ผู้ใช้:Tanachat arayachutinunt/กระบะทราย

อินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะเป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องจากทั่วโลกมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ทั่วโลก ในปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทำได้ง่าย สะดวก สามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา

ในยุคแห่งสังคมข่าวสารเช่นปัจจุบัน การสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ยิ่งทวีความสำคัญมาก ขึ้นเป็นลำดับเครือข่าคอมพิวเตอร์ให้แลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกันได้โดยง่าย ในปัจจุบันมี เครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงไปทั่วโลก ผู้ใช้ในซีกโลกหนึ่งสามารถติดต่อกับผู้ใช้ในซีกโลกหนึ่ง ได้อย่างรวดเร็ว อินเทอร์เน็ต (Internet) จัดว่าเป็น เครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในยุคของสังคมข่าวสารปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตมีขอบข่ายครอบคลุมพื้นที่แทบทุกมุมโลกสมาชิกในอินเทอร์เน็ตสามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่จุดใด ๆ เพื่อส่งข่าวสารและข้อมูลระหว่างกันได้บริการข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีหลากรูปแบบและมีผู้นิยมใช้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน จากการคาดการณ์โดยประมาณแล้ว

ปัจจุบันมีเครือข่ายทั่วโลกที่เชื่อมเข้าเป็น อินเทอร์เน็ตราว 45,000 เครือข่าย จำนวนคอมพิวเตอร์ในทุกเครือข่ายรวมกันคาดว่ามีประมาณ 4 ล้านเครื่อง หรือหากประมาณจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกคาดว่ามีประมาณ 25 ล้านคนและ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เราจึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายมหึมาที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ที่สุด มีการขยายตัวสูงที่สุด และมีสมาชิกมากที่สุดเมื่อเทียบกับเครือข่ายอื่นที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน

การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันแทบจะทุกที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หมด การทำอะไรทุกๆอย่างแทบจะใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้องไปหมดไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การเรียน การค้นหาอะไรก็ตามที่สนใจ เพราะความสะดวกสบายของอินเทอร์เน็ตที่ทำให้อะไรๆมันก็ง่ายขึ้น ผู้คนจึงเริ่มหันมาให้ความสนใจและใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น

ช่องทางการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต

1.การเชื่อมต่อแบบมีสาย

- การเชื่อมต่อแบบ Dial Up เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้

- การเชื่อมต่อแบบ ISDN?(Internet Services Digital Network) เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ

-การเชื่อมต่อแบบ DSL (Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตและคุยโทรศัพท์พร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน

-การเชื่อมต่อแบบ Cable เป็นการเชื่อมอินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อมๆกับการดูทีวีได้

2.เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายในปัจจุบัน
สื่อเชื่อมต่อในระบบแบบสายที่ใช้ปกติในชีวิตประจำวันคือคลื่นความถี่ของสัญญาณวิทยุใน 3 รูปแบบ โดยแบ่งเทคโนโลยีตามระยะทางการใช้งานได้ดังนี้

• บลูทูธ ใช้ระยะใกล้แบบจุดต่อจุด
  
• วายเลสแลน WLAN เป็นพื้นที่ครอบคลุมสำหรับระบบเครือข่ายเฉพาะภายในสถานที่จำกัด
  
• เซลลูลาร์ พื้นที่ครอบคลุมกว้างขวางทั้งภายในและภายนอกสถานที่ผ่านระบบเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือ

Wirelss Local Area Network (WLAN) WiFi (Wireless Fidelity) หมาย เครือข่ายไร้สาย มักใช้กับระบบเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นในองค์กรหรือในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต HotSpot บริเวณที่ระยะทำการของพื้นที่ที่ที่มีสัญญาณ ครอบคลุม Access Point อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการปล่อยสัญญาณและเป็นตัวกลางในการเชื่อต่อคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อแบบWLANมีมาตรฐานมารองรับเพื่อให้เป็นกำหนดการใช้สัญญาณ ในย่านความถี่เดียวกันทั่วโลกโดยเรียกว่ามาตรฐานIEEE802.11(A-N)โดยใช้ความถี่ย่าน 2.45 GHZ

ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cellular) ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ปัจจุบันเป็นระบบ digital สามารถให้บริการได้ทั้งการสื่อสารทาง”เสียง”ระหว่างมนุษย์และการสื่อสาร”ข้อมูล”ระหว่างคอมพิวเตอร์โดยปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ให้บริการอยู่ ดังนี้ GPRS,EDGE,3G,WiMax

Internet of Things

Internet of Things = loT หรือ “อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” หมายถึง การที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการ ควบคุมใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การสั่งเปิด-ปิด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องมือทางการเกษตร เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

ตัวอย่างของ Internet of Things ในชีวิตประจำวัน

ดิจิตัลโฮม ระบบบ้านอัตโนมัติ หรือระบบบ้านอัจฉริยะ เป็นระบบควบคุม ตั้งโปรแกรมอัตโนมัติ ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้าน โดยการสั่งอุปกรณ์ปิด เปิด ปรับค่าต่างๆตามที่กำหนด หรือจากการปรับเปลี่ยนจากสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ แสง เป็นต้น รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย โดยมีการทำงานเชื่อมโยงทุกระบบเข้าด้วยกัน สามารถควบคุมจากภายในบ้าน หรือ ผ่านอุปกรณ์รีโมท และเมื่อเชื่อมเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตทำให้สามารถควบคุมจากสมาร์ทโฟน แทบเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ได้ไม่ว่าจากที่ใดในโลก ช่วยให้การใช้ชีวิตมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ลดความกังวล เพิ่มความปลอดภัยเมื่อไม่อยู่บ้าน

ป้ายอิเล็กทรอนิกส์ หลายๆประเทศ เริ่มที่จะมีป้ายทะเบียนรถ หรือป้ายจ่ายค่าทางด่วนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการใช้เครื่องอ่านข้างถนน ตรวจสอบว่ารถที่วิ่งผ่านไปคือรถทะเบียนอะไร หากมีการใช้งานกันอย่างทั่วถึง การติดตามรถหาย คงไม่ต้องวิ่งตามหา เพราะระบบจะแสดงข้อมูลตำแหน่งรถมายังแผนที่เอง สามารถแจ้งตำรวจให้ไปดักจับข้างหน้าได้เลย

การใช้ RFID กับสัตว์เลี้ยง ในปัจจุบัน RFID (Radio Frequency Identification คำที่ใช้ในการอธิบายถึงกระบวนการในการระบุคนหรือวัตถุโดยอัตโนมัติผ่านการใช้คลื่นวิทยุ )ถูกนำมาติดกับร่างกายของสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข หรือสัตว์ในฟาร์ม เพื่อใช้เป็นป้ายประจำตัวบอกชื่อว่าใครเป็นใคร หากท่านจะนำสุนัขของท่านไปยุโรป ท่านต้องไปให้นายทะเบียนทำป้ายอิเล็กทรอนิกส์ให้เพื่อบ่งบอกว่าใครเป็นเจ้าของ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์สัตว์ส่วนใหญ่ ก็ต้องมีการติดป้าย RFID เพื่อบอกว่าใครเป็นใคร

การติดสัญญาณกับตู้คอนเทนเนอร์ การส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ หลายแห่งเริ่มมีการควบคุม ติดเครื่องอ่านเพื่อคุ้มครองว่า สิ่งต่างๆเมื่ออยู่ระหว่างการขนส่ง ไม่มีใครเคลื่อนย้าย หรือนำสินค้าปลอมมาสลับสับเปลี่ยน หากมีใครเปิดคอนเทนเนอร์ รวมทั้งเคลื่อนย้ายสินค้าที่อยู่ระหว่างการเดินทาง เครื่องอ่าน RFID ที่ตู้คอนเทนเนอร์จะส่งสัญญาณแจ้งให้เจ้าของทราบทันที

การแสดงตำแหน่งบนโลกอินเตอร์เน็ต ทุกๆท่านที่ใช้ Smart phone ในวันนี้ ก็ถือว่าท่านเข้าสู่โลกของ Internet of things แล้วค่ะ โทรศัพท์ของท่าน ต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา และหากท่านอนุญาต มันจะส่งตำแหน่งของท่านไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก แจกให้กับเพื่อนๆที่ท่านอนุญาตให้ติดตามท่านได้อยู่แล้ว

การคมนาคม ด้านระบบจราจรและขนส่ง เช่นรถยนต์ จะมี sensor และระบบสมองกลฝังตัวที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ หรือ ระบบสื่อสารระหว่างยานพาหนะและโครงสร้างพื้นฐานจราจรเพื่อทราบสภาพจราจรล่วงหน้าเพื่อช่วยปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินทางให้หลีกเลี่ยงเส้นทางติดขัดหรือลดการสิ้นเปลือง และช่วยลดปัญหามลพิษเป็นต้น

การแพทย์ ด้านการแพทย์สาธารณสุข ก็อาจจะได้เห็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ขนาดเล็กติดตัวผู้ป่วยหรือคนชราเพื่อติดตามเฝ้าระวังอาการและสื่อสารกับแพทย์และระบบข้อมูลสุขภาพได้ตลอดเวลา เหล่านี้เป็นต้น

ความสัมพันธ์ของ Internet of Things และอินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ดี Internet of Things นี้ไม่ได้เป็นเพียงส่วนขยายของ อินเทอร์เน็ต ที่เรารู้จักกันอยู่เท่านั้น แต่จะเกิดเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของตนได้โดยพึ่งพาอยู่กับอินเทอร์เน็ต ซึ่งการเกิดประโยชน์จะเป็นในรูปแบบพึ่งพากับบริการ หรือธุรกิจใหม่ และจะสามารถครอบคลุมการสื่อสารในหลายรูปแบบ เช่น เครื่องสู่เครื่อง เครื่องสู่คนเป็นต้น