัลด์วิน และซิฟ ซีเกิ้ล โดยตอนแรกใช้โลโก้เป็นรูปไซเรน 2 หาง ก่อตั้งในฐานะร้านขายเมล็ดกาแฟคั่ว ต่อมาปี 1982 สตาร์บัคส์มีสาขา 5 สาขา และโฮเวิร์ด ชูลทส์ได้เข้ามาร่วมงานด้วย โดยดูแลด้านการตลาดและค้าปลีก ซึ่งเขาเป็นผู้แนะนำให้สตาร์บัคส์เปิดเป็นบาร์กาแฟ แต่หลายคนก็ไม่เชื่อในวิสัยทัศน์ของเขา ต่อมาชูลทส์ได้ลาออกจากบริษัท ไปเปิดบาร์กาแฟของตนเองชื่อ อิล จิออร์เนล และจำหน่าย[[กาแฟ]]ของสตาร์บัคส์ ในปี 1987 สตาร์บัคส์ประสบปัญหายุ่งยากจากการไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ ปี 1988 อิล จิออร์เนลจึงซื้อกิจการด้านค้าปลีกไว้พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น และจ้างนักบริหารมืออาชีพเข้ามาดูแล ปี 1992 สตาร์บัคส์ได้เข้า[[ตลาดหลักทรัพย์]] และในปี 1996 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาแรกนอก[[ทวีปอเมริกาเหนือ|อเมริกาเหนือ]]ที่[[โตเกียว]] [[ประเทศญี่ปุ่น]] ปัจจุบันมากกว่า 1 ใน 3 ของร้านสตาร์บัคส์ทั้งหมดอยู่ในต่างประเทศ<ref>{{cite web|url=http://www.starbucks.com/aboutus/Company_Profile.pdf|title=Company Profile|date=February 2008|publisher=Starbucks Coffee Company|accessdate=May 13, 2009|deadurl=yes|archiveurl=https://web.archive.org/web/20091015055833/http://www.starbucks.com/aboutus/Company_Profile.pdf|archivedate=October 15, 2009}}</ref> โดยเฉลี่ยแล้วสตาร์บัคส์เปิดสาขาใหม่เพิ่มวันละ 2 สาขาระหว่างปี 1987 และ 2007<ref>{{cite web|url=http://www.bspcn.com/2007/12/10/5-things-you-didnt-know-starbucks/|archive-url=http://arquivo.pt/wayback/20090627152143/http://www.bspcn.com/2007/12/10/5-things-you-didnt-know-starbucks/|dead-url=yes|archive-date=June 27, 2009|title=5 Things You Didn't Know: Starbucks &#124; The Best Article Every Day|publisher=Bspcn.com|date=December 10, 2007|accessdate=May 9, 2014}}</ref> บริษัทได้เริ่ม Caffe Starbucks เป็นระบบบริการออนไลน์โดยอาศัยเครือข่ายของ เอโอแอล{{ต้องการอ้างอิงเฉพาะส่วน}}

สัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์ครั้งแรกนั้นเป็นรูป[[นางเงือก]] ซึ่งเป็น นางเงือกไซเรนสองหาง (Norse Siren) ในเทพนิยายปรัมปรา เพื่อให้นึกถึงการผจญภัยในทะเล และปรับเปลี่ยนหลายครั้งและล่าสุดคือ ค.ศ. 2011 ในวาระการเฉลิมฉลองครบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจ<ref>[http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/living/20110413/386558/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B9%8C.html ตำนานนางเงือกไซเรนบนโลโก้สตาร์บัคส์ โดย : วลัญช์ สุภากร (กรุงเทพธุรกิจ)]</ref>

ปัจจุบันสตาร์บัคส์ มีสาขากว่า 27,984 สาขาทั้งในสหรัฐฯและในอีก 73 ประเทศ ในปีค.ศ. 2018 ประเทศไทยมีจำนวนสาขาทั้งหมด 336 สาขา<ref name="loxcel">{{cite web|title=Loxcel Starbucks Map|url=http://www.loxcel.com/sbux-faq.html|work=Starbucks|accessdate=April 17, 2018|date=April 17, 2018}}</ref> อดีต[[กรรมการผู้จัดการ|ประธานบริหาร]] โฮเวิร์ด ชูลทส์ (Howard Schultz)ประกาศลาออกเมื่อเดือนเมษายน 2017 ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริหารปัจจุบันคือ เควิน จอห์นสัน (Kevin Johnson)<ref>{{cite web|url=https://www.fastcompany.com/3066192/how-starbucks-can-guarantee-its-ceo-transition-succeeds|title=How Starbucks Can Guarantee Its CEO Transition Succeeds|date=April 3, 2017|publisher=Fast Company|accessdate=2017-04-11}}</ref>

== ประวัติ ==
=== ก่อตั้ง ===
สตาร์บัคส์สาขาแรกก่อตั้งขึ้นใน[[ซีแอทเทิล]] [[รัฐวอชิงตัน]] ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1971<ref> Starbucks [https://www.starbucks.com/coffeehouse/store-design/1st-and-pike, "1st and Pike"], "Starbucks", 2016 </ref> โดย 3 ผู้ก่อตั้งที่ได้รู้จักกันในสมัยเรียนที่[[มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก]]<ref name="TimeOutSF">{{cite book|author=Time Out|title=Time Out Guide San Francisco|url=https://books.google.com/books?id=esY90CkrXbYC|accessdate=April 9, 2013|year=2011|publisher=Time Out Guides|isbn=978-1-84670-220-4}}</ref> คือ เจอร์รี บัลด์วิน ซึ่งเขาเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ, เซฟ ซีเกิล อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ และ กอร์ดอน โบว์เกอร์ นักเขียน โดยพวกเขามีแรงบันดาลในที่จะขายเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง และอุปกรณ์คั่วกาแฟโดย อัลเฟรด พีท หลังจากที่ได้สอนพวกเขาเกี่ยวกับการคั่วเมล็ดกาแฟ<ref name=Pren2523>Pendergrast, pp. 252–53</ref> บริษัทได้นำชื่อจากหนังสือ[[โมบิดิก]] คือ สตาร์บัค (Starbuck) หลังจากคิดค้นมาหลายชื่อเช่น "คาร์โกเฮาส์" (Cargo House) และ "พีควด" (Pequod)<ref>{{cite web|url=http://blog.seattlepi.com/thebigblog/2012/06/29/how-starbucks-got-its-name/|title=How Starbucks got its name - Seattle's Big Blog|work=[[Seattle Post-Intelligencer]]|accessdate=October 21, 2015}}</ref> โบว์เกอร์ได้ปรึกษากับเทอร์รี เฮกเลอร์ ซึ่งเขากล่าวว่าตัวอักษร "st" นั้นดูแข็งแรง ผู้ก่อตั้งจึงรวมหัวกันคิดชื่อที่ขึ้นต้นด้วย "st" ซึ่งได้มีคนหนึ่งนำแผนที่เหมืองเก่าของเทือกเขาแคสเคด และเห็นชื่อเมืองในเหมืองที่ชื่อว่า "สตาร์โบ" (Starbo) และโบว์เกอร์ก็ได้ยกตัวละคร "สตาร์บัค" (Starbuck) และกล่าวว่า โมบิดิก ไม่ได้มีบทเด่นสำหรับสตาร์บัคส์ และชื่อนี้ฟังดูตรงกับความต้องการของเรา<ref>{{cite news|url=http://seattletimes.com/html/businesstechnology/2004269831_bowker09.html|title=Starbucks co-founder talks about early days, launching Redhook and Seattle Weekly, too|publisher=Business and Technology|author=Melissa Allison|date=March 9, 2008}}</ref>

[[ไฟล์:Original Starbucks.jpg|thumb|สตาร์บัคส์สโตร์ที่ 1912 ไพก์เพลซ เป็นสาขาที่ 2 ของออริจินัลสตาร์บัคส์ ซึ่งเคยอยู่ที่ 2000 เวสต์เทิร์นอเวนิว ตั้งแต่ ค.ศ. 1971 ถึง ค.ศ. 1976]]

สตาร์บัคส์สโตร์สาขาแรกตั้งขึ้นในซีแอทเทิล ที่ 2000 เวสต์เทิร์นอเวนิล ตั้งแต่ ค.ศ. 1971–1976 และสาขานี้ได้ย้ายไปยัง 1912 ไพก์เพลซ และไม่ได้มีการย้ายอีก<ref name="BrewerBrissenden2012">{{cite book|author1=Stephen Brewer|author2=Constance Brissenden|author3=Anita Carmin|title=DK Eyewitness Travel Guide: Pacific Northwest|url=https://books.google.com/books?id=_h-MvFHAMOIC&pg=PA135|accessdate=November 12, 2012|date=September 26, 2012|publisher=Dorling Kindersley|isbn=978-1-4053-7081-3|pages=135–}}</ref> ในช่วงนั้น ทางบริษัทได้จำหน่ายเพียงเมล็ดกาแฟคั่วเท่านั้น ยังไม่ได้จำหน่ายกาแฟสำเร็จรูป<ref name=usa1992>{{cite news|title=Coffee firm's plans to go national are percolating|author=Linda Dono Reeves|date=September 8, 1992|publisher=USA Today}}</ref> ซึ่งกาแฟสำเร็จรูปที่อยู่ในร้านเป็นเพียงแก้วทดลองซึ่งแจกฟรีให้กับลูกค้า โดยปีแรกพวกเขาได้ซื้อเมล็ดกาแฟจากพีท หลังจากนั้นจึงเริ่มซื้อจากชาวสวนโดยตรง

=== ขยายตัว ===
ในปี ค.ศ. 1984 เจ้าของบริษัทสตาร์บัคส์ นำโดยเจอร์รี บัลด์วิน ได้ทำการซื้อ พีทส์<ref>"Starbucks Corporation." Student Resources. N.p., n.d. Web. March 13, 2013.</ref> ซึ่งในช่วงยุค 80 ยอดขายของกาแฟในสหรัฐอเมริกาค่อนข้างซบเซา แต่ยอดขายของกาแฟชนิดพิเศษกลับเพิ่มขึ้น 10% ของตลาดในปี ค.ศ. 1989 เทียบกับปี ค.ศ. 1983 ที่ 3%<ref name=wsj1989>{{cite news|title=Boom in Fancy Coffee Pits Big Marketers, Little Firms|author=Mark Robichaux|publisher=The Wall Street Journal|date=November 6, 1989}}</ref> ในปี ค.ศ. 1986 บริษัทได้เปิดร้านแล้วถึง 6 สาขาในซีแอทเทิล<ref name=wsj1989/>โดยมีสาขาหนึ่งเริ่มทดลองขายกาแฟ[[เอสเปรสโซ]]<ref>{{cite news|title=Americans Wake Up and Smell the Coffee|author=Florence Fabricant|date=September 2, 1992|url=https://www.nytimes.com/1992/09/02/garden/americans-wake-up-and-smell-the-coffee.html|publisher=The New York Times}}</ref>

ต่อมาในปี ค.ศ. 1987 ผู้บริหารได้ตัดสินใจขายสาขาของสตาร์บัคส์ให้กับผู้จัดการสาขา<ref>{{cite web|url=https://news.starbucks.com/uploads/documents/AboutUs-Timeline-Q32015-8.6.2015.pdf |title=Archived copy |accessdate=2016-10-27 |deadurl=no |archiveurl=https://web.archive.org/web/20150906183546/https://news.starbucks.com/uploads/documents/AboutUs-Timeline-Q32015-8.6.2015.pdf |archivedate=September 6, 2015 |df=mdy }}</ref> โฮเวิร์ด ชูลซ์ ได้ปรับปรุงร้านกาแฟ อิลจีออร์นาเลคอฟฟี ของเขาเป็นสตาร์บัคส์ และเริ่มต้นที่จะขยายสาขาออกไป ต่อมาในปีเดียวกัน สตาร์บัคส์ได้ขยายสาขาไปยังนอกซีแอทเทิลสาขาแรก ที่สถานีวอเตอร์ฟรอนต์ ที่[[แวนคูเวอร์]] ใน [[รัฐบริติชโคลัมเบีย]] และ [[ชิคาโก]] ใน[[รัฐอิลลินอยส์]]<ref name=tele40/> ในปี ค.ศ. 1989 ได้มีร้านถึง 46 สาขาทั้งในเขตนอร์ธเวสต์และมิดเวสต์ อีกทั้งสตาร์บัคส์ยังได้ขายกาแฟไปถึง {{convert|2000000|lb|kg|0}}<ref name=wsj1989/>

และถึงเวลาที่จะทำ[[การเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก]] บนตลาดหุ้นในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1992 ซึ่งในขณะนั้นมีร้านถึง 140 สาขา และรายได้ 73.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 1987 โดยบริษัทมีมูลค่าทางการตลาด 271 ล้านดอลลาร์สหรัฐในตอนนั้น โดยหุ้น 12% ของบริษัทได้ถูกขายและเพิ่มขึ้นประมาณ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มตามร้านค้าที่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในสองปีถัดมา<ref>{{cite news|title=Interest brews for Starbucks Coffee retailer makes stock offering amid latest java craze|publisher=The Globe and Mail|date=June 17, 1992}}</ref> ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1992 สตาร์บัคส์ได้มีมูลค่ามากขึ้น 70% และมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เท่าจากปีก่อน<ref name=usa1992/>

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013 มากกว่า 10% ของการซื้อสินค้าในร้านมาจากอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชันสตาร์บัคส์<ref>{{cite web|title=Mobile Payment At U.S. Starbucks Locations Crosses 10% As More Stores Get Wireless Charging|url=http://techcrunch.com/2013/07/26/mobile-payment-at-u-s-starbucks-locations-crosses-10-as-more-stores-get-wireless-charging/}}</ref> โดยบริษัทได้ทำโปรโมชัน "ทวีตอะคอฟฟี" (Tweet-a-Coffee) เพื่อส่งเสริมการซื้อผ่านโทรศัพท์มือถือในเดือนตุลาม ค.ศ. 2013 ในโอกาสนี้ โปรโมชันที่ใช้[[ทวิตเตอร์]] ซึ่งลูกค้ามีโอกาสได้รับบัตรของขวัญมูลค่า 5 ดอลลาร์ สำหรับเพื่อนที่เมนชัน "@tweetacoffee" และเพื่อนที่แท็กในทวีต โดยคีย์โฮลได้ตรวจสอบเกี่ยวกับแคมเปญนี้ โดยวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ได้รายงานว่า มี 27,000 คนเข้าร่วมแคมเปญนี้ และมียอดซื้อถึง 180,000 ดอลลาร์สหรัฐในวันเดียวกัน<ref>{{cite web|title=Starbucks’ @Tweetacoffee Campaign Generated $180,000 in Sales, HUGE Long-term Benefits |url=http://blog.keyhole.co/post/69080821142/starbucks-tweetacoffee-campaign-generated-180-000-in |work=Keyhole |publisher=Keyhole |accessdate=December 24, 2013 |author=Saif Ajani |date=December 5, 2013 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20131215004220/http://blog.keyhole.co/post/69080821142/starbucks-tweetacoffee-campaign-generated-180-000-in |archivedate=December 15, 2013 }}</ref><ref>{{cite web|title=Starbucks 'Tweet-a-Coffee' Campaign Prompted $180,000 in Purchases|url=http://mashable.com/2013/12/05/starbuckss-tweet-a-coffee-180000/?utm_cid=mash-com-fb-main-link|work=Mashable|publisher=Mashable|accessdate=December 7, 2013|author=Todd Wasserman|date=December 6, 2013}}</ref>

=== ตลาดใหม่ ===
สาขาแรกของสตาร์บัคส์ที่ตั้งอยู่นอกอเมริกาเหนือตั้งอยู่ที่ [[โตเกียว]] [[ประเทศญี่ปุ่น]] ในปี ค.ศ. 1996<ref>{{cite news|last=Szabo|first=Liz|title=Launching Starbucks In Japan -- First Of 15 Stores To Open|url=http://community.seattletimes.nwsource.com/archive/?date=19960729&slug=2341589|publisher=The Seattle Times|accessdate=October 19, 2012|date=July 29, 1996}}</ref> ต่อมาได้เข้าทำตลาดใน[[สหราชอาณาจักร]] ในปี ค.ศ. 1998 ด้วยมูลค่า 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref>{{Cite news |title=McDonalds Corp Betting That Coffee Is Britains Cup of Tea |url=https://www.nytimes.com/1999/03/28/world/mcdonald-s-corp-betting-that-coffee-is-britain-s-cup-of-tea.html |newspaper=[[The New York Times]] |date = March 1999|accessdate=August 6, 2009}}</ref> ด้วยร้าน 56 สาขา และปรับปรุงร้านภายใต้ชื่อ สตาร์บัคส์ ต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2002 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาแรกใน[[ลาตินอเมริกา]] ที่[[เม็กซิโกซิตี]] ซึ่งในขณะนี้มีมากกว่า 500 สาขาใน[[ประเทศเม็กซิโก]] อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายเป็น 850 สาขาใน ค.ศ. 2018<ref>{{cite web|title=Starbucks sigue como prioridad para Alsea|url=http://www.eluniversal.com.mx/articulo/cartera/negocios/2016/03/29/starbucks-sigue-como-prioridad-para-alsea|work=El Universal|publisher=El Universal|accessdate=September 22, 2016|author=Miguel Ángel Pallares Gómez|date=March 29, 2016}}</ref>

ในปี ค.ศ. 1999 สตาร์บัคส์ได้ทดลองตลาดใหม่ด้วยการเปิดร้านอาหารในซานฟรานซิสโกเบย์ ซึ่งร้านมีชื่อว่า "เซอร์คาเดีย" (Circadia)<ref name="circadia">{{cite news|url=http://www.bizjournals.com/seattle/stories/1999/10/18/newscolumn3.html|title=Starbucks still seeking a rhythm for Circadia|last=Tice|first=Carol|date=October 15, 1999|work=Puget Sound Business Journal|accessdate=May 13, 2009}}</ref> ซึ่งอนาคตจะมีการเปลี่ยนเป็นสตาร์บัคส์ คาเฟ่

ต่อมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2002 สตาร์บัคส์ได้ก่อตั้งบริษัทค้าขายกาแฟใน[[โลซาน]] [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] เพื่อซื้อเมล็ดกาแฟเขียว ซึ่งธุรกิจอื่น เช่น ร้านกาแฟ ยังคงจัดการจากซีแอทเทิลโดยตรง<ref>{{cite news|url=http://www.bizjournals.com/seattle/stories/2002/10/14/daily35.html|title=Starbucks establishes coffee trading company in Switzerland|date=October 17, 2002|accessdate=November 12, 2012}}</ref>

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2003 สตาร์บัคส์ได้ซื้อ ซีแอทเทิลส์เบสต์คอฟฟี และ ทอร์เรฟาซีโอเน อีตาเลีย จาก เอเอฟซีเอนเตอร์ไพรซ์ ด้วยมูลค่า 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้มีร้านสตาร์บัคส์เพิ่ม 150 สาขา แต่ตามรายงานของซีแอทเทิลโพสต์-อินเทลิเจนเซอร์ กล่าวว่าทำให้ธุรกิจค้าส่งมีสัญญาณที่ดีขึ้น<ref>{{cite news|url=http://www.seattlepi.com/business/article/A-grande-deal-for-Starbucks-1112460.php|title=A grande deal for Starbucks|publisher=Seattle Post-Intelligencer|author=Christine Frey|date=April 16, 2003|accessdate=December 1, 2012}}</ref> ต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 ดายดริชคอฟฟี ได้ยืนยันที่จะขายบริษัทและร้านค้าทั้งหมดให้กับสตาร์บัคส์ รวมถึงสาขาของร้านคอฟฟีพีเพิล ใน[[รัฐออริกอน]]ด้วย ทำให้ต่อมาได้เปลี่ยนร้านทั้งหมดเป็นสตาร์บัคส์ ยกเว้นร้านคอฟฟีพีเพิลใน[[สนามบินนานาชาติพอร์ตแลนด์]]<ref>{{cite news|url=http://articles.latimes.com/2006/sep/15/business/fi-diedrich15|title=Diedrich to Sell Cafes to Rival|last=Hirsch|first=Jerry|date=September 15, 2006|work=Los Angeles Times|accessdate=May 13, 2009}}</ref>

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2003 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาแรกในอเมริกาใต้ ตั้งอยู่ใน[[ลิมา]] [[ประเทศเปรู]]<ref>{{cite news|url=http://www.bizjournals.com/seattle/stories/2003/08/18/daily13.html|title=Starbucks enters South America through Peru|publisher=Puget Sound Business Journal|date=August 19, 2003}}</ref>

ในปี ค.ศ. 2007 บริษัทได้ทำการเปิดสาขาแรกใน[[ประเทศรัสเซีย]] ซึ่งเป็น 10 ปีหลังจากได้จดทะเบียนการค้าที่นี่<ref name=Russia>{{cite news|url=https://www.nytimes.com/2007/09/07/business/worldbusiness/07sbux.html |title=After long dispute, a Russian Starbucks|last=Kramer|first=Andrew|date=September 7, 2007|work=The New York Times|accessdate=April 18, 2009}}</ref>

ต่อมาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 พวกเขาได้ซื้อบริษัทผู้ผลิตเครื่องคั่วกาแฟ และได้ทดสอบการทำกาแฟสดที่ร้านสตาร์บัคส์ในซีแอทเทิล, แคลิฟอร์เนีย, นิวยอร์ก และบอสตัน<ref name=nytclover>{{cite news| url=https://www.nytimes.com/2008/03/26/dining/26starbucks.html |work=The New York Times | title=Tasting the Future of Starbucks Coffee From a New Machine | first=Oliver | last=Schwaner-Albright | date=March 26, 2008 | accessdate=April 1, 2010}}</ref>

[[ไฟล์:Starbucks stores graph.png|thumb|กราฟแสดงการเติบโตของสตาร์บัคส์ตั้งแต่ ค.ศ. 1971 จนถึง ค.ศ. 2011<ref name=tele40/>]]

ต้นปี ค.ศ. 2008 สตาร์บัคส์ได้เปิดเว็บไซต์คอมมูนิตี "มายสตาร์บัคส์ไอเดีย" เพื่อเก็บข้อสงสัยและความคิดเห็นจากลูกค้า ซึ่งผู้ใช้สามารถให้ความคิดเห็นและโหวตได้ ซึ่งให้บริการโดย เซลส์ฟอร์ซดอตคอม<ref>{{cite news|url=https://www.theguardian.com/technology/2008/mar/24/netbytes.starbucks|title=Starbucks lets customers have their say|last=Schofield|first=Jack|date=March 24, 2008|work=The Guardian|accessdate=March 18, 2009 | location=London}}</ref>

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008 ได้มีการเปิดตัวบัตรสตาร์บัคส์ (เปลี่ยนจากบัตรของขวัญ) ซึ่งนำเสนอการใช้[[วายฟาย]]ฟรีภายในร้าน, การไม่คิดค่านมถั่วเหลืองและไซรัป รวมไปถึงกาแฟ, กาแฟเย็น และชา สามารถเติมฟรีได้<ref>{{cite web|url=http://www.starbucks.com/card/rewards |title=Card Rewards |publisher=Starbucks.com |accessdate=October 24, 2010}}</ref> ต่อมาในปี ค.ศ. 2009 สตาร์บัคส์ได้เริ่มทดสอบแอปพลิเคชันบนมือถือของบัตรสตาร์บัคส์ ซึ่งจะเก็บมูลค่าของบัตรเพื่อนำมาซื้อสินค้าภายในร้าน<ref>{{cite journal|last=Roark|first=Marc|title=Payment Systems, Consumer Tragedy, and Ineffective Remedies|journal=St. Johns Law Review|year=2014|volume=86|page=Forthcoming|url=http://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=2211013|accessdate=March 4, 2014}}</ref> สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2011

ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้ทำการยื่นซื้อ [[ทีวานา]] ในราคา 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name=baertlein2012>{{cite news
| author = Lisa Baertlein |author2=Martinne Geller |title=Starbucks to buy Teavana in another step beyond coffee |url=http://www.reuters.com/article/2012/11/14/us-teavana-starbucks-idUSBRE8AD1JW20121114 |agency=Reuters |accessdate=November 14, 2012 |date=November 14, 2012}}</ref> และข้อเสนอได้เสร็จสิ้นในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2012<ref name="Melissa Allison">{{cite news |work=The Seattle Times |date=December 31, 2012 |accessdate=March 1, 2013 |title=Starbucks closes Teavana deal |url=http://seattletimes.com/html/businesstechnology/2020031178_starbucksteavanaxml.html |author=Melissa Allison}}</ref>

ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาแรกใน[[โฮจิมินห์ซิตี]] [[ประเทศเวียดนาม]]<ref>{{cite news|title=STARBUCKS TO OPEN 1ST VIETNAM CAFE|url=http://bigstory.ap.org/article/starbucks-open-1st-vietnam-cafe|work=Associated Press|accessdate=January 3, 2013}}</ref><ref>{{cite web|title=Starbucks, McDonald's go Vietnam|url=http://investvine.com/starbucks-goes-vietnam-mcdonalds-to-follow/|publisher=Investvine|accessdate=January 14, 2013}}</ref><ref>{{cite web|title=Starbucks opens first store in coffee-loving Vietnam |url=http://www.straitstimes.com/breaking-news/se-asia/story/starbucks-opens-first-store-coffee-loving-vietnam-20130201 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20141103165919/http://www.straitstimes.com/breaking-news/se-asia/story/starbucks-opens-first-store-coffee-loving-vietnam-20130201 |archivedate=November 3, 2014 }}</ref> และประกาศว่าจะเปิดสาขาใน[[ประเทศโคลอมเบีย]] ในปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ในการประชุมที่โบโกตา ซึ่งประธานบริษัทได้กล่าวว่า "สตาร์บัคส์เคารพและชื่นชอบประเพณีของกาแฟในโคลอมเบีย"<ref>{{cite news|title=Starbucks to open first cafe in Colombia|url=http://www.theaustralian.com.au/news/breaking-news/starbucks-to-open-first-cafe-in-colombia/story-fn3dxix6-1226705378630?utm_source=The%20Australian&utm_medium=email&utm_campaign=editorial&net_sub_uid=44933799|accessdate=August 28, 2013|newspaper=The Australian|date=August 28, 2013|author=AAP}}</ref>

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2014 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาแรกในวิลเลียมส์เบิร์ก ในบรูกลิน ซึ่งสาขานี้เป็นหนึ่งใน 30 สาขาของสตาร์บัคส์ที่วางขายเบียร์และไวน์.<ref>{{cite web|title=New Starbucks in Williamsburg to Serve Alcohol|url=http://thirstynyc.com/new-starbucks-williamsburg-serve-alcohol/|accessdate=August 21, 2014|newspaper=Thirsty NYC|date=August 19, 2014|author=Thirsty NYC}}</ref>

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 ได้มีการเปิดเผยว่าสตาร์บัคส์จะได้หุ้นอีก 60.5% ในร้านสตาร์บัคส์ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งยังไม่ได้เป็นเจ้าของ ที่ราคา 913.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref>{{cite press release | publisher=Reuters| date=September 23, 2014| title=
Starbucks buying full control of Japan unit for $914 million | url=http://www.reuters.com/article/2014/09/23/us-starbucks-japan-idUSKCN0HI2I820140923}}</ref>

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2015 สตาร์บัคส์ได้ยืนยันที่จะเปิดสาขาใน [[ประเทศกัมพูชา]] ซึ่งเป็นสาขาในประเทศที่ 16 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยร้านแรกจะตั้งที่[[พนมเปญ]] ในปลายปี ค.ศ. 2015<ref>{{cite web|title=Starbucks Announces Plans to Bring its Unique Coffeehouse Experience to the Vibrant Cambodian Market|url=https://news.starbucks.com/news/starbucks-to-enter-cambodia|website=Starbucks Newsroom|date=26 August 2015}}</ref>

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 สตาร์บัคส์ได้ยืนยันที่จะทำตลาดใน[[ประเทศอิตาลี]] ซึ่งเป็นประเทศที่ 24 ในทวีปยุโรป โดยจะเปิดสาขาแรกใน[[มิลาน]] ภายในปี ค.ศ. 2017<ref>{{cite web|title=Starbucks to Open Stores in Italy|url=https://news.starbucks.com/news/starbucks-announces-it-will-open-stores-in-Italy-in-2017|website=Starbucks Newsroom|date=28 February 2016}}</ref> ในเดือนสิงหาคม ฟลักซ์พอร์ต บริษัทสตาร์ตอัป ได้เปิดตัว "ชี" (Qi) ซึ่งเป็นแท่นชาร์จแบตเตอรี โดยเลือกที่จะใช้ในร้านที่ประเทศเยอรมนี<ref>{{Cite news|url=http://electronics360.globalspec.com/article/7223/wireless-charging-pads-come-to-starbucks|title=Wireless Charging Pads Come to Starbucks|last=Brown|first=Peter|date=26 August 2016|work=Electronics 360|access-date=21 November 2016|via=}}</ref>

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2016 สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวซีรีส์ "อัปสแตนเดอร์" (Upstanders) ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากชาวอเมริกันเกี่ยวกับความเมตตา, ความเป็นพลเมือง และความสุภาพ ซีรีส์จะมีทั้งแบบพอดแคสต์, คำพูด และวิดีโอ โดยจะออกอากาศทางแอปพลิเคชันสตาร์บัคส์, ออนไลน์ และดิจิทัลเน็ตเวิร์กของร้าน<ref>{{Cite news|url=https://techcrunch.com/2016/08/10/seagate/ |title=Starbucks debuts its own original content series, "Upstanders," featuring video and podcasts |author=Sarah Perez | publisher=TechCrunch|date=7 September 2016| access-date=9 September 2016}}</ref>

== การบริหารกิจการ ==
[[ไฟล์:Howard-Schultz-Starbucks.jpg|thumb|upright|โฮเวิร์ด ชูลซ์ ประธานกรรมการของสตาร์บัคส์]]

โฮเวิร์ด ชูลซ์ ประธานบริษัทได้กล่าวถึงการเติบโตที่ต่อเนื่องของกิจการตามวัฒนธรรมองค์กร<ref>{{cite news | last = Kiviat | first = Barbara | title = The Big Gulp at Starbucks | work=[[Time (magazine)|TIME]] | date = December 10, 2006 | url = http://www.time.com/time/magazine/article/0,9171,1568488,00.html }}</ref>

ชูลซ์ ได้ขึ้นมารับตำแหน่งประธานกรรมการจนถึงปี ค.ศ. 2000<ref name="lerman2015b" /> โอริน ซี. สมิธ ได้เป็นประธานต่อจากชูลซ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 จนถึง ค.ศ. 2005

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 ชูลซ์ ได้กลับมารับตำแหน่งอีกครั้งหลังจาก 8 ปีผ่านไป โดยรับตำแหน่งแทน จิม ดอนัลด์ ประธานคนก่อนหน้า ซึ่งรับตำแหน่งตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 และลาออกในปี ค.ศ. 2007 เนื่องจากยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง ชูลซ์ มีเป้าหมายที่จะกู้คืนสตาร์บัคส์ด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยนักวิเคราะห์การตลาดเชื่อว่า ชูลซ์ จะต้องกำหนดวิธีการที่จะรับมือต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาของสินค้าที่ลดลง ซึ่งต้องแข่งขันกับร้านอาหารจานด่วนที่มีราคาถูกอย่าง[[แมคโดนัลด์]] และ [[ดังกิ้นโดนัท]] ทำให้สตาร์บัคส์ตัดสินใจที่จะยกเลิกแซนด์วิชอุ่นร้อน ซึ่งเป็นเมนูอาหารเช้าที่เคยมีแผนจะเปิดตัวทั่วประเทศในปี ค.ศ. 2008 โดยตั้งเป้าที่จะมีจุดมุ่งหมายทางด้านการขายกาแฟเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาก็นำมาขายอีกครั้งเนื่องจากมีข้อร้องเรียนจำนวนมากและยังคงอยู่ในสายการผลิต<ref>{{cite web|last=Howard |first=Hannah |url=http://www.seriouseats.com/2008/07/starbucks-breakfast-sandwiches-no-smelly.html |work=[[Serious Eats]] | title=Starbucks Breakfast Sandwiches: Now Less Smelly |date=July 31, 2008 }}</ref>

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2015 ทรอย อัลสเตด ผู้บริหารเชิงปฏิบัติการของสตาร์บัคส์ ได้ตัดสินใจที่จะลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ<ref name="lerman2015b">{{cite news | author=Lerman, Rachel | title=Schultz: Starbucks COO not leaving for health concerns, rumors are 'irresponsible' | date=January 9, 2015 | work=[[Puget Sound Bus. J.|Puget Sound Business Journal]] | url=http://www.bizjournals.com/seattle/blog/2015/01/schultz-starbucks-coo-not-leaving-for-health.html }}</ref> ต่อมา เควิน จอห์นสัน จึงก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารเชิงปฏิบัติการแทนอัลสเตด<ref>{{cite press release|url=https://news.starbucks.com/news/starbucks-names-kevin-johnson-president-and-chief-operating-officer|title=Starbucks Names Kevin Johnson President and Chief Operating Officer|date=January 22, 2015|publisher=[[Starbucks Corporation]]|accessdate=September 5, 2015}}</ref>

ต่อมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2015 สตาร์บัคส์ได้ทำการจ้างผู้บริหารทางด้านเทคโนโลยีคนแรก โดย แกร์รี มาร์ติน-ฟลิกกินเกอร์ เข้ามารับตำแหน่งเพื่อที่จะพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี<ref>{{cite web|url=http://www.wsj.com/articles/starbucks-hires-first-chief-technology-officer-1444163737|title=Starbucks Hires First Chief Technology Officer|author=Julie Jargon|date=October 6, 2015|work=WSJ}}</ref>

การดำเนินการหลักในการควบคุมคุณภาพของสตาร์บัคส์คือการติดต่อกับชาวสวนที่จะรักษาเมล็ดกาแฟ, การคั่วเมล็ดกาแฟ และการจัดการกระจายสินค้าไปยังสาขาของสตาร์บัคส์ นอกจากนี้สตาร์บัคส์และชาวสวนจะต้องตกลงราคาในการขายเมล็ดกาแฟร่วมกัน<ref>Youngme, M. & Quelch J. Starbucks: Delivering Customer Service. Boston, MA: Harvard Business School Pub., 2003. Online.</ref><ref name="Stanley, A. 2002">Stanley, A. (2002). Starbucks Coffee Company. (case study). Tuck School of Business at Dartmouth.</ref>

== สินค้า ==
[[ไฟล์:Starbucksdesk.jpg|thumb|left|สาขาใน[[ปีเตอร์โบโร]] [[สหราชอาณาจักร]] ซึ่งมีพื้นที่เปิดให้เห็นการวางขายอาหารและการเตรียมเครื่องดื่ม]]

ในปี ค.ศ. 1994 สตาร์บัคส์ได้ซื้อ เดอะคอฟฟีคอนเนคชัน เพื่อที่จะได้สิทธิในการใช้, ผลิต, ทำการตลาด และ ขายเครื่องดื่ม[[แฟรปปูชิโน]]<ref name=BosMag>{{cite news|last=Nanos|first=Janelle|title=The Story of the Frappuccino: How a chilly coffee drink became a billion dollar behemoth |url=http://www.bostonmagazine.com/news/blog/2012/12/07/frappuccino-history/ |accessdate=October 30, 2013|newspaper=Boston Magazine|date=December 7, 2012}}</ref> โดยเครื่องดื่มได้ถูกเปิดตัวภายใต้ชื่อของสตาร์บัคส์ในปี ค.ศ. 1995 โดยในปี ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้ประกาศว่ายอดขายแฟรปปูชิโนขายไปแล้วมากกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name=BosMag />

บริษัทได้เริ่มผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพใน ค.ศ. 2008 ซึ่งรวมไปถึงเครื่องดื่มในรูปแบบโลว์แคลลอรีและไม่มีน้ำตาล โดยจะใช้นมพร่องมันเนยแทนนมปกติ และสามารถเพิ่มความหวานได้ด้วยสิ่งที่ให้ความหวานจากธรรมชาติ (เช่น น้ำตาลทราย, น้ำเชื่อม หรือน้ำผึ้ง), สารให้ความหวาน (เช่น สวีตแอนด์โลว์, สเปลนดา, อีควอล).<ref name=Low-Cal>{{cite web|last=T. |first=Katie |title=A Cup of Low-Cal Goodness |url=http://www.starbucks.com/blog/a-cup-of-low-cal-goodness/531 |publisher=Starbucks |accessdate=February 5, 2013 |date=April 16, 2010 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20130204143542/http://www.starbucks.com/blog/a-cup-of-low-cal-goodness/531 |archivedate=February 4, 2013 }}</ref><ref name=Skinny>{{cite web|last=Food Ingredients Online|title=Starbucks Latte And Mocha Offerings Get A Skinny Makeover To Help Coffee Lovers Feel Great In 2008|url=http://www.foodingredientsonline.com/doc.mvc/Starbucks-Latte-And-Mocha-Offerings-Get-A-Ski-0001|publisher=VertMarkets, Inc.|accessdate=February 5, 2013|date=January 9, 2008}}</ref> สตาร์บัคส์ได้เลิกขายผลิตภัณฑ์จากนมวัวที่ถูกเลี้ยงด้วย rBGH ในปี ค.ศ. 2007<ref name="Starbucks success">{{cite press release | title = Starbucks Agrees to Hold the Hormones For Good | publisher=Food & Water Watch | date = August 24, 2007 | url = http://www.foodandwaterwatch.org/press/releases/starbucks-agrees-to-hold-the-hormones-for-good-article08242007 | archiveurl = https://web.archive.org/web/20070913221949/http://www.foodandwaterwatch.org/press/releases/starbucks-agrees-to-hold-the-hormones-for-good-article08242007 | archivedate = September 13, 2007 | accessdate =August 27, 2007}}</ref>

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 บริษัทได้ยืนยันที่จะปรับปรุงเมนูใหม่ อีกทั้งยังขายสลัดและเบเกอรีโดยไม่ใช้ไซรัปที่มีฟรักโทสสูงหรือการใช้ส่วนผสมเทียม<ref name=stars>{{cite news |author=Baertlein, Lisa |title=Starbucks revamps bakery food ingredients |url=http://www.reuters.com/article/ousiv/idUSTRE55175Y20090602 |agency=Reuters |date=June 3, 2009 }}</ref> การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คาดว่าจะดึงดูดลูกค้าที่รักสุขภาพ โดยไม่เพิ่มต้นทุนและราคา<ref name=stars/>

สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวกาแฟสำเร็จรูป มีชื่อว่า "VIA Ready Brew" ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2009 โดยเปิดตัวครั้งแรกในนิวยอร์ก อีกทั้งยังทดลองขายใน[[ซีแอทเทิล]], [[ชิคาโก]] และ[[ลอนดอน]] โดย เวีย 2 รสชาติแรกคือ อิตาเลียนโรสต์ และ โคลอมเบีย ซึ่งทั้ง 2 รสชาติเลิกวางขายในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 โดยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจะมีการทำโปรโมชัน บลายด์เทสต์ (Blind taste) เพื่อที่จะให้ลูกค้าทดลองชิมกาแฟเพียงลิ้มรสอย่างเดียว<ref>{{cite news|url=http://online.wsj.com/article/SB125418430092348015.html|publisher=The Wall Street Journal|title=Starbucks Takes New Road With Instant Coffee|date=September 30, 2009|accessdate=November 12, 2012|first=Julie|last=Jargon}}</ref>

สตาร์บัคส์เริ่มขาย[[เบียร์]] และ [[ไวน์]] ในบางสาขาที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 2010 ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 2012 มีการขายเบียร์และไวน์ใน 7 สาขา<ref>{{cite news|last=Miller|first=Michael|title=Wine, beer at Starbucks?|url=http://www.hbindependent.com/news/tn-hbi-0405-starbucks-20120404,0,3135332.story|accessdate=April 7, 2012|newspaper=[[Huntington Beach Independent]]|date=April 5, 2012|page=A4}}</ref>

ในปี ค.ศ. 2011 สตาร์บัคส์เปิดตัวขนาดแก้วใหม่ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด เรียกว่า "เทรนตา" (Trenta) โดยมีขนาด 31 ออนซ์<ref>{{cite web|last=Corbett|first=Alexandra|title=Thirsty? Starbucks Supersizes to the Trenta|url=http://norwalk.dailyvoice.com/news/thirsty-starbucks-supersizes-trenta|publisher=The Norwalk Daily Voice|accessdate=July 19, 2012}}</ref> ต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้เปิดตัว "เวริสโม" (Verismo) เครื่องทำกาแฟขนาดเล็ก ซึ่งมีที่ใส่นมสำหรับการทำ[[ลาตเท]]ด้วย<ref>{{cite news|title=Starbucks to Introduce Single-Serve Coffee Maker|url=https://www.nytimes.com/2012/09/20/business/starbucks-to-introduce-single-serve-coffee-maker.html?_r=1&hp | work=The New York Times | first=Stephanie|last=Strom|date=September 20, 2012}}</ref>

ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 สตาร์บัคส์ได้ทำการประกาศว่าได้ซื้ออีโวลูชันเฟรช บริษัทน้ำผลไม้ ด้วยมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแผนที่จะทำการขายน้ำผลไม้ในช่วงกลางปี ค.ศ. 2012 เพื่อตีตลาดแข่งกับ จัมบา โดยสาขาแรกที่วางขายน้ำผลไม้คือสาขาในซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย และวางแผนที่จะวางขายในซานฟรานซิสโกซึ่งได้วางขายในช่วงต้นปี ค.ศ. 2013<ref>{{cite news |url=http://www.reuters.com/article/2011/11/11/uk-starbucks-idUSLNE7AA01H20111111 |title=Starbucks to open U.S. juice bars in 2012 |date=November 11, 2011 | publisher=Reuters}}</ref>

ในปี ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้เริ่มขายเครื่องดื่มสำเร็จรูปแบบเย็นที่มีสารสกัดจากเมล็ดกาแฟอาราบิกา ซึ่งเครื่องดื่มจะมีรสชาติของผลไม้และจะมี[[คาเฟอีน]] ผสมอยู่ด้วย แต่โฆษณาว่าผสมกาแฟ ซึ่งกระบวนการสกัดมาจากการนำเมล็ดกาแฟลงไปแช่ในน้ำ<ref>[http://www.starbucks.com/refreshers/en-us/GreenCoffeeExtract Green Coffee Extract] {{webarchive |url=https://web.archive.org/web/20140116133243/http://www.starbucks.com/refreshers/en-us/GreenCoffeeExtract |date=January 16, 2014 }} at Starbucks.com. Excerpt from Brian Smith, Director of Global Beverage Innovation: ''"100% green arabica coffee beans ... We start with high-quality, green coffee beans. We soak the beans in water and pull out the caffeine and other good stuff. Then we dry the whole concoction down to create the concentrated essence and goodness of green coffee. That's Green Coffee Extract."'' Retrieved July 20, 2012.</ref>

ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2013 สตาร์บัคส์ได้เริ่มที่จะเผยแพร่จำนวนแคลลอรีของเครื่องดื่มและอาหารที่สตาร์บัคส์ทุกสาขาในสหรัฐอเมริกา<ref>{{cite web|title=Starbucks to post calorie counts nationwide|url=http://abclocal.go.com/wabc/story?section=news/business&id=9144286|publisher=WABC TV|accessdate=June 23, 2013}}{{Dead link|date=April 2014}}</ref>

ใน ค.ศ. 2014 สตาร์บัคส์เริ่มผลิตโซดา โดยมีชื่อว่า "ฟิซซิโอ" (Fizzio)<ref>{{cite web|url=http://news.starbucks.com/news/starbucks-expands-cold-beverage-line-up-with-new-fizzio-handcrafted-sodas-a|title=starbucks.com|work=Starbucks Newsroom|accessdate=November 23, 2014}}</ref>

ในปี ค.ศ. 2015 สตาร์บัคส์ได้เริ่มวางขาย[[กะทิ]] ซึ่งเป็นทางเลือกในการปรุงเครื่องดื่มจากนมและถั่วเหลือง<ref>{{cite news|url=http://www.usatoday.com/story/money/2015/02/04/starbucks-fast-food-restaurants-coconut-milk/22862931/|title=Starbucks to roll out coconut milk option|newspaper=[[USA Today]]|first=Bruce|last=Horovitz|date=February 4, 2015|access-date=December 11, 2015}}</ref>

{| class="wikitable"
|-
!ชื่อ
!ขนาด
!หมายเหตุ
|-
| เดมิ (Demi)
| 3 ออนซ์ (89 มิลลิลิตร)
| ขนาดเล็กที่สุด ขนาดเท่าช็อคของเอสเปรสโซ
|-
| ช็อต (Short)
| 8 ออนซ์ (240 มิลลิลิตร)
| ขนาดเล็กกว่า 2 ขนาดมาตรฐาน
|-
| มินิ (Mini)<ref name = "Mini Frappuccino">{{cite news|title=Responding to Customers, Starbucks Launches the Mini Frappuccino|url=https://news.starbucks.com/news/starbucks-launches-the-mini-frappuccino|accessdate=May 30, 2015|issue=May 11, 2015|publisher=Starbucks}}</ref>
| 10 ออนซ์ (300 มิลลิลิตร)
| ขนาดเล็กกว่า 3 ขนาดแฟรปปูชิโนปกติ ซึ่งจะเป็นขนาดของเครื่องดื่มแคลลอรีต่ำ
|-
| ทอล (Tall)
| 12 ออนซ์ (350 มิลลิลิตร)
| ใหญ่กว่า 2 ขนาดมาตรฐาน
|-
| แกรนเด (Grande)
| 16 ออนซ์ (470 มิลลิลิตร)
| มีความหมายว่า "ใหญ่" ในภาษาอิตาลี
|-
| เวนติ (Venti)
| 20 ออนซ์ (590 มิลลิลิตร)<br />24 ออนซ์ (710 มิลลิลิตร)
| มีความหมายว่า "ยี่สิบ" ในภาษาอิตาลี
|-
| เทรนตา (Trenta)
| 31 ออนซ์ (920 มิลลิลิตร)
| มีความหมายว่า "สามสิบ" ในภาษาอิตาลี
|}

=== ชา ===
สตาร์บัคส์ได้เริ่มทำการตลาดชาในปี ค.ศ. 1999 หลังจากซื้อ "ทาโซ" (Tazo) ด้วยมูลค่าทางการตลาด 8.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name=psbj2012>{{cite news | url=http://www.bizjournals.com/seattle/stories/1999/01/11/daily15.html | title=Starbucks will buy Tazo tea company |periodical=[[Puget Sound Business Journal]] |at=bizjournals.com |date=January 13, 1999 |accessdate=November 13, 2012 }}</ref><ref name=jargon2012>{{cite news|title=Starbucks To Acquire Tea Chain Teavana |author=Julie Jargon |type=print |newspaper=[[The Wall Street Journal]] |page=B9 }}</ref> ปลายปี ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้ซื้อ [[ทีวานา]] ด้วยราคา 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name="Melissa Allison"/><ref>{{cite news|author=Candice Choi |author2=Sarah Skidmore |title=Starbucks Buys Teavana |date=November 14, 2012 |publisher=The Huffington Post |url=http://www.huffingtonpost.com/2012/11/15/starbucks-buys-teavana-holdings_n_2136048.html |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20160308202951/http://www.huffingtonpost.com/2012/11/15/starbucks-buys-teavana-holdings_n_2136048.html |archivedate=March 8, 2016 }}</ref> ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ไม่มีความตั้งใจในการที่จะขยายตลาดของร้านค้าทีวานา แม้ว่าจะเคยวางแผนที่จะวางตลาดในสาขาในห้างสรรพสินค้า<ref name=jargon2012/> ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2015 สตาร์บัคส์ได้เริ่มที่จะวางขายทีวานาในสาขาของสตาร์บัคส์ ทั้งเครื่องดื่มสำเร็จรูปและในแบบขายปลีก<ref name=sbux2015>{{cite news | url=https://news.starbucks.com/news/teavana-hot-brewed-teas-in-starbucks-stores | title=Starbucks Launches Teavana Hot Brewed Tea in Starbucks Stores in the U.S. and Canada.| at=starbucks.com |date=January 2, 2015| accessdate=June 3, 2015}}</ref>

=== คุณภาพของกาแฟ ===
เควิน น็อก ซึ่งดูแลและควบคุมคุณภาพของ[[โดนัท]] ในร้านสตาร์บัคส์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 จนถึง 1993 ได้เขียนบนบล็อกของเขาในปี ค.ศ. 2010 ว่า จอร์จ โฮเวลล์นักตรวจสอบคุณภาพกาแฟ ผู้ก่อตั้งคัพออฟเอกเซเลนซ์ ซึ่งได้วิตกเมื่อสตาร์บัคส์ได้ขาย[[การคั่วเมล็ดกาแฟ|กาแฟคั่วสีดำ]] ในปี ค.ศ. 1990<ref name=nytclover/><ref>{{cite news|url=http://seattletimes.com/html/coffeecity/2011333088_its_coffee_party_weekend.html|title=Coffee wrap: Starbucks spent $740K on lobbying last year, Le Whif, and an old hand takes a swipe at 'third wave' coffee|author=Melissa Allison|date=March 10, 2010}}</ref> โดยได้เปิดเผยกับนิวยอร์กไทมส์ ในปี ค.ศ. 2008 โฮเวลล์ได้ระบุว่าการคั่วเมล็ดกาแฟเข้มสีดำของสตาร์บัคส์ ไม่ได้ทำให้กาแฟมีรสเข้มขึ้น แต่ทำลายความแตกต่างของรสชาติจากกาแฟปกติ<ref name=nytclover/> คอนซูเมอร์รีพอตส์ ฉบับเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 ได้จัดอันดับกาแฟของสตาร์บัคส์ไว้ต่ำกว่ากาแฟพรีเมียมของ[[แมคโดนัลด์]] โดยให้ความเห็นว่า "รสเข้มแต่มีความขมพอที่จะทำให้น้ำตาไหลได้"<ref name="msnbc 16951509">{{cite news| url= http://www.msnbc.msn.com/id/16951509/| title= A triple-venti-Americano-decaf surprise? Consumer Reports finds McDonald's coffee better than Starbucks|publisher=MSNBC| date= February 4, 2007| accessdate=September 9, 2010}}</ref> ตามรายงานของ[[ไทม์]] ในปี ค.ศ. 2010 มีการวิจารณ์จำนวนมากว่ากาแฟของสตาร์บัคส์คั่วนานเกินไป<ref>{{Cite news|title = Is Stumptown the New Starbucks — or Better?|url = http://content.time.com/time/nation/article/0,8599,1970653,00.html|newspaper = Time|date = 2010-03-09|access-date = 2015-10-31|issn = |first = Josh|last = Ozersky}}</ref>

แม้ว่าการชงกาแฟสดจะมีในทุกสาขาของสตาร์บัคส์ แต่บริษัทไม่ได้มีการโฆษณามากนัก เพราะมีวิธีการที่ยุ่งยากและมีผลกำไรที่ต่ำกว่าเอสเปรสโซปกติ<ref name=":1">{{cite web|title = The Multimillion Dollar Quest To Brew The Perfect Cup Of Coffee|url = https://www.fastcompany.com/3033306/coffee-week/the-multimillion-dollar-quest-to-brew-the-perfect-cup-of-coffee|website = Fast Company|accessdate = 2015-10-31|language = |date = September 2014|last = Sacks|first = Danielle}}</ref>

=== สินค้าอื่น ===
ในปี ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้เปิดตัว สตาร์บัคส์ เวริสโม ซึ่งเป็นเครื่องทำกาแฟขนาดเล็กที่สามารถทำเอสเปรสโซและช็อกโกแลตจากเครื่องได้ โดยตัวเครื่องใช้ระบบ K-Fee และมีถ้วยชนกาแฟที่มีถ้วยเดียว<ref>{{cite web|title=Verismo.com|url=http://www.verismo.com/en-us/|publisher=Starbucks|accessdate=May 21, 2013}}</ref> ในการวิจารณ์ของคอนซูเมอร์รีพอตส์ต่อรุ่น 580 นั้นได้ทดสอบและระบุไว้ว่า "การล้างถ้วยทุกครั้งไม่ใช่ความสะดวกสบายของการทำกาแฟในเวลาที่ต้องการหลาย ๆ ถ้วย ส่วนรุ่นอื่น ๆ ยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมที่จะสามารถปรับระดับความเข้มได้ แต่เวริสโมมีเพียงปุ่มทำกาแฟ, เอสเปรสโซ และ ลาทเต ไม่มีปุ่มที่จะปรับระดับความเข้ม เหมือนสตาร์บัคส์ต้องการที่จะจำกัดในการใช้แบรนด์ของพวกเขา ซึ่งมีเพียง 8 รูปแบบในการใช้นมสำหรับการทำลาทเต"<ref>{{cite web|last=ijnPerratore|first=Ed|title=Does the Verismo coffeemaker deliver true Starbucks flavor?|url=http://news.consumerreports.org/home/2012/10/do-you-get-true-starbucks-flavor-with-its-verismo-coffeemaker.html|publisher=Consumer Reports|accessdate=May 8, 2013}}</ref>

== สาขา ==
บริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่[[ซีแอทเทิล]] [[รัฐวอชิงตัน]] สหรัฐอเมริกา โดยมีพนักงาน 3,501 คน (ข้อมูลในเดือนมกราคม ค.ศ. 2015)<ref name="lerman2015">{{cite news | author=Lerman, Rachel | title=Starbucks confirms layoffs at Seattle headquarters | date=January 15, 2014 | work=[[Puget Sound Bus. J.|Puget Sound Business Journal]] | url=http://www.bizjournals.com/seattle/blog/2015/01/starbucks-confirms-layoffs-at-seattle-headquarters.html }}</ref>

=== สาขาปัจจุบัน ===
ในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2016 สตาร์บัคส์เปิดสาขาใน 72 ประเทศและดินแดนปกครองตนเอง<ref name="loxcel"/><ref name="Profile2014-10" />
{| class="wikitable" style="width:90%;"
<!-- sorted by short column -->
<!-- sorted by short column -->
<!-- sorted by long column -->[[หมวดหมู่:บริษัทข้ามชาติ]]
![[ทวีปแอฟริกา]]
![[ทวีปอเมริกาเหนือ]]
![[ทวีปโอเชียเนีย]]
![[ทวีปอเมริกาใต้]]
<!-- sorted by long column -->
![[ทวีปเอเชีย]]
![[ทวีปยุโรป]]
|- valign="top"
|
* [[ประเทศอียิปต์|อียิปต์]]
* [[ประเทศโมร็อกโก|โมร็อกโก]]
* [[ประเทศแอฟริกาใต้|แอฟริกาใต้]]
|
* [[อารูบา]]
* [[ประเทศบาฮามาส|บาฮามาส]]
* [[ประเทศแคนาดา|แคนาดา]]
* [[ประเทศคอสตาริกา|คอสตาริกา]]
* [[กือราเซา]]
* [[ประเทศเอลซัลวาดอร์|เอลซัลวาดอร์]]
* [[ประเทศกัวเตมาลา|กัวเตมาลา]]
* [[ประเทศเม็กซิโก|เม็กซิโก]]
* [[ประเทศปานามา|ปานามา]]
* [[ประเทศตรินิแดดและโตเบโก|ตรินิแดดและโตเบโก]]
* [[สหรัฐอเมริกา]]
** [[เปอร์โตริโก]]
|
* [[ประเทศออสเตรเลีย|ออสเตรเลีย]]
* [[ประเทศนิวซีแลนด์|นิวซีแลนด์]]
|
* [[ประเทศอาร์เจนตินา|อาร์เจนตินา]]
* [[ประเทศโบลิเวีย|โบลิเวีย]]
* [[ประเทศบราซิล|บราซิล]]
* [[ประเทศชิลี|ชิลี]]
* [[ประเทศโคลอมเบีย|โคลอมเบีย]]
* [[ประเทศเปรู|เปรู]]
| rowspan = "2"|
* [[ประเทศอาเซอร์ไบจาน|อาเซอร์ไบจาน]]
* [[ประเทศบาห์เรน|บาห์เรน]]
* [[ประเทศบรูไน|บรูไน]]<ref name=ST-Brunei>{{Cite news |title=Starbucks enters its 64th company, oil-rich Brunei |newspaper=The Seattle Times |first=Ángel |last=González |url=http://seattletimes.com/html/businesstechnology/2022905198_starbucksbruneixml.html |date=February 13, 2014}}</ref>
* [[ประเทศกัมพูชา|กัมพูชา]]
* [[ประเทศจีน|จีน]]
** [[ฮ่องกง]]<ref>[http://www.starbucks.com.hk/ Starbucks Coffee Company]. Starbucks.com.hk. Retrieved on July 18, 2013.</ref>
** [[มาเก๊า]]
* [[ประเทศอินเดีย|อินเดีย]]
* [[ประเทศอินโดนีเซีย|อินโดนีเซีย]]
* [[ประเทศญี่ปุ่น|ญี่ปุ่น]]
* [[ประเทศจอร์แดน|จอร์แดน]]
* [[ประเทศคาซัคสถาน|คาซัคสถาน]]
* [[ประเทศคูเวต|คูเวต]]
* [[ประเทศเลบานอน|เลบานอน]]
* [[ประเทศมาเลเซีย|มาเลเซีย]]
* [[ประเทศโอมาน|โอมาน]]
* [[ประเทศฟิลิปปินส์|ฟิลิปปินส์]]<ref>{{cite web|title=Starbucks Philippines|url=http://www.starbucks.ph/|publisher=Starbucks Corporation|accessdate=22 November 2016}}</ref>
* [[ประเทศกาตาร์|กาตาร์]]
* [[ประเทศซาอุดีอาระเบีย|ซาอุดีอาระเบีย]]
* [[ประเทศสิงคโปร์|สิงคโปร์]]
* [[ประเทศเกาหลีใต้|เกาหลีใต้]]
* [[ประเทศศรีลังกา|ศรีลังกา]]
* [[ประเทศไต้หวัน|ไต้หวัน]]
* [[ประเทศไทย|ไทย]]<ref name="invest vine">{{cite web|url=http://investvine.com/thailand-gets-asias-first-community-driven-starbucks/|title=Thailand gets Asia's first community-driven Starbucks|first=Jason|last=Calderon|work=Inside Investor|date=June 17, 2013|accessdate=June 18, 2013}}</ref>
* [[สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์]]
* [[ประเทศเวียดนาม|เวียดนาม]]
| rowspan = "2"|
* [[ประเทศออสเตรีย|ออสเตรีย]]
* [[ประเทศเบลเยียม|เบลเยียม]]
* [[ประเทศบัลแกเรีย|บัลแกเรีย]]
* [[ประเทศไซปรัส|ไซปรัส]]
** [[นอร์เทิร์นไซปรัส]]
* [[สาธารณรัฐเช็ก]]
* [[ประเทศเดนมาร์ก|เดนมาร์ก]]
* [[ประเทศฟินแลนด์|ฟินแลนด์]]
* [[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]
* [[ประเทศเยอรมนี|เยอรมนี]]
* [[ประเทศกรีซ|กรีซ]]
* [[ประเทศฮังการี|ฮังการี]]
* [[ประเทศไอร์แลนด์|ไอร์แลนด์]]
* [[ประเทศลักเซมเบิร์ก|ลักเซมเบิร์ก]]
* [[ประเทศโมนาโก|โมนาโก]]
* [[ประเทศเนเธอร์แลนด์|เนเธอร์แลนด์]]
* [[ประเทศนอร์เวย์|นอร์เวย์]]
* [[ประเทศโปแลนด์|โปแลนด์]]
* [[ประเทศโปรตุเกส|โปรตุเกส]]
* [[ประเทศโรมาเนีย|โรมาเนีย]]
* [[ประเทศรัสเซีย|รัสเซีย]]
* [[ประเทศสโลวาเกีย|สโลวาเกีย]]
* [[ประเทศสเปน|สเปน]]
* [[ประเทศสวีเดน|สวีเดย]]
* [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์|สวิตเซอร์แลนด์]]
* [[ประเทศตุรกี|ตุรกี]]
* [[สหราชอาณาจักร]]
** [[เกิร์นซีย์]]
|-
| colspan = "4"|[[ไฟล์:Starbucks-List-of-countries.png|550px]]
|}

=== ร้านค้าอิสระ ===
อย่างไรก็ตาม สตาร์บัคส์ ยังมีร้านค้าที่ตั้งอยู่อย่างอิสระกับร้านค้าอื่น คือ อาโฮลด์เดลไฮซ์, บานส์แอนด์โนเบิล, ทาร์เก็ต, ทอมทัมบ์ ในปี ค.ศ. 2015 มีสาขาอิสระถึง 4,962 สาขา<ref>{{cite web|title=Number of Starbucks stores in the United States from 2005 to 2015*|url=http://www.statista.com/statistics/218360/number-of-starbucks-stores-in-the-us/|website=Statista|accessdate=19 March 2016}}</ref>

== จำนวนสาขา ==
<ref name=loxcel><ref name="autogenerated1">[http://chartsbin.com/view/30908] {{webarchive|url=https://web.archive.org/web/20150618071741/http://chartsbin.com/view/30908|date=June 18, 2015}}</ref>
{| style="width:100%;"
|-
| style = "width:15%; vertical-align:top; text-align:left;"|
;ทวีปแอฟริกา
* {{flagcountry|Egypt}}: 34
* {{flagcountry|Morocco}}: 10
* {{flagcountry|South Africa}}: 10
*{{flagcountry| Jamaica}}: 1

;ทวีปอเมริกาเหนือ
* {{flagcountry|United States}}: 14,209
* {{flagcountry|Canada}}: 1,488
* {{flagcountry|Mexico}}: 656
* {{flagcountry|Puerto Rico}}: 25
* {{flagcountry|El Salvador}}: 11
* {{flagcountry|Costa Rica}}: 13
* {{flagcountry|Bahamas}}: 12
* {{flagcountry|Guatemala}}: 7
* {{flagcountry|Panama}}: 5
* {{flagcountry|Aruba}}: 3
* {{flagcountry|Trinidad and Tobago}}: 7
* {{flagcountry|Curaçao}}: 3

;ทวีปโอเชียเนีย
* {{flagcountry|New Zealand}}: 22
* {{flagcountry|Australia}}: 35

;ทวีปอเมริกาใต้
* {{flagcountry|Argentina}}: 129
* {{flagcountry|Brazil}}: 114
* {{flagcountry|Peru}}: 97
* {{flagcountry|Chile}}: 108
* {{flagcountry|Colombia}}: 25
* {{flagcountry|Bolivia}}: 4
| style = "width:15%; vertical-align:top; text-align:left;"|
;ทวีปเอเชีย
* {{flagcountry|China}}: 3,399
* {{flagcountry|Japan}}: 1,333
* {{flagcountry|South Korea}}: 1,168
* {{flagcountry|Taiwan}}: 426
* {{flagcountry|Philippines}}: 337
* {{flagcountry|Thailand}}: 336
* {{flagcountry|Indonesia}}: 331
* {{flagcountry|Malaysia}}: 252
* {{flagcountry|Hong Kong}}: 147
* {{flagcountry|United Arab Emirates}}: 169
* {{flagcountry|Singapore}}: 139
* {{flagcountry|India}}: 108
* {{flagcountry|Kuwait}}: 136
* {{flagcountry|Saudi Arabia}}: 145
* {{flagcountry|Lebanon}}: 37
* {{flagcountry|Vietnam}}: 35
* {{flagcountry|Bahrain}}: 26
* {{flagcountry|Qatar}}: 32
* {{flagcountry|Jordan}}: 23
* {{flagcountry|Cyprus}}: 11
* {{flagcountry|Kazakhstan}}: 15
* {{flagcountry|Oman}}: 13
* {{flagcountry|Azerbaijan}}: 4
* {{flagcountry|Cambodia}}: 10
* {{flagcountry|Brunei}}: 4
| style = "width:15%; vertical-align:top; text-align:left;"|
;ทวีปยุโรป
* {{flagcountry|United Kingdom}}: 971
* {{flagcountry|Turkey}}: 415
* {{flagcountry|Germany}}: 158
* {{flagcountry|Spain}}: 125
* {{flagcountry|France}}: 152
* {{flagcountry|Russia}}: 123
* {{flagcountry|Switzerland}}: 64
* {{flagcountry|Netherlands}}: 71
* {{flagcountry|Poland}}: 63
* {{flagcountry|Ireland}}: 78
* {{flagcountry|Greece}}: 27
* {{flagcountry|Romania}}: 37
* {{flagcountry|Austria}}: 19
* {{flagcountry|Belgium}}: 21
* {{flagcountry|Czech Republic}}: 33
* {{flagcountry|Denmark}}: 21
* {{flagcountry|Sweden}}: 15
* {{flagcountry|Norway}}: 23
* {{flagcountry|Hungary}}: 19
* {{flagcountry|Portugal}}: 15
* {{flagcountry|Finland}}: 9
* {{flagcountry|Bulgaria}}: 6
* {{flagcountry|Slovakia}}: 4
* {{flagcountry|Luxembourg}}: 3
* {{flagcountry|Monaco}}: 2
* {{flagcountry|Andorra}}: 1
|}

ในปี ค.ศ. 2008 สตาร์บัคส์ได้ขยายสาขาเพิ่มในอาร์เจนตินา, เบลเยียม, บราซิล, บัลแกเรีย, สาธารณรัฐเช็ก และ โปรตุเกส<ref name=tele40>{{cite news|url=http://www.telegraph.co.uk/finance/newsbysector/retailandconsumer/8505866/Forty-years-young-A-history-of-Starbucks.html|title=Forty years young: A history of Starbucks|publisher=The Daily Telegraph|date=May 11, 2011|accessdate=November 13, 2012|location=London}}</ref>

อีกทั้งยังขยายสาขาไปยังสแกนดิเนเวียที่ประเทศโปแลนด์ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 อีกทั้งขยายสาขาใน[[ยูเทรกต์ (เมือง)|ยูเทรกต์]] ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ [[ท่าอากาศยานสตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา]] ที่ประเทศสวีเดน ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน<ref>{{cite web|url=http://www.cisionwire.se/starbucks-coffee-company/starbucks-vaxer-och-oppnar-i-sverige---forsta-starbucks-i-sverige-oppnar-pa-stockholm-arlanda-airport-i-borjan-av-2010-|title=Starbucks Coffee Company – press release (in Swedish)|publisher=Cision Wire|accessdate=October 21, 2009}}{{Dead link|date=April 2014}}</ref>

ในปี ค.ศ. 2010 ได้ขยายสาขาไปยังตลาดใหม่ ซึ่งในเดือนพฤษภาคม โรงแรมเซาเทิร์นซัน ในประเทศแอฟริกาใต้ได้ประกาศว่าพวกเขาได้เซ็นสัญญากับสตาร์บัคส์ในการเปิดร้านขายกาแฟในโรงแรมเซาเทิร์นซันและโรงแรมซองกาซัน ซึ่งมีทำให้สตาร์บัคส์สามารถเปิดร้านได้ทันในการแข่งขัน[[ฟุตบอลโลก 2010]] ที่ประเทศแอฟริกาใต้<ref>{{cite web|url=http://www.timeslive.co.za/business/article480586.ece/Cuppa-Starbucks-for-the-Cup|title=Cuppa Starbucks for the Cup|publisher=Times Live|accessdate=May 31, 2010}}</ref> ต่อมาในเดือนมิถุนายน สตาร์บัคส์ได้เปิดร้านแรกใน[[บูดาเปสต์]] ประเทศฮังการี และในเดือนพฤศจิกายน ได้เปิดสาขาในอเมริกากลาง ตั้งอยู่ใน[[ซานซัลวาดอร์]] เมืองหลวงของประเทศเอลซัลวาดอร์<ref>{{cite web|url=http://news.starbucks.com/news/starbucks+celebrates+first+store+opening+in+el+salvador.htm |title=Starbucks Newsroom: Starbucks Celebrates First Store Opening in El Salvador |publisher=News.starbucks.com |accessdate=July 7, 2011 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20101209203538/http://news.starbucks.com/news/starbucks+celebrates+first+store+opening+in+el+salvador.htm |archivedate=December 9, 2010 }}</ref>

ต่อมาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวสาขาแรกที่ตั้งอยู่บนทะเล โดยความร่วมมือกับ[[รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล]] ซึ่งได้เปิดร้านบนเรือ[[เอ็มเอส อัลลัวร์ออฟเดอะซีส์]] ซึ่งเป็นเรือลำใหญ่อันดับสองของบริษัท และเรือใหญ่ลำดับสองของโลก<ref>{{cite news|author=Puget Sound Business Journal by Eric Engleman |url=http://www.bizjournals.com/seattle/news/2010/10/27/first-starbucks-at-sea-to-debut.html |title=First ‘Starbucks at Sea’ to debut - Puget Sound Business Journal |publisher=Bizjournals.com |date=October 27, 2010 |accessdate=November 17, 2012}}</ref>

[[ไฟล์:Starbucks store.jpg|thumb|สตาร์บัคส์ที่ [[ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี]]]]
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2011 สตาร์บัคส์ และ ทาทาคอฟฟี ผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย ได้วางแผนเป็พันธมิตรเชิงกุลยุทธ์ร่วมกันเพื่อที่จะเปิดสาขาในประเทศอินเดีย โดยใช้แหล่งวัตถุดิบของเมล็ดกาแฟจากทาทาคอฟฟีในเมืองโคดากู<ref>{{cite web|url=http://www.business-standard.com/india/news/tata-coffee-brings-starbucks-to-india/421757/ |title=Tata Coffee brings Starbucks to India |publisher=Business-standard.com |date=January 14, 2011 |accessdate=July 7, 2011}}</ref> แม้จะเคยล้มเหลวในปี ค.ศ. 2007<ref>{{cite news|url=http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601091&sid=asQWaXye9LOk&refer=india|title=Starbucks Delays India Entry, Withdraws Application (Update2) |last=Chatterjee|first=Saikat|date=July 20, 2007|publisher=Bloomberg L.P.|accessdate=April 15, 2009}}</ref> ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้เปิดเผยถึงหุ้นส่วนกับทาทาคอฟฟี ซึ่งถือหุ้นร่วมกัน 50:50 โดยใช้ชื่อว่า ทาทาสตาร์บัคส์ ซึ่งจะใช้ชื่อนี้สำหรับการทำการค้าในประเทศอินเดียเท่านั้น<ref>{{cite web|title=Tata Global Beverages and Starbucks Form Joint Venture to Open Starbucks Cafés across India |url=http://news.starbucks.com/article_display.cfm?article_id=616 |publisher=Starbucks Press Release |accessdate=January 31, 2012 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20120204124053/http://news.starbucks.com/article_display.cfm?article_id=616 |archivedate=February 4, 2012 }}</ref> โดยสาขาแรกเปิดที่เมือง[[มุมไบ]] ในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2012.<ref>{{cite web|title=Veni, Vidi, Venti: Starbucks Expands Its Global Reach to Mumbai|url=http://asiasociety.org/blog/asia/veni-vidi-venti-starbucks-expands-its-global-reach-mumbai|work=Asia Society|publisher=asiasociety.org|accessdate=October 25, 2012|author=Farisa Khalid |date=October 24, 2012}}</ref><ref>{{cite web|title=Tata Coffee to close ranks with Starbucks|url=http://business-standard.com/india/news/tata-coffee-to-close-ranksstarbucks/490638/|work=Business Standard|publisher=asiasociety.org|accessdate=October 25, 2012|author=Farisa Khalid |date=October 24, 2012}}</ref><ref>{{cite web|title=Starbucks creates a stir in India|url=http://www.thenational.ae/thenationalconversation/industry-insights/retail/starbucks-creates-a-stir-in-india|work=The National|publisher=business-standard.com|accessdate=October 25, 2012|author=Raghuvir Badrinath |date=October 25, 2012}}</ref>

[[ไฟล์:Starbucks at the Forbidden City.jpg|thumbnail|left|สตาร์บัคส์ที่ [[พระราชวังต้องห้าม]] [[ปักกิ่ง]] ประเทศจีน]]
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 สตาร์บัคส์ได้เริ่มทำการขายกาแฟในประเทศนอร์เวย์โดยใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น โดยสาขาแรกเปิดในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ที่ [[ท่าอากาศยานออสโล การ์เดอร์มอน]] ต่อมาในเดือนตุลาคม สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาในปักกิ่ง ประเทศจีน ที่[[ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง]] ภายในเทอร์มินัลที่ 3 (ผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ) ทำให้สาขานี้เป็นสาขาที่ 500 ในประเทศจีน, เป็นสาขาที่ 7 ในสนามบิน โดยมีแผนที่จะขยายสาขาในประเทศจีนเป็น 1,500 สาขา ภายในปี ค.ศ. 2015<ref>{{cite web|title=Starbucks Celebrates Its 500th Store Opening in Mainland China|url=http://www.businesswire.com/news/home/20111025006612/en/Starbucks-Celebrates-500th-Store-Opening-Mainland-China|publisher=Business Wire|accessdate=October 15, 2012|date=October 25, 2011}}</ref> ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาใหม่ในประเทศฟินแลนด์ ที่[[ท่าอากาศยานเฮลซิงกิ]] ในเมือง[[วันดา]]<ref>{{cite web|title=Starbucks Opens First Store in Finland at Helsinki Airport |url=http://news.starbucks.com/article_display.cfm?article_id=654 |work=Starbucks Newsroom |publisher=Starbucks Corporation |accessdate=October 15, 2012 |date=May 14, 2012 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20130112211517/http://news.starbucks.com/article_display.cfm?article_id=654 |archivedate=January 12, 2013 }}</ref>

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 สตาร์บัคส์ได้วางแผนที่จะขยายเป็น 1,000 สาขาในสหรัฐอเมริกาภายในระยะเวลา 5 ปี<ref>{{cite news|url=http://www.bloomberg.com/news/2012-10-04/starbucks-s-schultz-sees-1-000-new-u-s-stores-in-five-years-1-.html|title=Starbucks CEO Sees Adding 1,000 U.S. Stores in Five Years|publisher=Bloomberg L.P.|accessdate=October 4, 2012|first=Leslie|last=Patton|date=October 4, 2012}}</ref> ในเดือนเดียวกันนั้นได้มีการเปิดสาขาของสตาร์บัคส์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ภายในมหาวิทยาลัยอาลาบามาส์ เฟอร์กูสัน<ref>{{cite web|last=Burch|first=Adrienne|url=http://cw.ua.edu/2012/08/28/largest-starbucks-in-u-s-coming-to-the-ferg/|title=Largest Starbucks in U.S. coming to the Ferg|publisher=The Crimson White|date=August 28, 2012|accessdate=October 8, 2012}}</ref>

ในปี ค.ศ. 2013 สตาร์บัคส์ได้จับมือกับซูเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติเดนมาร์ก ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเปิดสาขาแรกในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ในเมือง[[ออลบอร์]] และ [[ออร์ฮูส]]<ref>{{cite web|url=http://dansksupermarked.dk/presse/nyheder/?id%3D2408c4ea427b1abe |title=Archived copy |accessdate=July 25, 2015 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20150419042459/http://dansksupermarked.dk/presse/nyheder/?id=2408c4ea427b1abe |archivedate=April 19, 2015 }}</ref>

สตาร์บัคส์ได้ประกาศว่าจะเปิดสาขาในประเทศโบลิเวียในปี ค.ศ. 2014 ตั้งอยู่ในเมือง[[ซันตาครุซเดลาเซียรา]] และสาขาแรกในประเทศปานามาในปี ค.ศ. 2015<ref>{{cite news |url=http://seattletimes.com/html/businesstechnology/2023605327_starbucksboliviaxml.html |title=Starbucks to open stores in Bolivia and Panama |date=May 14, 2014 |first=Ángel |last=González |newspaper=The Seattle Times}}</ref>

ในวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2015 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาใน ดิสนีส์แอนิมอลคิงดอม ที่ดิสคัฟเวอรีไอส์แลนด์ โดยสวนสนุกนี้ไม่อนุญาตให้ใช้หลอดพลาสติกเนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ ทำให้สาขานี้จึงใช้หลอดพิเศษสำหรับเครื่องดื่มเย็น<ref>{{cite web|title=New Starbucks location opens in Disney's Animal Kingdom|url=http://attractionsmagazine.com/new-starbucks-location-opens-disneys-animal-kingdom/|website=attractionsmagazine.com|publisher=Orlando Attractions Magazine|accessdate=September 29, 2015}}</ref> ทำให้สาขานี้เป็นสาขาที่ 6 ของสตาร์บัคส์ที่เปิดภายใน[[วอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต]]<ref name="Disney's Hollywood Studios">{{cite web|last1=Smith|first1=Thomas|title=Starbucks to Open at Disney's Hollywood Studios in Early 2015|url=http://disneyparks.disney.go.com/blog/2014/08/starbucks-to-open-at-disneys-hollywood-studios-in-early-2015/|website=disneyparks.com|publisher=Disney Parks-Walt Disney World|accessdate=October 14, 2014}}</ref>

บิล สลีธ รองประธานด้านดีไซน์ของสตาร์บัคส์ ได้เห็นถึงความต้องการที่จะสร้างความแปลกใหม่ของร้าน โดยเขากล่าวว่า "ลูกค้าไม่ต้องการที่จะเดินเข้ามาในร้านที่ดาวน์ทาวน์ของซีแอทเทิล, เดินเข้าไปในร้านชานเมืองของซีแอทเทิล และมาที่ซานโฮเซ แล้วเห็นร้านเหมือน ๆ กัน" และได้กล่าวต่อว่า "ลูกค้าได้พูดว่า ‘ทุกที่ที่ฉันไปมีเหมือนกันหมด’ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เราต้องการที่จะทำร้านให้แตกต่างกัน" ในการจัดการตกแต่งร้านของสตาร์บัคส์ จะพยายามทำให้แบรนด์มีเอกพจน์ แต่การตกแต่งจะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นนั้น<ref>{{cite news| url=http://www.wired.com/design/2014/01/starbucks-big-plan-to-be-your-cozy-neighborhood-coffee-shop/ | work=Wired | first=Liz | last=Stinson | title=With Stunning New Stores, Starbucks Has a New Design Strategy: Act Local | date=January 8, 2014}}</ref>

สตาร์บัคส์เปิดร้านแรกบนเกาะ ในต้นปี ค.ศ. 2015 ที่ย่านธุรกิจของท่าเรือเซนต์ปีเตอร์ ใน[[เกิร์นซีย์]]<ref>{{cite news| url=http://www.itv.com/news/channel/update/2014-11-28/starbucks-comes-to-guernsey/ | work=ITV | first=ITV | last=News | title=Starbucks comes to Guernsey | date=November 28, 2014}}</ref>

ต่อมาในวันที่ 10 กันยายน สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาแรกในประเทศอาเซอร์ไบจาน ที่ห้างสรรพสินค้าพอร์ตบากู

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 โฮเวิร์ด ชูลซ์ ประธานกรรมการบริษัท ได้ยืนยันอย่างเป็นส่วนตัวว่าจะเปิดสาขาในประเทศโคลอมเบีย โดยสาขาแรกจะเปิดในปี ค.ศ. 2014 ที่[[โบโกตา]] และขยายอีก 50 ร้านในเมืองใหญ่ของประเทศภายใน 5 ปี ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลประเทศโคลอมเบียกับ[[องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา]] สำหรับการเสริมสร้างวัฒนธรรมการปลูกกาแฟในท้องถิ่นและแบ่งปันมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าให้กับคนทั่วโลก โดยสตาร์บัคส์ได้ร่วมหุ้นกับอัลซี และ กรูโปนูเตรซา สำหรับวัตถุดิบในประเทศ หลังจากสร้างศูนย์ส่งเสริมเกษตรกรในเมือง[[มานีซาเลส]]<ref name="news.starbucks.com">{{cite web|title=Starbucks Honors Colombian Coffee Heritage with Entry into Colombia Retail Market and Expanded Support for Farmers|url=http://news.starbucks.com/news/starbucks-honors-colombian-coffee-heritage-with-entry-into-colombia-retail-|work=Starbucks Newsroom|publisher=Starbucks Corporation|accessdate=December 30, 2013|date=August 26, 2013}}</ref>

[[ไฟล์:Starbuckslomas.JPG|thumbnail|left|สตาร์บัคส์ใน[[โลมัสเดซาโมรา]] ประเทศอาร์เจนตินา]]

ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2015 สตาร์บัคส์ได้เปิดสาขาใน[[อัลมาตี]] ประเทศคาซัคสถาน โดยวันต่อมาก็ได้เปิดเพิ่มอีก 1 สาขา<ref>{{cite news|title=Starbucks opens in Almaty|url=http://www.kazpravda.kz/en/rubric/eeu/starbucks-opens-in-almaty/}}</ref>

สตาร์บัคส์สาขาแรกในประเทศสโลวาเกียเปิดในอูพาร์ก ตั้งอยู่ใน[[บราติสลาวา]] ในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2016<ref>{{cite news|title=Starbucks to Open in Slovakia|url=http://www.neweuropeinvestor.com/news/starbucks-to-open-in-slovakia-10691/}}</ref><ref>{{cite news|title=Starbucks opens in Slovakia|url=http://spectator.sme.sk/c/20178249/starbucks-opens-in-slovakia.html}}</ref> อีกทั้งยังยืนยันที่จะเพิ่มอีก 2 สาขาในบราติสลาวาภายในช่วงปลายปี ค.ศ. 2016

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 ชูลซ์ ได้ประกาศว่าจะเปิดสาขาในประเทศอิตาลี โดยจะเปิดสาขาแรกใน[[มิลาน]] ภายในปี ค.ศ. 2017<ref>{{cite news|title=Starbucks arriva in Italia: "Nel 2017 il primo negozio a Milano"|url=http://www.repubblica.it/economia/2016/02/29/news/starbucks_milano_caffe_-134468650/?ref=search|publisher=La Stampa|accessdate=February 29, 2016|date=February 29, 2016}}</ref>

=== สาขาในอดีต ===
ในปี ค.ศ. 2003 หลังจากที่ต่อสู้ในการแข่งขันกับร้านกาแฟท้องถิ่นอย่างยาวนาน สตาร์บัคส์ได้ปิด 6 สาขาใน [[ประเทศอิสราเอล]] โดยระบุว่า "มีความท้าทายในการดำเนินงานมากเกินไป" และ "มีความยากลำบากทางสภาพแวดล้อมของธุรกิจ"<ref>{{cite web|url=http://news.starbucks.com/article_display.cfm?article_id=200 |title=Facts about Starbucks in the Middle East |publisher=News.starbucks.com |accessdate=October 24, 2010}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.snopes.com/politics/israel/starbucks.asp |title=Starbucks closes outlets in Israel |publisher=Snopes.com |accessdate=October 24, 2010}}</ref>

สตาร์บัคส์ใน[[พระราชวังต้องห้าม]] ใน[[ปักกิ่ง]] ได้ปิดตัวลงเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 ซ฿่งเป็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องในความเหมาะสมตั้งแต่เปิดร้านใน ค.ศ. 2000 ซึ่งผู้ประท้วงได้อ้างว่าการที่มีร้านค้าอเมริกันมาตั้งในพระราชวังต้องห้ามเป็นการ "เหยียบย่ำวัฒนธรรมจีน"<ref>{{cite news|title=Starbucks closes coffeehouse in Beijing's Forbidden City|url=https://www.nytimes.com/2007/07/15/world/americas/15iht-starbucks.4.6664994.html|accessdate=October 15, 2012|newspaper=The New York Times|date=July 15, 2007}}</ref><ref>{{cite news |url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/6898629.stm |title=Forbidden City Starbucks closes |date=July 14, 2007 |publisher=BBC News |accessdate=November 13, 2011}}</ref>

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2008 บริษัทได้ยืนยันที่จะปิด 600 สาขาที่มีประสิทธิภาพต่ำ และลดการขยายสาขาในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตไม่แน่นอน<ref>{{cite web | title=Coffee Crisis? Starbucks Closing 600 Stores | url=http://abcnews.go.com/Business/Story?id=5288740&page=1 | publisher=ABC News | date=July 1, 2008 | accessdate=July 18, 2008}}</ref><ref>{{cite news| url=http://online.wsj.com/article/SB121494400432420449.html?mod=hps_us_whats_news | work=The Wall Street Journal | title=Starbucks to Shut 500 More Stores, Cut Jobs | date=July 2, 2008 | first=Janet | last=Adamy}}</ref> ในวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 สตาร์บัคส์ได้ตัดแรงงานที่ไม่ได้อยู่ในร้านค้าอีก 600 ตำแหน่ง เพื่อสร้างแบรนด์ให้มีกำไรมากขึ้น ซึ่งการตัดแรงงานทำให้พนักงาน 550 คนยังว่างงานหลังจากถูกปลดออกจากงาน<ref>{{cite news|url=http://usatoday30.usatoday.com/money/economy/2008-07-29-4212574107_x.htm|title=Starbucks cuts 1,000 non-store jobs|agency=Associated Press|author=Lauren Shepherd|date=July 29, 2008|accessdate=December 1, 2012|work=USA Today}}</ref> ซึ่งการกระทำครั้งนี้ทำให้ระยะของการขยายตัวและเติบโตของบริษัทได้สิ้นสุดลง นับตั้งแต่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางยุค 90

อีกทั้งสตาร์บัคส์ยังประกาศออกมาในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2008 ในเรื่องของการปิด 61 จาก 84 สาขาในประเทศออสเตรเลีย ในเดือนถัดไป<ref>{{cite news|last=Allison |first=Melissa |url=http://seattletimes.nwsource.com/html/businesstechnology/2008079196_websbuxaustralia29.html |title=The Seattle Times: Starbucks closing 73% of Australian stores |publisher=Seattletimes.nwsource.com |date=July 29, 2008 |accessdate=October 24, 2010}}</ref> โดย นิก ไวลส์ นักวิเคราะห์สถิติการจัดการของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ได้กล่าวว่า "สตาร์บัคส์ไม่เข้าถึงวัฒนธรรมร้านกาแฟในออสเตรเลีย"<ref>{{cite web|url=http://www.ausfoodnews.com.au/2008/07/31/starbucks-what-went-wrong.html |title= Starbucks: What went wrong? |publisher=Australian Food News |accessdate=October 24, 2010}}</ref> ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 สตาร์บัคส์ได้ยืนยันว่าบริษัทได้ขาดทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศออสเตรเลีย และขายร้านค้าที่ยังคงเหลือให้กับวีเธอส์กรุป<ref>{{cite news |title=New owners for Starbucks Australia |work=news.com.au |publisher=News Limited |date=May 28, 2014 |url=http://www.news.com.au/national/breaking-news/new-owners-for-starbucks-australia/story-e6frfku9-1226934051588}}</ref>

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 สตาร์บัคส์ได้ประกาศปิดร้านค้า 300 ร้าน และปลดพนักงานอีก 7,000 ตำแหน่ง ซึ่ง ชูลซ์ ได้กล่าวว่าเขาได้รับการพิจารณาจากบอร์ดให้ลดเงินเดือนของเขาด้วย<ref>{{cite news | title=Starbucks to Close More Stores | url=http://online.wsj.com/article/SB123317714771825681.html |work=The Wall Street Journal | date=January 28, 2009 | accessdate=January 28, 2009 | first=Janet | last=Adamy}}</ref> ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 จนถึง เดือนมกราคม ค.ศ. 2009 สตาร์บัคส์ได้ปลดพนักงานในสหรัฐอเมริกาถึง 18,400 ตำแหน่ง และปิดร้านค้าทั่วโลก 977 ร้าน<ref>Allison, Melissa (March 3, 2009), [http://blog.seattletimes.nwsource.com/coffee/2009/03/03/no_more_layoffs_at_starbucks_s.html "No more layoffs at Starbucks, Schultz says"], The Seattle Times Blog. Archived from the [http://blog.seattletimes.nwsource.com/coffee/2009/03/03/no_more_layoffs_at_starbucks_s.html original] on September 21, 2010.</ref>

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009 อาโฮลด์ได้ประกาศปิดและปรับปรุงร้านสตาร์บัคส์ 43 แห่งในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่มีการปิดร้านทั้งหมด ซึ่งพวกเขายังมีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 5 ร้านภายในปี ค.ศ. 2009<ref>{{cite web|url=http://www.hartfordbusiness.com/news9832.html |title=Hartfordbusiness.com |publisher=Hartfordbusiness.com |accessdate=October 24, 2010}}</ref><ref>{{cite web|last=Chesto |first=Jon |url=http://www.patriotledger.com/business/x1080448841/Stop-Shop-and-sister-chain-closing-43-in-store-Starbucks-kiosks |title=Patriotledger.com |publisher=Patriotledger.com |date=August 28, 2009 |accessdate=October 24, 2010 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20110527174325/http://www.patriotledger.com/business/x1080448841/Stop-Shop-and-sister-chain-closing-43-in-store-Starbucks-kiosks |archivedate=May 27, 2011 }}</ref>

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2012 บริษัทได้ประกาศที่จะปิดร้านค้าในทวีปยุโรปที่ขาดทุนทันที<ref>{{cite web|date=July 27, 2012 |last=Patton |first=Leslie |work=Business Week |accessdate=October 12, 2012 |url=http://www.businessweek.com/news/2012-07-26/starbucks-falls-after-cutting-fourth-quarter-profit-forec |title=Starbucks Falls After Cutting Forecast Below Estimate |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20121105163822/http://www.businessweek.com/news/2012-07-26/starbucks-falls-after-cutting-fourth-quarter-profit-forec |archivedate=November 5, 2012 }}</ref>

==การโฆษณา==

===โลโก้===
{{multiple image|direction=vertical|width=125
|image1=Sbux logo pre 1987.gif|caption1=1971–87
|image2=Starbucks Coffee Logo.svg.png|caption2=1992–2011
|image3=Starbucks Corporation Logo 2011 new.svg|caption3=2011–ปัจจุบัน
}}

ในปี 2006 วาเลอรี่ โอเนล โฆษกหญิงของสตาร์บัคส์กล่าวว่าโลก้ของบริษัทนั้นเป็นภาพนางเงือกสองหางหรือ [[ไซเลน]] (siren) ที่เป็นที่รู้จักใน[[เทพปกรณัมกรีก|ตำนานกรีก]]<ref name="pi-logo">{{cite news |title=The Insider: Principal roasts Starbucks over steamy retro logo |work=[[Seattle Post-Intelligencer]] |date=September 11, 2006 |url=http://www.seattlepi.com/business/284533_theinsider11.html |accessdate=May 23, 2007}}</ref> โลโก้ได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยมา ในเวอร์ชันแรกนั้น<ref name="pouryourheart">{{cite book |last=Schultz |first=Howard |author2=Dori Jones Yang |title=Pour Your Heart Into It: How Starbucks Built a Company One Cup at a Time |year=1997 |publisher=Hyperion |location=New York |isbn=0-7868-6315-3 }}</ref> ไซเลนมีลักษณะเปลือยอกและเห็นหางทั้งสองได้อย่างชัดเจน<ref name=Pren253>Pendergrast, p. 253</ref> ภาพนั้นมีลักษณะหยาบและคล้ายกับเมลูซีน [[melusine|(melusine]])<ref>{{cite journal|last=Rippin|first=Ann|year=2007|title=Space, place and the colonies: re-reading the Starbucks' story|journal=Critical perspectives on international business|publisher=Emerald Group Publishing|volume=3|issue=2|pages=136–149|issn=1742-2043|url=http://www.emeraldinsight.com/Insight/ViewContentServlet?Filename=Published/EmeraldFullTextArticle/Articles/2900030202.html|doi=10.1108/17422040710744944}}</ref> บริษัทกล่าวว่าภาพนี้นำมาจาก[[ภาพพิมพ์แกะไม้]]ของ[[ชาวนอร์ส]] แม้ว่านักวิชาการจะแย้งว่านำมาจาก แม่พิมพ์ไม้ของ [[Juan Eduardo Cirlot|J.E. Cirlot]] ในหนังสือ ''Dictionary of Symbols'' ในศตวรรษที่ 15<ref>Carl Pyrdum, [http://www.gotmedieval.com/2010/08/the-other-starbucks-mermaid-cover-up.html "The Other Starbucks Mermaid Cover-Up"], Got Medieval, August 31, 2010 (accessed March 1, 2015)</ref><ref>Christopher Shea, "Medieval Scholar Hot on Trail of Starbucks Logo Cover-Up", ''Wall Street Journal'' Ideas Market January 31, 2011 (accessed March 1, 2015)</ref>

ในเวอร์ชันที่สองที่ใช้ในช่วงปี 1987-1992 หน้าอกของเธอถูกปิดด้วยผมแต่[[สะดือ]]ยังสามารถมองเห็นได้<ref>Robert Klara, [http://www.adweek.com/news/advertising-branding/how-topless-mermaid-made-starbucks-cup-icon-160396 How a Topless Mermaid Made the Starbucks Cup an Icon], ''Ad Week,'' September 29, 2014, (accessed March 1, 2015)</ref> หางปลาบางส่วนได้ถูกตัดออกและสีหลักถูกเปลี่ยนจากสีน้ำตาลมาเป็นสีเขียว เหมือนสีมหาวิทยาลัยของผู้ก่อตั้งทั้งสาม [[มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก]]<ref>{{cite web|last=Allison |first=Melissa |url=http://seattletimes.nwsource.com/html/businesstechnology/2004269831_bowker09.html |title=Starbucks co-founder talks about early days, launching Redhook and Seattle Weekly |publisher=Seattletimes.nwsource.com |accessdate=May 9, 2014}}</ref><ref>{{cite web|last=Larimore |first=Rachael |url=http://www.slate.com/articles/business/when_big_businesses_were_small/2013/10/starbucks_business_strategy_how_ceo_howard_schultz_conquered_the_world.html |title=Starbucks business strategy: How CEO Howard Schultz conquered the world |publisher=Slate.com |date=October 24, 2013 |accessdate=May 9, 2014}}</ref> ในเวอร์ชันที่สามที่ใช้ระหว่างปี 1992 ถึง 2011 ทั้งสะดือและหน้าอกของเธอไม่สามารถมองเห็นเลย มีเพียงร่องรอยของหางปลาเท่านั้น

== ดูเพิ่ม ==
* [[เดอะคอฟฟีบีนแอนด์ทีลีฟ]]
* [[แบล็ค ไอวอรี่ คอฟฟี่]]
* [[คาเฟ่ อเมซอน]]
* [[อินทนิลคอฟฟี]]
* [[คอฟฟีเวิลด์]]
* [[แบล็คแคนยอนคอฟฟี]]
* [[ทรูคอฟฟี]]
* [[ชาวดอยคอฟฟี]]
* [[คอฟฟีทูเดย์]]
* [[ไร่ช่อลดาคอฟฟี]]
* [[บ้านใร่กาแฟ]]
* [[ฮอลลิสคอฟฟี]]
* [[เมซโซ่คอฟฟี]]

== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง|2}}


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://www.starbucks.com/ สตาร์บัคส์]
* [http://www.starbucks.co.th/th/ สตาร์บัคส์ประเทศไทย]


[[หมวดหมู่:บริษัทข้ามชาติ]]
[[หมวดหมู่:ธุรกิจกาแฟ]]
[[หมวดหมู่:ธุรกิจกาแฟ]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:39, 13 ธันวาคม 2561

เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=สตาร์บัคส์&oldid=8009181"