ผู้ใช้:Nan zuu
มะหวด
มักพบตามป่าราบและป่าดิบชื้นในทุกภาคของไทย มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ ชนิดใบเล็กยาว กับชนิดใบใหญ่
ชื่อวิทยาศาสตร์[แก้]
Lepisanthes rubiginosa (Roxb.)Leenh. Share
ชื่อวงศ์[แก้]
SAPINDACEAE
ชื่อเรียกอื่นๆ[แก้]
หวดลาว หวดคา ชันรู มะหวดบาท มะหวดลิง กำซำ กำจำ
ลักษณะ[แก้]
- ต้น เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 เมตร
- ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ซึ่งจะมีใบย่อยอยู่ 3 - 6 คู่ กว้างประมาณ 2 - 11 เซนติเมตร ยาว 3 – 30เซนติเมตร ปลายใบมีลักษณะแหลม โคนใบสอบ
ผิวใบ มีขน
- ดอก จะมีสีขาวไปจนถึงสีเหลืองอ่อนๆ ออกดอกเป็นช่อ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
- ผล จะเป็นรูปรีเว้าและเป็นพู ผิวเกลี้ยง ผลอ่อนจะมีสีเขียว และเมื่อแก่จัดจะมีสีม่วงดำ
การขยายพันธุ์[แก้]
- โดยวิธีการเพาะเมล็ด ซึ่ง มะหวด สามารถเติบโตได้ทุกสภาพพื้นดิน โดยเฉพาะดินร่วนปนทราย เพราะค่อนข้างระบายน้ำได้ดี และบริเวณที่ปลูกควรมีแสงแดดส่องถึง
ประโยชน์[แก้]
- ราก สามารถนำไปพอกที่ศีรษะเพื่อแก้อาการปวดศีรษะ รวมไปถึงแก้โรคผิวหนังและผื่นคัน
- เปลือก สามารถแก้อาการโรคบิด
- ผล / เมล็ด เหมาะสำหรับใช้เป็นยาบำรุงกำลัง เมล็ดสามารถรักษาอาการไอ อาการหอบ และอาการไข้ซางในเด็กได้
- เนื้อไม้ เหมาะสำหรับใช้ในการก่อสร้าง และนำไปทำฟืน
การอ้างอิง[แก้]