โรเบิร์ต เอิร์ลที่ 1 แห่งกลอสเตอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรเบิร์ตแห่งก็อง
ภาพบนปล่องไฟของโถงจัดงานเลี้ยงในปราสาทคาร์ดิฟฟ์
เกิดก่อนปี ค.ศ. 1100
อสัญกรรม31 ตุลาคม ค.ศ. 1147
คู่สมรสแมเบล ฟิตซ์แฮมอน
ครอบครัวพระเจ้าเฮนรีที่ 1 แห่งอังกฤษ
ขุนนางอังกฤษ - กษัตริย์อังกฤษ - ชาวอังกฤษ

โรเบิร์ต เอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ (อังกฤษ: Robert, earl of Gloucester) (ค.ศ. 1090 – 31 ตุลาคม ค.ศ. 1147) เป็นหัวหน้าผู้สนับสนุนจักรพรรดินีมาทิลดาในช่วงสงครามการเมืองระหว่างพระนางกับพระเจ้าสตีเฟนแห่งอังกฤษ

โรเบิร์ตแห่งก็อง[แก้]

โรเบิร์ต ฟิตซ์รอยเป็นบุตรชายนอกสมรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 ซึ่งเกิดในปี ค.ศ. 1090 ที่ก็องในนอร์ม็องดี เขามีอีกชื่อหนึ่งว่าโรเบิร์ตรูฟัส หรือ โรเบิร์ตแห่งก็อง


โรเบิร์ตอาจเป็นบุตรคนแรกในบรรดาบุตรนอกสมรสทั้งหมดของพระเจ้าเฮนรีซึ่งเกิดก่อนที่พระองค์จะขึ้นสืบทอดบัลลังก์ มารดาของโรเบิร์ตเป็นหนึ่งในสนมลับมากมายของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 ซึ่งอาจจะเป็นแนสต์ แฟร์ค รีส เจ้าหญิงเวสต์ที่ต่อมาสมรกับเกรัลด์แห่งวินด์เซอร์ หรือไม่ก็ซีบิลลา กอร์เบ็ต เลดีแห่งอัสเตอร์, วอริคเชอร์, ปอนต์สบรี และวูดโคตในชรอปเชอร์ ธิดาและทายาทร่วมของโรเบิร์ต กอร์เบ็ต โรเบิร์ตเริ่มเป็นสักขีพยานในกฎบัตรของกษัตริย์ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 1113 และร่วมต่อสู้ในสมรภูมิเบรอมูลในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1119 ซึ่งพระเจ้าเฮนรีที่ 1 คว้าชัยชนะเหนือพระเจ้าหลุยส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศส


พระเจ้าเฮนรีที่ 1 จับโรเบิร์ตสมรสแบบคลุมถุงชนกับแมเบล ฟิตซ์แฮมอน ทายาทหญิงผู้มั่งคั่งซึ่งเป็นธิดาของโรเบิร์ต ฟิตซ์แฮมอน เอิร์ลแห่งกลอสเตอร์กับซีบีล เดอ มงโกเมอรี ทั้งคู่สมรสกันในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1119 ที่ลีซีเยอซ์ ซึ่งทำให้โรเบิร์ตได้รับที่ดินในกลอสเตอร์, เคาน์ตีแกลมอร์แกนของเวลส์ และที่ดินในนอร์ม็องดี หลังการสมรสทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน ดังนี้

  • วิลเลียม ฟิตซ์โรเบิร์ต เอิร์ลที่ 2 แห่งกลอสเตอร์ เป็นบิดาของอิซาเบลลาแห่งกลอสเตอร์
  • โรเจอร์ ฟิตซ์โรเบิร์ต บิชอปแห่งวุร์สเตอร์
  • แฮมอน ฟิตซ์โรเบิร์ต ถูกสังหารในการปิดล้อมที่ตูลูส
  • ฟิลิป ฟิตซ์โรเบิร์ต ลอร์ดแห่งคริคแลด
  • ริชาร์ด ฟิตซ์โรเบิร์ต ลอร์ดแห่งครัวล์ลี
  • มาทิลดา ฟิตซ์โรเบิร์ต สมรสกับรานูล์ฟ เดอ เกอร์นอน เอิร์ลที่ 4 แห่งเชสเตอร์
  • แมเบล ฟิตซ์โรเบิร์ต สมรสกับออเบรย์ เดอ เวอร์
  • ริชาร์ด ฟิตซ์โรเบิร์ต สืบทอดตำแหน่งต่อจากมารดาเป็นพ่อเมืองครัวล์ลี

โรเบิร์ตมีบุตรนอกสมรสอีกสี่คน คือ

  • ริชาร์ด ฟิตซ์โรเบิร์ต บิชอปแห่งบายูซ์ เป็นบุตรที่เกิดจากอีซาแบล เดอ ดัวฟ์
  • โรเบิร์ต ฟิตซ์โรเบิร์ต ผู้ครองปราสาทกลอสเตอร์ สมรสกับแฮวิส เดอ เรเวียร์ ธิดาของบอลด์วิน เดอ เรเวียร์ เอิร์ลที่ 1 แห่งเดวอน
  • แมเบล ฟิตซ์โรเบิร์ต สมรสกับเกรเฟดด์ ลอร์ดแซงแฮเนิด บรรพบุรุษของประฑานาธิบดีแฟรงกลิน เพียร์ซ
  • บุตรชายที่มีบุตรชายชื่อว่าธอมัส

ในปี ค.ศ. 1121 หรือ 1122 กษัตริย์ได้ตั้งบุตรชายนอกสมรสของตนเป็นเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ ในปี ค.ศ. 1123 โรเบิร์ตได้นำทัพเข้าช่วยในเหตุการณ์ที่กบฏบารอนนอร์มันเข้ายึดปราสาทบรีโยนน์ ในปี ค.ศ. 1126 เขาได้เป็นผู้ดูแลโรเบิร์ต ดยุคแห่งนอร์ม็องดีผู้เป็นลุงซึ่งถูกคุมขังเป็นนักโทษที่บริสตอลก่อนย้ายไปคาร์ดิฟฟ์ในเวลาต่อมา ในปี ค.ศ. 1127 เขาได้ถวายความเคารพแก่จักรพรรดินีมาทิลดา พี่สาวต่างมารดาซึ่งเป็นบุตรในสมรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 เพื่อแสดงการยอมรับพระนางในฐานะผู้สืบทอดราชอาณาจักรของพระเจ้าเฮนรี

ความสัมพันธ์กับพระเจ้าสตีเฟน[แก้]

หลังการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 ในปี ค.ศ. 1135 สตีเฟน พระภาคิไนยของพระองค์ทำการยึดบัลลังก์แม้จะเคยถวายคำสัตย์แห่งความจงรักภักดีต่อจักรพรรดินีมาทิลดา พระธิดาของพระเจ้าเฮนรีที่ได้รับแต่งตั้งจากพระราชบิดาให้เป็นทายาท

ใน เจสตา สเตฟานี (เอกสารไม่ทราบผู้ประพันธ์จากคริสต์ศตวรรษที่ 12) ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่มาจากยุคนั้นมีหลักฐานว่าโรเบิร์ตเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะได้ครองบัลลังก์ แต่การเป็นบุตรนอกสมรสทำให้ชื่อของเขาถูกกาทิ้งไป จึงทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่าเขากับพระเจ้าสตีเฟนคือคู่แข่งแย่งชิงบัลลังก์กัน เจฟฟรีย์แห่งมอนมัธได้กล่าวไว้ในปี ค.ศ. 1136 ว่าโรเบิร์ตคือหนึ่งในเสาหลักผู้ค้ำจุนกษัตริย์คนต่อไป

หลังพระเจ้าสตีเฟนขึ้นครองบัลลังก์อังกฤษและได้รับการยอมรับจากชาวนอร์มันให้เป็นดยุคแห่งนอร์ม็องดี โรเบิร์ตยอมยกฟาเลสให้แก่คนของกษัตริย์แต่ได้ย้ายทรัพย์สมบัติของบิดาไปที่อื่น ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1136 เขาได้เดินทางกลับอังกฤษ หลังเทศกาลอีสเตอร์เขาได้ถวายความเคารพแก่กษัตริย์อังกฤษในฐานะขุนนางศักดินาผู้ครองที่ดินในอังกฤษ เขาเป็นสักขีพยานในกฎบัตรแห่งอิสรภาพของพระเจ้าสตีเฟน ในช่วงเวลานี้เองที่เขาได้ก่อตั้งวัดคริสต์เซนต์เจมส์ขึ้นมาในบริสตอล

ในปี ค.ศ. 1137 เขาติดตามพระเจ้าสตีเฟนไปนอร์ม็องดี ทว่าทั้งคู่เกิดบาดหมางกันและปีต่อมาทรัพย์สินที่ดินในอังกฤษและเวสล์ของเขาถูกริบเข้าหลวง โรเบิร์ตจึงเตรียมการทำสงครามกับพระเจ้าสตีเฟนและเดินทางได้ไปหามาทิลดา พี่สาวต่างมารดาในนอร์ม็องดีและยกก็องกับบายูซ์ให้แก่สามีของพระนาง ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1139 เขาขึ้นฝั่งในอังกฤษพร้อมกับมาทิลดาและพาพระนางไปที่ปราสาทอารันเดล

ผู้นำฝ่ายสนับสนุนจักรพรรดินีมาทิลดา[แก้]

รูปปั้นแกะสลักบนหลุมศพของโรเบิร์ตที่วัดคริสต์เซนต์เจสม์ในบริสตอล วาดในปี ค.ศ. 1840

โรเบิร์ตซึ่งถูกบรรยายไว้ว่าเป็น "ชายที่ประจักษ์แล้วว่ามีความสามารถและมีสติปัญญาอันน่าเลื่อมใส" เป็นผู้นำของฝ่ายสนับสนุนพี่สาวต่างมารดาในการทำสงครามกับพระเจ้าสตีเฟน เขาพิชิตพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันตกของอังกฤษและตอนใต้ของเวลส์กลับคืนมาจากพระเจ้าสตีเฟน ในปี ค.ศ. 1140 เขาได้เผาเมืองนอตทิงแฮม และในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1141 เขากับรานูล์ฟ เอิร์ลแห่งเชสเตอร์ผู้เป็นบุตรเขยจับกุมตัวกษัตริย์ได้ที่สมรภูมิลิงคอล์น พระเจ้าสตีเฟนถูกจองจำในปราสาทบริสตอล จักรพรรดินีมาทิลดากุมความได้เปรียบในสงครามแย่งชิงบัลลังก์

โรเบิร์ตติดตามพี่สาวต่างมารดาเดินทางเข้าสู่วินเชสเตอร์และลอนดอน แต่มาทิลดาผู้ทะนงตนและเย่อหยิ่งแตกหักกับชาวเมืองลอนดอนจนต้องหนีไปออกซฟอร์ด โรเบิร์ตกับมาทิลดาได้ทำการปิดล้อมบิชอปเฮนรีแห่งวินเชสเตอร์ พระอนุชาของพระเจ้าสตีเฟนที่วินเชสเตอร์ แต่ถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องล่าถอย โรเบิร์ตช่วยให้มาทิลดาหนีออกมาจากเมือง แต่ระหว่างทำการต่อสู้เพื่อมาทิลาในการแตกพ่ายที่วินเชสเตอร์ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 1141 โรเบิร์ตแห่งกลอสเตอร์ถูกจับกุมตัวได้ใกล้กับสต็อกบริดจ์ ฝ่ายของมาทิลดาพ่ายแพ้ โรเบิร์ตถูกนำตัวไปคุมขังที่โรเชสเตอร์

สองนักโทษ คือ พระเจ้าสตีเฟนและโรเบิร์ต ถูกแลกเปลี่ยนตัวกัน การปล่อยตัวพระเจ้าสตีเฟนทำให้จักรพรรดินีมาทิลดาเสียโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้เป็นพระราชินี หลังได้รับการปล่อยตัวโรเบิร์ตตามไปสมทบกับมาทิลดาที่บริสตอลและเดินทางไปออกซฟอร์ดพร้อมกับพระนาง ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1142 มาทิลดาส่งเขาไปหาจูฟเฟรย์แห่งอ็องฌูผู้เป็นสามีเพื่อขอให้เขาบุกอังกฤษ จูฟเฟรย์ไม่ยอมช่วยจนกว่าจะพิชิตนอร์ม็องดีได้สำเร็จ โรเบิร์ตจึงช่วยเขาทำสงครามดังกล่าว เมื่อทั้งคู่ทราบข่าวว่ามาทิลดาถูกปิดล้อมที่ออกซฟอร์ด โรเบิร์ตรีบกลับไปช่วยพระนางทันทีโดยพาเฮนรี บุตรชายของพระนางไปด้วย มาทิลดาหนีออกมาจากออกซฟอร์ดได้และได้พบกับเขาและบุตรชายที่วอลลิงฟอร์ด ในตอนนี้สมัครพรรคพวกของมาทิลดาลดจำนวนลงมาก พระนางจึงตัดสินใจเดินทางกลับฝรั่งเศส ภายหลังเฮนรี บุตรชายของพระนางได้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระเจ้าสตีเฟนเป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์แพลนแทเจเนตในปี ค.ศ. 1154 ตามเงื่อนไขในสนธิสัญญาวอลลิงฟอร์ด มาทิลดาสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1167

โรเบิร์ตถึงแก่กรรมจากการป่วยเป็นไข้ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1147 ที่ปราสาทบริสตอลในเมืองบริสตอล มณฑลกลอสเตอร์เชอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเคยเป็นที่คุมขังพระเจ้าสตีเฟน ร่างของเขาถูกฝังที่วัดคริสต์เซนต์เจมส์ในบริสตอลซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้ง

อิซาเบลลาแห่งกลอสเตอร์ หลานสาวของโรเบิร์ตถูกจับสมรสแบบคลุมถุงชนกับจอห์น ลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นพระโอรสคนเล็กของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1189 ที่ปราสาทมาร์ลโบโรในวิลต์เชอร์ การสมรสทำให้จอห์นได้รับยศและดินแดนของเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ หลังพระองค์ขึ้นครองบัลลังก์ในปี ค.ศ. 1199 การสมรสถูกประกาศให้เป็นโมฆะด้วยเหตุผลว่าเป็นการร่วมประเวณีกันระหว่างเครือญาติ (ตามความประสงค์ของพระเจ้าจอห์น) ทว่าพระองค์ไม่ยอมคืนดินแดนให้อิซาเบลลา และอิซาเบลลาเองก็ไม่ได้ทักท้วงใดๆ ต่อการประกาศให้เป็นโมฆะของการสมรส

อ้างอิง[แก้]