เนเฟอร์ติติ
เนเฟอร์ติติ | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระรูปครึ่งองค์เนเฟอร์ติติ ขณะจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์อิยิปต์กรุงเบอร์ลิน ปัจจุบันรูปปั้นนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์นัวเอส | |||||
อัครมเหสีแห่งไอยคุปต์ | |||||
ระหว่าง | 1353–1336 BC[1] หรือ 1351–1334 BC[2] | ||||
ฟาโรห์เเห่งอียิปต์
(เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน,พิพาท) | |||||
ครองราชย์ | 1334–1332 ปีก่อนคริสตกาล | ||||
ก่อนหน้า | สเมงห์คาเร | ||||
ถัดไป | ตุตันคาเมน | ||||
พระราชสมภพ | 1370 ปีก่อนค.ศ. (สันนิษฐาน) | ||||
สวรรคต | 1330 ปีก่อนค.ศ. (สันนิษฐาน) | ||||
คู่อภิเษก | ฟาโรห์แอเคนาเทน | ||||
พระราชบุตร | เมอริตาเทน เมเคตาเทน อังค์เอสเอ็นอามุน เนเฟอร์เนเฟอรอเทน ตาเชริต เนเฟอร์เนเฟอรูเร เซตีเปนเร | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์อียิปต์ที่ 18 | ||||
ศาสนา | ศาสนาอียิปต์โบราณ |
เนเฟอร์ติติ (1370 - 1330 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นราชินีของฟาโรห์อาเมนโฮเทป ที่ 4 แห่งอียิปต์ (ภายหลังได้เปลี่ยนพระนามมาเป็นแอเคนาเทน) และพระสัสสุของฟาโรห์ตุตันคามุน กล่าวกันว่าเนเฟอร์ติติอาจเคยขึ้นเสวยราชสมบัติครองบัลลังก์อียิปต์เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากพระราชสวามีสวรรคต และก่อนที่ฟาโรห์ตุตันคามุนจะเถลิงราชสมบัติ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิชาการ ชื่อของพระนางอาจแปลได้โดยสังเขปว่า โฉมงามผู้มาสู่ และยังพ้องกับคำเรียกเครื่องประดับชนิดหนึ่งที่เป็นลูกปัดทองคำรูปยาวรี ดังที่เราเห็นรูปปั้นของเธอสวมใส่อยู่เสมอ ลูกปัดชนิดนี้เรียกว่า ลูกปัด "เนเฟอร์"
เนเฟอร์ติติโด่งดังจากพระรูปปั้นท่อนบน ที่ตอนนี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นอยเอส ในนครเบอร์ลิน พระรูปปั้นดังกล่าวเป็นพระรูปที่ถูกทำเลียนแบบซ้ำมากที่สุดในบรรดาศิลปวัตถุของไอยคุปต์ สร้างขึ้นโดยประติมากร Djhutmose และถูกค้นพบในห้องทำงานศิลปะของเขา พระรูปปั้นท่อนบนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากเป็นตัวอย่างของความเข้าใจอย่างถ่องแท้ของชาวอียิปต์โบราณเกี่ยวสัดส่วนขององค์ประกอบบนใบหน้า
พระนางถูกเรียกขานมากมายหลายชื่อ ที่วิหารคาร์นัก มีศิลาจารึกที่ขานพระนางว่าเป็น 'ผู้สืบทอด' 'ที่สุดของผู้เป็นที่โปรดปราน' 'ผู้มีสเน่ห์' 'ผู้แผ่ความสุข' 'ชายาผู้อ่อนหวาน' 'ผู้เป็นที่รัก' 'ผู้ปลอบประโลมหัวใจขององค์ราชาในวัง' 'ผู้มีถ้อยคำอ่อนโยน' 'ชายาแห่งอียิปต์ตอนบนและอียิปต์ตอนล่าง' 'ชายาของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่' 'ผู้ที่กษัตริย์ทรงรัก' 'สตรีแห่งดินแดนทั้งสอง' 'เนเฟอร์ติติ'
ต้นตระกูลของเนเฟอร์ติติ
[แก้]ไม่มีใครทราบว่าบิดามารดาของเนเฟอร์ติติเป็นใคร แต่มีผู้เห็นพ้องต้องกันว่าเธออาจเป็นธิดาของเอย์ ผู้ที่ได้เป็นฟาโรห์ในเวลาต่อมา กับมเหสีที่มีชื่อว่าเทย์ อีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าเนเฟอร์ติติแท้จริงคือเจ้าหญิงทาดูเคปา ธิดาของกษัตริย์ทัชรัตตาแห่งมีทานนี ในม้วนคัมภีร์โบราณมีการกล่าวถึงชื่อนีเมรีธิน เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระนาง แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ยังมีผู้เสนอแนวคิดว่าพระนางเป็นธิดา หรือพระญาติกับฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่สาม หรือไม่ก็เป็นชนชั้นสูงของชาวเธบ อีกทฤษฎีหนึ่งยกให้เนเฟอร์ติติเป็นธิดาของซีตามุน พี่น้องสาวต่างมารดาของอาเมนโฮเทปที่สาม โดยมีพระราชินีเอียเรเป็นพระมารดาของนาง เอียเรเคยมีตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาท แต่ตำแหน่งดังกล่าวต้องสิ้นสุดลงเมื่ออาเมนโฮเทปที่สามขึ้นครองบัลลังก์ ซีตามุนถูกเลี้ยงดูให้เป็นมเหสีของทีเย แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่าพระนางมีโอรสธิดากับผู้ใดหรือไม่ มีหลักฐานอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าทั้งซีตามุนและเนเฟอร์ติติต่างก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน นั่นคือชื่อของทั้งคู่ต่างก็หมายความว่า "ผู้เลอโฉม" เนเฟอร์ติตินับถือเทพเพียงองค์เดียว นั่นก็คืออาตอน ทั้งนี้ อาเคนาเตน สวามีของพระนางอาจเป็นพระบิดา หรือไม่ก็พี่ชายต่างมารดาของฟาโรห์ตุตันคามุน ขึ้นอยู่กับว่าจะนับญาติแบบไหน
วันที่เนเฟอร์ติติอภิเษกสมรสกับอาเมนโฮเทปที่สี่ และต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระชายาของพระองค์นั้นไม่อาจระบุได้แน่นอน อย่างไรก็ดี ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันหกคน ตามรายชื่อและปีเกิดต่อไปนี้:
- เมรีตาเทน - เกิดในปีที่ 2 หลังจากที่อาเมนโฮเทปที่สี่ขึ้นครองราชย์ (1348 ปีก่อนคริสตกาล)
- เมเคตาเทน - เกิดในปีที่ 3 (1347 ปีก่อนคริสตกาล)
- อังค์เอสเอ็นอามุน - เกิดในปีที่ 4 (1346 ปีก่อนคริสตกาล) ต่อมาเป็นชายาของ ฟาโรห์ตุตันคามุน
- เนเฟอร์เนเฟอรอเทน ตาเชริต - เกิดในปีที่ 6 (1344 ปีก่อนคริสตกาล)
- เนเฟอร์เนเฟอรูเร - เกิดในปีที่ 9 (1341 ปีก่อนคริสตกาล)
- เซตีเปนเร - เกิดในปีที่ 11 (1339 ปีก่อนคริสตกาล)
ในปีที่สี่ของการครองราชย์ (1346 ปีก่อนคริสตกาล) อาเมนโฮเทปที่สี่ได้เริ่มสร้างศาสนสถานเพื่อบูชาเทพอาเตน และยังเชื่ออีกว่าปีเดียวกันนี้พระองค์ได้เริ่มก่อสร้างอาเคตาเตน เมืองหลวงแห่งใหม่ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อเมืองอามาร์นา ในปีที่ห้าของการครองราชย์ (1345 ปีก่อนคริสตกาล) อาเมนโฮเทปที่สี่ ได้เปลี่ยนพระนามของพระองค์อย่างเป็นทางการเป็นอาเคนาเตน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของศาสนสถานแห่งใหม่ คาดกันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 2 มกราคมของปีนั้น ในปีที่เจ็ดของการครองราชย์ (1343 ปีก่อนคริสตกาล) ได้มีการย้ายเมืองหลวงจากกรุงธีบ ไปยังอามาร์นา แม้ว่าจะยังมีการก่อสร้างต่อไปอีกถึงสองปี จนกระทั่ง 1341 ปีก่อนคริสตกาล เมืองใหม่ถูกอุทิศให้กับศาสนาใหม่ของทั้งคู่ เชื่อกันว่ารูปปั้นครึ่งตัวอันโด่งดังของเนเฟอร์ติติถูกสร้างขึ้นในปีนี้เอง
อักษรจารึกชิ้นหนึ่งระบุว่าราววันที่ 21 พฤศจิกายน ในปีที่ 12 ของการครองราชย์ (1338 ปีก่อนคริสตกาล) ได้มีการกล่าวถึงเมเคตาเตน พระธิดาเป็นครั้งสุดท้าย จึงเชื่อกันว่านางอาจจะสิ้นพระชนม์ไม่นานหลังจากนั้น รูปสลักนูนต่ำในสุสานของอาเคนาเตนในสุสานกษัตริย์แห่งอามาร์นามีรูปงานศพของนาง
การหายสาบสูญไปอย่างลึกลับ
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การค้นพบมัมมี่ที่หายสาบสูญ?
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ชื่อที่เป็นอมตะ
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Akhenaton". Encyclopaedia Britannica.
- ↑ Jürgen von Beckerath, Chronologie des Pharaonischen Ägypten. Philipp von Zabern, Mainz, (1997), p.190
- Cyril Aldred, Akhenaten: King of Egypt (Thames and Hudson, 1988) contains much material on her
- Rita E. Freed, Yvonne J. Markowitz, Sue H. D'Auria, Pharaohs of the Sun: Akhenaten - Nefertiti - Tutankhamen (Museum of Fine Arts, 1999)
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Do We Have the Mummy of Nefertiti? by Marianne Luban, 1999 (predates Joann Fletcher's work).
- J. Kluger, A. Dorfman, Nefertiti found?, Time, June 16, 2003; online edition เก็บถาวร 2007-02-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Tracking Nefertiti Discovery article on Joann Fletcher's work.
- A Critical Analysis of the Discovery Channel's "Nefertiti Revealed"
- Spinning Nefertiti เก็บถาวร 2008-09-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Discussion on the Nefertiti found? program เก็บถาวร 2004-12-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- A more detailed profile of Nefertiti
- The Encyclopedia of El Amarna, examining her time and connections