แบทเทิลเรลส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แบทเทิลเรลส์ (Battle Realms) เป็น เกมคอมพิวเตอร์ของค่ายยูบิซอฟต์ ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2544 เป็นเกมวางแผนการบแบบเรียลไทม์ เป็นเกมแนวสงครามการต่อสู้ระหว่างทั้ง 4 เผ่า ภาคแรกเป็นภาคเนื้อเรื่อง Kenji Journey และภาคล่าสุดคือ Grayback Journey (Winter of the Wolf)

เนื้อเรื่อง[แก้]

อารัมภบท กาลครั้งหนึ่ง เนิ่นนานก่อนสมัยบรรพบุรุษของพวกเราทั้งหลาย ดินแดนยังคงเป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวกัน ดินแดนที่ชุ่มชื่นไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ดินแดนแห่งเนินเขาและแมกไม้เก่าแก่ มากมายไปด้วยผู้คนที่สวยงามแปลกตา บางคนเดินทางมาโดยเรือจากดินแดนไกลโพ้นและตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ บางคนสืบเชื้อสายมาจากชนชาวเขาที่สืบสายจากบรรพบุรุษอันมีประวัติที่ยาวนาน สงครามยังไม่เป็นที่รู้จัก มีแต่ความสงบปกแผ่ไปทั่ว ความสงบแห่งพลังและความอุดมสมบูรณ์

ครั้งนั้นไม่มีที่ใดที่จะรุ่งโรจน์ได้เทียบเท่ากับดรากอนโฮล์ม (Dragonholm) ดินแดนที่เผ่ามังกร (Dragon Clan) อยู่กัน เหล่าปฏิมากรที่ถูกลืมเลือนได้เคยสลักเสลาบันดาลให้กำแพงดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างเฉลียวฉลาด และสวยงามถึงขนาดชาวบ้านเชื่อกันว่ามันมีชีวิตจริง โชกุนที่ถูกลืมเลือนได้ตรากฎหมายที่ทั้งเข้มงวดและยุติธรรม เหล่าปรมาจารย์ที่ถูกลืมเลือนได้ฝึกฝนนักรบให้ชำนาญกลยุทธ์การต่อสู้ที่ลึกซึ้งและดุเดือด แม้แต่ปราชญ์ที่ฉลาดที่สุดยังเขียนเรื่องราวเอาไว้บนแผ่นหนังบุทอง เล่าขานถึงตำนานความเข้มแข็งและเกียรติศักดิ์ของพวกมังกรว่าจะอยู่ตราบชั่วกาลนาน......

.....และแล้ว เพียงชั่วข้ามปี - เพียงผ่านฤดูหว่านหนึ่งครั้ง ฤดูเก็บเกี่ยวหนึ่งครั้ง ฤดูหนาวหนึ่งครั้ง - ทุกอย่างก็มลายสูญสิ้น

ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันเป็นใคร เป็นปิศาจ หรือวิญญาณหรือสัตว์ประหลาด แม้ในตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ มันเป็นพวกอนารยชนหรือพวกฮอร์ด (The Horde) ดำทะมึน ป่าเถื่อน พวกมันมากันเป็นพันเป็นหมื่นจากดินแดนไกลโพ้น เลยออกไปจากเขตแดนทางเหนือ ดินแดนลี้ลับบนขุนเขา

ไม่ว่าพวกมันผ่านไปที่ใด ที่นั่นจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดรอดไปได้ แม้กระทั่งต้นไม้ยังเหี่ยวแห้งและตาย ไม่เหลือแม้กระทั่งซากศพให้ได้ฝัง

ทาร์แรนท์ผู้บิดา ( Tarrant the Elder) เป็นผู้ปกครองดรากอนโฮล์มในสมัยนั้น และถือได้ว่าเป็นผู้กล้าคนหนึ่ง ทันทีที่ทราบเรื่องการคุกคามของพวกฮอร์ด ซามูไรที่หาญกล้าที่สุดของเขาก็รีบรุดออกไปโดยทันทีตั้งแต่ฟ้าสางเพื่อต่อสู้กับพวกมัน วีรบุรุษผู้กล้านับร้อยภายใต้ธงมังกรนับร้อยที่โบกสะบัด เป็นเวลาถึงสองอาทิตย์ นักรบคนแรกและเพียงคนเดียวได้กลับมาในสภาพสะบักสะบอมบนอานม้าของเขา คราบเลือดสีดำเกรอะกรังแข็งติดอยู่บนแผลฉกรรจ์ เนื้อขาดวิ่นไม่รู้กี่สิบแห่ง เขาตายซะแล้ว อย่างไรก็ตาม ม้าของเขาตะบึงห้อได้รวดเร็วพอที่จะหลบหลีกชะตากรรมของเจ้านายมันมาได้ ทาร์แรนท์ทราบในบัดดลว่าชาวมังกรทั้งหลายมีความหวังในการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ด้วยวิธีเดียวกันเช่นนี้เอง

อาทิตย์ต่อมา กำแพงแห่งดรากอนโฮล์ม กำแพงที่ไม่เคยทลายจากการรุกแม้แต่ครั้งเดียว ได้ถูกละทิ้งไป และชนชาวมังกรก็เริ่มออกเดินทางอันยาวไกลไปทางทิศใต้ หลายเดือนแห่งการเดินทางอันไม่หยุดหย่อนผ่านไป ขบวนม้าอันยิ่งใหญ่ เกวียนและผู้คนกลายเป็นผู้ลี้ภัยไปโดยปริยาย ผู้คนที่ตระหนักดีว่าชาวมังกรนั้นจะไม่หนีฝ่ายตรงข้ามแน่หากพวกเขาสามารถปราบฝ่ายปรปักษ์ได้ หลายคนที่ตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อปกป้องดินแดน พวกเขาจะได้รับเกียรติยศ ถึงแม้จะไม่มีใครได้ข่าวคราวจากพวกเขาอีกเลย หน่วยสอดแนมที่ถูกส่งไปทางเหนือ ไม่เคยมีใครหวนกลับมาอีกเลย และชาวมังกรก็ยังคงเดินทางมุ่งใต้ต่อไปเรื่อย ๆ

เมื่อสิ้นสุดเดือนที่หก ข้ามสันเขาลูกสุดท้าย พวกเขาก็พบกับมหาสมุทร สิ้นสุดแผ่นดินที่พวกเขาจะหนีต่อไปได้

แน่นอน ทาร์แรนท์ผู้บิดาย่อมคาดการณ์นี้ไว้แล้ว เขาได้ให้ปราชญ์ของเขาเตรียมอุบายสำหรับการหนีครั้งนี้เอาไว้ และระหว่างการเดินทางอันยาวไกลนั้น พวกเขาได้มีเวลามากมายในการถกเถียงและปรึกษาหารือกัน ขาดเสียแต่เวลาที่จะสร้างเรือและที่หลบซ่อน กองทัพส่วนสำคัญแห่งมังกรก็ได้ถูกทำลายย่อยยับไปในครั้งแรกที่ต่อสู้กับพวกอนารยชนซะแล้ว ความหวังสุดท้ายของทาร์แรนท์จึงอยู่ที่หีบขลิบเงินซึ่งวางล็อกอยู่ภายในเกวียนของเขาใบนี้เท่านั้น : ลูกแก้วอสรพิษ (The Serpent Orb) สมบัติเก่าแก่ล้ำค่าที่สุดของชาวมังกร รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์การเป็นผู้นำของเขาด้วย เล่าขานกันว่าลูกแก้วนี้สามารถเรียกวิญญาณแห่งมังกรได้หากความต้องการนั้นยิ่งใหญ่และมีความมุ่งมั้นมากพอ บางคนก็เชื่อเรื่องนี้ แต่ความต้องการนั้นใหญ่หลวงจริง ในขณะที่ผู้คนที่อิดโรยของเขากำลังตั้งรับมือกับพวกอนารยชนอยู่นั้น ทาร์แรนท์ได้ยกความเป็นผู้นำให้แก่ลูกชายของเขา คือทาร์แรนท์ผู้เป็นบุตร (Tarant the Younger) หลังจากนั้นเขาก็อยู่ตามลำพังเพียงผู้เดียว - เพื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และพร้อมที่จะสละชีวิต

ตราบจนวาระสุดท้ายของเขา ไม่มีผู้ใดได้เป็นประจักษ์พยาน เรารู้แต่เพียงว่าเขาประสบความสำเร็จ ผู้ลี้ภัยทั้งหลายที่รวมตัวกันได้ยินเสียงลั่นเปรี้ยงของความโกรธาแห่งมังกรดุจดั่งกำแพงอากาศที่บดขยี้ผู้คน ม้าและเกวียนให้แหลกไปกับพื้น ทั่วทุกหัวระแหง ดินแดนเหมือนกับบิดเบี้ยวไปด้วยความปวดร้าวทรมาน หลาย ๆ คนที่รอดพ้นมาจากการเดินทางอันแสนทรหดและยาวไกลถูกบดขยี้อยู่ภายใต้หินที่เป็นชั้นลดหลั่นกันลงมา หรือไม่ก็โดนธรณีสูบหายไป ที่เหลือรีบลุกลนเข้ากอดกันและสวดมนต์เพื่อขอให้รอดพ้น

เมื่อแผ่นดินไหวทุเลาลง ผู้รอดชีวิตจากความกริ้วโกรธาของมังกรต่างตัวสั่นงันงกไปด้วยความกลัว ทาร์แรนท์หนุ่มรวบรวมความกล้าของเขาทั้งหมด เริ่มจัดการก่อสร้างที่กำบังพักพิงจากเศษวัสดุที่ยังคงเหลืออยู่น้อยนิดขึ้นมา หากพวกอนารยชนหรือฮอร์ดเดินทางมาพบเข้าตอนนี้ล่ะก็ พวกเขาคงจะหมดหนทางต่อสู้เป็นแน่ แต่พวกมันก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย

ตอนนั้นเองทาร์แรนท์ได้สำรวจผู้คนที่ยังเหลืออยู่อย่างกระจัดกระจายและพบว่าพวกเขาหาใช่ชาวมังกรอีกต่อไปไม่ หากแต่เป็นอะไรบางอย่างในสายตาของเด็กไร้เดียงสาที่สูญเสียบ้านของตนให้กับปิศาจ เป็นอะไรบางอย่างในความคิดของนักรบที่ทราบว่าเพื่อนร่วมชาติที่กล้าหาญที่สุดของตนนั้นหาได้วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน หากได้ต่อสู้และสละชีพในสนามรบ พวกเขากลายเป็นทรัพย์ของดินมิใช่สรวงสวรรค์ กระนั้นพวกเขายังคงเข้มแข็งดุดันและมุ่งหน้าทำงานอย่างหนักด้วยความภาคภูมิใจเพื่อดินแดนแห่งใหม่ของเขา และจากความต่ำต้อยในครั้งนี้ผนวกกับความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จึงกำเนิดเผ่าอสรพิษ (Serpent Clan) ขึ้น เผ่าของเรา

ณ วันนี้ หากท่านเดินทางเลยขุนเขาต่าง ๆ ไกลขึ้นไปทางเหนือ ท่านจะไปถึงหน้าผาอันขรุขระมองลงไปเห็นช่องแคบอุบาทว์อันเต็มไปด้วยหินและซากปรักหักพังทับถมกันอยู่ ในวันที่อากาศแจ่มใส ท่านก็อาจเห็นรอบนอกของฝั่งตรงข้ามอย่างเลือนลางดั่งมีม่านหมอกปกคลุม ความโกรธาของมังกรได้พังทลายดินแดนนั้นรวมทั้งคนของเราด้วย และบ้านของบรรพบุรุษของเราก็ถูกทิ้งให้อยู่ฟากข้างโน้นของน้ำที่ไม่อาจข้ามผ่านไปได้ ไม่มีผู้ใดตอบได้ว่าพวกอนารยชน หรือพวกฮอร์ดยังคงรออยู่บนฝั่งด้านนั้นหรือไม่

เราคิดถึงเรื่องนี้น้อยลง ๆ ทุกที เพราะตอนนี้ที่นี่คือบ้านของเรา

เผ่าพันธุ์[แก้]

Dragon (เผ่ามังกร)
เผ่ามังกรมีผู้นำชื่อ เคนจิ เคนจิเป็นลูกชายคนรองของลอร์ดโอจา จักรพรรดิของเผ่าอสรพิษที่ถูกลอบสังหารโดยเผ่า Horde

เคนจิมีสหายคนนึงชื่อ โอโตโมะ ซึ่งก็ได้ถูกทรยศและฆ่าตายโดย ชินจา ที่ปรึกษาที่ซื่อสัตย์ของพ่อเคนจิ และ สหายคนนึงของเขา เคนจิเมื่อรู้เข้าจึงตามไปล้างแค้น และกวาดล้างพรรคอสรพิษจนหมดสิ้น

หลังจากล้างแค้นเสร็จ เคนจิก็เดินทางไปหา เทพมังกร ผู้ซึ่งในอดีตเคยถูกพ่อของเคนจิปฏิเสธ หลังจากผ่านการทดสอบของเทพมังกรเคนจิก็ได้ทราบความจริงว่า ลูกแก้วอสรพิษนั้น(ลูกแก้วนี้ถูกขโมยไปโดยเผ่า Horde และถูกนำไปมอบให้ ไซเมต หัวหน้าพรรคบัวหลวง) หากขาดความเชื่อแล้วล่ะก็ มันก็จะกลับกลายเป็นเพียงแค่หินธรรมดาๆก้อนหนึ่งเท่านั้น แต่เผ่าบัวหลวงกลับมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า จึงทำให้ ลูกแก้วอสรพิษกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เคนจิจึงต้องนำทัพเข้ากวาดล้างพรรคบัวหลวงเพื่อชิงลูกแก้วอสรพิษคืน แต่ระหว่างที่การรบจะสิ้นสุดลงนั้นเผ่า Horde ก็ปรากฏตัวขึ้น เคนจิจึงพบพลังมังกรในตัวเขา มันคือพลังแห่งแสงสว่าง เขาใช้พลังใหม่นี้กวาดล้างเผ่า Horde จนหมดสิ้น แต่เขาก็รู้ดีว่าอีกไม่นานมันคงจะกลับมาอีก

ชนเผ่าแห่งนักรบผู้กล้าหาญ พวกเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคุณธรรม และความสงบ นักรบของพวกเขาจะยอมสละชีวิตเพื่อประชากรในชนเผ่า พวกเขาบูชามังกรดุจเทพเจ้า และพวกเขาเชื่อว่า เทพมังกรคอยปกป้องพวกเขาอยู่ ยูนิตนักรบพื้นฐานของเผ่านี้ประกอบด้วย Spearman, Archer และ Alchemist ยูนิตที่ทำหน้าที่ฟื้นพลังชีวิตคือ Geisha และยูนิตสุดยอดของเผ่านี้คือ Samurai ซึ่ง Samurai ถือเป็นองค์ประกอบในการเรียกพลังสูงสุดของเผ่านี้ คือ พลังระเบิดแห่งมังกร ออกมาทำลายล้างกลุ่มศัตรู

Serpent (เผ่าอสรพิษ)
ทุกคนคาดไว้ว่าเผ่ามังกรหรือ Dragon Clan จะคงอยู่ตลอดไป แต่ ณ วันที่โลกแตกออกเป็นเสี่ยง ทาร์แรนท์ผู้เป็นบุตร (Tarrant the Younger) พบว่าบิดาของเขานั้นสิ้นชีวิตลงเสียแล้ว คงเหลืออยู่แต่เพียงอาณาจักรที่แตกออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับศัตรูผู้ซึ่งหลักเกณท์และอุดมคติต่าง ๆ ไม่มีความหมายอะไรสำหรับนักรบของพวกมันเลย นักสู้ของพวกเขาโดนตัดกำลัง จะมีก็แต่การหนีหัวซุกหัวซุนและการพลีชีพอย่างสิ้นหวังเท่านั้นที่จะช่วยให้พวกพ้องของเขามีชีวิตรอดต่อไปได้ พวกที่รอดชีวิตกลับมาได้ก็ไม่สามารถที่จะคิดถึงตัวเองในลักษณะอย่างที่เคยเป็นอีก พวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เผ่ามังกรได้ตายลงแล้ว

ทาร์แรนท์ผู้เป็นบุตร ได้กระทำสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตของเขา เขารวบรวมชาวมังกรที่เหลืออยู่ทั้งหมด และชนอีกเผ่าหนึ่งอีกครึ้งโหลที่ได้หนีพวกอนารยชนหรือฮอร์ดจนเหลือกันอยู่เพียงน้อยนิด และให้ชนเหล่านี้อยู่ภายใต้ชื่อและธงเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถที่จะภาคภูมิใจในตนเองได้เท่ากับตอนที่เป็นชาวมังกร แต่พวกเขาก็ได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้มีชีวิตรอดต่อไปได้ โดยการใช้ไหวพริบในระหว่างที่พละกำลังของเขาทำให้เขาพ่ายแพ้

ด้วยประการเช่นนี้เอง ที่พวกเขาได้กลายเป็นชาวอสรพิษ หรือ The Serpent ประเพณีเก่าแก่ยังคงอยู่ แต่ถือปฏิบัติด้วยจิตวิญญาณใหม่ ในอดีต นักรบยอมพลีชีพในสมรภูมิเพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรี แต่บัดนี้หาใช่เช่นนั้นอีกต่อไป นักรบต่อสู้เพียงเพื่อหลีกหนีความตายเท่านั้น ชาวบ้านไม่เพาะปลูกเพื่อความสามัคคีปรองดองกันในสังคมอีกต่อไป หากแต่ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำก็เพื่อความก้าวหน้าของตนเองและเพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้าเอล ในวันเลี้ยงฉลอง ก็เป็นเฉกเช่นมังกรกลับกลายเป็นอสรพิษ ซามูไรกลับกลายเป็นโรนิน แต่อย่างน้อยเราก็มีชีวิตรอด

ชนเผ่าอสรพิษหรือชนเผ่างูใหญ่ ชนเผ่าผู้กักขฬะ เห็นแก่ตัว และน่ารังเกียจ แทบไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาคือทายาทของชนเผ่ามังกรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และความบ้าอำนาจของผู้นำ ทำให้มังกรกลายเป็นอสรพิษ แต่ถึงพวกเขาจะเลวร้าย พวกเขาก็ยังมีฝีมือการรบที่สืบทอดมาจากชนเผ่ามังกรทีเยี่ยมยอดหลงเหลืออยู่

ยูนิตรบพื้นฐานของเผ่านี้ค่อนข้างจะคล้ายคลึงกับเผ่ามังกร นั่นคือ ประกอบด้วยยูนิตโจมตีระยะปะชิด 1 และยูนิตโจมตีระยะไกล 2 ซึ่งมี Swordman, Crossbowman และ Musketeer ตามลำดับ และยูนิตที่ทำหน้าที่ฟื้นพลังชีวิตของเผ่านี้ คือ Fan Geisha และยูนิตสุดยอดของเผ่าพันธุ์นี้คือ Necromancer เกิดจากการสังเวย Ronin ที่บัลลังก์ปีศาจ

Lotus (เผ่าบัวหลวง)
เช่นเดียวกับพวกอสรพิษ เผ่าพันธุ์บัวหลวงเกิดจากการรวมตัวของผู้ที่เหลือรอดของเผ่าพันธุ์โบราณที่ถูกทำลายล้างโดยพวกอนารยะ (Horde) เนิ่นนานมาแล้ว มีชนเผ่าพ่อมดและชาวป่าที่สงบสุข พวกเขาบูชาพระเจ้าแห่งความสมดุลและธรรมชาติที่มีสัญญลักษณ์เป็นต้นไม้สูงใหญ่ พวกเขาแทบจะไม่เคยรู้จักความวุ่นวายแตกแยก ยกเว้นเมื่อตอนที่กลุ่มของปราชญ์บ้าวิชาถลำลึกเข้าไปในมนต์ดำของความเน่าเปื่อยฟอนเฟะ ที่เรียกกันว่ามรรคาต้องห้าม (Forbidden Path)

เมื่อพวกอนารยะชนบุกเข้ามา คนในเผ่าถูกฆ่าตายหมดยกเว้นพวกพ่อมดนอกรีตไม่กี่คนผู้ซึ่งความรู้ทางหยินทำให้เขามีโอกาสหลบนี้ได้ในขณะที่พวกพ้องต้องดับดิ้น พ่อมดกลุ่มนี้รอนแรมมาถึงดินแดนแห่งนี้และตั้งหลักปักฐานบนที่ราบสูง (High Plateau) ที่ซึ่งรู้กันว่าเป็นที่อยู่ของพลังอำนาจประหลาด ในเวลานั้นเอง พวกเขารวมตัวกันเข้าเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ ภายใตชื่อของดอกไม้หอมอันมีพิษ - บัวหลวง (Lotus)

เมื่อไม่มีข้อห้ามใดแล้ว เผ่าบัวหลวงก็ดำเนินไปตามมรรคาต้องห้ามอย่างเต็มที่ ค้นหาวิธีควบคุมความตายและความเน่าเปื่อยโดยการปล่อยตัวเข้าไปหาสิ่งนั้น ความเชื่อของพวกเขาล้อเข้ากับความเชื่อของบรรพบุรุษแต่เป็นในแบบเน่าเฟะ ต้นไม้ของพวกเขาคือฝันร้ายแปลกปลอมที่ถูกรดน้ำพรวนดินด้วยผองพวกที่ไม่มีวันตาย ความเหยียดหยามจงเกลียดจงชังของพวกเขาที่มีต่อเผ่าหมาป่าที่บูชาธรรมชาติอาจจะเกิดมาจากรากลึกทางประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง

กลุ่มผู้นำของเผ่าพันธุ์เป็นพวกพ่อมดผู้อยู่ยั้งยืนยงและมัวเมาอยู่กับการวิจัยของตน ค้นหาเพทุบายกระหายเลือดในสภาและหมู่พันธมิตรในโลกมืด ศีลธรรมจรรยาเป็นเพียงเรื่องตลกขำขัน - อำนาจและความรู้คืออุดมการณ์ และการรุกรานกดขี่เผ่าพันธุ์อื่นเป็นทาสก็เป็นเพียงหนทางไปสู่เป้าหมายนี้ เวลาหลายทศวรรษที่ใช้ในการหลอกใช้และจับพวกหมาป่ามาเป็นทาสได้ทำให้เกิดการนองเลือดและความตึงเครียดขึ้นในแผ่นดิน

เผ่าบัวหลวงคือชนเผ่าพ่อมดที่ถูกเนรเทศ สีหน้าที่เย็นชากับเส้นผมสีขาวโพลนของพวกเขาบ่งบอกนิสัยได้เป็นอย่างดี พวกเขาเป็นชนเผ่าที่สุขุม นิ่ง และเงียบ แต่ก็แฝงไปด้วยความโหดร้าย ทารุณ เป็นที่รู้กันว่าพวกเขาเป็นศัตรูกับทุกๆเผ่า และหลายต่อหลายเผ่าก็ต้องมาสยบกับเวทมนตร์ของพวกเขา

ยูนิตพื้นฐานของเผ่าพันธุ์นี้ล้วนแต่มีประสิทธิภาพมาก ได้แก่ Blade Acolyte, Leaf Disciple และ Staff Adept ยูนิตช่วยรักษาของเผ่านี้คือ Channeler ซึ่งต่างจากยูนิตช่วยรักษาของ 2 เผ่าแรก(Geisha และ Fan Geisha) ซึ่งใช้ค่า stamina ในการรักษา ส่วน Channeler ใช้เอฟเฟ็กต์อีกาในการรักษา และเผ่านี้มีลักษณะการฝึกทักษะเพิ่มเติมให้กับนักรบที่แตกต่างจาก 2 เผ่าแรก โดยเผ่ามังกรและอสรพิษจะนำนักรบเข้าไปฝึกในฐาน แต่เผ่านี้ต้องเรียกสามพี่น้องแห่งภราดร (Brother Lythis, Brother Tausil, Brother Sehk) ออกมาจาก Crypt of the brother เพื่อทำการฝึกนักรบให้มีทักษะพิเศษเพิ่มขึ้นมา โดยทักษะใน Warlock และ Master Warlock จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าจะนำ Brother ตนใดมาฝึก ส่วนทักษะของยูนิตระดับ 1 และ 2 จะเหมือนกันหมดไม่ว่าจะนำ Brother ตนใดมาฝึก และในยูนิตระดับ 2 สามารถกิน Peasant เพื่อเพิ่มทักษะให้กับตนเองได้ ยูนิตสุดยอดของเผ่านี้คือ Master Warlock เกิดขึ้นโดยนำ Warlock จำนวน 2 ตนเข้าไปฝึกใน Warlock Tower

Wolf (เผ่าหมาป่า)
Wolf หรือเผ่าหมาป่ามีหัวหน้าเผ่าคือเกรย์แบค เดิมเป็นเผ่ารักสงบแต่ถูกการกวาดล้างโดยโดยเผ่าบัวหลวงและถูกจองจำในถ้ำใต้ดิน เนื่องจากถูกกดขื่จึงทำให้ เกรย์แบคและลองทูธ สหายเก่า จับมือกันเพื่อปลดโซ่ที่ถูกพันธนาการและการไล่ล่าของ อีเวน แม่มดน้ำแข็งสมุนมือขวาของ ไซเมท เกรย์แบคได้ช่วยเหลือลูกน้องในเผ่าที่ถูกขัง และรวบรวมกำลังเพื่อต่อต้าน อีเวน โดยมีพันธมิตรคือ วายอาย และ เดอะเชลลอร์ด และได้ช่วยเกล่า จากการถูกโจมตีโดยเผ่าอสรพิษ อูทาร่า บูโด ตามล่าเกรแบค แต่ก็ไม่สามารถโจมตีเผ่าหมาปาได้เลย เกรเดินทางไปจนพบทาโร่พี่ชายของเคนจิซึ่งมีนิสัยต่างจากน้องชาย โดยทาโร่ไม่ยอมให้ผ่านทางไปโจมตีเผ่าบัวหลวง เกรย์แบคเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ จึงต้องโจมตีกองกำลังของทาโร่ แต่เกรแบคไม่กล้าทำร้ายทาโร่เน่องจากเกรงอำนาจของ ลอร์ดโอจา แห่งเผ่าอสรพิษ จึงปล่อยตัวไป ได้เข้าตีเผ่าบัวหลวง จนพบกับอีเวน และสู้กันจนชนะ

อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]