ผู้ใช้:Warawut54/กระบะทราย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Warawut54/กระบะทราย
กำกับโดยSiu-Tung Ching , Hsu Chin Liang
แสดงนำเจ้า เหวินจั๋ว
เหอ รุ่นตง
Sonny Chiba
Wong Hei
Tao Hong
Annie Wu
Shui Ling
Sun Xing
Shen Bao Ping
Gao Shu Guang
Jiang Zu Ping
Li Jin Rong
จำนวนตอน44 ตอน

Wind and Cloud, หรือที่เรียกว่า ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า, เป็นทีวีซีรีส์ไต้หวัน ซีรีส์ออกอากาศเป็นครั้งแรกใน CTV ในไต้หวันในปี 2002 และตามมาด้วย Wind and Cloud2 ในปี 2004

เรื่องย่อ[แก้]

วัยเด็กของฟงและอวิ๋น เนื้อเรื่องของฟงอวิ๋นเริ่มต้นด้วยบุรุษนาม สงป้า ยอดฝีมือซึ่งหวังจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินตงง้วน. สงป้าได้ให้ธุลีดินทำนาย อนาคตของตนเอง ธุลีดินจึงได้ทำนายอนาคตของสงป้าไว้ว่า สงป้าจะเป็นใหญ่ได้ ถ้าได้วาตะ-เมฆา (ฟง-อวิ๋น) ช่วยเหลือ แต่ธุลีดินยังได้กล่าวอีกว่า เมฆาแปรผันไม่หยุดนิ่ง วาตะรวดเร็วพัดผ่าน ตัวธุลีดินเองก็จึงไม่สามารถทราบได้ว่าแท้จริงแล้ว ฟงและอวิ๋นอยู่หนใด. อย่างไรก็ตามหลังจากนี้สงป้าได้ก่อตั้งพรรคใต้หล้าและได้แผ่ขยายอำนาจอย่างยิ่งใหญ่ไปทั่วแดนตงง้วน.

ต่อมาเนื้อเรื่องจะกล่าวถึงเนี่ยฟง โดยเนี่ยฟงเมื่อยังเด็กอาศัยอยู่อย่างมีความสุขในชนบทกับบิดาและมารดาตามแบบ ครอบครัวชาวนาธรรมดาทั่วไป. แท้จริงแล้วบิดาของเนี่ยฟงคือ จอมดาบคลุ้มคลั่งอุดร นาม เนี่ยเหยินหวังผู้ครอบครองดาบดื่มหิมะ ที่หวังจะละทิ้งยุทธภพและใช้ชีวิตอย่างสงบกับครอบครัว ซึ่งตรงข้ามกับความต้องการของภรรยาของเขานามเหยียนอิ๋งผู้ซึ่งแต่งงานกับเนี่ยเหยินหวังก็เพื่อจะได้เป็นสตรีอันดับหนึ่งผู้สูงศักดิ์ แต่ปัจจุบันนางเป็นได้เพียง อาซ้อเนี่ย เท่านั้น. เนื่องจากเนี่ยเหยินหวังไม่ต้องการให้เนี่ยฟงยุ่งเกี่ยวกับยุทธภพ จึงไม่ได้สอนวิชาดาบให้ แต่กลับสอนเคล็ดใจน้ำแข็งซึ่ง เป็นวิชาที่ใช้ควบคุมสติอารมณ์แทน. และแล้วจุดพลิกผันชีวิตของครอบครัวเนี่ยก็มาถึง เมื่อวันหนึ่งมียอดกระบี่จากแดนทักษิณ ผู้ครอบครองกระบี่กิเลนไฟ นามต้วนซ่วย มาท้าประลองกับดาบคลุ้มคลั่งอุดร เนี่ยเหยินหวัง เพื่อวัดกันว่าใครจะเป็นจอมยุทธอันดับหนึ่งในแผ่นดิน. เนื่องจากเนี่ยเหยินหวังปฏิเสธไม่ยอมรับคำท้าประลองทำให้ ภรรยาของเขาผิดหวังมาก. ในคืนนั้นเนี่ยฟงได้ยินเสียงมารดาคุยกับบุรุษผู้หนึ่งซึ่งไม่ใช่บิดาของเขา ว่า "เจ้าตัดสินใจจะไปกับข้าแล้วใช่ไหม?" "ใช่". ยังไม่ทันที่เนี่ยฟงจะได้พูดอะไร บิดาของเขาซึ่งแอบฟังอยู่เช่นกันก็พาเนี่ยฟง บินไปยังหุบเขาที่ห่างไกล. เนี่ยเหยินหวังคลุ้มคลั่งมากกับการจากไปของภรรยา เนื่องจากเขาจงใจทิ้งเกียรติยศ ชื่อเสียง ทั้งหมดเพื่อนาง แต่นางกับทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เนี่ยเหยินหวังจับดาบดื่มหิมะอีกครั้ง และจอมดาบคลุ้มคลั่งอุดรก็กลับคืนสู่ยุทธภพ. เหตุการณ์นี้ทำให้เนี่ยฟงได้รู้ว่าสายเลือดตระกูลเนี่ยจะมี ความคลุ้มคลั่ง สืบทอดทางกรรมพันธุ์ทุกรุ่น และบิดาของเขาจึงได้ให้เขาฝึกเคล็ดใจน้ำแข็งเพื่อคุมสติตนเอง. แต่บัดนี้บิดาของเขาผู้ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดเคล็ดใจน้ำแข็ง ได้คลุ้มคลั่งและกลายเป็นปีศาจแห่งยุทธจักรที่ฆ่าคนไม่เลือก. ชีวิตที่สงบสุขของเนี่ยฟงจบลงภายในคืนเดียว คืนนั้นนั่นเอง.

จากนั้นเนื้อเรื่องจะตัดไปยังวัยเด็กของปู้จิงอวิ๋น ... ปู้จิงอวิ๋นมีบุคลิกเงียบขรึมตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยพูดจากกับคนอื่น ๆ ปู้จิงอวิ๋นอยู่กับมารดาผู้ซึ่งเป็นม่ายเพียง 2 คน ภายหลังมารดาได้แต่งงานใหม่กับ กระบี่คุณธรรม ฮั่วปู้เทียน ปู้จิงอวิ๋นจึงได้รับชื่อใหม่ว่า ฮั่วจิงเจี๋ย. ฮั่วปู้เทียนแม้มีบุตรชายอีก 2 คนแต่ก็รักจิงเจี๋ยเหมือนบุตรแท้ ๆ ของตน แม้ว่ามารดาของจิงเจี๋ยได้เสียชีวิตไปแล้ว ปู้เทียนก็ยังดูแลจิงเจี๋ยเป็นอย่างดี จนทำให้ลูกชายแท้ ๆ อีกสองคนไม่พอใจจิงเจี๋ยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามจิงเจี๋ยไม่เคยเรียกปู้เทียน ว่าพ่อ เลยแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งนี้ทำให้ปู้เทียนคิดว่าจิงเจี๋ยยังไม่ยอมรับตนเป็นบิดา. จิงเจี๋ยมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธสูง สามารถเรียนรู้เพลงกระบี่สกุลฮั่วได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้ฮั่วปู้เทียนเอ็นดูจิงเจี๋ยมากขึ้นไปอีก แต่จิงเจี๋ยก็ยังคงเงียบขรึมเหมือนเดิม. อยู่มาวันหนึ่งเหตุการณ์ ที่พลิกผันชีวิตจิงเจี๋ยก็เกิดขึ้น เมื่อพรรคใต้หล้าของสงป้าได้แผ่ขยายอำนาจมาถึงเมืองที่สกุลฮั่วอยู่. สงป้าได้ส่ง มุสิกแดง ซึ่งเป็นจอมยุทธที่มีชื่อเสียงมาขู่ให้สกุลฮั่วยอมสวามิภักดิ์ ต่อพรรคใต้หล้า. ฮั่วปู้เทียนไม่ยอมสวามิภักดิ์ จึงได้เกิดการตอนสู้ขึ้น ฮั่วปู้เทียนแม้ขับไล่มุสิกแดงไปได้ ตนเองก็ได้รับบาดเจ็บ. อย่างไรก็ตาม ในระหว่างพักรักษาตัว ได้จิงเจี๋ยคอยปรุงยาให้กินเป็นอย่างดี ฮั่วปู้เทียนจึงซาบซึ้งเป็นอย่างมาก. ฮั่วปู้เทียนได้คิดแผนรับมือพรรคใต้หล้า แต่เมื่อประเมินแล้วคิดว่ามุสิกแดงบาดเจ็บหนักกว่าตน จึงจะรอให้พ้นงานครบรอบวันเกิดของตนเองไปก่อน ค่อยคิดวิธีต่อต้านอย่างจริงจัง. ฮั่วปู้เทียนได้ขอร้องให้จิงเจี๋ย มาในงานวันเกิดของตนเพื่อที่จะได้ประกาศให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่า เขายังมีลูกชายที่น่าภูมิใจอีกคน ฮั่วจิงเจี๋ยแม้ไม่ได้เอ่ยปาก ก็พยักหน้าตกลง. ในงานวันเกิดฮั่วจิงเจี๋ยไม่ปรากฏตัว แต่กลับเป็นมุสิกแดงและ ค้างคาวไฟ พี่ชายที่ปรากฏตัวแทน ทำให้ปู้เทียนต้องรับศึกพร้อม ๆ กันถึงสองคนทั้งที่ยังไม่หายเจ็บ.

ความจริงแล้วจิงเจี๋ยไม่เคยกล่าวเรียกปู้เทียนว่าบิดาเลย แต่ก็มีความสำนึกในบุญคุณของปู้เทียนเป็นอย่างมาก และคิดที่จะเรียกบิดาในงานครบรอบวันเกิด เพื่อเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งนั่นเอง. ในวันนั้นจิงเจี๋ยไปดักรอสิงโต เพื่อที่จะนำหัวสิงโตไปมอบให้กับปู้เทียนโดยเฉพาะ ซึ่งเด็กอายุเพียง 8 ขวบอย่างเขาก็ทำสำเร็จจนได้. อย่างไรก็ตามเมื่อไปถึงบ้านสกุลฮั่ว จิงเจี๋ยกลับพบว่าบ้านตกอยู่ในกองเพลิง และบิดานั้นได้ถูกมุสิกแดง และค้างคาวไฟ สังหารต่อหน้าต่อตานั่นเอง. "ท่านพี่ ยังมีเด็กในสกุลฮั่วอีกคนนี่ ประมุขสั่งให้เราสังหารให้หมด ไม่เว้นแม้แต่ เด็ก สตรี" มุสิกแดงกล่าวถึงจิงเจี๋ย. "ไม่มีความจำเป็นที่ต้องฆ่าเด็กนั่น มันไม่ใช่คนในสกุลฮั่วหรอก" ค้างคาวไฟกล่าว "ก็ขนาดมันเห็นคนในสกุลฮั่วทุกคนถูกสังหาร มันยังไม่มีแม้นน้ำตาซักหยดเดียว". "จริงของพี่ใหญ่ ถ้างั้นเรารีบตัดหัวฮั่วปู้เทียนไปให้ท่านประมุขกันดีกว่า" มุสิกแดงกล่าวต่อไป. แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจิงเจี๋ยได้ตัดศีรษะของบิดาตนเอง แล้วรีบโยนเข้ากองเพลิงทันที. มุสิกแดงตกใจเป็นอย่างมากเนื่องจากสงป้า จะไม่ปล่อยให้พวกตนรอดแน่นอนถ้าไม่แน่ใจว่างานที่มอบหมายให้ได้เสร็จลุล่วง ไปแล้ว มุสิกแดงจึงรีบหมอบกระโจนเข้าไปในกองเพลิงอย่างตื่นตระหนกทันที. และแล้ว จิงเจี๋ยที่รอจังหวะอยู่แล้ว ก็ลงมือสังหารมุสิกแดงในขณะที่พุ่งเข้ากองเพลิงอย่างไม่ทันระวังตัว ที่แท้เด็ก 8 ขวบคนนี้ได้คำนวณทุกอย่างไว้หมดแล้ว และพร้อมที่จะแลกชีวิตกับสองจอมยุทธ์ เพื่อล้างแค้นให้บิดานั่นเอง.

รายชื่อศาตราวุธที่มีชื่อเสียง[แก้]