พูดคุย:น้ำตาแสงไต้

ไม่รองรับเนื้อหาของหน้าในภาษาอื่น
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
น้ำตาแสงไต้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิกิประเทศไทยและสถานีย่อย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศไทย ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในโครงการนี้ได้ด้วยการช่วยกันพัฒนาบทความ น้ำตาแสงไต้ หรือแวะไปที่หน้าโครงการหรือหน้าสถานีย่อยเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
??? บทความนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาตามการจัดระดับการเขียนบทความ

จาก http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=4628863198160

ความจริงเพลงนี้เป็นเพลงนำในละครเวทีเรื่องพันท้ายนรสิงห์ ของคณะศิวารมณ์ ซึ่งเล่นกันเมื่อปี 2487 เข้าใจว่าเล่นกันที่ศาลาเฉลิมกรุง ที่มาของเพลงนั้นเป็นที่เลื่องลือในความอัศจรรย์ เพราะ ครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร์ คนแต่งเพลงซึ่งตอนนั้นเป็นนักเปียโนคอยต่อเพลงให้กับนักแสดงนั้นยังเป็นหนุ่มอยู่มาก

ว่ากันว่าปัญหาหนักอกของละครเพลงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของนักแสดง หรือ การแสดง แต่อยู่ที่เพลงนำของเรื่องซึ่งมีการลองแต่งมาแล้วแต่ยังไม่ถูกใจ เพราะ เนื้อเรื่องนั้นย้อนยุคกลับไปยังสมัย พระเจ้าเสือ ซึ่งก็นับว่าเป็นอยุธยาช่วงปลายๆแล้วครับ

เมื่อท้องเรื่องเป็นแบบนั้นท่วงทำนองก็ต้องเพลงไทยเดิมใช่มั้ยครับ ทีนี้ทางละครเขาก็เลยต้องการให้เสียงออกไปในทำนองโบราณหน่อย ก็มีการยกเอาเขมรไทรโยค กับ ลาวครวญมาตั้งเป็นโจทย์ ว่าผู้กำกับเขาอยากจะได้เพลงในลีลาแบบนี้แต่หวานเศร้าและไม่เชย

ครูแจ๋วเล่าเรื่องนี้ไว้ใน " เบื้องหลังเพลงรัก สง่า อารัมภีร์” ว่า ท่านเมากลับมานอนที่เฉลิมกรุง นอนหลับไปได้ไม่นานก็เห็นคน ๔ คน เป็นผู้หญิงหนึ่งและผู้ชายอีกสาม ผู้ชายคนแรกได้เล่นเปียโนเพลง "เขมรไทรโยค"ให้อีกสามคนฟัง พอเล่นจบ ผู้หญิงก็เล่นเปียโนเพลง "ลาวครวญ" บ้าง ต่อจากนั้นชายคนที่สองก็ลงมือเล่นเปียโนด้วยการเอาเพลงทั้งสองมาผสมผสานกัน จนเกิดเป็นเพลงใหม่ที่ไพเราะอย่างยิ่ง ส่วนชายคนที่สามยืนฟังเสียงเพลงด้วยความพอใจ ครูแจ๋วได้ยินเพลงนี้ขึ้นมาก็เลยจำไว้ในหัวทันที

เผลอแพล็บเดียวท่านก็ตื่นขึ้นมา ถึงรู้ว่าฝันไป แต่ทำนองในความฝันนั้นไม่ได้หายแว็บไปด้วย

พอบ่ายวันรุ่งขึ้นท่านก็เอาทำนองที่ชาย 4 คนร่วมประพันธ์ในฝันนั่นแหล่ะครับมาเล่นให้คนในคณะแสดงฟัง ปรากฏว่าเป็นที่ถูกใจอย่างยิ่ง พอเอาเนื้อใส่เสร็จปุ๊ปก็สำเร็จออกมาเป็นรูปเป็นร่างและเป็นเพลงอมตะเพลงนี้ทันที

เนื่องจากนางเอกของเรื่องชื่อซึ่งก็คือเมียของพันท้ายนรสิงห์ชื่อคุณนวล เพลงท่อนแรกที่แต่งจากความฝันก็เลยต้องเริ่มต้นด้วยคำว่านวล...เขาขึ้นอย่างงี้ครับ

นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ 
ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย 
น้ำตาอาบแก้ม เพียงแซมเพชรไสว 
แวววับจับหัวใจ เคล้าแสงไต้ งามจับตา 
นวลแสงเพชร เกล็ดแก้วอันล้ำค่า 
ยามเมื่อแสงไฟส่องมา แวววาวชวนชื่นชม 
น้ำตาแสงไต้ ดื่มใจพี่ร้าวระบม 
ไม่อยากพรากขวัญภิรมย์ จำใจข่มใจไปจากนวล 

เพลงนี้เศร้าแล้วก็ไพเราะมาก เพราะ คุณนวลเธอฝันร้ายก่อน ประมาณว่าไม่เห็นเงาหัวของสามีในฝันหรือไงนี่แหล่ะครับ พอเห็นเธอก็รู้ว่าต้องเกิดเรื่องร้ายกับสามีแน่ แต่บังเอิญเป็นอาญาหลวงที่จะต้องให้พันท้ายไปคัดท้ายให้เรือพระเจ้าเสือ คุณพระเอกของเราขัดคำสั่งของเหนือหัวไม่ได้ ก็ต้องไปตามหน้าที่ และต้องตายตามหน้าที่ให้เกียรติและความศักดิ์สิทธิ์ของกฏระเบียบแห่งวังยังมีอยู่

ความจริงเรื่องมันซับซ้อนกว่านี้ ประมาณว่ามีคนคิดกบถอยู่ นายท้ายอย่างพันท้ายซึ่งเก่งมาก พยายามชะลอเรือไม่ให้ไปตามกำหนดที่เหล่าเพชฌฆาตดักรออยู่ แกก็เลยแถเรือให้หัวเรือชนตลิ่งจนหัวเรือหักเสียอย่างงั้น คือช่วยชีวิตพระเจ้าเสือได้ แต่ตัวต้องรับอาญาฐานทำเรือหัก...

เขตต์อรัญกับน้ำตาแสงไต้ คอนแชร์โต้ โดย ต่อพงษ์ 31 สิงหาคม 2546 15:23 น.