อุบายขายโรค
อุบายขายโรค: กระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ (ภาคสอง) | |
---|---|
ปกฉบับภาษาไทย ตีพิมพ์ปี 2007 โดย หมอชาวบ้าน | |
ผู้ประพันธ์ | เรย์ มอยนิแฮน และ อะลัน แคสเซิลส์ |
ผู้แปล | สรชัย จำเนียรดำรงการ, ภิญญุกา เปลี่ยนบางช้าง, ปิยะรัตน์ นิ่มพิทักษ์พงศ์, วิชัย โชควิวัฒน, จิราพร ลิ้มปานานนท์ (ภาษาไทย) |
ประเทศ | สหรัฐ |
หัวเรื่อง | บริการสุขภาพเกินความจำเป็น |
สำนักพิมพ์ | แอลเลินแอนด์อันวิน (ออสเตรเลีย); เนชั่นบุคส์ (สหรัฐ); หมอชาวบ้าน (ไทย) |
วันที่พิมพ์ | 2005 (ภาษาอังกฤษ) 2007 (ภาษาไทย) |
หน้า | 254 |
ISBN | 978-1-56025-856-8 ไทย: ISBN 9789748232881 |
OCLC | 60615329 |
อุบายขายโรค: กระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ (ภาคสอง) (แปลจาก อังกฤษ: Selling Sickness: How the World's Biggest Pharmaceutical Companies are Turning us All into Patients) เป็นหนังสือตีพิมพ์ครั้งแรกเป็นภาษาอังกฤษในปี 2005 โดยเรย์ มอยนิแฮน และ อะลัน แคนเซิลส์ เนื้อหาเกี่ยวกับบริการสุขภาพที่เกินจำเป็น (unnecessary health care) สำหรับฉบับภาษาไทยตีพิมพ์ในปี 2007 แปลโดย สรชัย จำเนียรดำรงการ, ภิญญุกา เปลี่ยนบางช้าง, ปิยะรัตน์ นิ่มพิทักษ์พงศ์, วิชัย โชควิวัฒน และ จิราพร ลิ้มปานานนท์
ภาพรวม[แก้]
หนังสือเล่มนี้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการกระพือโรค (disease mongering)[1] ในวารสาร JAMA ระบุว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการ “รวบรวมผลการศึกษาจำนวนมาก แต่ละชิ้นพุ่งเป้าไปที่ยาแต่ละชนิด และศึกษาเกี่ยวกับการตลาดของบริษัทยา ...”[2]
คำวิจารณ์[แก้]
เจนนิฟเฟอร์ แบร์เรทท์ (Jennifer Barrett) ได้ระบุไว้ใน นิวส์วีค ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการสำรวจวิธีการที่อุตสาหกรรมยาเปลี่ยนการรับรู้ของสาธารณะต่อปัญหาสาธารณสุข[3] บทวิจารณ์ของศูนย์นโยบายทางเลือก ประเทศแคนาดาระบุว่าผลงานนี้เขียนขึ้นโดยมี "ทักษะการสำรวจที่เฉียบคม" ของผู้เขียนเพื่อ "ยืนยันหลักฐานอันชัดเจน" ต่อการอ้างในประเด็นต่าง ๆ[4] วิชัย โชควิวัฒน แพทย์ผู้แปลและบรรณาธิการแปลของหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาไทยให้สัมภาษณ์กับ ผู้จัดการ ไว้ว่าหนังสือเล่มนี้ตีแผ่การดำเนินการของธุรกิจยาซึ่ง “ครอบงำเป็นกระแสโลก ซึ่งประเทศไทยก็ไม่พ้นจากอิทธิพลการครอบงำ ดังนั้น สภาพทั่วไปในไทยก็ไม่ต่างจากหนังสือมากนักเพราะบริษัทเหล่านี้ขายยาให้ทั่วโลก และส่วนใหญ่ก็ใช้มาตรฐานเดียวกันกับอเมริกา รวมถึงการกำหนดคำนิยามของโรค โดยในวงการแพทย์รู้สึกว่า มันมีแนวโน้มคล้อยตามเพราะจะทำให้เพิ่มความปลอดภัยให้แก่คนไข้”[5]
อ้างอิง[แก้]
- ↑
- Moynihan, R.; Heath, I.; Henry, D. (2002). "Selling sickness: The pharmaceutical industry and disease mongering * Commentary: Medicalisation of risk factors". BMJ. 324 (7342): 886–891. doi:10.1136/bmj.324.7342.886. PMC 1122833. PMID 11950740.
- Moynihan, R.; Henry, D. (2006). "The Fight against Disease Mongering: Generating Knowledge for Action". PLoS Medicine. 3 (4): e191. doi:10.1371/journal.pmed.0030191. PMC 1434508. PMID 16597180.
- Bjorn, G. (2008). "Straight talk with...Ray Moynihan". Nature Medicine. 14 (11): 1142–1143. doi:10.1038/nm1108-1142. PMID 18989273.
- ↑ Sun Yom, Sue (September 7, 2005). "Book review - Selling Sickness: How the World's Pharmaceutical Companies Are Turning Us All Into Patients". JAMA. 294 (9). doi:10.1001/jama.294.9.1114. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-25. สืบค้นเมื่อ 2021-03-29.
- ↑ Barrett, Jennifer (August 2, 2005). "Selling Sickness to the Well". Newsweek. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2021-03-29.
- ↑ Lippman, Abby (September 1, 2005). "September 2005: Selling Sickness". Canadian Centre for Policy Alternatives. สืบค้นเมื่อ 21 August 2013.
- ↑ https://mgronline.com/qol/detail/9500000089893
แหล่งข้อมูลอื่ย[แก้]
- แม่แบบ:Blogspot
- Richard Fidler (12 November 2012). "Conversations with Richard Fidler - Ray Moynihan". ABC Online. สืบค้นเมื่อ 21 August 2013. - a radio interview