ข้ามไปเนื้อหา

มาเลฟิเซนต์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาเลฟิเซนต์
ตัวละครใน เจ้าหญิงนิทรา
ปรากฏครั้งแรกเจ้าหญิงนิทรา (1959)
เกมครั้งแรกคิงดอมฮาตส์ (2002)
สร้างโดยมาร์ก เดวิส
เอริก เคลเวิร์ท
เค้าโครงจากThe evil fairy from Charles Perrault's fairy tale
ออกแบบโดยมาร์ก เดวิส
เอย์วินด์ เอิร์ล
ให้เสียงโดย
แสดงโดย
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
นามแฝงประมุขแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง
เผ่าพันธุ์เทพธิดา[2]
เพศหญิง
ตำแหน่งราชินีแห่งมัวส์ (ใน มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ)
สังกัดวายร้ายดิสนีย์
คนสำคัญเฮดีส (ใน เฮาส์ออฟเมาส์ และ Descendants)
บุตรมาล (ลูกสาว; ใน Descendants)
ออโรรา (ลูกสาวบุญธรรม; ใน มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ)
บ้านเกิดบรรพตต้องห้าม
เดอะมัวส์ (ใน มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ)

มาเลฟิเซนต์ (อังกฤษ: Maleficent) เป็นตัวละครฝ่ายร้ายจากภาพยนตร์เรื่อง เจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) ของวอลต์ดิสนีย์เมื่อปี 1959 นางประกาศตนเป็น "ประมุขแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง" และเมื่อมิได้รับเชิญไปในพิธีล้างปาป ของเจ้าหญิงออโรรา พระราชธิดาของพระเจ้าสเตฟาน นางก็สาปให้พระกุมารีถูกเข็มปั่นฝ้ายตำพระดัชนีและสิ้นพระชนม์ก่อนตะวันลับฟ้าในวันเฉลิมพระชนม์ปีที่สิบหก ตัวละครตัวนี้ดัดแปลงมาจากเทพธิดาใจร้าย ในนิทานฝรั่งเศสเรื่อง สาวงามนิทราในป่าไพร (La Belle au bois dormant)

มาเลฟิเซนต์ได้ชื่อว่า เป็น "ตัวร้ายตัวหนึ่งในการ์ตูนดิสนีย์ที่ชั่วช้าที่สุด"[3] และในการจัดอันดับตัวร้ายดิสนีย์สามสิบตัวของเว็บไซต์อัลทิเมตดิสนีย์ (Ultimate Disney) มาเลฟิเซนต์ก็อยู่ที่หนึ่ง[4] นอกจากภาพยนตร์ข้างต้นแล้ว มาเลฟิเซนต์ยังเป็นตัวละครหลักในเกม คิงดอมฮาตส์ ด้วย

การสร้างตัวละคร[แก้]

มาร์ก เดวิส สร้างตัวละครนี้ โดยตั้งใจออกแบบให้นางดูคล้ายกับค้างคาวยักษ์ดุร้าย[5] เบอร์นี แมตตินสัน บุคลากรดิสนีย์ กล่าวว่า มาเลฟิเซนต์ "ได้รับการออกแบบให้ดูประหนึ่งค้างคาวดูดเลือดตัวใหญ่ยักษ์เพื่อให้รู้สึกถึงภัยคุกคาม"[6]

ชื่อของตัวละครว่า "มาเลฟิเซนต์" นั้นเป็นคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษซึ่งแปลว่า ทำผิดคิดชั่ว[7] นางมีกายสีเขียว และสวมศิราภรณ์ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาสัตว์สีดำสองเขา

ในภาพยนตร์ เจ้าหญิงนิทรา ฉบับภาษาอังกฤษ เอเลเนอร์ ออดลีย์ ให้เสียงแก่มาเลฟิเซนต์ ออดลีย์เคยพากย์เป็นคุณหญิงเทรเมน แม่เลี้ยงใจร้ายของซินเดอเรลลา ในภาพยนตร์เรื่อง ซินเดอเรลลา เมื่อปี ค.ศ. 1950 มาแล้ว ผู้สร้างตัวละครมาเลฟิเซนต์ยังอาศัยกิริยาท่าทางของออดลีย์เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบมาเลฟิเซนต์ด้วย[8] โอลลี จอห์นสัน กับแฟรงก์ ทอมัส นักสร้างภาพเคลื่อนไหว กล่าวไว้ในหนังสือ เดอะดิสนีย์วิลเลียน ว่า งานพากย์เสียงครั้งนี้ของออดลีย์เป็น "งานที่ยากแต่น่าตื่นเต้น เป็นการทำงานกับเสียงแบบที่ต้องประสมสำเนียงประชดประชันเข้ากับอำนาจดุร้าย"[9]

เอริก เคลเวิร์ท สร้างมังกรอันเป็นร่างจำแลงของมาเลฟิเซนต์ เคลเวิร์ทกล่าวว่า มังกรตัวนี้เอางูหางกระดิ่งเป็นแม่แบบ จึงมี "กล้ามเนื้ออันทรงพลังที่เคลื่อนร่างกายอันเทอะทะไปตามเหลี่ยมผา"[6] ส่วนจิม แมกดอนัลด์ ซึ่งรับผิดชอบงานเสียง ได้ร้องขอให้กองทัพสหรัฐส่งเสียงที่บันทึกจากการฉีดเครื่องพ่นไฟ มาให้ใช้เป็นเสียงลมหายใจของมังกร[8]

บทบาท[แก้]

ในภาพยนตร์เรื่อง เจ้าหญิงนิทรา มาเลฟิเซนต์ปรากฏกายครั้งแรกโดยใช้อำนาจเหนือธรรมชาติบันดาลให้เกิดลมพายุใหญ่พัดเข้ามาท่ามกลางท้องพระโรงพระราชวังพระเจ้าสเตฟานขณะประกอบพระราชพิธีสมโภชเดือนเจ้าหญิงออโรรา ตามด้วยอสนีบาตฟาดเข้ามาหน้าพระที่นั่ง เกิดเป็นเปลวเพลิงสีเขียว แล้วนางก็แสดงตัว เมื่อมาแล้วนางก็มีกิริยานอบน้อมต่อพระเจ้าแผ่นดิน แต่กล่าววาจากระทบกระเทียบซึ่งแสดงให้เห็นว่า นางโกรธมากที่ไม่ได้รับเชิญมาในพระราชพิธีนี้เหมือนนางฟ้าองค์อื่น ๆ ครั้นแล้ว นางทูลถามพระเจ้าแผ่นดินถึงเหตุผลที่ไม่ทรงเชิญนางมา นางฟ้าเมอร์รีเวทเทอร์ก็สอดขึ้นว่า เพราะ "ไม่มีใครต้องการหล่อน" นางจึงแก้เกี้ยวว่า คงเป็นเพียงการเผลอมองข้ามนางไป พระราชินีจึงตรัสขอให้นางอย่าได้ถือโทษ นางก็ทูลตอบว่า เพื่อแสดงว่า นางมิได้โกรธเกรี้ยวเลย นางจะอำนวยพรให้แก่พระกุมารี แล้วนางก็ประกาศว่า เจ้าหญิงออโรราจะเจริญพระชนม์ขึ้นเป็นสตรีผู้พร้อมทั้งความดีและความงาม เป็นที่รักของคนทั้งปวงผู้ได้พบ แต่ก่อนตะวันยอแสงในวันเฉลิมพระชนม์สิบหกชันษา เจ้าหญิงจะถูกเข็มปั่นฝ้ายตำพระดัชนีและสิ้นพระชนม์ แล้วมาเลฟิเซนต์ก็อันตรธานไป เมร์รีเวทเทอร์ที่ยังมิได้ประทานพรให้แก่พระกุมารีจึงบรรเทาคำสาปของมาเลฟิเซนต์เป็นว่า เจ้าหญิงออโรราจะเพียงบรรทมไป และจะเสด็จจากบรรทมก็ต่อเมื่อทรงได้รับการจุมพิตด้วยรักแท้

นางฟ้าสามองค์ คือ ฟลอรา, ฟอนา และเมอร์รีเวทเทอร์ ช่วยกันซ่อนพระราชธิดาเอาไว้จนกว่าจะพ้นวันเฉลิมพระชนม์สิบหกชันษา ขณะเดียวกัน มาเลฟิเซนต์สั่งให้ยักษ์มารซึ่งเป็นสมุนของนางช่วยกันตามหาพระราชธิดามาตลอดแต่ก็ไร้ผล นางจึงมอบหมายให้ดีอาโบล นกกาของนาง ออกล่าพระราชธิดา และดีอาโบลก็ได้พบ มาเลฟิเซนต์จึงมาหาพระราชธิดาในเย็นวันเฉลิมพระชนม์สิบหกชันษานั้นเอง และล่อลวงให้ทรงถูกเข็มปั่นฝ้ายทิ่มพระดัชนีสลบไปในหอคอยเปลี่ยว

เพื่อให้เป็นที่มั่นใจว่า จะไม่มีผู้ใดมาปลุกพระราชธิดาตามคำของเมร์รีเวทเทอร์ มาเลฟิเซนต์จึงจับเจ้าชายฟิลลิป รักแท้ของพระราชธิดา ไปขังไว้ในบรรพตต้องห้าม อันเป็นที่พำนักของนาง แต่นางฟ้าทั้งสามมาช่วยเจ้าชายออกจากที่คุมขังได้ ความทราบถึงมาเลฟิเซนต์ นางจึงพยายามขัดขวางมิให้เจ้าชายไปถึงปราสาทที่พระราชธิดาบรรทมอยู่ โดยบันดาลให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ เช่น สายฟ้า และป่าหนาม แต่ก็ไม่เป็นผล นางจึงเหาะมาขวางหน้าเจ้าชายไว้ และกล่าวว่า จะต่อกรกับเขาด้วย "อำนาจแห่งอเวจี" แล้วจำแลงกายเป็นมังกรมหึมาเข้าประจันหน้ากับเจ้าชาย ขณะที่เจ้าชายกำลังเพลี่ยงพล้ำและใกล้ถึงความตายนั้นเอง นางฟ้าทั้งสามรวมอำนาจแห่งความดีเสกเป่ากระบี่ของเจ้าชายให้มีฤทธิ์ แล้วเจ้าชายโยนกระบี่นั้นไปปักหัวใจมังกร มังกรหมายจะกระโดดเข้ากัดกินเจ้าชายด้วยกำลังเฮือกสุดท้าย แต่ก็ตกลงจากที่ยืนลงสู่หุบเหวเบื้องล่างถึงแก่ความตาย เห็นแต่กระบี่กายสิทธิ์ปักเสื้อคลุมของมาเลฟิเซนต์ตรึงไว้กับพื้นเบื้องล่าง แล้วกระบี่นั้นกลายเป็นสนิมไป

การตอบรับ[แก้]

กิลเยอร์โม เดล โตโร ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเม็กซิโก ว่า มาเลฟิเซนต์เป็นมังกรในภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบมาก[10] นอกจากนี้ มาเลฟิเซนต์ยังได้รับการจัดอันดับเป็นตัวร้ายอันดับหนึ่งในเว็บไซต์อัลทิเมตดิสนีย์ และมีผู้วิจารณ์บางคนพรรณนาว่า นางเป็น "ตัวร้ายตัวจริงประจำดิสนีย์"[4]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Voice(s) of Maleficent". Behind The Voice Actors (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  2. "How Well Do You Know... Sleeping Beauty?". Disney Insider. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 19, 2014. สืบค้นเมื่อ August 16, 2023.
  3. "Sleeping Beauty (1959)" เก็บถาวร 2012-06-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Rotten Tomatoes. Retrieved September 27, 2013.
  4. 4.0 4.1 "UltimateDisney.com's Top 30 Disney Villains Countdown".
  5. Mosher, Max (October 30, 2012). "Will The Real Vampira Please Stand Up? ". Toronto Standard.
  6. 6.0 6.1 Elizabeth Bell (1995). Somatexts at the Disney Shop. From mouse to mermaid: the politics of film, gender, and culture. ISBN 9780253209788.
  7. "Dictionary.com". 2012. สืบค้นเมื่อ June 7, 2012.
  8. 8.0 8.1 "Maleficent Character History". Disney Archives.
  9. "Lady Tremaine and Stepsisters Character History". Disney Archives.
  10. "An Unexpected Party Chat transcript now available! from Weta Holics". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-30. สืบค้นเมื่อ 2014-02-09.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]