ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความบอดการเห็นเป็น 3 มิติ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
InternetArchiveBot (คุย | ส่วนร่วม)
Add 1 book for WP:V (20220914)) #IABot (v2.0.9.1) (GreenC bot
บรรทัด 9: บรรทัด 9:
ผู้ที่ไม่เห็นเป็น 3 มิติแต่มีตาดีทั้งสองข้างก็ยังใช้[[การเห็นเป็นภาพเดียวด้วยสองตา]]ได้ในระดับหนึ่ง แม้จะน้อยกว่าคนปกติ
ผู้ที่ไม่เห็นเป็น 3 มิติแต่มีตาดีทั้งสองข้างก็ยังใช้[[การเห็นเป็นภาพเดียวด้วยสองตา]]ได้ในระดับหนึ่ง แม้จะน้อยกว่าคนปกติ
งานศึกษาหนึ่งได้แสดงว่า เมื่อให้ตัดสิน[[ทิศทาง]]การหมุนของรูป[[ทรงกระบอก]]โปร่งใสแบบ[[ความเป็นจริงเสมือน|เสมือน]]
งานศึกษาหนึ่งได้แสดงว่า เมื่อให้ตัดสิน[[ทิศทาง]]การหมุนของรูป[[ทรงกระบอก]]โปร่งใสแบบ[[ความเป็นจริงเสมือน|เสมือน]]
ผู้ที่ไม่เห็นเป็น 3 มิติจะทำด้วยสองตาได้ดีกว่าใช้ตาข้างที่ถนัด และปรากฏว่า ตัดสินทิศทางของรูปที่หมุนในตาแต่ละข้างต่างหาก ๆ แล้วรวมการตัดสิน ไม่ได้อาศัยความต่างของรูปที่เห็นโดยตาสองข้าง (ที่คนปกติจะใช้)<ref>{{cite journal|author1=Christa M. van Mierlo|author2=Eli Brenner|author3=Jeroen B.J. Smeets|title=Better performance with two eyes than with one in stereo-blind subjects' judgments of motion in depth|journal=Vision Research|volume=51|issue=11|year=2011|pages=1249–1253|doi=10.1016/j.visres.2011.03.015|pmid=21458479|s2cid=615787|doi-access=}}</ref> นอกจากนั้น สิ่งเร้าแบบเคลื่อนไหวที่เห็นด้วยสองตา ดูจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกว่าตัวเองเคลื่อนไหวของบุคคล<ref>{{cite journal|author1=Jeremy M. Wolfe|author2=Richard Held|author2-link=Richard Held|title=Cyclopean stimulation can influence sensations of self-motion in normal and stereoblind subjects|journal=Perception & Psychophysics|date=March 1980|volume=28|issue=2|pages=139–142|doi=10.3758/bf03204339|pmid=7432987 |doi-access=free}}</ref> อีกอย่างหนึ่ง ในบางกรณี ตาแต่ละข้างจะมีบทบาทในการมองเห็นรอบนอก (peripheral vision) ในแต่ละข้างของขอบเขตภาพ
ผู้ที่ไม่เห็นเป็น 3 มิติจะทำด้วยสองตาได้ดีกว่าใช้ตาข้างที่ถนัด
และปรากฏว่า ตัดสินทิศทางของรูปที่หมุนในตาแต่ละข้างต่างหาก ๆ แล้วรวมการตัดสิน ไม่ได้อาศัยความต่างของรูปที่เห็นโดยตาสองข้าง (ที่คนปกติจะใช้)<ref>{{cite journal | authors = van Mierlo, Christa M; Brenner, Eli; Smeets, Jeroen BJ | title = Better performance with two eyes than with one in stereo-blind subjects’ judgments of motion in depth | journal = Vision Research | volume = 51 | issue = 11 | year = 2011 | pages = 1249-1253 | doi = 10.1016/j.visres.2011.03.015 | pmid = 21458479}}</ref>
นอกจากนั้น สิ่งเร้าแบบเคลื่อนไหวที่เห็นด้วยสองตา ดูจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกว่าตัวเองเคลื่อนไหวของบุคคล<ref>{{cite journal | authors = Wolfe, Jeremy M; Held, Richard | url = https://link.springer.com/article/10.3758%2FBF03204339 | title = Cyclopean stimulation can influence sensations of self-motion in normal and stereoblind subjects | journal = Perception & Psychophysics | date = 1980-03 | volume = 28 | issue = 2 | pages = 139-142 | doi = 10.3758/bf03204339}}</ref>
อีกอย่างหนึ่ง ในบางกรณี ตาแต่ละข้างจะมีบทบาทในการมองเห็นรอบนอก (peripheral vision) ในแต่ละข้างของขอบเขตภาพ


== กรณีดัง ==
== กรณีดัง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:57, 21 พฤศจิกายน 2566

ความบอดการเห็นเป็น 3 มิติ หรือ ความไม่เห็นเป็น 3 มิติ (อังกฤษ: Stereoblindness, stereo blindness) เป็นความไม่สามารถเห็นเป็น 3 มิติ ทำให้ไม่สามารถรู้ความใกล้ไกลด้วยตาทั้งสองผ่านการรวมและเปรียบเทียบภาพจากตาทั้งคู่โดยสมอง บุคคลที่สามารถใช้ตาเพียงข้างเดียวจะมีภาวะนี้แน่นอน แต่ก็อาจเกิดเมื่อตาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมควร

ผู้ที่ไม่เห็นเป็น 3 มิติแต่มีตาดีทั้งสองข้างก็ยังใช้การเห็นเป็นภาพเดียวด้วยสองตาได้ในระดับหนึ่ง แม้จะน้อยกว่าคนปกติ งานศึกษาหนึ่งได้แสดงว่า เมื่อให้ตัดสินทิศทางการหมุนของรูปทรงกระบอกโปร่งใสแบบเสมือน ผู้ที่ไม่เห็นเป็น 3 มิติจะทำด้วยสองตาได้ดีกว่าใช้ตาข้างที่ถนัด และปรากฏว่า ตัดสินทิศทางของรูปที่หมุนในตาแต่ละข้างต่างหาก ๆ แล้วรวมการตัดสิน ไม่ได้อาศัยความต่างของรูปที่เห็นโดยตาสองข้าง (ที่คนปกติจะใช้)[1] นอกจากนั้น สิ่งเร้าแบบเคลื่อนไหวที่เห็นด้วยสองตา ดูจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกว่าตัวเองเคลื่อนไหวของบุคคล[2] อีกอย่างหนึ่ง ในบางกรณี ตาแต่ละข้างจะมีบทบาทในการมองเห็นรอบนอก (peripheral vision) ในแต่ละข้างของขอบเขตภาพ

กรณีดัง

มีผู้เสนอว่า จิตรกรคนดังชาวดัตช์แร็มบรันต์อาจไม่เห็นเป็น 3 มิติ ซึ่งช่วยเขาให้แสดงภาพ 3 มิติโดยวาดเป็น 2 มิติได้ดี[3][4] นักวิทยาศาสตร์ได้เสนอว่า ดูเหมือนจะมีจิตรกรที่ไม่เห็นเป็น 3 มิติมากเมื่อเทียบกับคนที่มองเห็นภาพ 3 มิติได้ชัด[5]

ในปี พ.ศ. 2555 มีรายงานว่า คนไข้ฟื้นสภาพจากภาวะไม่เห็นเป็น 3 มิติโดยดูภาพยนตร์ 3 มิติ[6]

ดูเพิ่ม

เชิงอรรถและอ้างอิง

  1. Christa M. van Mierlo; Eli Brenner; Jeroen B.J. Smeets (2011). "Better performance with two eyes than with one in stereo-blind subjects' judgments of motion in depth". Vision Research. 51 (11): 1249–1253. doi:10.1016/j.visres.2011.03.015. PMID 21458479. S2CID 615787.
  2. Jeremy M. Wolfe; Richard Held (March 1980). "Cyclopean stimulation can influence sensations of self-motion in normal and stereoblind subjects". Perception & Psychophysics. 28 (2): 139–142. doi:10.3758/bf03204339. PMID 7432987.
  3. Marmor M. F., Shaikh S., Livingstone M. S., Conway B. R., Livingstone, MS; Conway, BR (2004-09). "Was Rembrandt stereoblind?". N. Engl. J. Med. 351 (12): 1264–5. doi:10.1056/NEJM200409163511224. PMC 2634283. PMID 15371590. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |laydate= ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |laysource= ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |laysummary= ถูกละเว้น (help)CS1 maint: uses authors parameter (ลิงก์)
  4. "Rembrandt (van Rijn)".
  5. "A defect that may lead to a masterpiece". New York Times. 2011-06-13.
  6. Peck, Morgen (2012-07-19). "How a movie changed one man's vision forever". BBC News. สืบค้นเมื่อ 2012-07-20.

No.4 is linked to a pill sale site. Please correct to https://web.archive.org/web/20060210012412/http://www.artinthepicture.com/artists/Rembrandt/

แหล่งข้อมูลอื่น