ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฟซบุ๊ก"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
แทนที่เนื้อหาด้วย "{{กล่องข้อมูล เว็บไซต์ | name = Facebook-- | logo = ไฟล์:Facebook_New_Logo_(2015).svg|220px..." ป้ายระบุ: ถูกแทน การแก้ไขแบบเห็นภาพ |
|||
บรรทัด 19: | บรรทัด 19: | ||
}} |
}} |
||
⚫ | |||
'''เฟซบุ๊ก''' ({{lang-en|Facebook}}; ชื่อเดิม thefacebook) เป็น[[บริการเครือข่ายสังคม]]ที่ยังเปิดให้บริการอยู่ สำนักงานใหญ่อยู่ที่ [[เมนโลพาร์ก]] [[รัฐแคลิฟอร์เนีย]] ซึ่งมันเป็นชื่อที่ใช้ในการสื่อสารหรือป้ายบอกทางแก่เหล่านักศึกษาในบางมหาวิทยาลัยอเมริกัน เฟซบุ๊กก่อตั้งเมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 โดย[[มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก]] และเพื่อนร่วมห้องภายในมหาวิทยาลัย และเหล่าเพื่อนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมโดยสมาชิกเพื่อนผู้ก่อตั้ง Eduardo Saverin, Andrew McCollum, Dustin Moskovitz และ Chris Hughes ในท้ายที่สุดเว็บไซต์มีการเข้าชมอย่างจำกัด ทำให้เหล่านักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ภายหลังได้ขยายเพิ่มจำนวนในมหาวิทยาลัย ในพื้นที่[[บอสตัน]] [[ไอวีลีก]] และ[[มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด]] และค่อยๆรับรองมหาวิทยาลัยอื่นต่างๆ และต่อมาก็รับรองโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยเฟซบุ๊กให้การอนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปีทั่วโลกสามารถสมัครสมาชิกได้ภายในเว็บไซต์ โดยไม่ต้องอ้างอิงหลักฐานใด ๆ |
|||
จากการศึกษาของเว็บ คอมพีต.คอม ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 เฟซบุ๊กถือเป็นบริการเครือข่ายสังคมที่มีคนใช้มากที่สุด เมื่อดูจากผู้ใช้ประจำรายเดือน รองลงมาคือ [[มายสเปซ]] ''[[เอ็นเตอร์เทนเมนต์วีกลี]]'' ให้อยู่ในรายชื่อ สิ่งที่ดีที่สุดในสิ้นทศวรรษ และควอนต์แคสต์ ประเมินว่า เฟซบุ๊ก มีผู้ใช้ต่อเดือนราว 135.1 ล้านคน นับเฉพาะในสหรัฐอเมริกา |
|||
⚫ | |||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
[[มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก|มาร์ก ซักเ]] |
|||
[[มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก]] ได้เริ่มแดกหีเขียนเว็บไซต์ เฟซแมช ขึ้นมาก่อนที่จะเป็นเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2003 ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ของ[[มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด]] โดยเป็นเว็บไซต์ที่เปรียบเสมือนเว็บ [[ฮอตออร์น็อต]] ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด<ref>{{cite news|url=http://web.archive.org/web/20050403215543/www.thecrimson.com/article.aspx?ref=357292 |title=Hundreds Register for New Facebook Website |first=Alan J. |last=Tabak |date=February 9, 2004 |publisher=Harvard Crimson |accessdate=2008-11-07}}</ref> และจากข้อมูลของหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยที่ชื่อ ''[[The Harvard Crimson]]'' เฟซแมชใช้ภาพที่ได้จาก เฟซบุ๊ก หนังสือแจกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มีรูปนักศึกษา จากบ้าน 9 หลัง โดยจะมีรูป 2 รูปให้คนเลือกว่า ใครร้อนแรงกว่ากัน<ref name="autogenerated2007">Locke, Laura. [http://www.time.com/time/business/article/0,8599,1644040,00.html "The Future of Facebook"], Time Magazine, July 17, 2007. Retrieved November 13, 2009.</ref> |
|||
[[ไฟล์:MarkZuckerberg.jpg|thumb|[[มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก]] ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก]] |
|||
เพื่อทำให้ได้สำเร็จ ซักเคอร์เบิร์กได้แฮกเข้าไปในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของฮาวาร์ดในพื้นที่ป้องกัน และได้คัดลอกภาพส่วนตัวประจำหอพัก ซึ่งในขณะนั้นฮาวาร์ดยังไม่มีสารบัญรูปภาพและข้อมูลพื้นฐานของนักศึกษา และเฟซแมชได้ทำให้มีผู้เข้าเยี่ยมชม 450 คน และดูรูปภาพ 22,000 ครั้งใน 4 ชั่วโมงแรกที่ออนไลน์<ref name="autogenerated2007"/> และเว็บไซต์นี้ได้จำลองสังคมกายภาพของคน ด้วยอัตลักษณ์จริง เป็นตัวแทนของกุญแจสำคัญด้านมุมมอง ที่ต่อมาได้กลายมาเป็น เฟซบุ๊ก<ref name="fastcompany.com">McGirt, Ellen. [http://www.fastcompany.com/magazine/115/open_features-hacker-dropout-ceo.html "Facebook's Mark Zuckerberg: Hacker. Dropout. CEO. "], Fast Company, May 1, 2007. Retrieved November 5, 2009.</ref> |
|||
เว็บไซต์ได้ก้าวไกลไปในหลายเซิร์ฟเวอร์ของกลุ่มในมหาวิทยาลัย แต่ก็ปิดตัวไปในอีกไม่กี่วันโดยคณะบริหารฮาวาร์ด ซักเคอร์เบิร์กถูกกล่าวโทษว่าทำผิดต่อระบบรักษาความปลอดภัย การละเมิดลิขสิทธิ์ และการละเมิดความเป็นส่วนตัว และยังถูกไล่ออก แต่ท้ายที่สุดแล้วข้อกล่าวหาก็ยกเลิกไป<ref name="facemash survives">{{cite web|accessdate=2009-02-05|url=http://www.thecrimson.com/article.aspx?ref=350143|title=Facemash Creator Survives Ad Board |publisher=[[The Harvard Crimson]]|date=2003-11-19|author=Kaplan, Katherine}}</ref> ต่อมาซักเคอร์เบิร์กได้ขยับขยายโครงการในเทอมนั้นเอง โดยได้คิดค้นเครื่องมือการศึกษาทางสังคมที่ก้าวหน้า ของการสอบวิชาประวัติศาสตร์ โดยการอัปโหลดรูปเกี่ยวกับ[[ประวัติศาสตร์โรม]] 500 รูป โดยมี 1 รูปกับอีก 1 ส่วนที่ให้แสดงความเห็น<ref name="fastcompany.com"/> เขาเปิดกับเพื่อนร่วมชั้นของเขา และคนเริ่มที่จะแบ่งปันข้อความกัน |
|||
ในเทอมต่อมาซักเคอร์เบิร์กเริ่มเขียนโค้ดในเว็บไซต์ใหม่ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2004 เขาได้รับแรงกระตุ้นให้ทำ เขาพูดไว้ใน ''The Harvard Crimson'' เกี่ยวกับเรื่อง เฟซแมช<ref name="Hoffman, Claire">{{cite web|accessdate=2009-02-05|url=http://www.rollingstone.com/news/story/21129674/the_battle_for_facebook/|title=The Battle for Facebook|publisher=Rolling Stone|date=2008-06-28|author=Hoffman, Claire|archiveurl = http://web.archive.org/web/20080703220456/http://www.rollingstone.com/news/story/21129674/the_battle_for_facebook/ |archivedate = July 3, 2008|deadurl=yes}}</ref> และเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 ซักเกอร์เบิร์กได้เปิดตัวเว็บไซต์ "เดอะเฟซบุก" ในยูอาร์แอล thefacebook.com<ref name="skepticism">{{cite news|accessdate=2008-04-30|url=http://online.wsj.com/article/SB118539991204578084.html?mod=googlenews_wsj|title=Judge Expresses Skepticism About Facebook Lawsuit |work=[[The Wall Street Journal]]|date=2007-07-25|author=Seward, Zachary M. }}</ref> |
|||
6 วันหลังจากเปิดเว็บไซต์ รุ่นพี่ 3 คน คือ แคเมรอน วิงก์เลวอส, ไทเลอร์ วิงก์เลวอส และดิฟยา นาเรนดรา ได้ฟ้องร้องซักเกอร์เบิร์กที่หลอกลวงพวกเขาให้เชื่อว่า เขาได้ช่วยที่จะช่วยสร้างเครือข่ายสังคมที่ชื่อว่า HarvardConnection.com ขณะที่เขาใช้แนวคิดพวกเขาในการสร้างเว็บไซต์เพื่อแข่งขัน<ref name="zuckerberghacked">{{cite news | first=Nicolas | last=Carlson | coauthors= |authorlink= | title= In 2004, Mark Zuckerberg Broke Into A Facebook User's Private Email Account | date=2010-03-05 | publisher= | url =http://www.businessinsider.com/how-mark-zuckerberg-hacked-into-the-harvard-crimson-2010-3 | work =Business Insider | pages = | accessdate = 2010-03-05 | language = }}</ref> ทั้ง 3 คนได้บ่นในหนังสือพิมพ์ ''Harvard Crimson'' โดยทางหนังสือพิมพ์เริ่มทำการสอบสวน ต่อมาทั้ง 3 คนได้ยื่นฟ้องทางกฎหมายต่อซักเกอร์เบิร์กในภายหลัง<ref name=nytb>{{cite news|publisher=The New York Times|url=http://bits.blogs.nytimes.com/2008/06/26/judge-ends-facebooks-feud-with-connectu/index.html|date=2008-06-28| title=Judge Ends Facebook’s Feud With ConnectU|author=Brad Stone}}</ref> |
|||
แต่เดิม สมาชิกจะจำกัดเฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และภายในเดือนแรก มากกว่าครึ่งหนึ่งของนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ได้ลงทะเบียนใช้บริการ<ref>{{cite news|accessdate=2008-03-07|url=http://www.guardian.co.uk/technology/2007/jul/25/media.newmedia|title=A brief history of Facebook |work=[[The Guardian]]|date=2007-07-25|author=Phillips, Sarah | location=London}}</ref> เอ็ดวาร์โด ซาเวริน (ดูแลเรื่องธุรกิจ), ดิสติน มอสโควิตซ์ (โปรแกรเมอร์), แอนดรูว์ แม็กคอลลัม (กราฟิก) และคริส ฮิวส์ ที่ต่อมาได้ร่วมกับซักเกอร์เบิร์กเพื่อประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ และในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2004 เฟซบุ๊กได้ขยับขยายสู่มหาวิทยาลัยอื่นอย่าง [[มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด|สแตนฟอร์ด]], [[มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย|โคลัมเบีย]], และ[[มหาวิทยาลัยเยล|เยล]]<ref name="timeline">{{cite web|accessdate=2008-03-05|url=http://www.facebook.com/press/info.php?timeline|title=Press Room |publisher=Facebook|date=2007-01-01 }}</ref> และยังคงขยับขยายต่อสู่กลุ่ม[[ไอวีลีก]]ทั้งหมด และ[[มหาวิทยาลัยบอสตัน]], [[มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก]], [[เอ็มไอที]] และสู่มหาวิทยาลัยอื่นในแคนาดาและสหรัฐอเมริกาไปทีละน้อย<ref>{{cite web|accessdate=2008-06-13|url=http://www.forbes.com/2006/09/11/facebook-opens-up-cx_rr_0911facebook.html|title=Open Facebook |publisher=[[Forbes]]|date=2006-09-11|author=Rosmarin, Rachel }}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.tuftsdaily.com/2.5541/1.600318|title= Online network created by Harvard students flourishes|publisher= [[The Tufts Daily]]|date=|accessdate = 2009-08-21}}</ref> |
|||
เฟซบุ๊กได้เป็นบริษัทในฤดูร้อนปี ค.ศ. 2004 และได้นักธุรกิจ [[ฌอน พาร์กเกอร์]] ที่ได้เคยแนะนำซักเกอร์เบิร์กอย่างเป็นกันเอง ก็ได้ก้าวมาเป็นประธานของบริษัท.<ref name="NYT_260505">{{cite news | author = Rosen, Ellen | title = Student's Start-Up Draws Attention and $13 Million | url = http://www.nytimes.com/2005/05/26/business/26sbiz.html?_r=2&scp=1&sq=thefacebook+parker&st=nyt | publisher = The New York Times | date = 2005-05-26 | accessdate = 2009-05-18 }}</ref> ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2004 เฟซบุ๊กได้ย้ายฐานปฏิบัติงานมาอยู่ที่ [[แพโลอัลโต]] [[รัฐแคลิฟอร์เนีย]]<ref name="timeline" /> และได้รับเงินทุนในเดือนนั้นจากผู้ร่วมก่อตั้ง [[เพย์พาล]] ที่ชื่อ [[ปีเตอร์ ธีล]]<ref name="beware">{{cite news|accessdate=2008-04-30|url=http://www.theage.com.au/news/general/beware-facebook/2008/01/18/1200620184398.html?page=fullpage#contentSwap2|title=Why you should beware of Facebook |work=[[The Age]]|date=2008-01-20 | location=Melbourne}}</ref> บริษัทได้เปลี่ยนชื่อ โดยลดคำว่า เดอะ ออกไป และซื้อโดเมนเนมใหม่ในชื่อ เฟซบุ๊ก.คอม ในปี ค.ศ. 2005 ด้วยเงิน 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ<ref>{{cite web|accessdate=2008-06-13|url=http://www.theregister.co.uk/2007/10/01/facebook_domain_dispute/| title=Facebook wins Manx battle for face-book.com |publisher=The Register|date=2007-10-01|author=Williams, Chris }}|</ref> |
|||
เฟซบุ๊กได้เปิดตัวในรูปแบบของโรงเรียนไฮสคูล ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2005 ที่ซักเกอร์เบิร์กเรียกว่า ก้าวต่อไปที่มีเหตุผล<ref>{{cite news|title=Facebook is the go-to Web site for students looking to hook up|work=[[Dayton Daily News]]|date=2006-08-03|author=Dempsey, Laura}}</ref> ณ เวลานั้นในเครือข่ายไฮสคูล ต้องการการรับเชิญเท่านั้นเพื่อร่วมเว็บไซต์<ref>{{cite web|accessdate=2008-06-13|url=http://www.forbes.com/security/2007/01/25/myspace-security-identity-tech-security-cx_ll_0124myspaceage.html|title=Why MySpace Doesn't Card |publisher=[[Forbes]]|date=2007-01-25|author=Lerer, Lisa |archiveurl=http://classic-web.archive.org/web/20080602081817/http://www.forbes.com/security/2007/01/25/myspace-security-identity-tech-security-cx_ll_0124myspaceage.html|archivedate=2008-06-02}}</ref> ต่อมาเฟซบุ๊กได้ขยับขยายให้กับลูกจ้างบริษัทที่คัดสรรอย่าง [[แอปเปิล]] และ [[ไมโครซอฟท์]]<ref>{{cite web|accessdate=2008-03-09|url=http://www.businessweek.com/technology/content/sep2006/tc20060912_682123.htm?chan=top+news_top+news+index_technology|title=Facebook: Opening the Doors Wider |work=BusinessWeek|date=2006-09-12|author=Lacy, Sarah }}</ref> เฟซบุ๊กได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2006 ให้ทุกคนได้ใช้กัน โดยต้องมีอายุมากกว่า 13 ปี และมีอีเมลที่แท้จริง<ref name="welcome">{{cite news | first=Carolyn | last=Abram | url=http://blog.facebook.com/blog.php?post=2210227130|accessdate=2008-03-08|publisher=Facebook | title=Welcome to Facebook, everyone | date=2006-09-26}}</ref><ref name="tos">{{cite web|accessdate=2008-03-05|url=http://www.facebook.com/terms.php|title=Terms of Use|publisher=Facebook|date=2007-11-15}}</ref> |
|||
ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2007 ไมโครซอฟท์ประกาศว่าได้ซื้อหุ้นของเฟซบุ๊กเป็นจำนวน 1.6% ด้วยเงิน 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เฟซบุกมีมูลค่าราว 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ<ref name="MSPR1">{{cite web |url=http://www.microsoft.com/Presspass/press/2007/oct07/10-24FacebookPR.mspx |title=Facebook and Microsoft Expand Strategic Alliance |accessdate=2007-11-08 |publisher=[[Microsoft]] |date=2007-10-24 }}</ref> และทำให้ไมโครซอฟท์มีสิทธิ์ที่จะแขวนป้ายโฆษณาบนเฟซบุ๊กได้<ref name="BW-6Aug08">{{cite web|url=http://www.businessweek.com/magazine/content/08_33/b4096000952343.htm?chan=rss_topEmailedStories_ssi_5|title=Facebook Stock For Sale|accessdate=2008-08-06|publisher=BusinessWeek}}</ref> ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2008 เฟซบุกประกาศว่าจะตั้งสำนักงานใหญ่ระดับนานาชาติใน[[ดับลิน]] [[ประเทศไอร์แลนด์]]<ref>{{cite web|accessdate=2008-11-30|url=http://www.facebook.com/press/releases.php?p=59042|title=Press Releases|publisher=Facebook|date=2008-11-30}}</ref> |
|||
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2009 เฟซบุ๊กได้กล่าวว่า สถานะการเงินเริ่มเป็นตัวเลขบวกเป็นครั้งแรก |
|||
<ref>{{cite news|url=http://www.cbc.ca/technology/story/2009/09/16/tech-facebook-300-million-users.html |title=Facebook 'cash flow positive,' signs 300M users |publisher=Cbc.ca |date=2009-09-16 |accessdate=2010-03-23}}</ref> ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2010 จากข้อมูลของ เซคันด์มาร์เก็ต ระบุว่าเฟซบุกมีมูลค่า 41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (แซงหน้า[[อีเบย์]]ไปเล็กน้อย) และถือเป็นบริษัทเว็บไซต์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 3 รองจาก[[กูเกิล]]และ[[แอมะซอน]]<ref>Facebook Becomes Third Biggest US Web Company http://www.thejakartaglobe.com/technology/facebook-becomes-third-biggest-us-web-company/406751</ref> สถิติผู้เข้าชมในเฟซบุ๊กหลังปี ค.ศ. 2009 ผู้ชมเฟซบุ๊กมากกว่ากูเกิลในปลายสัปดาห์ของสัปดาห์ 13 มีนาคม ค.ศ. 2010 |
|||
<ref>{{cite web |url=http://weblogs.hitwise.com/heather-dougherty/2010/03/facebook_reaches_top_ranking_i.html |title=Facebook Reaches Top Ranking in US |author= |date= |work= |publisher= |accessdate=}}</ref> |
|||
== วิวัฒนาการของเฟซบุ๊กในแต่ละรุ่น == |
|||
=== Facemash === |
|||
โดย Facebook ในรุ่นแรกมีชื่อว่า Facemash ถือกำเนิดเมื่อ 2003 ตอนนั้น มาร์คยังคงเรียนอยู่ปี 2 ที่ Harvard แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ถูกแฟนทิ้ง Mark ก็เลยเริ่มเมาเละเทะ |
|||
และก็เริ่มเขียน Blog เพื่อให้ลืมแฟนสาวคนนั้น ขณะเดียวกัน มาร์คก็เริ่มสร้าง Facemash บนหอพัก โดยมาร์คบอกว่ารูปที่ถ่ายรูปบางรูป น่าเกลียดมากจนเอาไปเปรียบเทียบกับพวกสัตว์ต่างๆ |
|||
Facemash กลายเป็นเว็ปที่นำรูปของนักศึกษาจากหอพักทั้งหมดเก้าหอพักมาเก็บไว้ มาร์คเริ่มเขียนโปรแกรม ให้สุ่มรูปขึ้นมาคู่กันสองรูปแล้วให้คนโหวตว่า ด้านซ้ายหรือขวาที่หน้าตาถูกใจของนักศึกษา |
|||
โดย Mark ได้ทำการ แฮ็ครูปนักศึกษาเข้าคอมพิวเตอร์ Harvard แล้วก็อปรูปมา Facemash ได้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง มีคนเข้ามา 450 คน และมีคนดูรูปไปทั้งหมด 22,000 รูป แต่ทว่าไม่กี่วันต่อมา Harvard ได้ทำการปิดเว้ป Facemash แล้วแจ้งจับมาร์คข้อหาละเมิดความเป็นสวนตัว และแฮ็คเข้าระบบคอมพิวเตอร์ |
|||
=== Thefacebook === |
|||
เทอมต่อมา ปี 2004 มาร์คเริ่มสร้างเว็บใหม่ขึ้นมา เรียกว่า ''Thefacebook'' เค้าได้รับแรงบันดาลใจจากบทความในหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับกรณีของ Facemash บทความนั้นกล่าวว่า "จริงๆ แล้วเว็บส่วนกลางลักษณะนี้น่าจะมีประโยชน์มากมาย มหาศาล" |
|||
''Thefacebook'' เริ่มใช้งานได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 มาร์คบอกว่า หลายๆ คนพูดถึงการมี facebook (จุดรวมรูปของนักศึกษาและอาจารย์) ของ Harvard โดยมาร์คพูดต่ออีกว่า มันเป็นอะไรที่ตลกมาก เพราะมหาวิทยาลัยต้องใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าจะทำเจ้าตัวนี้ขึ้นมา และตัวเค้าทำได้ดีกว่า แล้วก็ทำได้ในอาทิตย์เดียว |
|||
ภายในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง ''Thefacebook'' มีคนลงทะเบียน 1,500 คน และ ภายในหนึ่งเดือน ครึ่งหนึ่งของนักศึกษาปริญญาตรีทั้งหมดลงทะเบียนกับเค้าเดือนมีนาคมปีเดียวกัน มาร์คและกลุ่มเพื่อนๆ ก็ได้ขยาย Thefacebook ออกไปยังมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ (Ivy League) จากนั้น ก็ขยายไปทั่วอเมริกาและทั่วโลก |
|||
ในปี 2005 คำว่า The ก็ถูกถอนออกจาก ชื่อ Thefacebook มาร์คและเพื่อนของเขาได้จดทะเบียนชื่อโดเมน facebook.com ในราคา $200,000 ... แล้วก็มี Facebook เฉกเช่นปัจจุบัน |
|||
== ข้อพิพาทและการวิจารณ์ == |
|||
เฟซบุ๊กประสบกับข้อพิพาทหลายเรื่อง เฟซบุ๊กถูกปิดกั้นการเข้าถึงเป็นช่วง ๆ ในหลายประเทศ อย่างเช่นใน [[ประเทศจีน]],<ref name="chinablock"> {{cite web|url= http://www.ferghana.ru/news.php?id=15794&mode=snews|title= Uzbek authorities have blocked access to Facebook|accessdate= 21 October 2010}} {{cite web |title= China's Facebook Status: Blocked |url= http://blogs.abcnews.com/theworldnewser/2009/07/chinas-facebook-status-blocked.html |date= July 8, 2009 |work= |publisher= ABC News |accessdate=13 July 2009}}</ref> [[เวียดนาม]]<ref name="benstocking">{{cite news |url=http://www.sfgate.com/cgi-bin/article.cgi?f=/n/a/2009/11/17/international/i033256S37.DTL |title=Vietnam Internet users fear Facebook blackout |author=Ben Stocking |agency=Associated Press |date=2009-11-17 |accessdate=2009-11-17 | work=The San Francisco Chronicle}} {{ลิงก์เสีย|date=ตุลาคม 2553}}</ref> [[อิหร่าน]]<ref>{{cite web |last=Shahi |first=Afshin. |url=http://dailystaregypt.com/article.aspx?ArticleID=15313 |title=Iran's Digital War |publisher=Daily News Egypt |date=July 27, 2008 |accessdate=August 16, 2008}}</ref> [[อุซเบกิสถาน]]<ref> {{Ru icon}}</ref> [[ปากีสถาน]]<ref>{{cite news|last=Cooper |first=Charles |url=http://www.cbsnews.com/8301-501465_162-20005388-501465.html |title=Pakistan Bans Facebook Over Muhammad Caricature Row – Tech Talk |publisher=CBS News |date=2010-05-19 |accessdate=2010-06-26}}</ref> [[ซีเรีย]]<ref>{{cite news |url=http://www.economist.com/world/mideast-africa/displaystory.cfm?story_id=11792330 |title=Red lines that cannot be crossed |publisher=The Economist |date=July 24, 2008 |accessdate=August 17, 2008}}</ref> [[ลาว]]<ref>[http://www.economist.com/node/11792330]</ref> [[กัมพูชา]]<ref>[http://www.economist.com/node/11792330]</ref> [[พม่า]]<ref>[http://www.cbsnews.com/8301-501465_162-20005388-501465.html]</ref> [[บรูไน]]<ref>[http://www.cbsnews.com/8301-501465_162-20005388-501465.html]</ref> และ[[บังคลาเทศ]]<ref name="reviewz">{{cite web |author= Ben Escurado |url=http://techviewz.org/2010/11/saudi-arabia-blocks-facebook.html|title=Saudi Arabia blocks Facebook|publisher=TechViewz.Org|date=2010-11-14 |accessdate=2010-11-16}}</ref> ในเหตุผลที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น เนื้อหาการต่อต้านอิสลามและการแบ่งแยกทางศาสนาในเฟซบุ๊ก และยังถูกห้ามใช้จากหลายประเทศ และยังถูกห้ามใช้ในสถานที่ทำงานหลายที่เพื่อป้องกันพนักงานเสียเวลาในการทำงาน<ref>{{cite news |last=Benzie |first=Robert |url=http://www.thestar.com/News/article/210014 |title=Facebook banned for Ontario staffers |publisher=TheStar.com |date=May 3, 2007 |accessdate=August 16, 2008 | location=Toronto}}</ref> และนโยบายความเป็นส่วนตัวก็เป็นประเด็น และความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้ก็มีการไกล่เกลี่ยกันหลายต่อหลายครั้ง เฟซบุ๊กได้ลงมือแก้ปัญหาคดีความที่เกี่ยวกับซอร์ซโคดและทรัพย์สินทางปัญญา<ref>{{cite news |url=http://bits.blogs.nytimes.com/2008/04/07/facebook-to-settle-thorny-lawsuit-over-its-origins/ |title=Facebook to Settle Thorny Lawsuit Over Its Origins |publisher=The New York Times (blog) |date=April 7, 2008 |accessdate=November 5, 2009 | first=Brad | last=Stone}}</ref> |
|||
== บริษัท == |
|||
{{บทความหลัก|เฟซบุ๊ก (บริษัท)}} |
|||
[[ไฟล์:Most popular social networking sites by country.svg|thumb|300px|บริการเครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมในแต่ละประเทศ{{legend|#3b5998|เฟซบุ๊ก}}{{legend|#5ea9dd|[[ทวิตเตอร์]]}}{{legend|#965220|[[VK (social networking)|VKontakte]]}}{{legend|#de2910|[[Qzone|QZone]]}}{{legend|#f2720c|[[Odnoklassniki]]}}{{legend|#229340|Facenama}}{{legend|#e0e0e0|no data}}]] |
|||
รายได้ส่วนมากของเฟซบุ๊กมาจากการโฆษณา โดย[[ไมโครซอฟท์]]เป็นผู้ร่วมหุ้นพิเศษในด้านการบริการแบนเนอร์โฆษณา<ref>{{cite web|title=Product Overview FAQ: Facebook Ads|url=http://www.facebook.com/press/faq.php#Facebook+Ads|publisher=Facebook|accessdate=2008-03-10}}{{ลิงก์เสีย|date=สิงหาคม 2553}}</ref> และเฟซบุ๊กให้มีการโฆษณาเฉพาะที่อยู่ในรายการลูกค้าของไมโครซอฟท์ และจากข้อมูลของคอมสกอร์ บริษัทสำรวจการตลาดทางอินเทอร์เน็ต ระบุว่า เฟซบุ๊กได้รวบรวมข้อมูลเข้าเว็บไซต์มากกว่า [[กูเกิล]]และไมโครซอฟท์ แต่น้อยกว่า [[ยาฮู!]]<ref>{{cite news|author=Story, Louise|title=To Aim Ads, Web Is Keeping Closer Eye on You|url=http://www.nytimes.com/2008/03/10/technology/10privacy.html|work=The New York Times|date=2008-03-10|accessdate=2008-03-09}}</ref> ในปี ค.ศ. 2010 ทีมระบบความปลอดภัยได้เพิ่มประโยชน์จากการต่อต้านภัยคุกคามและก่อการร้ายจากผู้ใช้<ref name="revealed">{{cite web|title=Revealed: Which social networks pose the biggest risk?|url=http://www.sophos.com/blogs/gc/g/2010/02/01/revealed-social-networks-pose-biggest-risk/|publisher=[[Sophos]]|last=Cluley|first=Graham|date=February 1, 2010|accessdate=July 12, 2010}}</ref> เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 เฟซบุ๊กได้เปิดตัว [[เฟซบุ๊กบีคอน]] เป็นการพยายามในการโฆษณาให้เหล่าเพื่อน โดยใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เพื่อนซื้อ แต่เฟซบุ๊กบีคอนก็เกิดความล้มเหลว |
|||
โดยปกติแล้ว เฟซบุ๊กจะมี[[อัตราการคลิกโฆษณาต่อการการแสดงโฆษณา]] (clickthrough rate) ต่ำกว่าเว็บไซต์ใหญ่ ๆ อื่น ที่ในแบนเนอร์โฆษณา เฟซบุ๊กจะมีอัตราการคลิก 1 ต่อ 5 เทียบกับเว็บไซต์อื่น<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.businessweek.com/technology/content/nov2007/tc20071128_366355_page_2.htm |title=Facebook May Revamp Beacon |work=BusinessWeek |date=2007-11-28 }}</ref> นั่นหมายถึงว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กจะกดคลิกโฆษณา ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้กูเกิลคลิกโฆษณาแรกในการค้นหาเฉลี่ย 8% (80,000 คลิกในทุก 1 ล้านการค้นหา) <ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.accuracast.com/seo-weekly/adwords-clickthrough.php |title=Google AdWords Click Through Rates Per Position |publisher=AccuraCast |date=2009-10-09 }}</ref> แต่ผู้ใช้เฟซบุ๊กจะคลิกโฆษณาในอัตรา 0.04% (400 คลิกในทุก 1 ล้านหน้า) <ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://valleywag.gawker.com/242234/facebook-consistently-the-worst-performing-site |title=Facebook 'consistently the worst performing site' |publisher=Gawker |date=2007-03-07 |author=Denton, Nick }}</ref> |
|||
แซราห์ สมิท ผู้จัดการบริการงานขายออนไลน์ของเฟซบุ๊ก ยืนยันว่า การรณรงค์โฆษณาประสบความสำเร็จ สามารถมีอัตราการคลิกโฆษณาต่อการการแสดงโฆษณา (CTR) ต่ำอยู่ราว 0.05% ถึง 0.04% แต่อัตราการคลิกโฆษณาต่อการการแสดงโฆษณาสำหรับโฆษณามีแนวโน้มจะตกลงภายใน 2 อาทิตย์<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://techpulse360.com/2009/08/12/facebook-says-its-click-through-rates-do-not-match-those-at-google/ |title=Facebook Says Click Through Rates Do Not Match Those At Google |publisher=TechPulse 360 |date=2009-08-12 }}</ref> เมื่อเปรียบเทียบ CTR กับ[[มายสเปซ]]แล้ว มียอดประมาณ 0.1% ซึ่งเป็น 2.5 เท่าของเฟซบุ๊ก และต่ำกว่านี้เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น คำอธิบายเรื่อง CTR สำหรับโฆษณาที่ต่ำในเฟซบุ๊กเนื่องจาก ข้อเท็จจริงที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นผู้รอบรู้ทางเทคโนโลยีและใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันและซ้อนโฆษณา ผู้ใช้มักเป็นคนหนุ่มสาวกว่าและชอบที่จะหลีกเลี่ยงข้อความโฆษณา ที่ในมายสเปซแล้วผู้ใช้จะเข้าถึงเนื้อหามากกว่า ในขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กจะใช้เวลาในการสื่อสารกับเพื่อน เป็นเหตุให้พวกเขาไปสนใจโฆษณา<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.bizreport.com/2007/07/advertisers_disappointed_with_facebooks_ctr.html |title=Advertisers disappointed with Facebook's CTR |publisher=BizReport |date=2007-07-16 |author=Leggatt, Helen }}</ref> |
|||
ในหน้าของตราสินค้าและผลิตภัณฑ์ ในบางบริษัทมีรายงานว่า มี CTR สูงถึง 6.49% ในหน้าวอล<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://adage.com/digitalnext/post?article_id=138442 |title=Facebook's Click-Through Rates Flourish ... for Wall Posts |work=AdAge |date=2009-08-13 |author=Klaassen, Abbey }}</ref> อินโวลเวอร์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตลาดสังคม ประกาศว่า ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 ว่าสามารถบรรลุเป้า CTR ที่ 0.7% ในเฟซบุ๊ก (เป็น 10 เท่าของ CTR การโฆษณาในเฟซบุ๊ก) กับลูกค้าคือ [[เซเรนาซอฟต์แวร์]] ถือเป็นลูกค้ารายแรกของอินโวเวอร์ ที่สามารถมีผู้ชม 1.1 ล้านครั้งจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ 8,000 คน<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.prweb.com/releases/2008/07/prweb1162804.htm |title=Involver Delivers Over 10x the Typical Click-Through Rate for Facebook Ad Campaigns |publisher=Press release |date=2008-07-31 }}</ref> จากการศึกษาพบว่า วิดีโอโฆษณาในเฟซบุ๊กนั้น ผู้ใช้ 40% ดูวิดีโอทั้งหมดของวิดีโอ ขณะที่ค่าเฉลี่ยมาตรฐานอยู่ที่ 25% ของโฆษณาแบบ[[แบนเนอร์]]ในวิดีโอ<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.mediapost.com/publications/?fa=Articles.showArticle&art_aid=130217 |title=Study: Video Ads On Facebook More Engaging Than Outside Sites |work=MediaPost |date=2010-06-15 |author=Walsh, Mark }}</ref> |
|||
เฟซบุ๊กมีลูกจ้างมากกว่า 1,700 คน และมีสำนักงานใน 12 ประเทศ<ref>{{cite web|title=Facebook Factsheet|url=http://www.facebook.com/press/info.php?factsheet|accessdate=November 21, 2010}}</ref> โดย[[มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก]]ถือหุ้นของบริษัท 24% แอ็กเซล พาร์ตเนอร์ถือหุ้น 10% ดิจิตอลสกายเทคโนโลยีส์ถือหุ้น 10%<ref>{{cite news|title=Facebook's friend in Russia|url=http://tech.fortune.cnn.com/2010/10/04/facebooks-friend-in-russia/?source=cnn_bin&hpt=Sbin|accessdate=December 18, 2010 | work=CNN|date=2010-10-04}}</ref> ดัสติน มอสโควิตซ์ถือหุ้น 6% เอ็ดวาร์โด ซาเวรินถือหุ้น 5% ฌอน พาร์กเกอร์ถือหุ้น 4% ปีเตอร์ ธีลถือหุ้น 3% เกรย์ล็อกพาร์ตเนอร์สและเมริเทคแคพิทอลพาร์ตเนอร์ส ถือหุ้นระหว่าง 1 ถึง 2% แต่ละบริษัท ไมโครซอฟท์ถือหุ้น 1.3% ลิ คา-ชิงถือหุ้น 0.75% อินเตอร์พับลิกกรุปถือหุ้นน้อยกว่า 0.5% นอกจากนั้นยังมีลูกจ้างปัจจุบันและอดีตลูกจ้างรวมถึงผู้มีชื่อเสียงอื่นถือหุ้นอีกน้อยกว่า 1% เช่น แมต โคห์เลอร์, เจฟฟ์ รอทส์ไชลด์, วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย บาร์บารา บอกเซอร์, คริส ฮิวส์ และโอเวน แวน แนตตา ขณะที่รีด ฮอฟแมนและมาร์ก พินคัสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และที่เหลืออีก 30% ถือหุ้นโดยลูกจ้าง ผู้มีชื่อเสียงไม่เปิดเผยชื่ออีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงนักลงทุนอื่น<ref>{{cite book |title=The Facebook Effect |author=David Kirkpatrick |page=322 |isbn=1439102112 }}</ref> แอดัม ดี'แองเจโล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและเพื่อนของซักเคอร์เบิร์กได้ลาออกไปในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008 มีรายงานอ้างว่าเขาและซักเคอร์เบิร์กเริ่มไม่ลงรอยกัน และเป็นเหตุให้เขาไม่มีความสนใจในการเป็นหุ้นส่วนของบริษัท<ref>{{cite web|title=As Facebook goes corporate, Mark Zuckerberg loses an early player|url=http://news.cnet.com/8301-13577_3-9941488-36.html|publisher=[[CNET.com]]|date=May 11, 2008|last=McCarthy|first=Caroline|accessdate=July 12, 2010}}</ref> |
|||
== การตอบรับ == |
|||
ข้อมูลเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ประเทศที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กมากที่สุด คือ<ref>{{cite web |url=http://www.socialbakers.com/facebook-statistics/ |title=Facebook Statistics by country |date=March 3, 2012}}</ref> |
|||
# [[สหรัฐอเมริกา]] 168.7 ล้านคน |
|||
# [[ประเทศเม็กซิโก]] 40.2 ล้านคน |
|||
# [[ประเทศบราซิล]] 64.6 ล้านคน |
|||
# [[ประเทศอินเดีย]] 62.6 ล้านคน |
|||
# [[ประเทศอินโดนีเซีย]] 51.4 ล้านคน |
|||
หกประเทศข้างต้นมีสมาชิกทั้งสิ้น 309 ล้านคน หรือราวร้อยละ 38.6 ของสมาชิก 1 พันล้านคนทั่วโลกของเฟซบุ๊ก<ref>{{cite web |url=http://english.kompas.com/read/2012/02/02/08412923/43.1.Million.Members.of.Facebook.in.Indonesia |title=43.1 Million Members of Facebook in Indonesia |date=February 2, 2012}}</ref> |
|||
== หมายเหตุ == |
|||
{{รายการอ้างอิง|group=N}} |
|||
== อ้างอิง == |
|||
<div style="overflow:scroll;height:300px;"> |
|||
{{รายการอ้างอิง|2}} |
|||
</div> |
|||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
|||
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Facebook}} |
|||
* [http://www.facebook.com/ เว็บไซต์เฟซบุ๊ก] |
|||
* [http://www.socialbakers.com/ สถิติสำคัญเกี่ยวกับเฟซบุ๊ก] |
|||
* [http://www.socialbakers.com/statistics/facebook/pages/total/ เฟซบุ๊กโดยรวมโดยยอดการถูกใจ] |
|||
* [http://fanpagelist.com/category/top_users/ เฟซบุ๊กโดยรวมโดยยอดการถูกใจ 2] |
|||
* [http://www.socialbakers.com/statistics/facebook/pages/total/thailand/ เฟซบุ๊กในไทยโดยยอดการถูกใจ] |
|||
{{นำทางเฟซบุ๊ก}} |
|||
{{บริษัททางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ}} |
|||
[[หมวดหมู่:เฟซบุ๊ก| ]] |
[[หมวดหมู่:เฟซบุ๊ก| ]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:08, 12 กุมภาพันธ์ 2561
ประเภท | บริการเครือข่ายสังคม |
---|---|
ภาษาที่ใช้ได้ | 70 ภาษา |
เจ้าของ | Facebook, Inc.--armitda14:28, 28 กรกฎาคม 2560 (ICT) |
สร้างโดย | มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เอดูอาโด ซาเวอริน แอนดรูว์ แม็คคอลลัม ดัสติน มอสโควิส คริส ฮิวจ์ |
รายได้ | $5.1 พันล้าน (ค.ศ. 2012)[1] |
ยูอาร์แอล | www |
เชิงพาณิชย์ | ใช่ |
ลงทะเบียน | จำเป็น |
ผู้ใช้ | เกิน 1 พันล้านคน[2] (จนถึง ตุลาคม ค.ศ.2012) |
เฟซบนสมาชิกทั้งหมด 584,628,480 สมาชิกทั่วโลก โดยเป็นสมาชิกจากประเทศไทย รวม 6,914,800 สมาชิก
ประวัติ
- ↑ "Facebook Current Report, Form 8-K, Filing Date July 26, 2012" (PDF). SECDatabase.com. สืบค้นเมื่อ July 26, 2012.
- ↑ "Facebook, 1 billion active people fact sheet". สืบค้นเมื่อ October 4, 2012.
- ↑ Gavin, Clarke (2010). "Facebook re-write takes PHP to an enterprise past Remember C++? They do". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-30. สืบค้นเมื่อ 2 February 2010.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|month=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Facebook.com Site Info". Alexa Internet. สืบค้นเมื่อ 2013-01-14.
หมวดหมู่:
- เฟซบุ๊ก
- ซอฟต์แวร์บนแอนดรอยด์
- ซอฟต์แวร์บนบาดา
- บริษัทที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2547
- บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก
- ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์
- ซอฟต์แวร์บนไอโอเอส
- เว็บไซต์หลายภาษา
- การประมวลสารสนเทศทางสังคม
- บริการเครือข่ายสังคม
- เว็บไซต์เครือข่ายสังคม
- วัฒนธรรมของนักเรียน
- ซอฟต์แวร์บนซิมเบียน
- ซอฟต์แวร์บนวินโดวส์โฟน
- ผลิตภัณฑ์ที่ออกในปี พ.ศ. 2547
- บริษัทนานาชาติที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา