จิตวิทยาคลินิก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

-จิตวิทยาคลินิก (Clinical Psychology) คือ สาขาหนึ่งของวิชาจิตวิทยา (Psychology) ที่มีองค์ประกอบของข้อมูลวิชาความรู้ที่หลากหลายทั้งทางวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ นอกเหนือไปจากวิชาจิตวิทยาในแขนงต่าง ๆ (จิตวิทยาพัฒนาการทุกช่วงวัย จิตวิทยาบุคลิกภาพ จิตวิทยาการเรียนรู้ จิตวิทยาแรงจูงใจ จิตวิทยาการรับรู้ ฯลฯ) ที่จำเป็นต่อการเข้าใจบุคคลแล้ว วิชาจิตวิทยาคลินิกยังต้องการองค์ความรู้อื่นที่สำคัญ อาทิ องค์ความรู้ด้านจิตเวช (Psychiatry) จิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) ประสาทวิทยา (Neurology) ประสาทจิตวิทยา (Neuropsychology) สารเสพติดและการติดยา นิติจิตเวช (Forensic Psychiatry) จิตเวชเด็กและวัยรุ่น การทำจิตบำบัดและการให้การปรึกษา (Psychotherapy and Counseling) พฤติกรรมบำบัด การฟื้นฟูดูแลทางด้านจิตใจ และ การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือทางจิตวิทยาคลินิก เป็นต้น

ผู้รับบริการด้านจิตวิทยาคลินิก ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้ป่วยจิตเวชหรือผู้มีอาการทางจิตเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทและสมอง ผู้ป่วยโรคทางด้านร่างกายอื่น ๆ ที่มีปัญหาทางจิตใจอารมณ์หรือพฤติกรรมร่วมด้วย นอกจากนี้ บุคคลทั่วไปที่มีประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้เกิดความเครียด ความเศร้า ความกลัว หรือความรู้สึกไม่สามารถปรับตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ก็สามารถรับบริการจิตวิทยาคลินิกได้เช่นกัน หรือแม้แต่ปัญหาพฤติกรรม ปัญหาครอบครัว คู่สมรส หรือปัญหาด้านสัมพันธภาพต่าง 

นักจิตวิทยาคลินิก[แก้]

นักจิตวิทยาคลินิก คือ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาด้านจิตวิทยาสาขาจิตวิทยาคลินิก (Clinical psychology) และมีใบประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก นักจิตวิทยาคลินิกส่วนใหญ่ปฏิบัติงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในหน่วยงานทางการแพทย์และสถานพยาบาลต่าง ๆ นักจิตวิทยาคลินิกเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ให้การรักษาทางการแพทย์ อาทิงานจิตเวชศาสตร์ (Psychiatry) งานระบบประสาทและสมอง (Neuroscience) งานเวชกรรมป้องกัน งานเวชศาสตร์ฟื้นฟู งานยาเสพติด จิตเวชเด็กและวัยรุ่น งานเวชศาสตร์ครอบครัว งานนิติจิตเวช เป็นต้น

อาชีพหลังเรียนจบ ได้แก่ นักจิตวิทยาคลินิก, ผู้ให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา, นักวิชาการด้านสุขภาพจิต

บทบาทหน้าที่หลักของนักจิตวิทยาคลินิก ได้แก่ งานตรวจวินิจฉัยและการบำบัดรักษา ผู้ที่มีปัญหาทางจิตใจ ความคิด อารมณ์ พฤติกรรม และสัมพันธภาพ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งผู้ป่วยจิตเวชหรือบุคคลทั่วไปที่อาจมีปัญหาดังกล่าว อาทิผู้มีสภาพจิตใจย่ำแย่หลังจากประสบเหตุการณ์ร้ายแรงหรือความเครียดต่าง ๆ ทั้งที่เป็นแบบชั่วคราวหรือถาวร การบำบัดรักษาจะช่วยให้อาการเหล่านั้นบรรเทาลง และช่วยให้บุคคลเกิดการปรับตัวต่อสถานการณ์และใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขมากขึ้น นอกเหนือจากนี้ นักจิตวิทยาคลินิกยังมีบทบาทในงานส่งเสริมป้องกันหรืองานจิตเวชชุมชน งานวิจัย ตลอดจนการดูแลฝึกอบรม

การสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ (License) สาขาจิตวิทยาคลินิก[แก้]

เนื่องจากวิชาชีพจิตวิทยาคลินิกมีลักษณะการทำงานที่มีแนวปฏิบัติแตกต่างจากวิชาชีพจิตวิทยาสาขาอื่น โดยเฉพาะในด้านการตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยา ในปีพุทธศักราช 2546 มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาจิตวิทยาคลินิกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2546 ณ วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งเหตุผลหนึ่งในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือ สาขาจิตวิทยาคลินิกเป็นสาขาหนึ่งที่กระทำต่อมนุษย์โดยตรง การวินิจฉัย การบำบัดความผิดปกติทางจิตอันเนื่องมาจากภาวะทางจิตใจ บุคลิกภาพ เชาวน์ปัญญา อารมณ์ พฤติกรรมการปรับตัว ความเครียด หรือพฤติกรรมผิดปกติอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพทางสมอง ด้วยวิธีเฉพาะทางจิตวิทยาคลินิก อันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่มารับบริการ[1]

โดยมีค่าสอบใบประกอบโรคศิลปะ 25,000 บาท (ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อการลงทะเบียนสมัครสอบ 1,050 บาท) และต้องต่ออายุใบอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะต้องเก็บหน่วยคะแนนหรือเครดิตการพัฒนาความรู้ความสามารถทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง จํานวน 50 หน่วยคะแนน ภายใน 5 ปีก่อนวันครบกําหนดอายุใบอนุญาต

โดยเนื้อหาการสอบประกอบไปด้วย:[2]

  1. การสอบข้อเขียน : ทุกวิชาต้องผ่าน 60% ขึ้นไป
    1. วิชากฎหมายที่เกี่ยวกับวิชาชีพ (ปรนัย 50 ข้อ)
      • พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
      • พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
    2. วิชาชีพจิตวิทยาคลินิก
      • ปรนัย 100 ข้อ 60 คะแนน
        • การตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยาคลินิก
        • การบําบัดทางจิตวิทยาคลินิก
        • จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพของผู้ประกอบโรคศิลปะ
        • การศึกษาค้นคว้าวิจัยทางจิตวิทยาคลินิก
        • การประยุกต์จิตวิทยาคลินิกเข้าสู่ชุมชน และศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
      • ข้อสอบอัตนัย 40 คะแนน - มีเนื้อหาเกี่ยวกับทักษะ การตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยาคลินิก
  2. สอบสัมภาษณ์ (สามารถสอบได้เมื่อสอบผ่านรอบการสอบข้อเขียน)

ช่องทางการรับสมัครสอบ มีดังนี้

  1. สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
  2. ยื่นผ่านระบบออนไลน์
  3. ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ชั้น 1 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

ผู้ที่จบการศึกษาสาขาจิตวิทยาคลินิก แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก จะสามารถปฏิบัติงานทางจิตวิทยาคลินิกได้โดยปฏิบัติงานอยู่ภายใต้การดูแลของผู้มีใบประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก แต่ไม่มีสิทธ์เซ็นต์เอกสารใบรับรองที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย

  • ผู้ที่จบการศึกษาปริญญาตรีหรือปริญญาโทสาขาอื่นนอกเหนือจากจิตวิทยาคลินิก ไม่สามารถสอบ License จิตวิทยาคลินิกได้
  • หากไม่ผ่านหลักสูตร internship จะไม่สามารถสอบ License ได้
  • เมื่อไปทำงานที่ประเทศใดก็ต้องสอบ License ประเทศที่นั้น
  • ผู้ที่จบหลักสูตรจิตวิทยาคลินิกจากต่างประเทศ สามารถสมัครหลักสูตร internship เพื่อสอบ License โดยทำเรื่องเสนอคณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิก พิจารณารับรองคุณสมบัติ

จิตวิทยาคลินิกกับงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู[แก้]

งานจิตวิทยาคลินิกมีส่วนสำคัญต่อการบำบัดฟื้นฟูมาก เนื่องจากผู้พิการหรือผู้ที่สูญเสียสมรรถภาพทางกายย่อมมีสภาพจิตใจแย่ลง หน้าที่ของนักจิตวิทยาคือการประเมินด้วยแบบทดสอบต่าง ๆ ให้การปรึกษาและการรักษาทางจิตวิทยาร่วมกับจิตแพทย์และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดการปรับสภาพจิตใจภายหลังเกิดความพิการได้

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ที่ดำเนินกิจกรรมกลุ่มบำบัดร่วมกับพยาบาลเวชศาสตร์ฟื้นฟูและบุคลากรอื่น ๆ ให้การปรึกษาเป็นรายบุคคล คัดกรองผู้มีความเสี่ยงสูง และร่วมวางแผนการรักษาฟื้นฟูกับทีมงานเวชศาสตร์ฟื้นฟูอีกด้วย

งานจิตวิทยาคลินิกในต่างประเทศ[แก้]

งานจิตวิทยาคลินิกเริ่มเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 และได้ถือว่ามีกำเนิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1896 ที่มหาวิทยาลัยแห่งเมืองเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา งานจิตวิทยาคลินิกในต่างประเทศโดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรปมีความก้าวหน้ามาก มีการให้บริการในทุกโรงพยาบาลในเมืองใหญ่ ๆ มีการฝึกอบรมในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และงานวิจัยต่าง ๆ ก็ถูกตีพิมพ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง

งานจิตวิทยาคลินิกในประเทศไทย[แก้]

สถาบันการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดหลักสูตรจิตวิทยาคลินิกคือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่[3] เมื่อปี พ.ศ. 2507

ปัจจุบัน นักจิตวิทยาคลินิกในประเทศไทยปฏิบัติงานอยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาล โรงพยาบาลศูนย์(ประจำจังหวัด) โรงพยาบาลประจำอำเภอใหญ่ ๆ โรงพยาบาลจิตเวช โรงพยาบาลประสาท(ระบบประสาทและสมอง) ตลอดจนโรงพยาบาลในสังกัดสถาบันการศึกษาต่าง ๆ สถาบันด้านพัฒนาการเด็กและวันรุ่ย สถาบันธัญญารักษ์ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โรงเรียนเด็กพิเศษ และศูนย์บริการสาธารณะสุขเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นต้น

เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเรียนการสอนสาขาจิตวิทยาคลินิกในประเทศไทย จึงมีจำนวนผู้ที่ปฏิบัติงานในวิชาชีพนี้จำนวนไม่มากนัก โดยในปี พ.ศ. 2556 ประเทศไทยมีนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะประมาณ 700 คน (ข้อมูล พ.ศ. 2560)

สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรจิตวิทยาคลินิก[แก้]

จิตวิทยาคลินิกเป็นสาขาวิชาหรือวิชาเอกหนึ่งในหลักสูตรจิตวิทยา เปิดสอนในระดับอุดมศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโทเป็นต้นไป) โดยในระดับปริญญาตรี นิสิต-นักศึกษาจะสามารถเลือกเรียนได้ตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 ยกเว้นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่แยกสาขาวิชาตั้งแต่การเลือกอันดับคณะในการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (ปัจจุบัน คือ TCAS) เช่นเดียวกับระดับบัณฑิตศึกษาที่เปิดสอนเป็นสาขาวิชาหรือแขนงวิชาเอกตามหลักสูตรที่กำหนด และเมื่อจบการศึกษาแล้ว บัณฑิตสามารถสอบเพื่อขอรับใบอนุญาต (License) เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก โดยบัณฑิตทุกคนต้องเข้าอบรมหลักสูตร "การฝึกปฏิบัติงานด้านจิตวิทยาคลินิก" หรือ Internship ในสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิก เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ความสามารถที่จำเป็นต่อวิชาชีพ เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือนเสียก่อน

ระดับ สถาบัน คณะ วุฒิการศึกษา เพิ่มเติม
ปริญญาตรี

Bachelor's degree

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Chiang Mai University คณะมนุษยศาสตร์ Faculty of Humanities วท.บ. (จิตวิทยา) B.Sc. (Psychology)
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ Thammasat University คณะศิลปศาสตร์ Faculty of Liberal Arts วท.บ. (จิตวิทยา) B.Sc. (Psychology) หลักสูตรปรับปรุงปี พ.ศ. 2566 ได้ยุบสาขาจิตวิทยาคลินิกลงและจัดเป็นหลักสูตรจิตวิทยาทั่วไป
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Kasetsart University คณะสังคมศาสตร์ Faculty of Social Sciences วท.บ. (จิตวิทยา) B.S. (Psychology)
มหาวิทยาลัยนเรศวร Naresuan University คณะสังคมศาสตร์ Faculty of Social Sciences วท.บ. (จิตวิทยา) B.S. (Psychology)
มหาวิทยาลัยรามคำแหง Ramkhamhaeng University คณะศึกษาศาสตร์ Faculty of Education วท.บ. (จิตวิทยา) B.S. (Psychology) ปัจจุบันยังปิดปรับปรุงหลักสูตรและยังไม่ทราบกำหนดการเปิดรับที่แน่ชัด
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม Mahasarakham University คณะศึกษาศาสตร์ Faculty of Education วท.บ. (จิตวิทยา) B.Sc. (Psychology)
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ Prince of Songkla University คณะศึกษาศาสตร์ Faculty of Education วท.บ. (จิตวิทยา) B.Sc. (Psychology)
วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ Saint Louis College คณะจิตวิทยา Faculty of Psychology วท.บ. (จิตวิทยา) B.Sc. (Psychology)
ปริญญาโท

Master's degree

มหาวิทยาลัยมหิดล Mahidol University คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล Faculty of Medicine Siriraj Hospital วท.ม. (จิตวิทยาคลินิก) M.S. (Clinical Psychology) หลักสูตรภาคปกติ (จันทร์-ศุกร์) ได้รับการรับรองให้เป็นหลักสูตรแรกที่รวมหลักสูตรการฝึกปฏิบัติงานด้านจิตวิทยาคลินิก (internship) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560
มหาวิทยาลัยรามคำแหง Ramkhamhaeng University คณะศึกษาศาสตร์ Faculty of Education วท.ม. (จิตวิทยา)

M.S. (Psychology)

ปัจจุบันยังปิดปรับปรุงหลักสูตรและยังไม่ทราบกำหนดการเปิดรับที่แน่ชัด
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Chiang Mai University คณะมนุษยศาสตร์ Faculty of Humanities วท.ม. (จิตวิทยาคลินิก) M.S. (Clinical Psychology) หลักสูตรภาคพิเศษ (เสาร์-อาทิตย์)
ปริญญาเอก

Doctor of Philosophy

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ถาม-ตอบ การสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก". สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทย.
  2. ชยาภรณ์ ศรีสมุทรนาค. "การสอบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ สาขาจิตวิทยาคลินิก" (PDF). สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทย.
  3. "การก่อตั้งคลินิกสุขวิทยาจิต-การพัฒนาเป็นศูนย์สุขวิทยาจิต และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์". สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทย.
  • ดัดแปลงจากตำราเวชศาสตร์ฟื้นฟู นพ.เสก อักษรานุเคราะห์ บก. จัดพิมพ์โดยสมาคมเวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย.