อาล็อยส์-ค็อนสตันทีน เจ้าชายที่ 9 แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาล็อยส์-ค็อนสตันทีน เจ้าชายที่ 9 แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค
เจ้าชายที่ 9 แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค
ประสูติ16 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (82 ปี)
เวือทซ์บวร์ค รัฐบาวาเรีย นาซีเยอรมนี
พระชายาเจ้าหญิงอนาตเซียแห่งปรัสเซีย
พระนามเต็ม
อาล็อยส์-ค็อนสตันทีน คาร์ล เอดูอาร์ต โจเซฟ โจฮันน์ ค็อนราด อันโตนีอุส เจอร์ฮาร์ด จอร์จ เบเนดิกตุส ปิอุส ยูสไบอัส มาเรีย
พระบุตรเลโอ เลอเวินชไตน์
เจ้าชายฮูเบอร์ตุส
เจ้าหญิงคริสติน
เจ้าชายโดมินิก
ราชวงศ์ราชวงศ์เลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค
พระบิดาคาร์ล เจ้าชายที่ 8 แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค
พระมารดาแคโลไลน์ เดอ เคาน์ตี ริกนูน

อาล็อยส์-ค็อนสตันทีน เจ้าชายที่ 9 แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค (อังกฤษ: Alois-Konstantin, 9th Prince of Löwenstein-Wertheim-Rosenberg) ประสูติเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2484 ณ เวือทซ์บวร์ค รัฐบาวาเรีย นาซีเยอรมนี เป็นพระโอรสลำดับที่ 5 และพระองค์เดียวใน คาร์ล เจ้าชายที่ 8 แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค และ แคโลไลน์ เดอ เคาน์ตี ริกนูน เป็นพระอนุชาใน อาร์ชดัชเชสมาเรียแห่งออสเตรีย (ประสูติ ค.ศ. 1935-2018) พระองค์ทรงจบปริญยาโทรด้านกฎหมาย ณ มหาวิทยาลัยเวือทซ์บวร์ค หลังจากนั้นทรงทำงานในบริษัทกัลฟ์ ออยล์ หลังจากนั้นทรงออกจากบริษัท มาทรงงานในธนาคาร Merck Finck & Co.ทั้งยีงดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการของมูลนิธิสมเด็จพระสันตะปาปา หรือ Centesimus Annus Pro Pontifice (CAPP)

เสกสมรส[แก้]

พระองค์ทรงเสกสมรสกับ เจ้าหญิงอนาตเซียแห่งปรัสเซีย พระธิดาใน เจ้าชายฮูร์แบร์ทุสแห่งปรัสเซีย ในปี 2508 มีพระบุตรดังนี้

  1. เลโอ เลอเวินชไตน์
  2. เจ้าชายฮูเบอร์ตุส
  3. เจ้าหญิงคริสติน
  4. เจ้าชายโดมินิก

พระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศที่ เจ้าชายที่ 9 แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค ในปี 2533 ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของพระบิดา จนกระทั่งพระชายามีพระประสูติกาลพระโอรสพระองค์ใหญ่ เลโอ เลอเวินชไตน์ โดยทรงกลายเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค แต่แล้วเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2553 พระโอรสพระองค์นี้ได้สิ้นพระชนม์จากระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศเยอรมัน ที่มีมาตั้งแต่ปี 2520

อ้างอิง[แก้]

  • Homepage des Hauses Löwenstein
  • "Wappen des Hauses Löwenstein". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ ตุลาคม 27, 2009. สืบค้นเมื่อ เมษายน 26, 2010.