เมทรอยด์ไพรม์พินบอล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เมทรอยด์ไพรม์พินบอล
เครื่องพินบอลที่มีครีบด้านล่าง ส่วนด้านบนของภาพแสดงให้เห็นซามุส อารัน ในชุดทรงพลังขนาดใหญ่ที่ดูล้ำยุคพร้อมหมวกกันนิรภัย รวมถึงไหล่ที่ใหญ่โตเและโค้งมน
งานศิลปะบรรจุภัณฑ์เวอร์ชันอเมริกาเหนือ
ผู้พัฒนาฟิวส์เกมส์
ผู้จัดจำหน่ายนินเท็นโด
อำนวยการผลิตเค็นซูเกะ ทานาเบะ
แต่งเพลงเค็นจิ ยามาโมโตะ
มาซารุ ทาจิมะ
ชุดเมทรอยด์
เครื่องเล่นนินเท็นโด ดีเอส
วางจำหน่าย
แนวพินบอล
รูปแบบผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น

เมทรอยด์ไพรม์พินบอล (อังกฤษ: Metroid Prime Pinball) เป็นวิดีโอเกมพินบอลที่มีธีมตามซีรีส์เมทรอยด์ เกมดังกล่าวใช้รูปแบบกราฟิกและองค์ประกอบเรื่องราวต่าง ๆ จากเมทรอยด์ไพรม์ ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัทฟิวส์เกมส์ และเผยแพร่โดยบริษัทนินเท็นโดสำหรับระบบนินเท็นโด ดีเอส ในทวีปอเมริกาเหนือกับทวีปออสเตรเลียเมื่อ ค.ศ. 2005, ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ. 2006 และในทวีปยุโรปเมื่อ ค.ศ. 2007 ทั้งนี้ เมทรอยด์ไพรม์พินบอลใช้กลไกพื้นฐานของพินบอล ร่วมกับไอเทมพินบอลทั่วไป โดยมีการแนะนำกลไกใหม่เช่นการกระโดดกำแพงและความสามารถในการยิงอาวุธ ส่วนจอสัมผัสของนินเท็นโด ดีเอส สามารถดันด้วยนิ้วเพื่อเปลี่ยนวิถีของพินบอลขณะเคลื่อนไหว

แนวคิดเริ่มต้นสำหรับวิดีโอเกมที่นำเสนอซีรีส์เมทรอยด์ได้มาที่เค็นซูเกะ ทานาเบะ หลังจากที่เขารู้ว่าบริษัทฟิวส์เกมส์เคยทำงานในมาริโอพินบอลแลนด์ ซึ่งเป็นวิดีโอเกมพินบอลอีกเกมหนึ่ง เมื่อนึกถึงว่าซามุสตัวเอกของซีรีส์สามารถแปรเปลี่ยนเป็นลูกบอล ทานาเบะจึงเชื่อว่าจักรวาลของเมทรอยด์สามารถปรับให้เข้ากับฉากพินบอลได้ เกมดังกล่าวขายพร้อมกับอุปกรณ์เสริมรัมเบิลพากสำหรับนินเท็นโด ดีเอส นับเป็นครั้งแรกที่มีอุปกรณ์เสริมสำหรับนินเท็นโด ดีเอส

เมทรอยด์ไพรม์พินบอลได้รับการวิจารณ์โดยทั่วไปในเชิงบวก นักวิจารณ์ยกย่องรูปแบบที่ถูกเปลี่ยนที่ของซีรีส์เมทรอยด์เป็นวิดีโอเกมพินบอล แต่ติเตียนว่าขาดความหลากหลาย ซึ่งเมทรอยด์ไพรม์พินบอลทำยอดขายได้ 6,228 ชุดในช่วงเดือนที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2005 ในสหรัฐ และมากกว่า 15,000 ชุดในประเทศญี่ปุ่น ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008

รูปแบบการเล่น[แก้]

จากสองหน้าจอ หนึ่งจออยู่เหนืออีกหน้าจอหนึ่ง โดยเครื่องพินบอลถูกแยกระหว่างสองจอ ส่วนป้ายบอกคะแนนอยู่ในหน้าจอด้านล่าง
โต๊ะแทลลอนโอเวอร์เวิลด์เป็นหนึ่งในสองโต๊ะแรกที่ผู้เล่นสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งในหน้าจอด้านล่าง คะแนนจะแสดงที่ด้านบน ในขณะที่ครีบจะแสดงที่ด้านล่าง

เมทรอยด์ไพรม์พินบอลใช้กลไกพื้นฐานของพินบอล พร้อมด้วยไอเทมพินบอลทั่วไปที่หลากหลาย เช่น ครีบ, สปินเนอร์, กันชน และทางลาด[1] นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำกลไกใหม่ ๆ เช่น ศัตรูที่เดินไปรอบ ๆ โต๊ะ, การกระโดดกำแพง และความสามารถในการยิงอาวุธ[2] ส่วนจอสัมผัสของนินเท็นโด ดีเอส สามารถใช้เพื่อดันโต๊ะพินบอลและเปลี่ยนวิถีของลูกบอลได้[3] เกมดังกล่าวประกอบด้วยโต๊ะพินบอลหกโต๊ะ โดยแต่ละโต๊ะได้รับแรงบันดาลใจจากแอเรียต่าง ๆ ของเกมเมทรอยด์ไพรม์ แต่ละโต๊ะจะแสดงบนทั้งสองหน้าจอของนินเท็นโด ดีเอส[4] ซึ่งในตอนแรกมีให้เล่นเพียงสองโต๊ะเท่านั้น ได้แก่: ไพเรตฟริเกต และแทลลอนโอเวอร์เวิลด์ ทั้งนี้ หลังจากเล่นหนึ่งในสองโต๊ะแรก ผู้เล่นจะปลดล็อกอีกสองโต๊ะ ได้แก่: เฟนดรานาดริฟส์ และฟาซอนไมส์[5] โดยในทั้งสองโต๊ะ ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับบอสเพื่อทำให้สำเร็จ[6]

ในระหว่างเกม ผู้เล่นจะต้องได้รับอาร์ติแฟกต์สิบสองชิ้น ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับหลังจากบรรลุวัตถุประสงค์ เช่น ชนะมินิเกม หรือเอาชนะบอส[7] เมื่อได้รับอาร์ติแฟกต์ครบสิบสองชิ้นแล้ว ผู้เล่นจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโต๊ะที่เรียกว่าอาร์ติแฟกต์เทมเปิล ซึ่งวางลูกบอลหกลูกบนโต๊ะในเวลาเดียวกัน[5] ส่วนในการจบโต๊ะ เป้าหมายที่แตกต่างกันสิบสองเป้าหมายจะต้องถูกตีด้วยลูกบอล ในขณะที่พวกเขาถูกโจมตีด้วยการโจมตีจากเมทาริดลีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในศัตรูของซีรีส์เมทรอยด์ไพรม์ หากลูกบอลทั้งหมดหายไป โต๊ะดังกล่าวจะสิ้นสุดลง โดยผู้เล่นจะไม่สูญเสียอาร์ติแฟกต์ใด ๆ ในสิบสองชิ้นที่รวบรวมไว้แล้ว แต่ถูกบังคับให้กลับไปที่โต๊ะอื่น และทำมันให้เสร็จก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้พยายามครั้งที่สองที่อาร์ติแฟกต์เทมเปิล[6] เมื่อเสร็จจากอาร์ติแฟกต์เทมเปิลแล้ว จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโต๊ะสุดท้าย ซึ่งคืออิมเพกต์เครเตอร์[5] หลังจากที่ผู้เล่นเอาชนะสิ่งมีชีวิตอย่างเมทรอยด์ไพรม์บนโต๊ะอิมเพกต์เครเตอร์ เกมจะปลดล็อกระดับความยากที่สูงขึ้น ซึ่งคือเอกซ์เพิร์ตโหมด

เกมดังกล่าวยังมีโหมด "ภารกิจเดี่ยว" ซึ่งจำกัดผู้เล่นให้อยู่ในกระดานเดียว[8] โดยกระดานไพเรตฟริเกต และแทลลอนโอเวอร์เวิลด์ ท้าทายผู้เล่นให้ได้รับคะแนนสูงเช่นเดียวกับพินบอลจริง ส่วนโต๊ะอื่น ๆ ผู้เล่นจะได้รับการจัดอันดับตามเวลาที่ใช้ในการทำภารกิจให้สำเร็จ[9] นอกเหนือจากโหมดผู้เล่นเดี่ยว เกมดังกล่าวยังมีโหมดหลายผู้เล่นซึ่งต้องการทำอย่างเดียวกันของเกมดังกล่าวเท่านั้น และยอมให้ผู้เล่นมากถึงแปดคนแข่งกันในการแข่งความเร็วเพื่อให้ได้คะแนนเป้าหมาย โดยโหมดนี้ใช้โต๊ะที่เจ็ดคือแมกมัวร์แคฟเวินส์ ซึ่งไม่ปรากฏในโหมดผู้เล่นเดี่ยว[10]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Board Features". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. pp. 12–13. NTR-AP2E-USA.
  2. "Mini Games". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. pp. 16–17. NTR-AP2E-USA.
  3. "Controls". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. pp. 4–5. NTR-AP2E-USA.
  4. "HUD". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. p. 9. NTR-AP2E-USA.
  5. 5.0 5.1 5.2 "Selecting a Table". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. p. 8. NTR-AP2E-USA.
  6. 6.0 6.1 Fuse Games (October 24, 2005). Metroid Prime Pinball (Nintendo DS). Nintendo.
  7. "Power Ups". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. p. 10. NTR-AP2E-USA.
  8. "Missions". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. p. 6. NTR-AP2E-USA.
  9. "High Scores List". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. p. 11. NTR-AP2E-USA.
  10. "Wireless Mission". Metroid Prime Pinball instruction booklet. Nintendo of America, Inc. 2005. pp. 18–19. NTR-AP2E-USA.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]