มาเลฟิเซนต์
มาเลฟิเซนต์ | |
---|---|
ตัวละครใน เจ้าหญิงนิทรา | |
ปรากฏครั้งแรก | เจ้าหญิงนิทรา (1959) |
สร้างโดย | มาร์ก เดวิส |
เค้าโครงจาก | เทพธิดาใจร้ายจากเทพนิยายของชาร์ล แปโร |
ให้เสียงโดย |
|
แสดงโดย |
|
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง | |
นามแฝง | ประมุขแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง นางพญาปีศาจ |
เผ่าพันธุ์ | เทพธิดา[2] |
เพศ | หญิง |
ตำแหน่ง | ประมุขแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง ราชินีแห่งมัวร์ส (ใน มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ) |
สังกัด | วายร้ายดิสนีย์ |
คนสำคัญ | เฮดีส (ใน เฮาส์ออฟเมาส์ และ เดสเซนแดนต์ส) |
บุตร | มาล (ลูกสาว; ใน เดสเซนแดนต์ส) ออโรรา (ธิดาอุปถัมภ์; ใน มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ) |
บ้านเกิด | บรรพตต้องห้าม เมืองมัวร์ส (ใน มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ) |
มาเลฟิเซนต์ (อังกฤษ: Maleficent) เป็นตัวละครที่ปรากฏเป็นตัวร้ายหลักในภาพยนตร์แอนิเมชันลำดับที่ 16 ของวอลต์ดิสนีย์โปรดักชันส์เรื่อง เจ้าหญิงนิทรา (1959) มาเลฟิเซนต์เป็นเทพธิดาใจร้ายผู้ประกาศตนเป็น "ประมุขแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง" (Mistress of All Evil) นางเป็นบุคลาธิษฐานแห่งความชั่วร้ายบริสุทธิ์และเป็นผู้เริ่มต้นของความหายนะทั้งหมดในอาณาจักรของพระเจ้าสเตฟาน ในเมื่อมิได้รับเชิญไปในพิธีล้างบาปของเจ้าหญิงออโรรา พระราชธิดาของพระเจ้าสเตฟานและพระราชินีลีอาห์ มาเลฟิเซนต์ก็สาปให้พระกุมารีทรง "ถูกเข็มปั่นฝ้ายตำพระดัชนีแล้วสิ้นพระชนม์" ก่อนตะวันลับฟ้าในวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่สิบหกของออโรรา[3] มาเลฟิเซนต์มีต้นแบบมาจากตัวละครเทพธิดาใจร้ายจากเทพนิยายเรื่อง สาวงามนิทราในป่าไพร (La Belle au Bois dormant) ของชาร์ล แปโร[4]
มาเลฟิเซนต์ถูกสร้างภาพเคลื่อนไหวโดยมาร์ก เดวิส ในภาพยนตร์ เจ้าหญิงนิทรา ปี ค.ศ. 1959 ฉบับภาษาอังกฤษ เอเลเนอร์ ออดลีย์ ให้เสียงแก่มาเลฟิเซนต์ ออดลีย์เคยพากย์เป็นคุณหญิงเทรเมน แม่เลี้ยงใจร้ายของซินเดอเรลล่า ในภาพยนตร์เรื่อง ซินเดอเรลล่า (1950) มาแล้ว[5]
การสร้างตัวละคร[แก้]
มาร์ก เดวิส (Mark Davis) สร้างตัวละครนี้ โดยตั้งใจออกแบบให้นางดูคล้ายกับค้างคาวยักษ์ดุร้าย[6] เบอร์นี แมตตินสัน (Burny Mattinson) บุคลากรดิสนีย์ กล่าวว่า มาเลฟิเซนต์ "ได้รับการออกแบบให้ดูประหนึ่งค้างคาวดูดเลือดตัวใหญ่ยักษ์เพื่อให้รู้สึกถึงภัยคุกคาม"[7]
ชื่อของตัวละครว่า "มาเลฟิเซนต์" นั้นเป็นคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษซึ่งแปลว่า ทำผิดคิดชั่ว[8] นางมีกายสีเขียว และสวมศิราภรณ์ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาสัตว์สีดำสองเขา
ในภาพยนตร์ เจ้าหญิงนิทรา ฉบับภาษาอังกฤษ เอเลเนอร์ ออดลีย์ (Eleanor Audley) ให้เสียงแก่มาเลฟิเซนต์ ออดลีย์เคยพากย์เป็นคุณหญิงเทรเมน (Lady Tremaine) แม่เลี้ยงใจร้ายของซินเดอเรลลา (Cinderella) ในภาพยนตร์เรื่อง ซินเดอเรลลา เมื่อปี 1950 มาแล้ว ผู้สร้างตัวละครมาเลฟิเซนต์ยังอาศัยกิริยาท่าทางของออดลีย์เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบมาเลฟิเซนต์ด้วย[9] โอลลี จอห์นสัน (Ollie Johnston) กับแฟรงก์ ทอมัส (Frank Thomas) นักสร้างภาพเคลื่อนไหว กล่าวไว้ในหนังสือ เดอะดิสนีย์วิลเลียน (The Disney Villain) ว่า งานพากย์เสียงครั้งนี้ของออดลีย์เป็น "งานที่ยากแต่น่าตื่นเต้น เป็นการทำงานกับเสียงแบบที่ต้องประสมสำเนียงประชดประชันเข้ากับอำนาจดุร้าย"[10]
เอริก เคลเวิร์ท (Eric Cleworth) สร้างมังกรอันเป็นร่างจำแลงของมาเลฟิเซนต์ เคลเวิร์ทกล่าวว่า มังกรตัวนี้เอางูหางกระดิ่งเป็นแม่แบบ จึงมี "กล้ามเนื้ออันทรงพลังที่เคลื่อนร่างกายอันเทอะทะไปตามเหลี่ยมผา"[7] ส่วนจิม แมกดอนัลด์ (Jim Macdonald) ซึ่งรับผิดชอบงานเสียง ได้ร้องขอให้กองทัพสหรัฐอเมริกาส่งเสียงที่บันทึกจากการฉีดเครื่องพ่นไฟ (flamethrower) มาให้ใช้เป็นเสียงลมหายใจของมังกร[9]
บทบาท[แก้]
เจ้าหญิงนิทรา[แก้]
ในภาพยนตร์แอนิเมชัน ที่นางถูกพากย์เสียงโดยเอเลนอร์ ออดลีย์ มาเลฟิเซนต์ปรากฏกายครั้งแรกโดยใช้อำนาจเหนือธรรมชาติบันดาลให้เกิดลมพายุใหญ่พัดเข้ามาท่ามกลางท้องพระโรงพระราชวังพระเจ้าสเตฟานขณะประกอบพระราชพิธีสมโภชเดือนเจ้าหญิงออโรรา ตามด้วยอสนีบาตฟาดเข้ามาหน้าพระที่นั่ง เกิดเป็นเปลวเพลิงสีเขียว แล้วนางก็แสดงตัว เมื่อมาแล้วนางก็มีกิริยานอบน้อมต่อพระเจ้าแผ่นดิน แต่กล่าววาจากระทบกระเทียบซึ่งแสดงให้เห็นว่า นางโกรธมากที่ไม่ได้รับเชิญมาในพระราชพิธีนี้เหมือนนางฟ้าองค์อื่น ๆ ครั้นแล้ว นางทูลถามพระเจ้าแผ่นดินถึงเหตุผลที่ไม่ทรงเชิญนางมา เมอร์รีเวทเทอร์ (Merryweather) นางฟ้าใจดีก็สอดขึ้นว่า เพราะ "ไม่มีใครต้องการหล่อน" นางจึงแก้เกี้ยวว่า คงเป็นเพียงการเผลอมองข้ามนางไป พระราชินีจึงตรัสขอให้นางอย่าได้ถือโทษ นางก็ทูลตอบว่า เพื่อแสดงว่า นางมิได้โกรธเกรี้ยวเลย นางจะอำนวยพรให้แก่พระกุมารี แล้วนางก็ประกาศว่า เจ้าหญิงออโรราจะเจริญพระชนม์ขึ้นเป็นสตรีผู้พร้อมทั้งความดีและความงาม เป็นที่รักของคนทั้งปวงผู้ได้พบ แต่ก่อนตะวันยอแสงในวันเฉลิมพระชนม์สิบหกชันษา เจ้าหญิงจะถูกเข็มปั่นฝ้ายตำพระดัชนีและสิ้นพระชนม์ แล้วมาเลฟิเซนต์ก็อันตรธานไป เมอร์รีเวทเทอร์ที่ยังมิได้ประทานพรให้แก่พระกุมารีจึงบรรเทาคำสาปของมาเลฟิเซนต์เป็นว่า เจ้าหญิงออโรราจะเพียงบรรทมไป และจะเสด็จจากบรรทมก็ต่อเมื่อทรงได้รับการจุมพิตด้วยรักแท้
นางฟ้าสามองค์ คือ ฟลอรา (Flora), โฟนา (Fauna) และเมอร์รีเวทเทอร์ ช่วยกันซ่อนพระราชธิดาเอาไว้จนกว่าจะพ้นวันเฉลิมพระชนม์สิบหกชันษา ขณะเดียวกัน มาเลฟิเซนต์สั่งให้ยักษ์มารซึ่งเป็นสมุนของนางช่วยกันตามหาพระราชธิดามาตลอดแต่ก็ไร้ผล นางจึงมอบหมายให้ดิอาโบล (Diablo) นกกาของนาง ออกล่าพระราชธิดา และดีอาโบลก็ได้พบ มาเลฟิเซนต์จึงมาหาพระราชธิดาในเย็นวันเฉลิมพระชนม์สิบหกชันษานั้นเอง และล่อลวงให้ทรงถูกเข็มปั่นฝ้ายทิ่มพระดัชนีสลบไปในหอคอยเปลี่ยว
เพื่อให้เป็นที่มั่นใจว่า จะไม่มีผู้ใดมาปลุกพระราชธิดาตามคำของเมร์รีเวทเทอร์ มาเลฟิเซนต์จึงจับเจ้าชายฟิลลิป รักแท้ของพระราชธิดา ไปขังไว้ในบรรพตต้องห้าม (Forbidden Mountains) อันเป็นที่พำนักของนาง แต่นางฟ้าทั้งสามมาช่วยเจ้าชายออกจากที่คุมขังได้ ความทราบถึงมาเลฟิเซนต์ นางจึงพยายามขัดขวางมิให้เจ้าชายไปถึงปราสาทที่พระราชธิดาบรรทมอยู่ โดยบันดาลให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ เช่น สายฟ้า และป่าหนาม แต่ก็ไม่เป็นผล นางจึงเหาะมาขวางหน้าเจ้าชายไว้ และกล่าวว่า จะต่อกรกับเขาด้วย "อำนาจแห่งอเวจี" แล้วจำแลงกายเป็นมังกรมหึมาเข้าประจันหน้ากับเจ้าชาย ขณะที่เจ้าชายกำลังเพลี่ยงพล้ำและใกล้ถึงความตายนั้นเอง นางฟ้าทั้งสามรวมอำนาจแห่งความดีเสกเป่ากระบี่ของเจ้าชายให้มีฤทธิ์ แล้วเจ้าชายโยนกระบี่นั้นไปปักหัวใจมังกร มังกรหมายจะกระโดดเข้ากัดกินเจ้าชายด้วยกำลังเฮือกสุดท้าย แต่ก็ตกลงจากที่ยืนลงสู่หุบเหวเบื้องล่างถึงแก่ความตาย เห็นแต่กระบี่กายสิทธิ์ปักเสื้อคลุมของมาเลฟิเซนต์ตรึงไว้กับพื้นเบื้องล่าง แล้วกระบี่นั้นกลายเป็นสนิมไป
การตอบรับ[แก้]
กิลเยอร์โม เดล โตโร (Guillermo del Toro) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเม็กซิโก ว่า มาเลฟิเซนต์เป็นมังกรในภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบมาก[11] นอกจากนี้ มาเลฟิเซนต์ยังได้รับการจัดอันดับเป็นตัวร้ายอันดับหนึ่งในเว็บไซต์อัลทิเมตดิสนีย์ และมีผู้วิจารณ์บางคนพรรณนาว่า นางเป็น "ตัวร้ายตัวจริงประจำดิสนีย์"[12]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Voice(s) of Maleficent". Behind The Voice Actors (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "How Well Do You Know... Sleeping Beauty?". Disney Insider. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 19, 2014. สืบค้นเมื่อ August 16, 2023.
- ↑ Grant, John (1998). Encyclopedia of Walt Disney's Animated Characters (2nd ed.). Hyperion. pp. 263–264. ISBN 978-0786863365.
- ↑ Rovin, Jeff (1987). The Encyclopedia of Supervillains. New York: Facts on File. pp. 252–254. ISBN 0-8160-1356-X.
- ↑ "Audley, Eleanor - D23". d23.com. September 6, 2015.
- ↑ Mosher, Max (October 30, 2012). "Will The Real Vampira Please Stand Up? ". Toronto Standard.
- ↑ 7.0 7.1 Elizabeth Bell (1995). Somatexts at the Disney Shop. From mouse to mermaid: the politics of film, gender, and culture. ISBN 9780253209788.
- ↑ "Dictionary.com". 2012. สืบค้นเมื่อ June 7, 2012.
- ↑ 9.0 9.1 "Maleficent Character History". Disney Archives.
- ↑ "Lady Tremaine and Stepsisters Character History". Disney Archives.
- ↑ "An Unexpected Party Chat transcript now available! from Weta Holics". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-30. สืบค้นเมื่อ 2014-02-09.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อvillainscountdown