ริชาร์ด อาร์โนลด์
ริชาร์ด อาร์โนลด์ (อังกฤษ: Richard Arnold; เกิด 26 เมษายน 1971) เป็นนักบัญชีชาวอังกฤษ ซึ่งเขาเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ระหว่างปี ค.ศ. 2022–2023 โดยเขารับตำแหน่งต่อจาก เอ็ด วู้ดเวิร์ด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022[1][2]
การศึกษา[แก้]
อาร์โนลด์ได้รับการศึกษาที่ โรงเรียนคิงส์สคูล เชสเตอร์ และ มหาวิทยาลัยบริสตอล ในสหราชอาณาจักร โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขา ชีววิทยา ในปี ค.ศ. 1993 เขาผ่านการรับรองเป็นนักบัญชีชาร์เตอร์ดในปี ค.ศ. 1996[3] ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการโรงเรียนคิงส์สคูลเชสเตอร์[4]
การทำงาน[แก้]
อาร์โนลด์ ร่วมงานกับบริษัท ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ ในปี ค.ศ. 1993 โดยทำงานเป็นผู้จัดการอาวุโสด้านโทรคมนาคมและสื่อ ขณะอยู่ที่ PwC เขาทำงานเกี่ยวกับการแปรรูป บริษัทซาอุดิเทเลคอม และมีส่วนร่วมในการระดมทุนสาธารณะในรูปแบบการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกของ ออเรนจ์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ ในสหราชอาณาจักร[5]
หลังจาก 6 ปีที่ PwC อาร์โนลด์ ได้ลาออกและร่วมงานกับ Global Crossing Europe Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมระดับโลก และช่วยเหลือพวกเขาในการปรับโครงสร้างธุรกิจระหว่างปี ค.ศ. 1999 ถึง ค.ศ. 2002[3] จากนั้นเขาก็ลาออก
อาร์โนลด์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองกรรมการผู้จัดการของ InterVoice Ltd. ในปี ค.ศ. 2002 โดยรับผิดชอบแผนกการขายและการตลาดช่องทางระหว่างประเทศของบริษัทเทคโนโลยี (InterVoice Inc.) ซึ่งจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ แนสแด็ก
ในปี ค.ศ. 2007 อาร์โนลด์ลาออกจากอินเตอร์วอยซ์และร่วมงานกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการค้า เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นกรรมการผู้จัดการและกรรมการของ Manchester United PLC เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 โดยเข้าควบคุมการดำเนินธุรกิจของสโมสร หลังจากที่ เดวิด กิลล์ หัวหน้าผู้บริหารลาออกและแทนที่โดย เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร[6] อาร์โนลด์ นั่งเป็นกรรมการของ เอ็มยูทีวี ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของสโมสรและ Manchester United Merchandising Limited ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่สโมสร เขาได้มีส่วนสำคัญในการสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปทั่วโลก โดยเปิดสำนักงานการค้าใน เมย์แฟร์, นิวยอร์ก และ ฮ่องกง[7][8] อาร์โนลด์ดูแลการลงนามในสัญญาสปอนเซอร์ที่ทำกำไรได้หลายฉบับ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงการเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ทำสถิติโลกเป็นเวลา 7 ปีกับ เจเนอรัลมอเตอร์ส/เชฟโรเลต (2014) และข้อตกลงอุปกรณ์กีฬามูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับ อาดิดาส เป็นเวลา 10 ปี (2015) เป็นข้อตกลงที่มีมูลค่าทางการตลาดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจกีฬาในขณะนั้น[9][10]
อาร์โนลด์ได้รับการเสนอชื่อเข้ารอบสุดท้ายโดยสถาบันกรรมการในสาขา Young Director of the Year ในปี ค.ศ. 2004 และ 2005 สำหรับผลงานของเขาที่ InterVoice ในปี ค.ศ. 2011 เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักนวัตกรรมการกีฬาแห่งปีของนิตยสาร SportBusiness International จากความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด[11]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Richard Arnold biography". ManUtd.com (Manchester United FC). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 July 2014.
- ↑ "Ed Woodward will leave Manchester United in April with Richard Arnold becoming new chief executive from February 1". Sky Sports.
- ↑ 3.0 3.1 "Manchester United PLC: Richard Arnold". Reuters. สืบค้นเมื่อ 11 July 2014.
- ↑ "Staff & Governors". June 2016.
- ↑ "Richard Arnold: Executive Profile & Biography". Bloomberg Businessweek. สืบค้นเมื่อ 11 July 2014.
- ↑ "Ed Woodward assumes responsibilities at MU". ManUtd.com (Manchester United FC). สืบค้นเมื่อ 12 July 2014.
- ↑ Ruddick, Graham (8 February 2011). "Manchester United moves commercial operations to Mayfair". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 12 July 2014.
- ↑ "Manchester United will open US east coast office to grow global appeal". The Guardian Newspaper. 23 October 2012. สืบค้นเมื่อ 12 July 2014.
- ↑ Ogden, Mark (28 January 2014). "Manchester United put their shirt on new £65 million world-record deal". The Telegraph. สืบค้นเมื่อ 12 July 2014.
- ↑ "Manchester United secures $1.28 billion adidas kit deal". FoxSports. 14 July 2014. สืบค้นเมื่อ 14 July 2014.
- ↑ "Insider: Richard Arnold". Macroaxis. สืบค้นเมื่อ 12 July 2014.