โกดังส่วนตัว[แก้]

เซลฟ์ สตอเรจ หมายถึง รูปแบบธุรกิจ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการจัดการพื้นที่เป็นโกดังเก็บสินค้าส่วนตัว ภายในตัวอาคาร ซึ่งโดยปกติแล้วจะปล่อยให้เช่าเป็นรายเดือน โกดังรูปแบบส่วนตัวนี้จะบริการ ห้อง, กุญแจ, ตู้ Containers, และ/หรือ พื้นที่ว่างเพื่อให้ผู้เช่าหรือคนที่มาใช้บริการโกดังเก็บสินค้าเข้าออกได้ง่าย ลูกค้าของโกดังส่วนตัวนี้มีทั้งธุรกิจและบุคคลทั่วไป ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีโกดังส่วนตัวมากถึง 46,000 โกดัง ในปี 2009 จากโกดังส่วนตัวทั่วโลก 58,000 โกดัง ส่วนในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทยนั้น มีให้บริการเช่นกัน

คำอธิบาย[แก้]

“self storage”เป็นนิยามใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน ย่อมาจาก “self-service storage”, “mini storage” or “mini warehouse” หรือในภาษาไทยคือ “โกดังส่วนตัว” รูปแบบการให้บริการนั้นคือ การให้เช่าพื้นที่ว่าง(โกดัง) โดยปกติบุคคลทั่วไป จะเอาไว้เก็บของใช้ในบ้าน ส่วน ภาคธุรกิจขนาดย่อมและกลางจะเก็บอุปกรณ์หรือสินค้า ต่อมาพื้นที่ให้เช่าหรือโกดังส่วนตัวนั้นจะถูกเรียกว่า units, room or locker และจะมีกุญแจส่วนตัวปิดห้องอย่างแน่นหนาพร้อมระบบการรักษาปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งฝ่ายบริหารงานธุรกิจนี้จะไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับของที่ถูกเก็บไว้ได้อันต่างจากโกดังทั่วๆไป ยกเว้นในกรณีที่ผู้เช่าไม่เสียค่าบริการ โดยทั่วไปแล้วทางบริษัทโกดังจะนำสินค้าภายในออกมาเพื่อทำการประมูลและนำเงินที่ได้มาหักกับค่าบริการส่วนเงินที่เหลือจากการประมูลจะนำไปคืนลูกค้า ทั้งนี้บริษัทโกดังส่วนตัวไม่ได้ถือว่าเป็นเจ้าของในผลิตภัณฑ์ที่ถูกเก็บไว้

สิ่งอำนวยความสะดวกนั้นประกอบด้วย ระบบกุญแจอัตโนมัติ, แม่บ้านคอยทำความสะอาด, อุปกรณ์ขนของและกล่องไว้ให้บริการ, ไฟทางเดินอัตโนมัติ, กล้องรักษาความปลอดภัย (CCTV) และ หัวจ่ายดับเพลิง โดยปกติแล้วจะตรวจระบบอยู่บ่อยๆ ส่วนสินค้านั้นตามทั่วไปแล้วจะไม่มีประกัน”own risk” ขนาดโกดังที่ปล่อยให้เช่านั้นมีหลายขนาดเริ่มตั้งแต่ 4 ตรม. เป็นต้นไป

ประวัติความเป็นมา[แก้]

แม้ว่ามีหลักฐานของโกดังในประเทศจีนสมัยก่อน, โกดังส่วนตัวรูปแบบใหม่ซึ่งมาความเป็นส่วนตัวมากกว่าไม่ปรากฏหลักฐานจนกระทั่งปี ค.ศ.1960 ในปี ค.ศ.1972 โกดังสาธารณะถูกสร้างขึ้นครั้งแรกที่ Ej Cajon, CA จากนั้นโกดังรูปแบบใหม่ค่อยๆเติบโตขึ้นในช่วง 90s ในขณะเดียวกันความต้องการใช้ โกดังส่วนตัวมากขึ้นตามไปด้วยจึงทำให้เกิดการพัฒนาของโกดังมากขึ้น จากปี ค.ศ.2000 ถึง ค.ศ.2005 โกดังส่วนตัวถูกสร้างขึ้นในแต่ละปีมากกว่า 300 โกดังด้วยกัน

โกดังส่วนตัวในวันนี้[แก้]

ช่วงปลายปี ค.ศ.2009 มีโกดังส่วนตัวมากถึง 58,000 แห่ง จาก 30,235 บริษัท ทั่วทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา หรืออีกอย่างหนึ่งคือมีโกดังส่วนตัวมากกว่า 2.35 พันล้าน ตารางฟุต ซึ่งเปรียบได้กับ 3เท่าของ เกาะManhattan โดยมี 5บริษัทยักษ์ใหญ่ถือครองอยู่ประมาณ 9%ของธุรกิจโกดังส่วนตัว ในเร็วๆนี้ ในเมืองใหญ่หลายแห่งได้นำพื้นที่มาทำโกดังส่วนตัวทำให้มีการแข่งขันที่สูงมากโดยเฉพาะในเขตที่พักอาศัยและย่านธุรกิจ

ธุรกิจโกดังส่วนตัวปล่อยให้เช่าหลากหลายขนาดให้แก่ลูกค้าทั่วไปและรูปแบบบริษัท ขนาดห้องที่นิยมกันคือ 10x5 (10 feet กว้าง 5 feet (1.5 เมตร) ลึก) หรือเทียบเท่ากับตู้ที่เดินเข้าออกได้, 10x10 (ห้องเด็ก), 10x20 (โรงเก็บรถ1คัน), 15x20 และ 20x20 (โรงเก็บรถ2คัน) โกดังนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีหน้าต่าง, กำแพงเหล็ก และ สามารถร็อกได้ ในแต่ละห้องจะเป็นประตูม้วนเหล็กขนาดประมาณรถ1คัน ทางบริษัทโกดังส่วนตัวเหล่านี้จ้าง รปภ., กล้องรักษาความปลอดภัย, สัญญาณกันขโมยที่ประตู และการ์ดเข้าออกไฟฟ้า บางแห่งจะใช้ระบบตรวจลายมือหรือนิ้วมือเพื่อสำหรับลูกค้าคนๆนั้นโดยเฉพาะ โกดังส่วนตัวสามารถเข้าได้ 24 ชั่วโมง, มีระบบควบคุมอุณหภูมิ, และไฟเปิดปิดอัตโนมัติ

บริเวณชนบทหรือนอกเมือง บริษัทโกดังส่วนตัวมีโกดังส่วนตัวแบบตึกหลังเล็กๆที่สามารถขับรถเข้าไปถึงห้องเก็บได้เลยซึ่งจะมีการระบายลมแบบธรรมชาติแต่ไม่ใช่ระบบควบคุมอุณหภูมิ โกดังแบบตึกเหล่านี้จะเรียกว่าแบบ “traditional” แต่อย่างไงก็ดีระบบควบคุมอุณหภูมิได้รับความสนใจมากขึ้น ในขณะที่โกดังส่วนตัวในเมืองมีห้องหลากหลายแบบโดยขนของผ่านทาง lift เพื่อขึ้นไปชั้นบน และระบบควบคุมอุณหภูมิจะทำงานเองในตัวของโกดัง ในบางครั้งwarehouses หรือ ร้านขายของชำ ได้เปลี่ยนตัวเองมาทำโกดังส่วนตัว อีกบริเวณหนึ่งของโกดังส่วนตัวคือ พื้นที่ขนย้ายสิ่งของ (Loading Docks) จะอยู่บริเวณชั้นล้างพร้อมกับ รถเข็น หรือ moving dollies เพื่อช่วยผู้เช่า บริษัทโกดังส่วนตัวในเมืองนั้นอาจจะอยู่ในตึกใหญ่ๆกับพื้นที่บางชั้นก็ได้ บริษัทเหล่านี้จะร่วมมือกับโรงงาน, สำนักงานและโรงเรียนรัฐบาล

หนึ่งในสิบครัวเรือนของประเทศสหรัฐอเมริกามักจะเช่าโกดังส่วนตัว 1 ห้อง ความต้องการเช่าโกดังส่วนตัวเกิดจากคนในประเทศสหรัฐอเมริกาย้ายถิ่นฐาน (40 ล้านคนอเมริกาย้ายถิ่นฐานต่อปี) และบางทีจากรูปแบบการใช้ชีวิตต่างๆ เช่น แต่งงาน, แยกทางกัน, ปลดเกษียน, คนในครอบครัวเสียชีวิต ฯลฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ.2011 เจ้าของโกดังส่วนตัว73% ลงความเห็นให้กับ selfstorage.com ว่ารายได้ปี ค.ศ. 2010 คงที่หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว

โกดังส่วนตัวทั่วโลก[แก้]

จากรายงาน (1 เดือนมิถุนายน 2006) โดย Mintel Consulting ร่วมกับ Self Storage Association รายงานว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกาโกดังส่วนตัวที่สามารถเช่าได้ประมาณ 1.6 พันล้าน ตารางfeet, ส่วนประเทศออสเตเรีย ประมาณ 22 พันล้าน ตารางfeet และราว 20 พันล้าน ในสหราชอาณาจักร ส่วนบริษัทโกดังมีประมาณ 41,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา, 1,000 โกดังในประเทศออสเตเรีย, 700 โกดังส่วนตัวใน สหราชอาณาจักร และ 220 แห่ง ใน ประเทศฝรั่งเศส

การประมูลราคาของโกดังส่วนตัว[แก้]

ในประเทศสหรัฐอเมริกา โกดังส่วนตัวสามารถจัดการประมูลห้อง หรือ นำสินค้าของลูกค้ามาประมูลเพื่อนำเงินมาหักค่าเช่าตามกฎหมาย การประมูลที่นำเอาสินค้าของลูกค้ามานั้นเปิดให้กับบุคคลทั่วไปและคนเหล่านี้มาเพื่อนำของที่ได้ไปขายทอดตลาดอีกทีหนึ่ง

ผู้จัดการโกดังส่วนตัวเป็นผู้จัดการประมูล แต่อย่างไรก็ตามลูกค้ามีสิทธิที่จะจ่ายเงินคืนจนกระทั่งเรียกคืนสินค้ากลับได้ เมื่อการประมูลของโกดังเริ่มขึ้น ผู้เสนอราคาสามารถดูสินค้าได้ แต่ห้ามเข้าไปยิบจับหรือเคลื่อนย้ายจนกระทั่งหลังการประมูลเสร็จสิ้น การขายมักจะทำในรูปแบบ "as-is," หมายถึง ผู้ซื้อได้ของทุกๆอย่างในโกดังห้องนั้นและจะต้องเคลื่อนย้ายของเอง

ในฤดูใบไม้ร่วง ปี ค.ศ. 2010, มีการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ เกี่ยวกับการประมูลสินค้าของโกดังส่วนตัว ชื่อ "Storage Wars" และ "Auction Hunters" ผลที่ตามมาคือผู้คนให้ความสนใจในการประมูลสินค้าโกดังส่วนตัวจนทำให้เกิดปัญหากับเจ้ากิจการโกดังส่วนตัว

ข้อความทั้งหมดอ้างอิงมาจาก การแปลโดย citystorage จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Self_storage[แก้]