รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศโบลิเวีย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศโบลิเวียทั้งสิ้น 7 แหล่ง[1]

สถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก[แก้]

แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม[แก้]

*หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
สถานที่ ภาพ ที่ตั้ง ประเภท พื้นที่
(เฮกตาร์)
ปีขึ้นทะเบียน
(พ.ศ./ค.ศ.)
หมายเหตุ อ้างอิง
นครโปโตซี แคว้นโปโตซี วัฒนธรรม:
(ii), (iv), (vi)
2,211 2530/1987 420[2]
ศูนย์เผยแผ่ศาสนาคณะเยสุอิตแห่งชิกิโตส แคว้นซานตากรุซ วัฒนธรรม:
(iv), (v)
2533/1990 529[3]
นครประวัติศาสตร์ซูเกร แคว้นชูกิซากา วัฒนธรรม:
(iv)
2534/1991 566[4]
ฟูเอร์เตเดซาไมปาตา แคว้นซานตากรุซ วัฒนธรรม:
(ii), (iii)
2541/1998 883[5]
ตีวานากู : ศูนย์กลางทางจิตวิญญาณและการเมืองของวัฒนธรรมตีวานากู แคว้นลาปาซ วัฒนธรรม:
(iii), (iv)
71.5 2543/2000 567[6]
คาปักญัน ระบบถนนแอนดีส
(ร่วมกับโคลอมเบีย, ชิลี, เปรู, อาร์เจนตินา และเอกวาดอร์)
วัฒนธรรม:
(ii), (iii), (iv), (vi)
3,642.8067;
พื้นที่กันชน 728,448.256
2557/2014 1459[7]

แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ[แก้]

*หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
สถานที่ ภาพ ที่ตั้ง ประเภท พื้นที่
(เฮกตาร์)
ปีขึ้นทะเบียน
(พ.ศ./ค.ศ.)
หมายเหตุ อ้างอิง
อุทยานแห่งชาติโนเอล เกมฟ์ เมร์กาโด แคว้นซานตากรุซ ธรรมชาติ:
(ix), (x)
1,523,446 2543/2000 967[8]

สถานที่ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น[แก้]

ประเทศโบลิเวียมีสถานที่ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นแหล่งมรดกโลกในอนาคตทั้งสิ้น 5 แห่ง[1]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "World Heritage Properties in Bolivia". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2019.
  2. "City of Potosí". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2019.
  3. "Jesuit Missions of the Chiquitos". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2019.
  4. "Historic City of Sucre". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2019.
  5. "Fuerte de Samaipata". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2019.
  6. "Tiwanaku: Spiritual and Political Centre of the Tiwanaku Culture". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2019.
  7. "Qhapaq Ñan, Andean Road System". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2019.
  8. "Noel Kempff Mercado National Park". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2019.