หลุมศพหมู่ที่อีซุม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หลุมศพหมู่ที่อีซุม
เป็นส่วนหนึ่งของ
อาชญากรรมสงครามระหว่างการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย
ยุทธการที่อีซุม
การรุกโต้ตอบที่แคว้นคาร์กิว พ.ศ. 2565
การขุดศพขึ้นจากหลุมในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2565
สถานที่อีซุม แคว้นคาร์กิว ยูเครน
ประเภทอาชญากรรมสงครามซึ่งรวมถึงการทรมานและการประหารชีวิตอย่างรวบรัด
ผู้เสียหายอย่างน้อย 440 คน
ผู้ก่อเหตุกองทัพบกรัสเซีย

ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2565 มีการค้นพบหลุมศพหมู่แห่งหนึ่งในป่าใกล้เมืองอีซุมหลังจากที่กองกำลังยูเครนยึดเมืองกลับคืนมาได้ระหว่างการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย[1][2] หลุมศพหมู่แห่งนั้นบรรจุศพไว้อย่างน้อย 440 ศพ โดยเป็นศพของผู้ที่ถูกกองกำลังรัสเซียสังหาร[3][4][5] รัฐบาลยูเครนเชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 1,000 คนระหว่างการสู้รบเพื่อชิงเมืองอีซุมและระหว่างที่รัสเซียยึดครองเมืองนี้ในเวลาต่อมา[6][7]

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่สืบสวนของยูเครน พบศพ 447 ศพในสถานที่แห่งเดียวกัน ซึ่งรวมถึงศพพลเรือน 414 ศพ (ชาย 215 ศพ หญิง 194 ศพ เด็ก 5 ศพ) และศพทหาร 22 ศพ ร่างผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีร่องรอยการเสียชีวิตจากความรุนแรง และมี 30 ร่างที่มีร่องรอยการทรมานและการประหารชีวิตอย่างรวบรัด ได้แก่ เชือกที่รัดคอ มือที่ถูกมัด แขนขาที่หัก และอวัยวะเพศที่ถูกเฉือนออก[8] ส่วนคนอื่น ๆ อาจเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่และการขาดการรักษาพยาบาล[9]

ต่อมาในวันที่ 26 กันยายน วอลอดือมือร์ แซแลนสกึย ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่ามีการพบหลุมศพหมู่อีกสองหลุม "พร้อมทั้งศพหลายร้อยศพ"[10]

ภูมิหลัง[แก้]

อีซุมตั้งอยู่ในประเทศยูเครน
อีซุม
อีซุม
ที่ตั้งเมืองอีซุมในยูเครน

หลังจากที่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 การสู้รบเพื่อควบคุมเมืองอีซุมเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมเนื่องจากเมืองนี้มีความสำคัญในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งหนึ่งในภูมิภาค กองทัพรัสเซียต้องการยึดอีซุมเพื่อเชื่อมโยงกองกำลังของตนในแคว้นคาร์กิวเข้ากับกองกำลังของตนในภูมิภาคดอนบัส[11] ในวันที่ 1 เมษายน กองทัพยูเครนยืนยันว่าอีซุมตกอยู่ใต้การควบคุมของรัสเซีย[12]

หลังจากการรุกโต้ตอบที่แคว้นแคร์ซอนในช่วงปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 กองกำลังยูเครนได้เริ่มการรุกโต้ตอบในเวลาไล่เลี่ยกันในช่วงต้นเดือนกันยายนที่แคว้นคาร์กิวทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังจากที่รุกคืบเข้าไปในแนวรบรัสเซียโดยที่รัสเซียไม่ทันตั้งตัว ยูเครนก็ยึดพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรคืนมาเมื่อถึงวันที่ 9 กันยายน[13] ในวันที่ 10 กันยายน กองกำลังยูเครนยึดเมืองอีซุมคืนได้ระหว่างการรุกโต้ตอบที่แคว้นคาร์กิว พ.ศ. 2565[14][15]

รายงาน[แก้]

การขุดหลุมศพขึ้นจากหลุม

ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2565 หลังจากที่กองทัพรัสเซียถูกขับออกจากอีซุมระหว่างการรุกโต้ตอบที่แคว้นคาร์กิว มีการค้นพบหลุมฝังศพหลายหลุมในพื้นที่ป่าแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง[16] ท่ามกลางแมกไม้มีหลุมศพหลายร้อยหลุมที่มีกางเขนไม้ปักอยู่ โดยส่วนใหญ่มีหมายเลขกำกับไว้ที่กางเขนเท่านั้น ในขณะที่หลุมศพขนาดใหญ่กว่ามีเครื่องหมายระบุว่าบรรจุศพทหารยูเครนไว้อย่างน้อย 17 ศพ[16] เมื่อถึงวันที่ 16 กันยายน เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ค้นพบหลุมศพของทั้งพลเรือนและทหารแล้วมากกว่า 445 หลุม โดยการระบุตำแหน่งที่ตั้งของหลุมศพบางหลุมได้รับความช่วยเหลือจากตามารา วอลอดือมือริวนา หัวหน้าสถานประกอบพิธีศพในท้องถิ่น วอลอดือมือริวนาได้รับคำสั่งจากกองกำลังผู้รุกรานให้ระบุหมายเลขไว้ที่กางเขนเหนือหลุมศพแทนการระบุชื่อ และให้บันทึกทั้งหมายเลขและชื่อผู้เสียชีวิตลงในสมุดบันทึกประจำวัน[17]

มีการเกณฑ์นักดับเพลิงในพื้นที่ไปช่วยขุดศพขึ้นจากหลุมศพหมู่ นักดับเพลิงคนหนึ่งระบุว่าหลังจากที่พวกเขาขุดศพขึ้นมาศพหนึ่ง พวกเขาจะยืนสงบนิ่งไว้อาลัยชั่วครู่ก่อนที่จะตรวจสอบศพอย่างรวดเร็วเพื่อระบุลักษณะเฉพาะหรือสิ่งของต่าง ๆ จากนั้นจึงนำศพใส่ถุงแล้วขนย้ายไปยังสถานเก็บศพเพื่อตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมทางนิติเวช[18]

ผู้เสียชีวิตจำนวนน้อยเสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่[19] และจากการขาดการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสม[20] เจ้าหน้าที่ระบุว่าผู้เสียชีวิตบางรายถูกมัดมือไพล่หลังและมีร่องรอยการถูกทรมาน[21] ออแลห์ ซือแญฮูบอว์ ผู้ว่าการแคว้นคาร์กิวกล่าวว่า

"ศพที่ขุดได้ในวันนี้มากถึงร้อยละ 99 มีร่องรอยการเสียชีวิตจากความรุนแรง มีหลายศพถูกมัดมือไพล่หลังและมีศพหนึ่งถูกฝังพร้อมกับเชือกที่รัดคอ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเหล่านี้ถูกทรมานและประหารชีวิต นอกจากนี้ยังมีเด็กอยู่ในหมู่ศพที่ถูกฝังด้วย"[22]

ชาวเมืองอีซุมที่รอดชีวิตจากการยึดครองระบุว่ารัสเซียพุ่งเป้าไปที่บุคคลเฉพาะเจาะจง และระบุว่ารัสเซียมีรายชื่อคนในพื้นที่ที่เป็นทหาร เป็นสมาชิกครอบครัวของทหาร หรือเป็นทหารผ่านศึกสงครามในดอนบัสซึ่งเกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2557–2565[23] พวกเขายังกล่าวอีกว่าระหว่างการเลือกเหยื่อ ทหารรัสเซียจะข่มขวัญชาวเมืองด้วยการเรียกตรวจค้นโดยให้ถอดเสื้อผ้าในที่สาธารณะ[24] วอลอดือมือริวนาอ้างว่าเธอได้รับอนุญาตให้ฝังศพสมาชิกกองกำลังรักษาดินแดนและทหารบางนาย แต่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ฝังศพทหารยูเครนส่วนใหญ่และไม่รู้ว่าศพของพวกเขาอยู่ที่ใด[17]

การสืบสวน[แก้]

ศพที่ขุดขึ้นมาจากหลุม

สหประชาชาติตอบสนองต่อเหตุการณ์โดยระบุว่ามีแผนจะส่งคณะผู้สังเกตการณ์ไปยังอีซุม[25][26]

ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่สืบสวนของยูเครน มีการพบศพรวม 447 ศพ โดยแบ่งเป็นศพพลเรือน 414 ศพ (ชาย 215 ศพ หญิง 194 ศพ เด็ก 5 ศพ) ศพทหาร 22 ศพ และศพอีก 11 ศำที่ยังไม่สามารถระบุเพศได้ ณ วันที่ 23 กันยายน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีร่องรอยการเสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรง โดยมี 30 ศพที่มีร่องรอยการถูกทรมานและการประหารชีวิตอย่างรวบรัด ได้แก่ เชือกที่รัดคอ มือที่ถูกมัด แขนขาที่หัก และอวัยวะเพศที่ถูกเฉือนออก[27]

ปฏิกิริยา[แก้]

วอลอดือมือร์ แซแลนสกึย ประธานาธิบดียูเครน เปรียบเทียบการค้นพบหลุมศพหมู่ที่เมืองอีซุมว่าไม่ต่างจากการสังหารหมู่ที่เมืองบูชา ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยูเครนก็เริ่มการสอบสวนทางนิติเวช[21] บุคคลที่ทำงานในที่เกิดเหตุต่างรู้สึกว่าทั้งกระบวนการและอารมณ์ประเดประดังเข้าใส่พวกเขา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกผู้สื่อข่าวว่าเขารู้สึกว่าพวกเขาอาจต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตในอนาคต เพราะสิ่งที่พวกเขาได้เห็นจะอยู่กับพวกเขาตลอดไป[18]

รัสเซียตอบโต้ด้วยการรณรงค์บิดเบือนข้อมูลขนานใหญ่ทางสื่อสังคม โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การลดทอนความน่าเชื่อถือของการค้นพบดังกล่าวให้กลายเป็น "เรื่องที่ชาติตะวันตกกุขึ้น" หรือการอ้างว่าพลเรือนที่ถูกสังหารและฝังไว้นั้นที่จริงแล้วเป็นทหารยูเครน[28] เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงคำกล่าวอ้างของแซแลนสกึย ดมีตรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ก็อ้างว่าการสังหารหมู่ที่เมืองอีซุมและที่เมืองบูชาล้วนเป็น "เรื่องโกหก"[29]

กระทรวงการต่างประเทศสเปนออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการโดย "ประณามการสังหารหมู่ครั้งนี้" และเรียกร้องให้มีการเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและให้มีการสืบสวนอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในอีซุม[30] แอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประณามการกระทำอันโหดร้ายในอีซุมซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการยึดครองของรัสเซีย[31] จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า "น่าเศร้าที่เหตุการณ์นี้สอดประสานกับความเสื่อมศีลธรรมและความโหดร้ายที่กองทัพรัสเซียแสดงออกมาในการทำสงครามกับยูเครน"[32]

พระคาร์ดินัลกอนรัต กราแยฟสกี จากคริสตจักรคาทอลิก เดินทางออกจากเมืองซาปอริฌเฌียที่ซึ่งพระคุณเจ้าได้มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อไปร่วมกับมุขนายกเปาลอ ฮอนชารุก แห่งมุขมณฑลคาร์กิว-ซาปอริฌเฌีย ในการสวดภาวนาให้แก่ผู้เสียชีวิตและบุคคลที่ทำงานในที่เกิดเหตุ[33]

อ้างอิง[แก้]

  1. Lamb, William (15 September 2022). "A mass grave site with 440 bodies was found in Izium, a police official said". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-26.
  2. "Mass grave of more than 440 bodies found in Izium, Ukraine, police say". Reuters. 15 September 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 September 2022.
  3. Luke Harding (17 September 2022). "Izium: after Russian retreat, horrors of Russian occupation are revealed". The Guardian. Izium. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 September 2022. สืบค้นเมื่อ 17 September 2022.
  4. Koshiw, Isobel; Lorenzo, Tondo (16 September 2022). "'Some hanged themselves': the work to find answers amid Izium's mass grave". The Guardian. Izium. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-09-16.
  5. Julia Skoryk (19 September 2022). ""Przebaczyć? Nigdy! To jest nasz wielki, palący ból". Pomordowanych w Iziumie mogą być tysiące" ["Forgive? Never! This our great, burning pain". There may be thousands of murdered people in Izium.]. ukrayina.pl (ภาษาโปแลนด์ และ ยูเครน). Lviv: gazeta.pl. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 September 2022. สืบค้นเมื่อ 19 September 2022.
  6. Orlova, Alisa (2022-09-13). "Over 1,000 Civilians Killed During Russian Occupation of Izyum - Kyiv Post - Ukraine's Global Voice". Kyiv Post. สืบค้นเมื่อ 2022-11-14.
  7. "More than 1,000 civilians have died in Izium and 80% of infrastructure is destroyed – city councillor". Ukrainska Pravda (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-11-14.
  8. "В Ізюмі закінчили ексгумацію – підняли 447 тіл, серед них багато жінок, є діти". Українська правда (ภาษายูเครน). 23 September 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2022. สืบค้นเมื่อ 26 September 2022.
  9. "Ukraine says mass burial sites found in retaken town of Lyman". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 8 October 2022. สืบค้นเมื่อ 10 October 2022.
  10. Rai, Arpan; James, Liam (26 September 2022). "New mass graves found in Izyum after Russian troops flee – Ukraine live". The Independent (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 September 2022. สืบค้นเมื่อ 26 September 2022.
  11. "FIRST ON CNN: Major infrastructure in central Izyum is destroyed, new satellite images show". CNN. 25 March 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 March 2022. สืบค้นเมื่อ 17 September 2022.
  12. Свобода, Радіо (April 2022). "На Київщині ЗСУ звільнили 15 населених пунктів – зведення Генерального штабу". Радіо Свобода. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 April 2022. สืบค้นเมื่อ 17 September 2022.
  13. Njoka, Eric (9 August 2022). "Moscow sends reinforcement to Kharkiv as Ukraine claims taking several towns and villages from Russia. Is the Russian front crumbling near Kharkiv?". WIO News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 September 2022. สืบค้นเมื่อ 9 August 2022.
  14. Santora, Marc; Lukinova, Anna (10 September 2022). "Ukrainian Forces Take Key City, Igniting New Phase in War". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2022. สืบค้นเมื่อ 17 September 2022.
  15. "Ukraine war: Zelenskyy raises flag in recently recaptured Izium". Euronews. 15 September 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 16 September 2022.
  16. 16.0 16.1 Maloletka, Evgeniy (16 September 2022). "Ukraine's president says a new mass grave is found near a recaptured city". NPR. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-16.
  17. 17.0 17.1 Koshiw, Isobel; Tondo, Lorenzo (2022-09-16). "'We don't know where the rest of the bodies went': the search for answers in Izium". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-17.
  18. 18.0 18.1 Chaze, Emmanuelle (18 September 2022). "Ukraine war: Izium bodies show signs of torture and execution". Deutsche Welle (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 September 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-20.
  19. "Mass Grave Found in Ukraine Town Retaken from Russia: Zelensky". Kyiv Post. 16 September 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 16 September 2022.
  20. Bachega, Hugo; Murphy, Matt (16 September 2022). "Ukraine war: Hundreds of graves found in liberated Izyum city - officials". BBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 16 September 2022.
  21. 21.0 21.1 Harding, Luke (16 September 2022). "Ukraine says victims from Izium mass grave show signs of torture". The Guardian. Kyiv. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 16 September 2022.
  22. "Mass grave found in retaken Ukrainian city of Izyum". Financial Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2022. สืบค้นเมื่อ 16 September 2022.
  23. Tondo, Lorenzo; Koshiw, Isobel (14 September 2022). "'People disappeared': Izium's residents on Russia's occupation". The Guardian. Izium. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 16 September 2022.
  24. Tomasz Gdaniec (17 September 2022). "Rosjanie rozbierali Ukraińców na ulicach. Wiadomo, czego szukali" [The Russians were stripping Ukrainians on the streets. It's known what they were looking for] (ภาษาโปแลนด์). onet.pl. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2022. สืบค้นเมื่อ 17 September 2022.
  25. Child, David (16 September 2022). "UN to probe Izyum mass grave reports". Al Jazeera. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2022. สืบค้นเมื่อ 16 September 2022.
  26. "Ukraine: UN rights office set to probe 'mass graves' in newly liberated east". UN News. 16 September 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-17.
  27. "В Ізюмі закінчили ексгумацію – підняли 447 тіл, серед них багато жінок, є діти". Українська правда (ภาษายูเครน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-26.
  28. PAP (19 September 2022), Tak Rosja kłamie o zbrodniach w Iziumie. Oto przykłady. [This is how Russia lies about the crimes in Izium. Here are examples.] (ภาษาโปแลนด์), onet.pl, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 September 2022, สืบค้นเมื่อ 19 September 2022
  29. "Kremlin says Ukrainian war crimes claims are a lie". Reuters. 19 September 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 September 2022. สืบค้นเมื่อ 24 September 2022.
  30. "Condena a la masacre de la fosa común de Izium" [Condemnation of the massacre at the mass graves at Izium]. Ministerio de Asuntos exteriores, Unión Europea y Cooperación (ภาษาสเปน). 17 September 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2022. สืบค้นเมื่อ 19 September 2022.
  31. Fang, Xing (17 September 2022). "Macron condemns 'atrocities' in Izyum, Ukraine". Macau Business. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 September 2022. สืบค้นเมื่อ 19 September 2022.
  32. Mateusz Czmiel (17 September 2022). "Biały Dom reaguje na apel Zełenskiego. "Przerażające"" [The White House reacts to Zelenskyy's appeal. "Shocking"] (ภาษาโปแลนด์). Wirtualna Polska. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 September 2022. สืบค้นเมื่อ 17 September 2022.
  33. Capelli, Benedetta; Bordoni, Linda (20 September 2022). "Cardinal Krajewski prays before mass graves in Izium - Vatican News". vaticannews.va (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 September 2022. สืบค้นเมื่อ 20 September 2022.