ผู้ใช้:Pakkad080

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Present Perfect แค่นี้...ก็ดีแล้ว[แก้]

Commetive Production[1] ร่วมกับ Snowbugs ltd. และเมือง Higashikawa ประเทศญี่ปุ่น ขอนำเสนอภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า "Present Perfect : แค่นี้ก็ดีแล้ว" โดยภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องนี้เป็นผลงานกำกับและเขียนบทของ อนุสรณ์ สร้อยสงิม อำนวยงานสร้างโดย ณัฐชัย จิระอานนท์

ประวัติ Present Perfect แค่นี้ก็ดีแล้ว[แก้]

เคยเป็นภาพยนตร์สั้น ความยาว 30 นาทีโดยครั้งแรกที่ออกฉายก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ยอดคนคลิกดูแตะไปถึง6 แสนครั้ง ภายในเวลาอันรวดเร็วและยังสามารถเข้าไปเป็น Official Selection ในเทศกาลหนังต่างๆทั่วโลก เช่น เทศกาล Mumbai Film Festival 2012 ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย และ Bangkok international student film festival 2013 กรุงเทพ ประเทศไทยอีกด้วย จากความสำเร็จของภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ทีมผู้สร้างได้มีความปรารถนาที่จะสร้างเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวโดยยังยึดตามการดำเนแต่เปลี่ยนสถานที่กับเหตุการณ์ระหว่างตัวละครทั้งสองโดยนำเสนอมิติของความสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น และสถานที่ถ่ายทำจากแต่เดิมเป็นเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เป็นเมือง Higashikawa ประเทศญี่ปุ่น

ข้อมูลภาพยนต์[แก้]

English Title: Present Perfect

Thai Title: แค่นี้ก็ดีแล้ว . . .

Running time: 90 minutes

Genre: Drama/Romantic/Comedy

เต้ย หนุ่มชํ้ารักจากเมืองไทย ได้หอบเอาหัวใจอันร้าวระบมข้ามนํ้าข้ามทะเล เพื่อหวังที่จะมาเยียวยาและทอดกายลงบนเมืองที่แสนสงบ ที่ชื่อว่า Higashikawa และที่นี้เองที่ทำให้เขาได้พบกับ โอ๊ต ชายที่มาเมืองนี้เพื่อบอกลากับความอิสระครั้งสุดท้ายในชีวิต มิตรภาพก่อเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองคน เพราะทั้งคู่ต่างมีชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ภายในจิตใจ ที่ต้องช่วยเยียวยา และประกอบมันขึ้นใหม่อีกครั้งก่อนจะกลับไปสู่โลกแห่งความจริง

นักแสดง[แก้]

อดิศร โทณะวณิก รับบทเป็น เต้ย[แก้]

เต้ย หนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยอารมณ์สุนทรีย์รักในศิลปะ เขาเพิ่งได้เลิกรากับแฟนสาว การมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ เหมือนการมาเยียวยาจิตใจของตนเอง เต้ยเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบไม่ค่อยพูด และไม่มั่นใจในตัวเอง....

มิโดริ ทามาเตะ (นักแสดงชาวญี่ปุ่น) รับบทเป็น ยูมิ[แก้]

ยูมิ เพื่อนสนิทของเต้ย เธอเป็นคนตลกแบบหน้านิ่ง คอยเป็นที่ปรึกษาให้ทั้งสองได้ลองอะไรแปลกใหม่ในญี่ปุ่น

กฤษณะ มฤคสนธิ รับบทเป็น โอ๊ต[แก้]

โอ๊ต ชายหนุ่มที่รักการผจญภัยเขากำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โอ๊ตจึงตัดสินใจมาใช้ชีวิตโสดในครั้งสุดท้ายที่เมืองนี้ เขามักทำให้คนรอบข้างหัวเราะอยู่เสมอลึกๆแล้วโอ๊ตเป็นคนขี้เหงา เขาจึงรู้สึกดีที่มีเต้ยอยู่ด้วยตลอดทริป

Production team[แก้]

ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้อำนวยการผลิต[แก้]

อดีตนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยปัจจุบัน คุณธัญญ์วารินมีผลงานภาพยนตร์มากมายทุกเรื่องล้วนแต่ประสบความสำเร็จและเป็นที่พูดถึงในวงกว้างเช่น “It Gets Better”, “คืนนั้น” และ “เธอ เขา เรา ผี” เป็นต้น และผลงานเรื่องล่าสุด “ปั๊มนํ้ามัน”

ณัฐชัย จิระอานนท์ ผู้อำนวยการผลิต[แก้]

นักทำหนังที่เคยสร้างผลงานไว้หนังสั้นมากมายจนสั่นคลอนวงการหนังสั้นในประเทศไทยมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังโหดอย่าง ซูชิเนื้อคน หรือหนังดราม่าหนักๆอย่าง Be-loved จนได้รับเป็น 1 ใน 5 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในโครงการ "ช้างเผือก" จากงานเทศกาลภาพยนตร์สั้นครั้งที่ 19 นอกจากนั้นเขายังเป็น 1 ใน 2 นักทำหนังที่กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคัดเลือกให้ไปในโครงการ FLY Project 2014 ที่ประเทศพม่าและญี่ปุ่นผลงานล่าสุดคือ ภาพยนตร์เรื่อง Anti-human ที่ได้รับทุน Busan bank จาก Busan filmcommissions

รอง ฮัว เชน ผู้อำนวยการผลิต[แก้]

นักทำหนังชาวสิงคโปร์ที่ทำภาพยนตร์สารคดีมาแล้วมากมาย ส่วนใหญ่เธอจะมุ่งประเด็นไปที่เสรีภาพของผู้หญิงและสิทธิของเด็ก รอง ฮัว ยังเป็น 1 เดียวในประเทศสิงคโปร์ที่ได้รับทุนFly Project 2014 ไปศึกษาเรื่อง ภาพยนตร์ ARSEAN ที่พม่าและญี่ปุ่น ล่าสุดเธอยังได้ทุน Busan Film Festival เพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับสิทธิเด็กที่ประเทศจีน ปัจจุบันเธอศึกษาปริญญาโทในด้านภาพยนตร์ที่ Sussex University ที่ ประเทศอังกฤษ

อนุสรณ์ สร้อยสงิม ผู้กำกับภาพยนตร์ / เขียนบท[แก้]

อนุสรณ์เป็นนักทำหนังรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารคดีที่ทำให้กับองการณ์สหประชาชาติและผลงานเขาเองยังที่ได้รับทุน Busan FilmCommission ประเทศเกาหลีใต้ จากหนังสารคดี Why am I left behind ที่ยกกองไปถ่ายถึงเมืองกุ้ยหยาง ประเทศจีน นอกจากนั้นเขายังสามารถกำกับหนังสั้นที่สามารถความรางวัลมากมายจากทั่วโลก เช่น Kanish Mumbai Film Festival, VIEWSTER ONLINE FILM FESTIVAL และ Bangkok International studentfilm festival ผลงานล่าสุดคือเป็นผู้จัดการกองถ่ายในภาพยนตร์ คืนนั้น


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ภาพยนตร์สั้น Present Perfect ได้ผลิตขึ้นมา ตอนนั้นเรายังไม่มีความรู้เรื่องภาพยนตร์มากนัก จึงทำออกมากระท่อนกระแท่น ไม่เป็นตามที่คาดไว้ แต่หลังจากที่หนังได้ฉายออกไป ถือเป็นต้นกำเนิดชีวิตการเป็น “นักทำหนัง” ของเรา ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ยอด Like ให้กับหนังพุ่งกระฉูด รวมถึงยอดวิวคนดูด้วย4 ปีต่อมา เราและทีมต่างมีประสบการณ์จากการทำหนัง ถึงเวลาแล้วที่จะเอาภาพยนตร์เรื่องเรารักที่สุดมาทำเป็นภาพยนตร์ขนาดยาว เรามองว่าปัจจุบันนี้ภาพยนตร์ชีวิต-โรแมนติคและตลกมีออกมาเกลื่อนเมือง และเรารู้ดีว่า ”หนังของเราเรื่องนี้มีความแตกต่าง” หนังเราไม่ดาดดื่น เราจะแสดงให้เห็นแง่ของ”ความเป็นมนุษย์ธรรมดา”ให้มากที่สุด ไม่แต่งเติมให้มันล้น ไม่ขาดตกจนดูขัดตา เพราะเราเชื่อว่าเรื่องจริงมักทำให้คนดู “อิน” ได้เสมอสุดท้ายนี้ เราในฐานะผู้กำกับและเขียนบท ภาพยนตร์เปรียบเสมือน”ลูก” เราเป็นพ่อแม่แน่นอนเรารักลูก เราจะประคบประหงม ดูแล ถ่ายทำจนภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ และเราเชื่อว่าคนดูจะรักหนังเรื่องนี้พอๆกับที่เรารักมันมากๆ…

อนุสรณ์ สร้อยสงิม 13/11/2558 เวลา 0.19 น.

แรงบัลดาลใจมาสู่ Present Perfect[แก้]

พลังนักท่องเที่ยวไทยดัน “ซากะ” จากเมืองที่ถูกลืม สู่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาเยือนจังหวัดซากะจากกระแสภาพยนตร์ดังทำให้จังหวัดที่เคยถูกโหวตจากชาวญี่ปุ่นว่าเป็น “เมืองที่ถูกลืม” กลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสื่อมวลชนของญี่ปุ่น รายงานปรากฏการณ์พิเศษที่นักท่องเที่ยวชาวไทยทำให้จังหวัดซากะ เปลี่ยนจากจังหวัดห่างไกลบนเกาะคิวชูและเคยถูกโหวตว่าเป็น “เมืองที่ไม่เคยคิดจะไป” กลายเป็นสถานที่ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในปีที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุน เคยทำการสำรวจเรื่อง “สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยคิดจะไป” โดยซากะถูกโหวตจากชาวญี่ปุ่นติดอันดับที่ 1 ถึง 2 ปีซ้อน โดยชาวญี่ปุ่นคิดว่า ซากะไม่มีอะไรน่าสนใจ และไม่มีความพิเศษที่ดึงดูดใจแต่กระแสจากภาพยนตร์เรื่อง “ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ” ทำให้นักท่องเที่ยวจาก ประเทศไทยเดินทางมาเยือนจังหวัดซากะอย่างมากมาย นอกจากนี้ทางการท้องถิ่นยังได้ผลักดันให้ซากะเป็นสถานที่ถ่ายทำละครของสถานีโทรทัศน์ nhk เรื่อง 《军师官兵卫》ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดซากะส่วนใหญ่ จะเดินทางมาจากเมืองฟุกุโอกะ ที่มีสนามบินนานาชาติ ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นของ 3 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ, ซากะ และนางาซากิ ได้ร่วมมือกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น