ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แมงสี่หูห้าตา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
แทนที่เนื้อหาด้วย "ไฟล์:4ear5eye.jpg|right|thumb|300px|ภาพวาดแมงสี่หูห้าตาตามตำนวนวัดพ..."
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:4ear5eye.jpg|right|thumb|300px|ภาพวาดแมงสี่หูห้าตาตามตำนวนวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย โดย พระครูบาสนอง สุมะโน เมื่อปี [[พ.ศ. 2528]]]]
[[ไฟล์:4ear5eye.jpg|right|thumb|300px|ภาพวาดแมงสี่หูห้าตาตามตำนวนวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย โดย พระครูบาสนอง สุมะโน เมื่อปี [[พ.ศ. 2528]]]]
'''แมงสี่หูห้าตา''' เป็นชื่อ[[สัตว์ประหลาด]]ตัวหนึ่งใน[[ตำนาน]]ว่าด้วย[[วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว]] [[อำเภอเมืองเชียงราย]] [[จังหวัดเชียงราย]] มีลักษณะเหมือนหมีสีดำตัวอ้วน มีหูสองคู่และตาห้าดวง รับประทาน[[ถ่าน]][[ไฟ]]ร้อนเป็นอาหาร และถ่าย[[อุจจาระ|มูล]]เป็น[[ทองคำ]]


ตำนานของแมงสี่หูห้าตานั้นเกี่ยวข้องกับการสร้าง[[วัด]]พระธาตุดอยเขาควายแก้วของจังหวัดเชียงราย และเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้[[ผู้ชาย]]หลง[[รัก]][[อนุภรรยา]]มากกว่า[[เอกภรรยา]]ด้วย

== ความหมายของแมงสี่หูห้าตา ==

ตามตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนาอธิบายว่า จำนวนสี่หูและห้าตานั้นแสดงถึงหลักธรรมทางพุทธศาสนาคือ [[พรหมวิหาร 4]] และ[[ศีล 5]] ตามลำดับ เป็นการให้คติแก่พุทธศาสนิกให้พึงรักษาและปฏิบัติหลักธรรมดังกล่าว<ref>[http://board.palungjit.com//attachment.php?attachmentid=246413&d=1196683979 ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา]</ref>

== ลักษณะของแมงสี่หูห้าตา ==

ตามตำนานของ'''วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย'''เชื่อกันว่า แมงสี่หูห้าตามีลักษณะตัวอ้วนและเตี้ย มีกายภาพอย่างหมี และมีขนยาวสีดำปกคลุมร่างกาย นอกจากนี้ยังมี[[หู]]สองคู่และมี[[ตา]]ห้าดวง โดยที่ดวงตาของแมงสี่หูห้าตาเป็น[[สีเขียว]] รับประทานถ่านไฟร้อนเป็นอาหาร และมูลของแมงสี่หูห้าตานี้เป็นทองคำ อย่างไรก็ดี มิได้ปรากฏว่ามีอุปนิสัยดุร้ายหรืออย่างอื่นใด มีรูปปั้นของสัตว์นี้ปรากฏที่วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย<ref>พระครูบาสนอง สุมะโน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว (สัมภาษณ์)</ref> <ref>[http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-01.jpg เอกสารประวัติเรื่องแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย]</ref>

อีกความเชื่อหนึ่ง เช่น ตามตำนานแมงสี่หูห้าตาที่[[ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา]]แห่งจังหวัดลำพูนเขียนขึ้น ว่าลักษณะของแมงสี่หูห้าตาไว้อีกแบบหนึ่ง โดยมีลักษณะคล้าย[[ลิง]] และเรียก "พญาวานรสี่หูห้าตา" กับทั้งยังได้เชื่อมโยงสัตว์นี้เข้ากับหลักธรรมทาง[[พุทธศาสนา]]ด้วย โดยว่าจำนวนสี่หูและห้าตานั้นที่แสดงถึงหลักธรรม[[พรหมวิหาร 4]] และศีล 5<ref>[http://board.palungjit.com//attachment.php?attachmentid=246413&d=1196683979 ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา]</ref> มีรูปปั้นของพญาวานรนี้ใน[[จังหวัดลำพูน]]<ref>[http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=154133&d=1173355030 ภาพแมงสี่หูห้าตาฉนับหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา]</ref> และเป็นความเชื่อที่แพร่หลายใน[[จังหวัดเชียงใหม่]] โดยมีรูปวัตถุมงคลที่ผลิตขึ้นโดย พระโต ฐิตวิริโย<ref>[http://www.thaiblades.com/forums/showthread.php?t=13367&page=3 เวปบอร์ด "ขอแนะนำพระดีอีกองค์ในจังหวัดศรีสะเกษ หลวงพ่อเส็ง วัดปราสาทเยอใต้ - หน้า 3"]</ref> <ref>[http://www.watphrabatpangfan.com/modules/Forums/files/imga0870_189.jpg ภาพแมงสี่หูห้าตาฉบับพระอาจารย์โต ฐิตวิริโย จังหวัดเชียงใหม่]</ref>

<gallery>
ภาพ:BuffHillTem 006.jpg|รูปปั้นแมงสี่หูห้าตาบนวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย
ภาพ:4eye5eyecr02.jpg|รูปปั้นแมงสี่หูห้าตาบนวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย ที่ปั้นขึ้นมาใหม่ในปี [[พ.ศ. 2551]]
ภาพ:4ear5eye-ver2.jpg|รูปปั้นแมงสี่หูห้าตาตามตำนานของหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา อยู่ที่จังหวัดลำพูน
ภาพ:4ear5eye-ver3.jpg|รูปวัตถุมงคลแมงสี่หูห้าตา ผลิตโดยพระโต ฐิตวิริโย แห่งจังหวัดเชียงใหม่
ไฟล์:4e5e cr remake1.jpg|รูปวัตถุมงคลแมงสี่หูห้าตา ตามแบบวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย - ท่านั่ง
ไฟล์:4e5e cr remake2.jpg|รูปวัตถุมงคลแมงสี่หูห้าตา ตามแบบวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย - ท่ากินถ่านไฟแดง
</gallery>

== ตำนานแมงสี่หูห้าตา ==
ตำนานของแมงสี่หูห้าตานั้น เป็นตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา และเป็น[[จุด]][[จุดเริ่มต้น|เริ่มต้น]]ของการ[[ก่อสร้าง|สร้าง]]วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้วของจังหวัดเชียงราย ในส่วนนี้ เป็นตำนานของแมงสี่หูห้าตาตามฉบับที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งเป็นตำนานฉบับวัดดอยเขาควายแก้วของจังหวัดเชียงราย<ref>[http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-02.jpg เอกสารประวัติเรื่องแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย (หน้า 1)]</ref> ซึ่งเป็นเรื่องราวของ "อ้ายทุกคตะ" มีความว่า

ในอดีตกาล ประมาณ 1,000 กว่ามีมาแล้ว มี[[เมือง]]หนึ่งที่ชื่อ นครพันธุมติ มีพระเจ้าพันธุมติราชปกครองอย่างร่มเย็นเป็นสุข และพระเจ้าพันธุมติราชนั้นมีพระมเหสีเจ็ดพระองค์

ในเมืองนี้ มี[[ครอบครัว]]คนจนอยู่ มี 3 [[พ่อ]][[แม่]][[บุตร|ลูก]] ออกขอทานหาช้าวกินค่ำ ลูกคนนี้มีชื่อว่า "อ้ายทุกคตะ" เมื่อเขามี[[อายุ]] แค่เพียง 4 ขวบ แม่ก็มาด่วนจาก[[ตาย|เสียชีวิต]]ไป การออกขอทานของอ้ายทุกคตะนั้น ก็มีทั้งชาวบ้านที่ใจดีที่ยอมให้ทานและชาวบ้านที่ไม่ชอบหน้าได้ขับไล่ไปก็มี เมื่ออ้ายทุกคตะมีอายุได้ 12 ปี พ่อก็ให้ลูกไป[[รับจ้าง]]เลี้ยง[[วัว]]เลี้ยง[[ควาย]]ของ[[ผู้ใหญ่บ้าน]]ใน[[หมู่บ้าน]]แห่งหนึ่งของเมืองนี้ แต่ไม่กี่ปี พ่อก็มาป่วยหนัก คิดว่าจะไม่รอด จึงอบรมและสั่งเสียให้อ้ายทุกคตะเป็นคนดีมีศิลธรรม เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ เมื่อพ่อเสียชีวิต ให้ฝังศพไว้ที่ป่า จนกว่า[[หัวกะโหลก]]ของพ่อจะหลุด แล้วนำมาไหว้สัการะบูชาที่บ้าน เมื่ออายุ 17 [[ปี]] ก็ให้ลาก[[หัว]]ขึ้น[[ดอย]] ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถ้าหัวติดตรงไหน ก็ให้ฝั่ง แล้วทำ[[บ่วงแร้ว]]ดักจับสัตว์ตรงนั้น ถ้าสัตว์ตัวใดมาติดบ่วงแร้ว ให้จับมาเลี้ยงไว้

หลังจากนั้นพ่อก็เสียชีวิตลง อ้านทุกคตะทำตามคำสั่งเสียของพ่อทุกอย่าง จนกระทั่ง เมื่อมาดูศพของพอแล้ว หัวหลุด จึงทำตามคำสั่งเสียของพ่อ และเมื่อถึงเวลา อ้ายทุกคตะลากหัวพ่อจนไปติดที่หน้า[[ถ้ำ]]แห่งหนึ่ง จึงได้ทำบ่วงแร้วดักจับสัตว์ที่นั่น และหลังจากนั้น 2-3 วัน เมื่ออ้ายทุกคตะมาดู ปรากฏว่า มีสัตว์ประหลาดมาติดบ่วงแร้ว ลักษณะตัวดำ ต่ำอ้วนเหมือนหมี [[ขน]]ยาวสีดำ มีหู 4 หู และ มีตา 5 ตา จึงเป็นชื่อเรียกของ '''แมงสี่หูห้าตา'''นั่นเอง

อ้ายทุกคตะได้เห็นแมงสี่หูห้าตามาติดบ่วงแร้วนั้น ก็ไหว้ถึง[[สิ่งศักดิ์สิทธิ์]]ว่า สัตว์ประหลาดตัวนี้ ทำให้ตนเข้าใจว่า เป็นพ่อได้กลับมาเกิดเป็นแมงตัวประหลาดตัวนี้ หลังจากนั้น เขาก็นำแมงสี่หูห้าตาไปเลี้ยงที่บ้าน และล้อม[[คอก]]ไว้โดยไม่ให้ใครเห็น เอา[[ข้าว]]เอา[[น้ำ]]ให้มันกิน แต่มันก็ไม่ยอมกินอะไรที่เขาให้เลย และเขาก็ไม่มีเวลามาดูแลหรือให้ความสนใจกับแมงสี่หูห้าตามากนัก เพราะต้องเลี้ยงวัวเลี้ยงควายตามปกติ

ในช่วงนั้นเป็น[[ฤดูหนาว]] เมื่ออ้ายทุกคตะกลับมา ก็เอา[[ไม้]]มาจุดไฟเพื่อก่อกองไฟ จนเป็นถ่าน และมีถ่านหนึ่งกระเด็นออกไปหาแมงสี่หูห้าตา ด้วยความหิวกระหาย มันจึงกินถ่านไฟแดงตรงนั้น อ้ายทุกคตะเกิดความแปกใจ จึงก่อกองไฟและเขี่ยถ่านให้แมงสี่หุห้าตากินอย่างไม่ขาด วันต่อมา แมงสี่หูห้าตาได้ถ่ายขี้ออกมาเป็นทองคำจำนวนมาก เมื่อคิดได้เช่นนั้น ในแต่ละวัน อ้ายทุกคตะจึงก่อกองไฟแล้วนำถ่านไฟแดงร้อน ๆ มาให้แมงสีหูห้าตากินอย่างไม่ขาด และมันก็ขี้ออกมาเป็นทองคำทุก ๆ วัน อ้ายทุกคะก็ขุดดินฝังทองคำจนเต็ม[[ไร่]]เต็ม[[สวน]]<ref>[http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-03.jpg เอกสารประวัติเรื่องแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย (หน้า 2)]</ref>

ต่อมา ก็มีข่าวการเผยโฉมของ "พระนางสีมา" พระราชธิดาของพระเจ้าพันธุมติราช ซึ่งเป็นพระราชธีดาที่มีรูปโฉมสวยงาม จนเหล่าบรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ หลายร้อยเมือง มาขอเป็นมเหสี (ขอแต่งงาน) พระเจ้าพันธุมติราชจึงตัดสินใจว่า ถ้าต้องการพระนางสีมาเป็นมเหสี ให้สร้างรางรับ[[น้ำฝน]]ทองคำจากบ้านมายัง[[ปราสาท]] ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือเป็นไปได้ยาก แทบจะเป็นไปไม่ได้ จึงทำให้เรื่องนี้เงียบหายไป แต่อ้ายทุกคตะก็ได้ทราบถึงเรื่องนี้ด้วย จึงไปจ้างช่างทำรางรับน้ำฝนไปสร้างด้วยทองคำ และสร้างจากบ้านมายังปราสาท

หลังจากนั้น ทำให้ชาวบ้านในเมืองได้เห็นสิ่งที่หน้าประหลาด นั้นคือ รางรินน้ำทองคำ ก่ายพาดตามทาง ยาวสุดลูกหูลูกตา เมื่อพระเจ้าพันธุมติราชทรงทราบ จึงให้[[เสนาอำมาตย์]] ไปติดตาม พบว่า รางน้ำนั้นมาจากบ้านของอ้ายทุกคตะ พระเจ้าพันธุมติราชจึงสั่งการให้ทำ[[ถนน]]เป็นอย่างดีไปจนถึงบ้านของอ้ายทุกคตะ เมื่อได้ฤกษ์ยามที่ดี อ้ายทุกคตะจึงได้อภิเษกสมรสกับพระนางสีมา และจัดแต่งองค์ให้กับอ้ายทุกคตะ

หลังจากที่อ้ายทุกคตะได้อภิเษกสมรสมาเป็น[[บุตรเขย]]แล้ว พระเจ้าพันธุมติราชจึงถามเรื่องทองคำว่าได้มาจากไหน เขาก็ตอบว่าได้มาจากแมงสี่หูห้าตา [[พระราชา]]จึง สั่งให้ไปขุดทองที่บ้านในสวนจนหมด ใช้เวลา 7 วัน 7 คืนกว่าจะขุดได้หมด เพื่อเอาทองคำมาเป็น[[ทรัพย์]][[สมบัติ]] เมื่อถามถึงเรื่องตัวของแมงสี่หุห้าตาแล้ว จึงขอให้อ้ายทุกคตะไปเอาตัวมันมา แต่มันกลัวพระเจ้าพันธุมติราช จึงหลุดหนีออกไป พระราชาจึงสั่งให้เสนาอำมาตย์ไปตามจับมา ซึ่งหนีได้ 2 ครั้ง และครั้งที่ 3 จับได้จึงใส่กรง

วันหนึ่ง เมื่อพระเจ้าพันธุมติราชต้องการจะสัมผัสตัวแมงสี่หูห้าตา เมื่อเปิดกรงออก มันจึงหนีออกจากกรง พระราชาจึงวิ่งตาม จนมาถึงหน้าถ้ำอีกที่หนึ่ง พระราชาคิดว่าแมงสี่หูห้าตาวิ่งหนีเข้าไปในถ้ำ จึงตามเข้าไป ทำให้ถ้ำเกิดดินถล่มปิดปากทำ พระเจ้าพันธุมติราชจึงถูกขังอยุ่ในถ้ำ พวกเสนาอำมาตย์จึงหาไม่เจอ<ref>[http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-04.jpg เอกสารประวัติเรื่องแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย (หน้า 3)]</ref>

พระเจ้าพันธุมติราชที่ถูกขังอยู่ในถ้ำนั้น ก็ได้แต่โทษตัวเองว่า ด้วยความโลภเพราะอยากได้แมงสี่หุห้าตา จึงถูกกักขังไว้ในถ้ำแห่งนี้ และคาดว่าจะสวรรคต เมื่อถ้ำแตกออกเป็น[[รู]]เล็ก ๆ จึงเรียกพวกเสนาอำมาตย์ให้ไปตามพระมเหสีทั้ง 7 มา และสั่งให้ ทั้ง 7 คนพากันสละความอายด้วยการเปิด[[ผ้าถุง]]ให้เห็นสรีระและ[[อวัยวะ]]ภายในของมเหสีทั้ง 7 ให้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสวรรคต พระมเหสีของพระเจ้าพันธุมติราชต่างเกี่ยงกันไปเกียงกันมาด้วยความอาย ไม่กล้าเปิดผ้าถุง แต่แล้ว พระมเหสีเมียน้อยคนที่ 7 จึงตัดสละความอาย เปิดผ้าถุงให้ดู ทำให้เห็น[[อวัยวะเพศหญิง]] จึงเกิด[[สิ่งมหัศจรรย์]] มีเสียงหัวเราะจากถ้ำทำให้[[ปาก]]ถ้ำเปิด พระเจ้าพันธุมติราชหนีรอดออกมาได้ และสวมกอดมเหสีคนที่ 7 ว่าต่อไปนี้พี่จะรักเมียน้อยมากกว่าเมียหลวงต่อไป ด้วยเหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้ชายหลงรักเมียน้อยมากกว่าเมียหลวงนั่นเอง

เมื่อทั้งหมดกลับเมือง ก็มีความสงบสุขเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จนกระทั่งพระเจ้าพันธุมติราชได้สละราชสมบัติให้กับอ้ายทุกคตะซึ่งเป็นบุตรเขยได้สืบราชวงค์ต่อไป และได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "พระยาธรรมมิกะราช" และมีการเฉลิมฉลองนับ 7 วัน 7 คืน มี[[พระสงฆ์]]มาเผยแพร่[[พระพุทธศาสนา]] แล้วนำ[[พระบรมพุทธสารีริกธาตุ]]นิ้วก้อยข้างซ้ายของ[[พระพุทธเจ้า]]มาถวาย ในฐานะที่เป็นเจ้าเมือง พระยาธรรมมิกะราชจึง โปรดให้สร้างวัดวาอารามต่าง ๆ เพิ่มขึ้น และได้สร้างวัดดอยเขาควายแก้วโดยนำเอาพระบรมพุทธสารีริกธาตุวก้อยข้างซ้ายของพระพุทธเจ้าบรรจุใส่ไว้ในเจดีย์ของวัดดอยเขาควายแก้วอีกด้วย วัดนั้น สร้างตรงยอดดอยที่มีถ้ำที่แมงสี่หูห้าตามาติดบ่วงแร้วได้ที่นั่น และเป็นวัดพระธาตุดอยเขาควายเก้วของจังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน <ref>[http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-05.jpg เอกสารประวัติเรื่องแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย (หน้า 4)]</ref>

== การละเล่นแมงสี่หูห้าตา ==
การละเล่นแบบนี้ ซึ่งเป็น[[การละเล่น]]แบบ[[โบราณ]] ตามตำนานของวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้วจังหวัดเชียงราย ซึ่งสืบทอดการเล่นแบบง่าย โดยมีวิธีดังนี้ <ref>[http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-06.jpg เอกสารประวัติเรื่องแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย (หน้า 5)]</ref><ref>[http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-07.jpg เอกสารประวัติเรื่องแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย (หน้า 6)]</ref>

=== การเตรียมอุปกรณ์ ===
# [[ธูป]]หัวใหญ่ (ที่มีลักษณะคล้ายธูปงานศพ) 13 ดอก
# [[ก้อนหิน]]จำนวนหนึ่งที่สามารถใช้[[ปากกา]]หมึกซึมเขียนได้
# [[สี]]ทาบ้าน ที่มีโทนสีทอง หรือใกล้เคียง (ถ้ามี)
# [[ปากกา]]หมึกซึม หรือปากกาเขียนกระดานขาวสีใดก็ได้
# [[ถ่าน]]กองไฟ พร้อมกับไฟแช็กสำหรับจุดไฟ

=== การเตรียมการเล่น ===
# ใช้สีทาบ้านสีทอง สีเหลือง หรือใกล้เคียง ทาก้อนหินที่เตรียมมาให้เคลือบทั้งก้อน เมื่อแห้งแล้ว สามารถเขียนตัวเลขสองหลักหรือสามหลักลงบนก้อนหินได้
# ให้ผู้เล่นสวม[[เสื้อกันหนาว]] แล้ว นำก้อนหินที่ทาสีใส่เข้าไปในเสื้อ
# จากนั้น ให้ถือธูป 13 เล่มที่เตรียมมา โดยถือธูปดังนี้
## เหน็บไว้ที่เท้าข้างละ 1 ดอก (เป็นสองขาหลัง)
## เหน็บไว้ที่หูข้างละ 2 ดอก (เป็นสี่หู)
## ใช้ปากคาบธูปให้ห่างพอประมาณ 5 ดอก (เป็นห้าตา)
## ใช้มือทั้งสองข้างถือไว้ข้างละ 1 ดอก (เป็นสองขาหน้า)

=== การเล่นแมงสี่หูห้าตา ===
การเล่นแมงสี่หูห้าตา ควรเล่นในเวลากลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสม โดยเชิญชวนผู้คนมาชมการแสดงด้วย เมื่อถึงเวลาแสดงและเตรียมพร้อม ให้จุดไฟ และให้ผู้ที่เล่นเป็นแมงสี่หูห้าตาเดินวิ่งเต้นรอบกองไฟ ซึ่งเป็นลักษณะที่แมงสี่หูห้าตากำลังจะกินถ่านไฟแดง แล้วเดินไปหลอกล่อผู้ชมให้ตกใจด้วยความสนุกสนาน หลังจากนั้น ให้เปิดเสื้อกันหนาว ซึ่งเป็นลักษณะที่แมงสี่หูห้าตาถ่ายมูลออกมาเป็นทองคำ ซึ่งเป็นวิธีเล่นง่าย ๆ สำหรับการละเล่นแมงสี่หูห้าตา

การที่เขียนตัวเลขลงไปในก้อนหินนั้น ซึ่งหมายถึงเลขหวย โดยก้อนที่เขียนเลขนั้นให้ผู้ชมหยิบกลับไปเพื่อนำไปแทงหวยได้ ในขณะที่เล่นนั้นอาจร้องว่า "หวย หวย หวย ไม่รวยก็เจ๊ง" และนิยามของคำว่าหวยมากจาก 3 คำดังนี้
* ห - หายนะ
* ว - วอดวาย
* ย - ยับเยิน
การละเล่นแบบนี้ สามารถเตือนในความเชื่อเรื่องหวยได้เป็นอย่างดีว่า อย่าไปเล่นหวยมากเกินไปนั่นเอง การที่เล่นแมงสี่หูห้าตาในเวลากลางคืนนั้น ซึ่งบ่งบอกถึงสีขนของแมงสี่หูห้าตา ในตอนกลางคืนจะมองไม่เห็น เห็นแต่หัวควันธูปนั่นเอง

== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับวัดดอยเขาควายของจังหวัดเชียงราย [http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-01.jpg (1)] [http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-02.jpg (2)] [http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-03.jpg (3)] [http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-04.jpg (4)] [http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-05.jpg (5)] [http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-06.jpg (6)][http://img.photobucket.com/albums/v606/curio_lucifer/onething/45/Image-07.jpg (7)]
* [http://www.watcharathath.com/modules.php?name=News&file=article&sid=102 วัชรธาตุ ดอตคอม - ตำนาน แมงสี่หูห้าตา]
* [http://news.sanook.com/region/region_45403.php ตะลึง! แมงสี่หูห้าตา ตำนานดอยเขาควาย]
* [http://www.chiangraifocus.com/knowledge.php?id=23 นิทานล้านนา - แมงสี่หูห้าตา]
* [http://curio.exteen.com/20050123/entry เวปบล็อกเกี่ยวกับแมงสี่หูห้าตา]
* [http://board.palungjit.com//attachment.php?attachmentid=246413&d=1196683979 ตำนานแมงสี่หูห้าตา ฉบับหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา]
* [http://saengthai.org/ ข้อมูลแมงสี่หูห้าตาในเวปภาษาอังกฤษ] {{en icon}}
* [http://saengthai.org/ ข้อมูลแมงสี่หูห้าตาในเวปภาษาอังกฤษ] {{en icon}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:08, 29 ตุลาคม 2561

ภาพวาดแมงสี่หูห้าตาตามตำนวนวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย โดย พระครูบาสนอง สุมะโน เมื่อปี พ.ศ. 2528